🌳 ‘คืนสู่ดิน’ ทางเลือกหลังตาย ให้ร่างกายเป็นดิน# ไม่เผา ไม่เพิ่มมลพิษ
🌳 ‘คืนสู่ดิน’ ไม่ทำร้ายแต่ขอบคุณโลก
ช่วงหนึ่งของการสนทนามีการเปิดวิดีโอที่บันทึกการพูดคุยกับคุณหญิงจำนงศรีในสวนหน้าบ้านท่ามกลางต้นไม้เขียวชอุ่ม
☘️คุณหญิงกล่าวในวิดีโอนั้นว่า “ในเมื่อเราใช้ทรัพยากรของโลกมาขนาดนี้แล้ว เราใช้น้ำ ใช้อากาศ โลกให้เรามีชีวิตและชีวา แล้วเราจะทำอะไรขอบคุณโลกได้บ้าง สิ่งที่เหลือหลังตายคือร่างกายของเรา ตลอดชีวิตเรารู้หรือเปล่าว่าเรามีทองเป็นก้อนเลย นั่นก็คือร่างกาย มันทำทุกอย่างให้เราแล้ว พอคุณตายมันยังอยู่ เราคืนสิ่งที่มีคุณค่านี้ให้กับโลกได้ไหม ในเมื่อมันอยู่มาด้วยทรัพยากรของโลก เราต้องคืนให้โลก”
การ “คืนให้โลก” ที่คุณหญิงจำนงศรีมอง คือ ไม่ให้ร่างกายหลังการตายสร้างมลภาวะ โดยปล่อยให้มันกลับไปสู่ดิน ไปสู่การเป็นอาหารของพืชและสัตว์ ซึ่งคุณหญิงมองว่า การจัดการศพแบบไม่สร้างมลภาวะให้โลกจะทำให้รู้สึกเป็นสุขด้วย เพราะ “ขณะที่จะตายเราจะรู้ว่าไม่มีส่วนไหนของเราที่จะเป็นลบ แต่จะเป็นบวก มันเป็นวงจรของการเอื้อต่อกัน เป็นความขอบคุณ เป็นการรับและการให้ เป็นวงจรที่ถ้าเราเห็นเราจะตระหนักว่าความตายเป็นแค่ส่วนหนึ่งของวงจรนี้ ถ้าถามว่ามีอะไรที่จะบอกโลกใบนี้ ณ ตอนนี้ คือ จะบอกว่าขอบคุณ ขอบคุณเหลือเกิน ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”
คุณหญิงจำนงศรี หรือป้าศรี กล่าวบนเวทีเพิ่มเติมจากที่พูดในการบันทึกวิดีโออีกว่า “เวลาที่สัตว์ในป่ามันตาย มันก็ตายแล้วกลายเป็นดิน เป็นธรรมชาติ เป็นดินที่รุ่มรวยด้วยสารอาหารสำหรับป่า และป่าก็เป็นร่มเงา-ผลิตออกซิเจนให้เรา มันเป็นวงจร แล้วมนุษย์วิเศษยังไงที่ตายแล้วไปสร้างมลพิษที่ทำให้โลกเสื่อมลง ที่ทำให้เกิด PM 2.5 ซึ่งนอกจากเป็นต้นเหตุมะเร็งปอดแล้วยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคสมองเสื่อมด้วย คุณไม่กลัวมะเร็งปอด ไม่กลัวสมองเสื่อมเหรอคะ
“ป้ามองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมเราไม่แค่ผ่านกระบวนการธรรมชาติ เราควรขอบคุณโลก แล้วทำไมเราไปทำร้ายโลก เรากินเนื้อปลา เนื้อหมู เนื้อสัตว์ เพื่อมีชีวิตอยู่ แล้วทำไมเราไม่ขอบคุณเขาด้วยการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมที่เขาต้องอยู่อาศัย มันเป็นการกระทำที่ไม่กตัญญู”
🌎 3 วิธีจัดการศพแบบไม่เผา ไม่สร้างมลพิษทางอากาศ
จากแนวคิดไม่เผาศพ ไม่สร้างมลพิษ คุณหญิงจำนงศรีแชร์ข้อมูลว่า การจัดการศพแบบที่จะไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมมีหลายวิธีมาก วิธีที่ง่ายที่สุดคือ
1️⃣‘Green Burial’ เป็นการฝังโดยไม่นำศพใส่โลง แค่ห่อผ้าแล้วฝังลงดินแล้วปลูกต้นไม้ไว้เหนือศพนั้น ซึ่งในประเทศอังกฤษนิยมทำวิธีนี้ และมีป่าเกิดขึ้นมาเพราะ Green Burial จำนวนมาก แต่ปัญหาของ Green Burial คือยังมีเชื้อโรคจากร่างกายมนุษย์อยู่ในดินบริเวณที่ฝัง อย่างไรก็ตาม คนที่ทำงานเรื่องจุลินทรีย์เห็ดบอกว่า ไม่จำเป็นต้องกลัวเชื้อโรคมากนัก เพราะจริงๆ แล้วเชื้อโรคก็เป็นส่วนหนึ่งของดิน เป็นธรรมชาติของดิน
💦2️⃣อีกวิธีหนึ่ง คือ ‘Aqua Cremation’ เป็นการจัดการศพด้วยน้ำ โดยใส่ศพลงไปในแทงก์ที่บรรจุน้ำผสมด่าง เป็นสารละลายร้อน ใช้เวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมงศพจะสลายเป็นผง ครอบครัวสามารถเก็บผงไว้ได้ส่วนหนึ่ง เหมือนการเก็บเถ้าถ่านจากวิธีการเผาทั่วไป ส่วนผงที่เหลือนำไปโปรยลงดินเป็นสารอาหารให้ดินได้ แต่ทั้งนี้ ป้าศรีบอกว่า “ป้าไม่ค่อยอินกับวิธีนี้เท่าไหร่”
🌳3️⃣ส่วนวิธีที่สาม เป็นวิธีการที่ ‘ชีวามิตร’ สนับสนุน คือ การจัดการศพแบบ ‘Recompose’ ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า ‘Natural Organic Reduction (NOR)’ หรือ ‘Human Composting’ วิธีการนี้จะเริ่มจากการไม่ฉีดฟอร์มาลีนให้ศพแต่ฉีดสารธรรมชาติแทน แล้วบรรจุศพและวัสดุช่วยย่อยสลายใส่ในโลงศพ ประกอบด้วย เศษไม้ หญ้าอัลฟัลฟา (ในไทยสามารถใช้เห็ดแทน) และฟาง ให้เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ช่วยย่อยสลาย ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนกว่าๆ ศพจะย่อยสลาย เมื่อศพย่อยสลายแล้วนำไปเป็นปุ๋ยบำรุงดินบำรุงต้นไม้
คุณหญิงจำนงศรีบอกว่า ชอบวิธีการนี้มากที่สุด เพราะส่วนตัวเป็นคนรักต้นไม้ ปลูกต้นไม้เยอะ เมื่อตัดกิ่งไม้ขนาดใหญ่แล้วไม่รู้จะจัดการอย่างไร จึงมองว่าถ้าในประเทศไทยใช้วิธีการจัดการศพวิธีนี้แพร่หลาย จะเกิดธุรกิจรับเก็บกิ่งไม้เหล่านี้เพื่อนำไปใช้ในการจัดการศพ เป็นการช่วยครัวเรือนจัดการกิ่งไม้ในบ้านอีกทางหนึ่งจากไอเดีย ‘ไม่เผา’ สู่ ‘ป่าสุสาน’ เพิ่มพื้นที่สีเขียว
ไม่เพียงแค่กระบวนการจัดการศพโดยไม่เผาซึ่งจะดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่คุณหญิงจำนงศรีมีไอเดียต่อยอดไปอีกว่า น่าจะดี หากประเทศไทยมีการนำที่ดินราชพัสดุ ที่ดินของทหาร หรือที่ดินของเอกชนที่ปล่อยรกร้างว่างเปล่า ไปใช้ประโยชน์เป็นป่าสุสาน แล้วให้เป็นป่าชุมชน หรือเปิดเป็นสวนสำหรับการพักผ่อน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าให้ทำเป็นการกุศล แต่สามารถทำเป็นธุรกิจป่าสุสานได้ โดยต้องมีการออกกฎหมายควบคุมชัดเจน และผู้ที่ต้องการทำต้องขออนุญาตจากรัฐ
นอกจากนั้น คุณหญิงจำนงศรีบอกว่า ปัจจุบันการนำอัฐิไปลอยอังคารได้สร้างปัญหาให้แก่ทะเลเป็นอย่างมาก เนื่องจากในห่ออัฐินั้นมีเหรียญด้วย เป็นการสร้างขยะในทะเลจำนวนมาก
“ร่างกายมนุษย์มันวิเศษขนาดไหนที่จะต้องทำขั้นตอนมากมายแบบนั้น ในเมื่อเรากินเขาอยู่ตลอดเวลา ทุกวันเราเอาศพพืชศพสัตว์มาใส่จานแล้วกินเข้าไป ทำไมศพของเราต้องพิเศษนัก” ป้าศรีย้ำคำถามสำคัญ
“มีคนท้าทายมาเรื่อยๆ ว่าแล้วใครจะยอม [ให้ศพของตัวเองสลายไปง่ายๆ แบบไม่ผ่านขั้นตอนแบบที่ทำกันมา]
ป้าอายุ 86 ป้าจะไปในเร็วๆ นี้ ป้าจะเป็นศพแรก เพื่อจะพิสูจน์ว่า Who cares ?” คุณหญิงจำนงศรีประกาศเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่
☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️
☘️ ☘️ป้าศรี ได้บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ให้สภากาชาด แล้ว ขณะนี้จะมีการพระราชทานเพลิงรวม ของร่างที่ได้ผ่านการศึกษา โดยนักศึกษาแพทย์แล้ว
แต่ ป้าศรีหวังว่าการรณรงค์โครงการคืนสู่ดิน นี้
จะทำให้เกิดทางเลือกสำหรับผู้ทีต้องการคืนร่างสู่ดิน สามารถเข้าสู่กระบวนการสลายร่างรวม เพื่อกลายเป็นดินปลูกต้นไม้ร่วมกันโดยไม่ต้องแยกระบุร่างให้เป็นภาระ เพราะผู้ที่บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่และระบุความต้องการ ที่จะให้สลายร่างที่ผ่านการเรียนรู้ของ นักศึกษาแพทย์แล้ว ก็คงพร้อม ที่จะเข้าสู่ วัฏจักรของธรรมชาติ อันงดงามและไร้ตัวตน☘️☘️
🧑⚖️เรื่องกฏหมาย ก็เป็นเรื่องสำคัญที่บรรจุไว้ในแผนงานของเราแล้ว แต่การทำงานของเรายังไม่ถึงช่วงนั้น
ถึงแม้จะได้มีการปรึกษาแนวทางกับผู้เชี่ยวชาญด้านกฤษฎีกาบ้างแล้วค่ะ🧑⚖️
#คืนสู่ดิน #ชีวามิตร #รักษ์โลก
ที่มา: ตัดตอนจาก กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT | 30 ก.ย. 68
🌍 สนใจวิธีจัดการศพแบบไม่เผา ไม่สร้างมลพิษทางอากาศ กด 1 ค่ะ
⚡️ไม่สนใจกด 2 ค่ะ
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่คอมเมนต์ค่ะ
FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
CR
https://www.facebook.com/share/1CsaEca8NQ/?mibextid=wwXIfr
🌳 ‘คืนสู่ดิน’ ทางเลือกหลังตาย ให้ร่างกายเป็นดิน ไม่เผา ไม่เพิ่มมลพิษ
🌳 ‘คืนสู่ดิน’ ไม่ทำร้ายแต่ขอบคุณโลก
ช่วงหนึ่งของการสนทนามีการเปิดวิดีโอที่บันทึกการพูดคุยกับคุณหญิงจำนงศรีในสวนหน้าบ้านท่ามกลางต้นไม้เขียวชอุ่ม
☘️คุณหญิงกล่าวในวิดีโอนั้นว่า “ในเมื่อเราใช้ทรัพยากรของโลกมาขนาดนี้แล้ว เราใช้น้ำ ใช้อากาศ โลกให้เรามีชีวิตและชีวา แล้วเราจะทำอะไรขอบคุณโลกได้บ้าง สิ่งที่เหลือหลังตายคือร่างกายของเรา ตลอดชีวิตเรารู้หรือเปล่าว่าเรามีทองเป็นก้อนเลย นั่นก็คือร่างกาย มันทำทุกอย่างให้เราแล้ว พอคุณตายมันยังอยู่ เราคืนสิ่งที่มีคุณค่านี้ให้กับโลกได้ไหม ในเมื่อมันอยู่มาด้วยทรัพยากรของโลก เราต้องคืนให้โลก”
การ “คืนให้โลก” ที่คุณหญิงจำนงศรีมอง คือ ไม่ให้ร่างกายหลังการตายสร้างมลภาวะ โดยปล่อยให้มันกลับไปสู่ดิน ไปสู่การเป็นอาหารของพืชและสัตว์ ซึ่งคุณหญิงมองว่า การจัดการศพแบบไม่สร้างมลภาวะให้โลกจะทำให้รู้สึกเป็นสุขด้วย เพราะ “ขณะที่จะตายเราจะรู้ว่าไม่มีส่วนไหนของเราที่จะเป็นลบ แต่จะเป็นบวก มันเป็นวงจรของการเอื้อต่อกัน เป็นความขอบคุณ เป็นการรับและการให้ เป็นวงจรที่ถ้าเราเห็นเราจะตระหนักว่าความตายเป็นแค่ส่วนหนึ่งของวงจรนี้ ถ้าถามว่ามีอะไรที่จะบอกโลกใบนี้ ณ ตอนนี้ คือ จะบอกว่าขอบคุณ ขอบคุณเหลือเกิน ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”
คุณหญิงจำนงศรี หรือป้าศรี กล่าวบนเวทีเพิ่มเติมจากที่พูดในการบันทึกวิดีโออีกว่า “เวลาที่สัตว์ในป่ามันตาย มันก็ตายแล้วกลายเป็นดิน เป็นธรรมชาติ เป็นดินที่รุ่มรวยด้วยสารอาหารสำหรับป่า และป่าก็เป็นร่มเงา-ผลิตออกซิเจนให้เรา มันเป็นวงจร แล้วมนุษย์วิเศษยังไงที่ตายแล้วไปสร้างมลพิษที่ทำให้โลกเสื่อมลง ที่ทำให้เกิด PM 2.5 ซึ่งนอกจากเป็นต้นเหตุมะเร็งปอดแล้วยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคสมองเสื่อมด้วย คุณไม่กลัวมะเร็งปอด ไม่กลัวสมองเสื่อมเหรอคะ
“ป้ามองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมเราไม่แค่ผ่านกระบวนการธรรมชาติ เราควรขอบคุณโลก แล้วทำไมเราไปทำร้ายโลก เรากินเนื้อปลา เนื้อหมู เนื้อสัตว์ เพื่อมีชีวิตอยู่ แล้วทำไมเราไม่ขอบคุณเขาด้วยการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมที่เขาต้องอยู่อาศัย มันเป็นการกระทำที่ไม่กตัญญู”
🌎 3 วิธีจัดการศพแบบไม่เผา ไม่สร้างมลพิษทางอากาศ
จากแนวคิดไม่เผาศพ ไม่สร้างมลพิษ คุณหญิงจำนงศรีแชร์ข้อมูลว่า การจัดการศพแบบที่จะไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมมีหลายวิธีมาก วิธีที่ง่ายที่สุดคือ
1️⃣‘Green Burial’ เป็นการฝังโดยไม่นำศพใส่โลง แค่ห่อผ้าแล้วฝังลงดินแล้วปลูกต้นไม้ไว้เหนือศพนั้น ซึ่งในประเทศอังกฤษนิยมทำวิธีนี้ และมีป่าเกิดขึ้นมาเพราะ Green Burial จำนวนมาก แต่ปัญหาของ Green Burial คือยังมีเชื้อโรคจากร่างกายมนุษย์อยู่ในดินบริเวณที่ฝัง อย่างไรก็ตาม คนที่ทำงานเรื่องจุลินทรีย์เห็ดบอกว่า ไม่จำเป็นต้องกลัวเชื้อโรคมากนัก เพราะจริงๆ แล้วเชื้อโรคก็เป็นส่วนหนึ่งของดิน เป็นธรรมชาติของดิน
💦2️⃣อีกวิธีหนึ่ง คือ ‘Aqua Cremation’ เป็นการจัดการศพด้วยน้ำ โดยใส่ศพลงไปในแทงก์ที่บรรจุน้ำผสมด่าง เป็นสารละลายร้อน ใช้เวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมงศพจะสลายเป็นผง ครอบครัวสามารถเก็บผงไว้ได้ส่วนหนึ่ง เหมือนการเก็บเถ้าถ่านจากวิธีการเผาทั่วไป ส่วนผงที่เหลือนำไปโปรยลงดินเป็นสารอาหารให้ดินได้ แต่ทั้งนี้ ป้าศรีบอกว่า “ป้าไม่ค่อยอินกับวิธีนี้เท่าไหร่”
🌳3️⃣ส่วนวิธีที่สาม เป็นวิธีการที่ ‘ชีวามิตร’ สนับสนุน คือ การจัดการศพแบบ ‘Recompose’ ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า ‘Natural Organic Reduction (NOR)’ หรือ ‘Human Composting’ วิธีการนี้จะเริ่มจากการไม่ฉีดฟอร์มาลีนให้ศพแต่ฉีดสารธรรมชาติแทน แล้วบรรจุศพและวัสดุช่วยย่อยสลายใส่ในโลงศพ ประกอบด้วย เศษไม้ หญ้าอัลฟัลฟา (ในไทยสามารถใช้เห็ดแทน) และฟาง ให้เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ช่วยย่อยสลาย ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนกว่าๆ ศพจะย่อยสลาย เมื่อศพย่อยสลายแล้วนำไปเป็นปุ๋ยบำรุงดินบำรุงต้นไม้
คุณหญิงจำนงศรีบอกว่า ชอบวิธีการนี้มากที่สุด เพราะส่วนตัวเป็นคนรักต้นไม้ ปลูกต้นไม้เยอะ เมื่อตัดกิ่งไม้ขนาดใหญ่แล้วไม่รู้จะจัดการอย่างไร จึงมองว่าถ้าในประเทศไทยใช้วิธีการจัดการศพวิธีนี้แพร่หลาย จะเกิดธุรกิจรับเก็บกิ่งไม้เหล่านี้เพื่อนำไปใช้ในการจัดการศพ เป็นการช่วยครัวเรือนจัดการกิ่งไม้ในบ้านอีกทางหนึ่งจากไอเดีย ‘ไม่เผา’ สู่ ‘ป่าสุสาน’ เพิ่มพื้นที่สีเขียว
ไม่เพียงแค่กระบวนการจัดการศพโดยไม่เผาซึ่งจะดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่คุณหญิงจำนงศรีมีไอเดียต่อยอดไปอีกว่า น่าจะดี หากประเทศไทยมีการนำที่ดินราชพัสดุ ที่ดินของทหาร หรือที่ดินของเอกชนที่ปล่อยรกร้างว่างเปล่า ไปใช้ประโยชน์เป็นป่าสุสาน แล้วให้เป็นป่าชุมชน หรือเปิดเป็นสวนสำหรับการพักผ่อน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าให้ทำเป็นการกุศล แต่สามารถทำเป็นธุรกิจป่าสุสานได้ โดยต้องมีการออกกฎหมายควบคุมชัดเจน และผู้ที่ต้องการทำต้องขออนุญาตจากรัฐ
นอกจากนั้น คุณหญิงจำนงศรีบอกว่า ปัจจุบันการนำอัฐิไปลอยอังคารได้สร้างปัญหาให้แก่ทะเลเป็นอย่างมาก เนื่องจากในห่ออัฐินั้นมีเหรียญด้วย เป็นการสร้างขยะในทะเลจำนวนมาก
“ร่างกายมนุษย์มันวิเศษขนาดไหนที่จะต้องทำขั้นตอนมากมายแบบนั้น ในเมื่อเรากินเขาอยู่ตลอดเวลา ทุกวันเราเอาศพพืชศพสัตว์มาใส่จานแล้วกินเข้าไป ทำไมศพของเราต้องพิเศษนัก” ป้าศรีย้ำคำถามสำคัญ
“มีคนท้าทายมาเรื่อยๆ ว่าแล้วใครจะยอม [ให้ศพของตัวเองสลายไปง่ายๆ แบบไม่ผ่านขั้นตอนแบบที่ทำกันมา]
ป้าอายุ 86 ป้าจะไปในเร็วๆ นี้ ป้าจะเป็นศพแรก เพื่อจะพิสูจน์ว่า Who cares ?” คุณหญิงจำนงศรีประกาศเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่
☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️
☘️ ☘️ป้าศรี ได้บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ให้สภากาชาด แล้ว ขณะนี้จะมีการพระราชทานเพลิงรวม ของร่างที่ได้ผ่านการศึกษา โดยนักศึกษาแพทย์แล้ว
แต่ ป้าศรีหวังว่าการรณรงค์โครงการคืนสู่ดิน นี้
จะทำให้เกิดทางเลือกสำหรับผู้ทีต้องการคืนร่างสู่ดิน สามารถเข้าสู่กระบวนการสลายร่างรวม เพื่อกลายเป็นดินปลูกต้นไม้ร่วมกันโดยไม่ต้องแยกระบุร่างให้เป็นภาระ เพราะผู้ที่บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่และระบุความต้องการ ที่จะให้สลายร่างที่ผ่านการเรียนรู้ของ นักศึกษาแพทย์แล้ว ก็คงพร้อม ที่จะเข้าสู่ วัฏจักรของธรรมชาติ อันงดงามและไร้ตัวตน☘️☘️
🧑⚖️เรื่องกฏหมาย ก็เป็นเรื่องสำคัญที่บรรจุไว้ในแผนงานของเราแล้ว แต่การทำงานของเรายังไม่ถึงช่วงนั้น
ถึงแม้จะได้มีการปรึกษาแนวทางกับผู้เชี่ยวชาญด้านกฤษฎีกาบ้างแล้วค่ะ🧑⚖️
#คืนสู่ดิน #ชีวามิตร #รักษ์โลก
ที่มา: ตัดตอนจาก กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT | 30 ก.ย. 68
🌍 สนใจวิธีจัดการศพแบบไม่เผา ไม่สร้างมลพิษทางอากาศ กด 1 ค่ะ
⚡️ไม่สนใจกด 2 ค่ะ
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่คอมเมนต์ค่ะ
FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
CR https://www.facebook.com/share/1CsaEca8NQ/?mibextid=wwXIfr