รสชาติชีวิต

สวัสดีครับผมขอแชร์ประสบการณ์ชีวิตที่ผมกำลังเจออยู่ตอนนี้ครับ
ผมอายุ 22 ปี พึ่งเรียนจบป.ตรี ผมมีพี่น้อง 2 คนรวมผมด้วย พ่อผมอายุ 73 ปี แม่ผมอายุ 59 ปี ทั้งคู่ไม่ได้ทำงานแล้วครับ พ่อกินบำนาญ ส่วนแม่ไม่มีรายได้ครับ ส่วนพี่สาวผมกำลังไปเรียนต่อที่เมืองนอกครับ
    ปัญหาที่ผมกำลังเจอคือปัญหาเงินไม่พอใช้รายเดือนครับ (ต้องขอท้าวความก่อน ช่วงประมาณผมเรียนปี 3 เกิดเหตุการณ์คุณแม่เข้ารพ.ฉุกเฉินเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ โชคดีที่ผมมาเห็นทันให้คนข้างบ้านช่วยไปส่ง รพ.ทัน ) เหตุการณ์ครั้งนี้มันทำให้ผมคิดอยากจะมีรถยนต์สักคันเพื่อมาอำนวยความสะดวกให้พ่อกับแม่เวลาไปไหน บ้านผมไม่เคยมีรถเลยครับสาเหตุเกิดจากแม่ไปเล่นแชร์แล้วถูกโกง ส่วนพ่อไปเซ็นค่ำเงินกู้เพื่อน จึงไม่สามารถมีกำลังซื้อรถได้  เหตุการณ์ที่แม่เข้ารพ.ผมจึงตัดสินใจคุยกับพ่อ ให้พ่อกู้เงินมาซื้อรถและผมจะเป็นคนรับผิดชอบเงินผ่อนเองทั้งหมด ช่วงนั้นกำลังเรียนอยู่ปี 3 ซึ่งตอนนั้นยังคิดสนุกกับเพื่อนอยู่เรียน กลับบ้านนอน ตี้กับเพื่อนตามชีวิตวัยรุ่น แต่อะไรหลายๆอย่างมันกดดันและผมเองก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่แบบไม่ทันตั้งตัว ผมคิดเสมอว่ามันเร็วไปไหมที่ต้องมารับผิดชอบภาระอะไรแบบนี้แต่ผมมองย้อนกลับไปดูว่าพ่อแม่อายุขนาดนี้แล้วถ้าไม่พร้อมตอนนี้แล้วจะพร้อมตอนไหน ผมตัดสิ้นใจไปออกรถด้วยเงินกู้ของพ่อออกเป็นเงินสดแต่ต้องส่งสหกรณ์ และต่อจากนี้ก็คือรสชาติชีวิตที่ผมเจอ
   ซึ่งแน่นอนกำลังเรียนไม่สามารถมีรายได้ ผมก็เริ่มหารายได้เสริมอะไรที่เป็นเงินผมทำหมด โชคดีที่มหาลัยผมสามารถเลือกวันเรียนได้ ผมเลยเรียนแค่อาทิตละ 3 วัน นอกนั้น ทำงานไม่มีพัก รับจดเลขวันที่ 1 16 ก็ทำทำทุกทางเพื่อให้ได้เงินมาจ่ายค่างวดรถ ราคารถ 8**,*** ผมให้พ่อกู้มา 600,000 และ ใช้เงินเก็บพ่ออีก 200,000 กว่า ซึ่งต้องผ่อนกับสหกรณ์ เดือนละประมาณ 14,*** บาท รวมดอก เงินผ่อนผมตกลงกับพี่สาวว่าออกคนละครึ่งก่อนเขาจะไปเรียน ตปท.(เรื่องที่พี่สาวไปเรียน ตปท. พี่ตกลงกับผมว่าจะไปหางานทำระหว่างเรียนและจะส่งกลับมาให้ผ่อน แต่วันดีคืนดีพี่มาบอกว่า จะไม่ส่งเงินแล้วนะรายจ่ายไม่พอต้องเก็บเงินไว้ไปค่าที่พักกับค่ากิน #ผมรู้ยังไงมันต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ผมทำใจรอไว้แล้วและ ) จนกำหนดการบินออกมาคือบินสิ้นปีนี้ ผมก็เริ่มมีอาการเครียดเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะเขาหยุดส่งเงินให้แล้วจากปกติผมขอให้เขาออก 5000 ต่อเดือน ที่เหลือผมรับผิดชอบเอง จนมาเดือนนี้ผมต้องจ่ายเต็มทั้งหมด #รายจ่ายค่ารถ ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ ค่ากินของคนในบ้าน ซึ่งผมต้องรับผิดชอบทั้งหมด เพราะพ่อผมกู้เงินมา เงินเดือนก็โดนหักหมดแล้วเหลือแค่ 2 พัน ต่อเดือน  

รายจ่ายทั้งหมดตอนนี้ของผม
1.ค่าผ่อนรถผ่อนแบบลดต้นลดดอกตกเดือนละ ประมาณ 12,000 บาท
2.ค่าน้ำ ค่าไฟ 2,000บาท
3.ค่ากินและค่าของใช้ในบ้าน 5,000บาท (รวม4คน)
4. ปัจจุบันมีค่าประกันรถมา (ตกเดือนละ 3,200 บาท )

รายรับของผม ณ ปัจจุบัน (ตอนนี้เรียนจบแล้ว)
1.เงินเดือน 10,000บาท (ได้น้อยเพราะไม่เลือกงานเพราะยังไม่ผ่านทหาร)
2.เงินจดตัวเลข 1กับ16 รวมแล้ว 8,000 บาท
3.รับจ็อบรายวันช่วงวันอาทิต ปกติทำงาน จ-ส วันอาทิตจะหาจ็อบทำงาน ทำหมดมีรถกะบะแล้วรับจ้างขนของตกวันละ 3,000 ไม่รวมค่าน้ำมัน(งานย้ายของจะน้อยมากถ้าดวงไม่ดีจริงๆ)
#บางเดือนรายรับไม่พอรายจ่ายต้องไปกู้ญาติมา ตอนนี้เป็นหนี้ญาติ 100,000 บาท (หนี้นี้พ่อแม่ไม่รู้เพราะผมไม่อยากบอกกลัวแกเครียด)

ณ ปัจจุบันไม่คิดน้อยใจที่เรามีพ่อแม่ที่อายุเยอะ และชีวิตวัยรุ่นไม่เหมือนคนอื่น ชีวิตจะต้องดิ้นหาเงินตลอดเวลาวันไหนไม่มีงานช่วงวันอาทิต ก็จะไม่มีเงินมาใช้ในส่วนนี้ต้องพยายามทำงาน 7 วัน เต็มตลอดเพื่อให้รายได้กับรายจ่ายสมดุลกัน รสชาติชีวิตแบบนี้ก็สนุกดีร้องไห้เวลาเหนื่อยแต่อย่าให้ใครเห็นน้ำตาต้องแสดงถึงความเข้มแข็งตลอดเวลาไม่ให้พ่อแม่รู้ว่าเหนื่อย มีคนรอบข้างผมชอบพูดว่า เรายังไม่พร้อมเงินเดือนไม่มียังจะออกรถ ใช่ครับผมไม่เถียงผมไม่พร้อมเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ผมคิดอยู่เสมอ ถ้าไม่คิดจะเริ่มตอนนี้แล้วจะให้เริ่มตอนไหน เวลามันมีน้อยอายุพ่อกับแม่ผมก็แก่ลงเรื่อยๆผมอยากมีโม้เม้นแบบ วันหยุดขับรถพาพ่อแม่ไปเที่ยวพักผ่อน มันดูแล้วทีความสุข  คำพูดของพี่ที่ผมรู้จักคนนึงเขาพูดไว้ว่า “คิดอะไรให้ใหญ่ไว้ก่อนถ้าเราทำได้ถึงครึ่งก็ถือว่าคุ้มแล้ว “ ผมเลยมีกำลังใจสู้มาถึงทุกวันนี้และผมตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกทิ้งชีวิต เที่ยวปารตี้ของวัยรุ่นที่เขาทำกัน เพื่อมาหาความสุขให้กับพ่อและแม่ก่อนจะไม่มีโอกาสที่จะได้ทำ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่