JJNY : 4in1 สมพงษ์ลั่นอภิปรายต้องไม่ลับ!/อนค.ติวเข้มคณะทำงาน จว./ลุยล่า5หมื่นชื่อดันแก้รธน./ถนนแถวบ้านได้มาตรฐานขนาดไหน

'สมพงษ์' ลั่นอภิปรายปมถวายสัตย์ฯ ต้องไม่ลับ! เหตุประชาชนอยากรู้
https://www.matichon.co.th/politics/news_1650010




ถวายสัตย์ฯ-เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม ที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วนว่า หากรัฐบาลขอให้มีการประชุมลับในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนเห็นว่าการอภิปรายเป็นสิ่งที่ประชาชนอยากรู้ หากมีการประชุมลับแล้วประชาชนจะรับรู้ข้อเท็จจริงได้อย่างไร ซึ่งผู้อภิปรายจะต้องมีความระมัดระวังอย่างสูงอยู่แล้วโดยจะไม่ให้มีการพาดพิงสถาบัน อีกทั้งรัฐธรรมนูญ ทางนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้ร่างเอง ทำไมการถวายสัตย์ฯ จึงไม่ครบถ้วน แม้แต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็เคยเขียนบทความลงว่าการถวายสัตย์ฯ จะผิดไม่ได้ คำว่า “และ หรือ” จะสลับไม่ได้ ยืนยันพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคปรารถนาดี ไม่ได้มาแก่งแย่งเพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งการอภิปรายทั่วไปไม่มีการลงมติ โดยพรรคฝ่ายค้านจะถามให้ประชาชนได้รู้ และอยากให้มีการเปิดอภิปรายอย่างเปิดเผย

เมื่อถามถึงการหาข้อยุติในสภาระหว่างเปิดประชุมลับหรือเปิดเผยนั้น นายสมพงษ์กล่าวว่า เป็นเรื่องในสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องวัดกันหน่อย โดยพรรคฝ่ายค้านได้มีสัญญาประชาคมร่วมกันแล้วจะไม่ให้ขาดประชุมแม้แต่คนเดียว ทางรัฐบาลมีเสียงมากกว่าฝ่ายค้านอยู่ หากไม่เข้าห้องน้ำกันเสียงก็ก้ำกึ่งกัน และการประชุมสภาผู้แทนราษฎรทางฝ่ายค้านต้องการให้อภิปราย 2 วัน แต่มีการกำหนดไว้เบื้องต้น 1 วัน การประชุมครั้งนี้จะไม่ใช้วันประชุมสภาปกติในวันพุธและวันพฤหัสบดี อาจประชุมวันศุกร์และวันเสาร์แทน ซึ่งอาจมีการประชุมในวันศุกร์ที่ 6 ก.ย.นี้ที่ได้กำหนดไว้คร่าวๆ

เมื่อถามว่าถ้ามติที่ประชุมสภาให้ประชุมลับนั้น นายสมพงษ์กล่าวว่า คงต้องรับสภาพ ฝ่ายค้านจะไม่วอล์กเอาต์แน่นอน ยังไงก็ต้องอภิปราย และคิดว่านายกรัฐมตรีจะมาชี้แจงด้วยตัวเองแต่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร หวังว่านายกฯ จะอารมณ์ดีขึ้น ส่วนตัวเห็นก่อนสภาเปิดนายกฯอารมณ์ดี แต่พอแถลงนโยบายก็เป็นอีกแบบ ส่วนผู้อภิปรายจะใช้คนรุ่นใหม่ผสมผู้มีประสบการณ์ และตนจะเป็นผู้นำเปิดอภิปรายคนแรก ส่วนกรอบเวลาการอภิปรายเบื้องต้นให้ 1 วัน หากไม่เพียงพอจะขยายเวลาการอภิปราย



อนค.ติวเข้มคณะทำงานจังหวัด หนุนการทำงานใน-นอกสภา
https://www.dailynews.co.th/politics/729031

“ธนาธร-ปิยบุตร” เปิดโต๊ะติวเข้ม “คณะทำงานจังหวัด” ทั่วประเทศ แจงทิศทางการขับเคลื่อนการทำงานของพรรคทั้งในสภา - นอกสภา

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ทำการพรรคอนาคตคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และนายศรายุทธ์ ใจหลัก ผู้อำนวยการพรรค ร่วมประชุมกับหัวหน้าคณะทำงานจังหวัดทั่วประเทศของพรรคอนาคตใหม่ ถึงทิศทางภาพรวมของพรรคอนาคตใหม่ทั้งในสภาผู้แทนราษฏร และนอกสภา โดยนายธนาธร กล่าวตอนหนึ่งว่า ทีมทำงานจังหวัดเป็นหน่วยที่สำคัญของพรรค พรรคจะเข้มแข็งหรือไม่ อยู่ที่ประประสานงานระหว่างทีมงานจังหวัดและส่วนกลางของพรรค ส่วนงานในสภาฯในฐานะฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลกำลังจะเริ่มต้น ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ในขณะนี้ มีบทบาทในคณะกรรมาธิการด้านต่างๆ ไม่ว่าเกี่ยวกับความมั่นคง ราคาพืชผลการเกษตร สิทธิแรงงาน เด็กเยาวชนคนชรา หรือกลุ่มชาติพันธุ์ เป็นต้น และใน 1 กรรมาธิการจะมีสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่นั่งอยู่ 2 ถึง 3 คน เราจะมีช่องทางตรวจสอบ เรียกหาข้อมูล สอบถามความคืบหน้า ในทุกๆด้านหลังจากนี้ นี่คือกลไกในด้านรัฐสภา อีกด้านหนึ่งคือการออกกฎหมาย ซึ่งเป็นงานที่สำคัญในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหากมองย้อนกลับไป สภาฯในประเทศไทยแทบจะไม่เคยทำหน้าที่ออกกฎหมายเลย ส่วนใหญ่เห็นแต่การตั้งกระทู้ถามถึงรัฐมนตรีนั้นๆ แต่หน้าที่จริงๆคือ ออกกฎหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเดินก้าวไปข้างหน้าได้ ออกกฎหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเท่าทันโลก ออกกฎหมายที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และออกกฎหมายที่จะกำจัดอุปสรรคที่จะพัฒนาประเทศ และนี่คือสิ่งที่อนาคตใหม่อยากจะนำมิติใหม่ทางการเมืองเข้าสู่สภา และผมเชื่อว่าพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานและยกเลิกเกณฑ์ทหาร สามารถทำร่วมกับฝ่ายรัฐบาลได้

“พรรคอนาคตใหม่ต้องคงอยู่คงทนกว่าตน หรือปิยบุตร การต่อสู้ใช้ระยะเวลานาน อาจใช้เวลาเป็น 10 ปี ขอให้สมาชิกทุกท่าน คณะทำงานทุกคน ส.ส.ทุกคนยึดมั่นในอุดมการณ์ อย่างคงมั่นตลอดไป” นายธนาธร กล่าว

ด้าน นายปิยบุตร กล่าวถึงงานในสภาผู้แทนราษฏรว่า พรรคอนาคตใหม่ได้มีการอภิปราย การปรึกษาหารือ การตั้งกระทู้ถาม การเสนอญัตติ การเสนอร่างกรรมาธิการและการร่างพระราชบัญญัติ ส่วนของการอภิปรายอย่างเช่นเรื่องข้อบังคับการประชุมสภา ซึ่งตอนนี้ได้ประกาศใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านญัตติขอให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ตอนนี้เราสามารถตั้งได้เพียง 2 คณะ คือเรื่องของราคาพืชผลการเกษตร และ การต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน ซึ่งเรื่องของกรรมาธิการราคาพืชผลการเกษตรนั้นมีเป็นปกติอยู่แล้ว หากมองย้อนกลับไปทุกยุคของรัฐบาล การตั้งกรรมาธิการศึกษาเรื่องพืชผลการเกษตร จะมีเป็นลำดับแรกๆ เพื่อที่จะไปบอกกับชาวบ้านว่าจะมาแก้ปัญหา แต่ที่ผ่านมายังไม่มีพรรคไหนพูดถึงการจัดการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งตนคิดว่าหากไม่แก้เชิงโครงสร้างจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน สำหรับกรรมาธิการศึกษาพืชผลทางการเกษตรนั้น พรรคอนาคตใหม่ได้ส่งคุณ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแม่ทัพในกรรมาธิการนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยบุตร กล่าวอธิบายถึงการทำงานต่างๆ ในสภา อาทิ การปรึกษาหารือ การยื่นญัตติ และการทำงานของคณะกรรมาธิการต่างๆ
รวมถึงงดารเตรียมเสนอร่างกฎหมาย โดย ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ในสองสมัยประชุมนี้ด้วย

"เรากำลังทำมติมหาชนให้ปรากฎอย่างเป็นทางการในสภาผู้แทนราษฎร เราจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลมีเสียงที่ดังมากขึ้นและดังมาถึงภายในสภาฯ เพราะประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจทีแท้จริง เราจึงต้องทำให้ประชาชนที่อยู่ใกล้และอยู่ไกลมีส่วนในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ" นายปิยบุตร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายพรรคอนาคตใหม่ได้เปิดโอกาสให้หัวหน้าคณะทำงานจังหวัดต่างๆได้นำเสนอแลกเปลี่ยนวิธีการทำงานของแต่ละจังหวัด
และกิจกรรมสุดท้าย พรรคอนาคตใหม่ได้จัดกิจกรรม workshop สำหรับแผนปฎิบัติงานแคมเปญรัฐธรรมนูญในระดับภาคอีกด้วย.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่