ถึงบางอ้อ "หมอธีทัชฐ์" เขาคือใคร ทำไมถึงกล้าดับเครื่องชน "เสรีพิศุทธ์"

หากพูดถึง นายสัตวแพทย์ ธีทัชฐ์ เกียรติลดารมย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่า หลายคนไม่รู้จักมากนัก แต่สำหรับนักการเมือง คงรู้จักเขาดี ยิ่งเมื่อมาปรากฏวีรกรรมถูก ตร.รัฐสภา "หิ้วปีก" ระหว่างแถลงข่าวแบบ "ถึงพริกถึงขิง" โจมตีคนดังอย่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ชนิด "ผีไม่ให้เผาเงาไม่ให้เหยียบ"  ทำเอาหลายคนอยากรู้ว่า หมอคนนี้ เบื้องหลังมีดีอะไรถึงได้กล้าไปชนกับ "วีรบุรุษนาแก" ที่เคยเป็นถึงอดีต ผบ.ตร.
 

ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้สัมภาษณ์ นายสัตวแพทย์ธีทัชฐ์ เพื่อไขข้อสงสัย ว่า เหตุใด สัตวแพทย์ท่านนี้ ถึงได้ออกมากล้าต่อกรกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  


หมอธีทัชฐ์ กล่าวว่า ผมเคยเป็นผู้นำ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) สนนท.เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ผมดูประวัติเขามาเรื่อยๆ ลูกน้อง ตร. ที่ผมไปพูดคุยมา บอกได้เลยว่าตำรวจ 90% ไม่ชอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เพราะเขาวางอำนาจบาตรใหญ่กับลูกน้อง ทั้งจิกหัวใช้อย่างกับทาส สมัยเป็น ผบ.ตร. ผมเลยต้องออกมาสู้ว่า เขาเป็นใครมาจากไหน ซึ่งผมก็แชร์ไปแล้วว่า เขาไม่ใช่ "วีระบุรุษนาแก" มันไม่ใช่ แต่มันเป็น "นาเก๊" ส่วนคุณได้เป็นวีรบุรุษเพราะสื่อฯเข้าใจผิด ผกค. มี 2 คน แต่คุณไปกับลูกน้องเป็นร้อย แบบนี้ใครชนะครับ ผมก็ไปได้ถ้าแบบนี้นะ ผมถึงขอร้องสื่อมวลชนว่า ให้ลบชื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากทำเนียบนักสู้เถอะ

"ยืนยัน ผมไม่ได้เสียสติ ผมเป็นนายสัตวแพทย์ ที่ผมไปสภาฯวันนั้น นั่น คือ กลยุทธ์การต่อสู้กับเขาซึ่งเป็น "พญาจิ้งจอก" ผมเป็นอดีตผู้นำนักศึกษาแห่งนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ปี 2531 มีสนนท.ของพี่เสริญ อาจราญ์ปริญา เข้ามาทีหลังผม 2 ปี แจ๊ค วัชระ เพชรทอง, จตุพร พรหมพันธุ์ เดินตามหลังแจกใบปลิวผมหมดเลย "ตู่"จตุพร "แจ็ค" วัชระ เพชรทอง "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย" แจ๊ค ผม กับ ตู่ กินข้าวหม้อเดียวกันมาแล้ว ทำไมต้องมาแยกสีแยกเหล่า การต่อสู้ทางการเมือง ปี 2549 ปี 2553 ผมดูมาตลอด รบกันมา 2 ปี มันก็คือพวกเดียวกัน ถูกแบ่งแยกเพราะผลประโยชน์ทางการเมือง" หมอธีทัชฐ์ กล่าว...

หมอธีร์ กล่าวต่อว่า พูดตรงๆ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กับผม ความจริงอ่อนเชิงกว่าผมมาก ผมลงการเมืองมา 8 สมัยแล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพิ่งลง ส.ส.สมัยแรก เพชรก็คือเพชร ตะกั่วก็คือตะกั่ว พรรคสีส้มก็เหมือนกัน ที่ประชาชนหลงไหลตอนนี้ เดี๋ยวก็รู้ว่า เป็นตะกั่ว นั่น คือเหตุผลว่า ทำไมผมถึงกล้าชนกับ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ ไม่ได้โม้นะ เวลาผมเข้าสภา "ตู่" จตุพร กับ "แจ๊ค" วัชระ เพชรทอง เรียกผมว่า ท่าน ผมยังบอกไม่ต้องเรียก

นายสัตวแพทย์ ธีทัชฐ์ กล่าวอีกว่า ผมอยู่ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐในตอนนี้ ความจริงผมไม่ได้เข้าข้างทหารเลย แต่ผมทำมาแล้ว ทำเพื่อประเทศ ฉะนั้นคุณอย่ามาดิสเครดิตพรรคเรา พรรคเราก็เป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน ทหารตอนนี้ที่ออกมา เขาก็เกษียณหมดแล้ว ไม่มีใครอยู่ในอำนาจสักคนเลย ขนาดเดินไปกินก๋วยเตี๋ยว ยังเกือบโดนวัยรุ่นชกเลย ฉะนั้น คุณอย่ามาโจมตีว่า เป็นเผด็จการ ขาลอยกันหมดแล้ว คุณอย่ามาสร้างวาทกรรมให้มันแตกแยก
"ขอเตือน พรรคการเมืองฝ่ายค้านทุกคน หรือพรรครัฐบาลก็เหมือนกัน ทำงานเพื่อชาติไป อย่ามุ่งผลประโยชน์ ขนาดฝ่ายเดียวกัน คุณวราวุธ ศิลปอาชา ผมก็ยังแฉเลย ผมไม่มีผลประโยชน์กับใคร พรรคตรงข้าม ทำไม่ดี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ทำชาติบ้านเมืองป่นปี้ ผมก็ออกมาเตือน เขาก็เงียบขึ้น ผมก็เปิดทางถอยไว้ให้ ผมไม่เคยฆ่าใครทางการเมือง แต่คุณต้องเจียมเนื้อเจียมตัวบ้าง" หมอธีร์ กล่าว...

แล้วถ้าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่กล้าไปหาท่าน (นายกฯ) เพราะก็ขู่ยิงท่านหลายครั้ง ก็มาหาผมได้ ยินดีต้อนรับ ผมนั่งอยู่คนเดียวในคลินิก กับไอ้ส้มซ่า (แมว) มาหาผมได้ ผมไม่มีการ์ดอะไร ชีวิตผมมีแค่นี้ พ่อก็แก่ แม่ก็ชรา ลูกเมียไม่มี ผมพร้อมตายเพื่อชาติ ผมไม่มีซีเรียสอะไร กินข้าววันหนึ่งก็ 40 บาท โกงไปเป็นแสนล้าน หนีประเทศไป คุณก็กินข้าว ก็อิ่มเท่ากัน ผม 40 บาทก็อิ่ม หลังจากนั้นคุณเอาแสนล้านไปด้วยได้ไหม ตายไป ไม่ได้ ลูกคุณรับมรดก ตายไปแล้ว เอาไปได้ไหม ก็ไม่ได้ ทำไมคุณไม่คิด คุณจะโลภไปไหน จะยุประชาชนให้แตกแยกไปไหน ใคร ปิดกั้นผมเนี่ย เปิดทางให้ผมซะ ผมคิดดีเพื่อชาติ
ถามว่ากลัวอิทธิพลไหม หมอธีร์ ยอมรับว่า ก็มีนะครับเขาส่งลูกน้องมาขู่ผม แต่ตอนนี้ เขาคงไม่ยุ่งกับผมแล้ว ผมก็เป็นหมอ ผมไม่มีอะไร เตือนคุณเสรีพิศุทธ์ อะไรไม่ดีก็เลิกซะ ความจริงคุณก็เป็นพี่น้องกัน ทหาร-ตร.ด้วยกันทั้งนั้น

ส่วนที่มีภาพในโซเชียลฯไปนั่งถ่ายรูปด้วยกัน กับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ยืนยัน ผมไม่เคยรู้จัก รอ.ธรรมนัส เป็นการส่วนตัว ช่วงหลังท่านขอบคุณและให้ไปเป็นที่ปรึกษา แต่ยังไม่ได้แต่งตั้งเป็นทางการ แต่ก็พูดด้วยวาจาแล้ว ผมอยู่พรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ทำงานได้ ให้เป็นที่ปรึกษาท่านธรรมนัส และก็อาจมีอีกหลายท่านด้วยที่จะใช้งานผม อย่างท่านชวน หลีกภัย ผมเคารพท่านนะ ผมเรียกท่าน "คุณพ่อ"อย่าง พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ (เสียชีวิตไปแล้ว) ผมก็เคยเป็นที่ปรึกษาท่านฯ มีรูปเป็นหลักฐานด้วย
ส่วนกรณีในสภาที่มีเรื่องปะทะหิ้วปีกกันเมื่อวันนั้น ส่วนตัว ผมคิดว่า เป็นบวกล้านเปอร์เซ็นต์ อย่างตู่ "จตุพร" ภาคใต้ ไม่เอาเขาก็ต้องไปอยู่ฝั่งตรงข้าม "ไทกร พลสุวรรณ" เขาก็ไม่เอาเลยก็ต้องไปอยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อให้มีสถานะให้เขายืน

อย่าง "มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์" หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นั่นก็ลูกน้องเก่าผม เมื่อก่อนก็เดินตามหลังแจกใบปลิว ปี 2550 ฮาไหมละ วันนั้นที่สภาผมก็ประกาศว่า "มงคลกิตติ์" เคยเป็นลูกน้องผม ปี 2550 เขายืนอยู่ก็ไม่ตอบโต้อะไร ถ้าไม่จริงเขาก็ด่าผมไปแล้วจริงไหม นี่เป็นข้อเท็จจริง เมื่อก่อนชื่อ "ธนะ" เป็นติวเตอร์ แถววงศ์สว่าง ฉะนั้นผมมีความมั่นใจว่า นอกจากท่านธรรมนัสแล้ว ผมสามารถคุยกับแกนนำพรรคเล็กให้รัฐบาลได้

นายสัตวแพทย์ ธีทัชฐ์ กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ มีพรรคเพื่อไทย อีกเป็น 10 คน มาคุยกับผมแล้ว ผมบอกไว้ก่อนเลยนะ "คุณหญิงสุดารัตน์" - "ท่านสมพงษ์ อมรวิวัฒน์" ผมไม่ได้บอกว่า "งูเห่า" นะครับ แต่ "งูจงอาง" ครับ มีอยู่ 10 เชือก เรียกให้เกียรติเหมือนช้างหน่อย มีเรียบร้อยแล้ว อย่างไรเขาก็ไม่ไปหรอก เขามองระยะยาวว่า อย่างไรประเทศชาติก็ต้องอยู่ได้ ด้วยสถานะความมั่นคงของรัฐบาล มันไม่ใช่เสถียรภาพของฝ่ายค้าน

"คุณอย่าไปตำหนิติเตียนเขา คุณดูตัวเองว่า คุณมีบารมีพอไหม จะควบคุมลูกน้อง เพราะเดี๋ยวนี้ เขาแทบล้มละลายเหมือนกัน เพราะอนาคตข้างหน้ากระแสนายใหญ่ที่ดูไบ อาจไม่มีแล้ว เขาเช็กหมด เขาก็ฉลาด เขามีสมอง อย่ามองมาเขาโง่ มันไม่ใช่ คุณให้เกียรติ เผลอๆคุณก็มาด้วย "คุณหญิงหน่อย" ตอนนี้ "คุณชัชชาติ" เขาก็ไปแล้ว เขามาร่วมกับพวกผมแล้ว แต่เขาบอกเขาวางตัวเป็นกลาง มาทั้งพรรคแหละครับ" หมอธีทัชฐ์ กล่าว...

นายสัตวแพทย์ธีทัชฐ์ กล่าวต่อว่า ถ้าให้ผมแสดงวิสัยทัศน์ ผมอยากจะบอกเลย ผู้ว่าฯ กทม.ทำอย่างนี้ นายกฯทำอย่างนั้น ผู้นำฝ่ายค้านที่ดีทำอย่างนี้ ผมอยากจะบอกว่า ด้วยความซื่อสัตย์ จริงใจ ผมไม่มีตำแหน่งก็ได้ เลี้ยงข้าวผมวันละ 40 บาท ก็พอ กินข้าววันละมื้อเอง เช้าไม่กิน เย็นไม่กิน ผมกินมา 30-40 ปี ตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ผมจน ไม่มีเงินเรียน เป็นลูกชาวนา ไข่ลูกหนึ่ง ผ่า 4 ซีก กินได้ 4 มื้อ เมื่อก่อน ไข่ 3 ฟอง 5 บาท ข้าวถุงนึง ประมาณ 15 บาทเอง ผมใช้เงินเดือนเรียนแพทย์ ใช้เดือนละ 250 บาท ฮาไหม ตั้งแต่ปี 2531-2538 ผมต้มไข่ตอนเที่ยงต้องรีบมากินไข่ต้มในห้อง อายนะ เพราะเพื่อนกินหรูๆ กัน ผมต้องผ่าซีกต้มไข่ในหม้อหุงข้าว ไม่มีน้ำในหม้อต้มด้วย แล้วก็เอาข้าวหุงยัดไข่ลงไป แล้วก็ผ่าซีก กินกับน้ำปลา จนครับ ผมจนมาก อันนี้เป็นข้อเสียผม แต่ก็เป็นข้อแข็งของผม เพราะ คนนักเรียนนอกรวยหมื่นล้านในพรรค บางคนดูถูกผม ส.ส.นอกพรรค ก็ดูถูกคน ผมขอย้ำว่า อย่าดูถูกความจนเลย ผมเลือกเกิดไม่ได้ แต่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง อาจทำงานได้มากกว่าคุณก็ได้ เดี๋ยวนี้มี ส.ส.หลายคน ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ผมก็บอกว่า "พี่แฮงค์" รักผมมาก "นายอนุชา นาคาศัย" เมื่อวานก็ให้มา 5 หมื่นบาท เพราะเห็นว่าผมไม่มีเงินกินข้าว

https://www.thairath.co.th/news/politic/1671875
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่