[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/39156749 ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/39174057 ตอนที่ 2
หมอผีตาลียืนนิ่งอยู่ในความมืดด้านนอก อดีตหมอผีชาวว้าผู้ทำพิธีเซ่นสังเวยเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เผ่าพันธุ์ของตนเองโดยการออกล่าหัวมนุษย์ เป็นปู่ทวดของสองเสือพี่น้องรูปร่างหน้าตาเหมือนคนอายุหกสิบ อายุจริงยืนยาวกว่าหน้าตามาก ไม่มีใครรู้อายุจริงของแกและไม่คิดสนใจจะถาม ปัจจุบันหันมาเป็นหนึ่งในคณะแพทย์อาสาชนบทรักษาโรคด้วยสมุนไพรและการเสกเป่า ศรัทธาหมอกฤษณ์เหมือนเทพยดา
ร่างอ้วนดำเหมือนหมีก้าวเดินตามมา เท้าเปล่าแต่ไม่เคยมีหนามกินเนื้อแกได้ ไม่ใคร่สนใจไฟฉายนำทาง เดินทางไปไหนมาไหนกลางคืนราวกับสัตว์ป่า เพียงยกแขนแบมือขึ้นรับหัวกะโหลกของมนุษย์ที่ตกลงมา จับยัดใส่ย่ามแล้วล้วงเอาหมากใส่ปากเคี้ยวเยิบ ๆ ตะบันกับจะงอยสองพี่น้องผู้เป็นศิษย์หันไปมองจะทำการเช่นไรต่อไป ใบหน้าอวบอูมดำเป็นมันพยักหน้าชี้นิ้วดิก ๆ ให้รีบทำการ
“ก่อนเที่ยงคืน ให้ออกจากดงผีผา” หมอผีตอบสั้น ๆ ตามนิสัยพูดน้อย
“โหงพรายมันบอกใช่ครับ! พ่อปู่” จะงอยผู้น้องถาม โดนพี่ชายตบกบาลดังป๊าบ
“แกอย่าถามมาก รีบ ๆ เข้าไปข้างในเร็ว”
สองเสือพี่น้องขานรับแล้วรีบเข้าไปในอาคารหลังหนึ่งสูงหลายชั้น แหวกม่านของรากไม้ตึกแต่ละหลังล้วนปลูกใกล้กันคล้ายสถาปัตยกรรมบ้านเรือนในยุโรป สัณฑ์แหงนมองจนทั่ว การวางผังเมือง และแบบก่อสร้างมันคล้ายชุมชนในยุโรปสมัยกลางผสมกับเอเชีย จะต้องมีชาวยุโรปอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่นี่อย่างแน่นอน คงเป็นปริศนาที่หมอผีต้องการให้พวกตนไขเอาเองให้กระจ่างสินะ
ข้างในบ้านร้างทั้งมืดและอับ หมอผีชี้ให้เข้าไปตามคำบอกของโหงพราย
“พวกแกสังเกตอะไรผิดปกติไหม” สัณฑ์ถาม สองพี่น้องสั่นหน้า
“ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ แค่ห้องมืด ๆ อับ ๆ มีรากไม้ห้อยย้อยลงมาเต็มไปหมด”
“ตาถั่วจริง ดูที่พื้นสิ ตรงที่พวกแกยืน”
ตะบันรู้สึกแปลก พื้นส่วนใหญ่ในห้องเป็นพื้นปูน แต่ตรงที่ยืนเป็นดินนิ่ม ๆ
สัณฑ์เดินถอดมีดดาบดำปาลงดินดังฉึก! ของเหลวสีแดงทะลักขึ้นมาทำเอาเรียกเสียงครางฮือ มีอะไรถูกฝั่งอยู่ข้างใต้แน่ จะงอยครางออกมา บอกตื้น ๆ แค่นี่เองคงขุดได้ไม่ยาก สองคนช่วยกันโกยดินขึ้นมา จะงอยจิตอ่อนกว่าพี่ชายถึงกับก้นจ้ำเบ้า ร้องลั่นว่าศพ! หมอผีหัวเราะในลำคอ โหงพรายมันตามจนเจอศพอยู่ใต้ดินของบ้านร้างหลังนี้
“พ่อปู่ต้องการให้พวกเรา มาเห็นศพพวกนี้ใช่ไหม” สัณฑ์ตรวจดู เสื้อผ้าของศพเป็นชุดลายพรางทหาร สภาพยังไม่เน่าเปื่อย เลือดแดงที่ทะลักออกมาบอกว่าพึ่งตายได้ไม่นาน น่าแปลกที่ตามผิวหนังมีรากไม้ชอนไช เขาทดลองกระชากออกมันติดแน่นมาก คล้ายฝั่งลึกเข้าไปในอวัยวะไม่ใช่ตื้น ๆ แค่ชั้นผิวหนัง
“พวกทหารรับจ้าง หน่วยหมาป่าของผู้กองเปตรอฟ ททหารรัสเซียคนนั้นแน่นอน”
“ตายนานหรือยัง” ตะบันถาม
ตรวจดูเนื้อหนังยังดูสดใหม่อยู่เลย ทั่วทั้งร่างมีรากไม้ซอนเข้าไปใต้ผิวหนัง เชื่อมโยงกับเส้นเลือดใหญ่ โดยเฉพาะส่วนศีรษะมีรากฝอยเชื่อมโยงจนดูรุงรังไปหมด ราวกับร่างของคนคือเหง้าของพืช ที่เป็นแหล่งสะสมอาหารเลี้ยงลำต้น แล้วคนหน้าเหี้ยมก็ต้องตะลึง หัวใจของร่างนี้ยังเต้นอยู่ แม้จะแผ่วเบาแต่ยังคงทำหน้าที่สูบฉีดเลือดให้ไหลเวียน
เขามองไปยังหมอผี แกชี้นิ้วไปยังรากไม้ที่เกาะเพดานของห้อง ปล่อยรากฝอยลงมาเชื่อมโยงกับศพ อันที่จริงผนังและเพดานตึก ทั้งอาคารทรงตัวอยู่ได้ด้วยรากไม้ประหลาดพวกนี้นานจนคำนวณอายุไม่ได้
“มันไม่ได้มีหลุมเดียวนี่ ตรงนั้นตรงมุมห้อง” ตะบันเดินตามรากไม้ที่ห้อยโยงเป็นกลุ่มใหญ่ หลุมตรงนี้ดินแข็งมากแต่ไม่ใช่พื้นปูนอย่างแน่นอน
“มีบางอย่างอยู่ด้านล่าง ดันพื้นปูนพวกนี้จนแตกเป็นหลุม” สัณฑ์พูดน้ำเสียงในห้อง ตะบันไหวพริบพอจะตามได้แล้ว ดวงตาโปนดุตามเผ่าพันธุ์นักสู้มองมาที่เขา
“ศพแน่นอนที่อยู่ข้างล่างถ้าจะมีหลายศพด้วย แต่ใครเป็นคนฝั่ง”
“ลองขุดดูก็รู้”
สัณฑ์ลงไปเอาเข่ายันพื้น ใช้มีดขุดดินช่วย มันไม่ลึกมากเพียงคืบเดียวก็เจอศพ ยิ่งเปิดหน้าดินยิ่งพบ มันมีสามศพนอนเคียงกัน สภาพคล้ายพ่อแม่ลูก มีดชนกับศพแรกดังกึก! เหมือนเหง้าไม้ จะงอยตะกุยดินเหมือนหมา แล้วร้องเฮ้ย!
“ใครเหยียบหางแกวะ ร้องเอ๋งไปได้” สัณฑ์กำลังลุ้นอกด่าไม่ได้
“ศพ! ทำไมมันแข็งเหมือนไม้”
“ตะบันแกลองเอาหูแนบกับอกของศพดูสิ ได้ยินเสียงหัวใจเต้นหรือเปล่า”
“ไอ้บ้า! ศพเก่าแก่ขนาดนี้ กี่ร้อยปีพันปีก็ไม่รู้ ยังจะพูดล้อเล่นอีก”
“ฉันไม่ได้พูดล้อเล่น!”
ดวงตาซ้ายมรกตกำลังบอกในสิ่งที่เขาต้องตะลึง หัวใจของศพกำลังเต้นอยู่จริง มันเชื่อมต่อกับศพพวกนี้ผ่านรากฝอยเล็ก ๆ ส่งต่อไปยังรากไม้ขนาดใหญ่บนเพดาน ในเมืองร้างทั้งเมืองล้วนมีรากไม้ในลักษณะนี้อยู่เต็มไปหมด ยิ่งคิดเหงื่อไหลจนเย็น บ้านร้างมีจำนวนนับไม่ถ้วน หากใต้แผ่นดินมีร่างของชาวเมืองฝั่งอยู่ หัวใจของพวกเขายังคงเต้นอยู่
ที่นี่คือนครผีดิบ ...
“สัณฑ์! แกรู้อะไรวะ บอกให้รู้บ้างสิ ปากอมอยู่หรือไง”
ตะบัน ทำให้เขารวบรวมสมาธิอีกครั้ง
“ขอตรวจดูอีกหน่อย”
เขาย้อนไปที่ศพทหาร สิ่งที่พบคือปืนพกยังคงอยู่ในซองที่เอว ซองบุหรี่ที่ถูกแกะมีก้นบุหรี่ถูกบี้นับสิบ ที่รองรับศพอีกที่คือผ้าใบคงเพื่อไว้สำหรับปูนอน ที่ข้อมือศพมีนาฬิกา เขาปัดเศษดินออก เข็มมันหยุดเดินเสียแล้ว
“เข็มหยุดเดิน เวลา 00.10 น. ของคืนวานนี้ ชายคนนี้คงเสียชีวิตในช่วงเวลาที่เข็มนาฬิกาหยุด”
“สาเหตุการตายล่ะ” ตะบันถาม เขายักไหล่
“เหมือนคน หลับลึกไปเฉย ๆ อาจใหลตายก็ได้ ไม่มีบาดแผลอะไรเลย”
“ผีแม่ม่ายแน่ มาเอามันไป” จะงอยสรุป
“หากตอนนั้นแกไม่ช่วย พวกฉันสองพี่น้อง จะต้องลงไปนอนในหลุมเหมือนมัน” ดวงตาโปนดุอย่างเสือของตะบัน มองตาเขา
“ก็ไม่แน่”
“ทหารนายนี้ตายแล้ว หรือกำลังโคม่า แล้วมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรในสภาพถูกกลบฝั่ง ออกซิเจนไม่น่าจะเลี้ยงปอดได้ แค่อึดใจเดียวน่าจะขาดอากาศหายใจตายสนิท แต่เจ้านี่คงถูกฝั่งนานจนถึงตอนนี้ ทั้งที่เลือดยังสดเหมือนคนเป็น แล้วทำไมต้องมีรากไม้ซอนไซเข้าไปในตัวเหมือนเหง้าของต้นไม้ ฉันไม่รู้วิชาการแพทย์สมัยใหม่ เหมือนแกเหมือนนายหมอ เมื่อกี้แกคงรู้อะไรแล้วแกล้งอมสากกะบือเอาไว้ ทำไมไม่พูดออกมาให้หมด”
พูดจบตะบันดึงผ้าจากร่างนั้นฉีกดังขวาก ผ้ามันเปื่อยมากแล้ว หัวเข็มขัดขึ้นสนิมจนแดง บ่งบอกว่าร่างนี้อยู่ใต้ดินมานาน ตรงข้ามกับเลือดที่ยังสด
คนหน้าหนวดเอานิ้วเกาใต้คางดังแกรก ดวงตาปรือ ๆ ตะบันมาแนวใช้สมองแฮะ
” เข็มนาฬิกาหยุดอยู่ที่ 00.10 น. ของเลขวันที่เมื่อวาน แต่ของอีกเดือนน่ะสิ ก็ประมาณช่วงที่เราเดินทางมาถึงหมู่บ้านชาวป่าในหุบป่าบอนใหม่ ๆ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคนตายหัวใจจึงยังเต้นอยู่ได้นานขนาดนี้ มันทำให้เลือดยังคงไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกายเอาไว้ รักษาเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเอาไว้ได้ แม้แต่แบคทีเรียในดินยังทำอะไรศพไม่ได้ ไม่มีแมลงมารบกวนศพ ถ้าเราไม่มาเจอศพจะอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนานขนาดไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน มันคงไม่ต่างจากศพที่แข็งเป็นไม้พวกนั้น
ส่วนสาเหตุการตายคงเพราะจมน้ำ ศพอยู่ใต้ดินคงสันนิษฐานว่าน้ำท่วม เลยพัดพาตะกอนดินเข้ามาในห้องนี้ พอน้ำแห้งตะกอนแข็งตัวเป็นชั้นดินฝั่งร่าง จะเห็นว่ายังนอนบนเครื่องนอนของตัวเองอยู่เลย เหตุการณ์เหมือนว่าเขาเข้ามาพักในห้องนี้ แล้วจากนั้นน้ำก็ไหลบ่าเข้ามาในห้อง พร้อมดินเลนกลบฝั่งร่างของเขา ส่วนพื้นปูนมันแตกจากรากไม้ด้านล่างดันขึ้นมา ศพเลยถูกฝั่งอย่างแนบเนียนโดยธรรมชาติ”
นิยายผจญภัยในป่า_ตอนผจญมนุษย์ไม้แห่งอาณาจักรเมืองร้าง#3
“โหงพรายมันบอกใช่ครับ! พ่อปู่” จะงอยผู้น้องถาม โดนพี่ชายตบกบาลดังป๊าบ
“แกอย่าถามมาก รีบ ๆ เข้าไปข้างในเร็ว”
“ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ แค่ห้องมืด ๆ อับ ๆ มีรากไม้ห้อยย้อยลงมาเต็มไปหมด”
“ตาถั่วจริง ดูที่พื้นสิ ตรงที่พวกแกยืน”
“พวกทหารรับจ้าง หน่วยหมาป่าของผู้กองเปตรอฟ ททหารรัสเซียคนนั้นแน่นอน”
“ตายนานหรือยัง” ตะบันถาม
“มีบางอย่างอยู่ด้านล่าง ดันพื้นปูนพวกนี้จนแตกเป็นหลุม” สัณฑ์พูดน้ำเสียงในห้อง ตะบันไหวพริบพอจะตามได้แล้ว ดวงตาโปนดุตามเผ่าพันธุ์นักสู้มองมาที่เขา
“ลองขุดดูก็รู้”
“ศพ! ทำไมมันแข็งเหมือนไม้”
“ตะบันแกลองเอาหูแนบกับอกของศพดูสิ ได้ยินเสียงหัวใจเต้นหรือเปล่า”
“ไอ้บ้า! ศพเก่าแก่ขนาดนี้ กี่ร้อยปีพันปีก็ไม่รู้ ยังจะพูดล้อเล่นอีก”
“ฉันไม่ได้พูดล้อเล่น!”
ตะบัน ทำให้เขารวบรวมสมาธิอีกครั้ง
“ขอตรวจดูอีกหน่อย”
“สาเหตุการตายล่ะ” ตะบันถาม เขายักไหล่
“เหมือนคน หลับลึกไปเฉย ๆ อาจใหลตายก็ได้ ไม่มีบาดแผลอะไรเลย”
“หากตอนนั้นแกไม่ช่วย พวกฉันสองพี่น้อง จะต้องลงไปนอนในหลุมเหมือนมัน” ดวงตาโปนดุอย่างเสือของตะบัน มองตาเขา
“ก็ไม่แน่”
คนหน้าหนวดเอานิ้วเกาใต้คางดังแกรก ดวงตาปรือ ๆ ตะบันมาแนวใช้สมองแฮะ