พ่อแม่เราเลิกกันค่ะ .. เรามีพี่สาว1คน และน้องสาว1คน เราเป็นลูกคนกลาง .. เรากับพี่สาวจึงไปขออาศัยอยู่บ้านตายาย
สาเหตุที่พ่อกับแม่เลิกกันคือ
- พ่อเป็นคนขี้เกียจทำงาน(ที่บ้านทำอาชีพกรีดยางค่ะอยู่ทางภาคใต้)บ่อยครั้งที่แม่ต้องตื่นดึกไปกรีดยางคนเดียว -พ่อชอบไถเงินแม่ไปเล่นการพนัน
-พ่อฟังญาติพี่น้องที่คอยยุและบอกว่าแม่เราคบชู้ บ่อยครั้งที่หาเรื่องตีแม่เรา
จนเราทนไม่ไหว เราก้มลงกราบเท้าแม่และบอกให้แม่หนีไปเสีย เพราะทนไม่ไหวที่แม่โดนทุบตี ครั้งสุดท้ายที่จำได้คือเอาสายไฟรัดคอแม่ จนเราเกือบเสียแม่ไป
"พ่อ" ในความทรงจำของเราไม่เคยมีอะไรให้น่าจดจำเลย
ครั้งที่เราเด็กๆ เวลาเราป่วย คุณตาคุณยายมักจะบอกให้พ่อกับแม่พาไปหาหมอ แต่พ่อมักจะบอกว่า "เราก็ปกติดีหนิไม่เห็นเป็นอะไรเลย" จนมีครั้งนึง ที่เราท้องเสียหนัก ตอน4-5ขวบ ความทรงจำเราเลือนลางมาก แต่ยังจำได้ว่า วูบหมดสติ จนตายายต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล เพราะคำพูดของพ่อ ที่ว่า "เราปกติดีหนิ"
มีครั้งนึงตอนเราอายุ13 เรากับพี่สาววัย15ปี ขับรถมอเตอร์ไซค์อยู่ดีๆมีหมาวิ่งตัดหน้า จนเกิดอุบัติเหตุ เราเป็นแผลยับเยินทั้งตัว พี่สาวขาหัก โชคดีที่มีคนพาไปส่งที่บ้านคุณตายายที่เราอยู่ เรายังทนไหว จึงรีบโทรหาพ่อ ให้พ่อข่วยพาไปหาหมอ พ่อขับรถขึ้นมาด้วยความเร็ว พร้อมสบถคำหยาบใส่เรา เควี้ยงกระเป๋าสตางค์ใส่หน้าเราอย่างแรง และขับรถจากไป .. แต่เราเก็บไว้ในใจตลอด เพราะเราสงสารน้องสาวที่อยู่กับพ่อ ต้องคอยไปดูแลน้องอย่างไม่ห่าง เพราะมีแค่ พ่อ ปู่ และน้องสาว บ้านตายายกับบ้านพ่อเราไม่ไกลกันค่ะ ห่างกันแค่3กิโลเมตรเอง
จนวันนึงตาเราลเมป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตซีกตัว เราก็พยายามเรียนหนังสือม.ต้นให้จบ(เราเรียนโรงเรียนวัด) โดยมีน้าชายที่เป็นน้องแม่ และแม่เราเองที่คอยส่งเงินมาช่วยเหลือ
จนเราเรียนจบม.ต้น ต่อม.ปลาย จบม.6 เราก็ออกมาหางานทำ เพราะสงสารแม่และน้าที่ช่วยส่งเสีย จนตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว เรามีครอบครัวมีลูก1คนแล้วค่ะลูกเราอายุ1ปี ..
เรามีความจำเป็นบางอย่างที่ต้องหาที่อยู่ใหม่ .. สามีจึงบอกว่าให้ไปอาศัยบ้านพ่อของเราก่อนชั่วคราว เราจึงตัดสินใจขนของไปค่ะ
เราซื้อทุกอย่าง จ่ายทุกอย่าง ที่เป็นของในบ้าน ทั้งกับข้าว ของจุกจิกน้องสาว เงินค่าขนมไปโรงเรียน ค่าน้ำค่าไฟ แต่เราก็ยังไม่เคยดีเลยจริงๆ
ถ้าเรารู้สึกเกลียดพ่อและปู่ตัวเองเราผิดใช่ไหมคะ?
สาเหตุที่พ่อกับแม่เลิกกันคือ
- พ่อเป็นคนขี้เกียจทำงาน(ที่บ้านทำอาชีพกรีดยางค่ะอยู่ทางภาคใต้)บ่อยครั้งที่แม่ต้องตื่นดึกไปกรีดยางคนเดียว -พ่อชอบไถเงินแม่ไปเล่นการพนัน
-พ่อฟังญาติพี่น้องที่คอยยุและบอกว่าแม่เราคบชู้ บ่อยครั้งที่หาเรื่องตีแม่เรา
จนเราทนไม่ไหว เราก้มลงกราบเท้าแม่และบอกให้แม่หนีไปเสีย เพราะทนไม่ไหวที่แม่โดนทุบตี ครั้งสุดท้ายที่จำได้คือเอาสายไฟรัดคอแม่ จนเราเกือบเสียแม่ไป
"พ่อ" ในความทรงจำของเราไม่เคยมีอะไรให้น่าจดจำเลย
ครั้งที่เราเด็กๆ เวลาเราป่วย คุณตาคุณยายมักจะบอกให้พ่อกับแม่พาไปหาหมอ แต่พ่อมักจะบอกว่า "เราก็ปกติดีหนิไม่เห็นเป็นอะไรเลย" จนมีครั้งนึง ที่เราท้องเสียหนัก ตอน4-5ขวบ ความทรงจำเราเลือนลางมาก แต่ยังจำได้ว่า วูบหมดสติ จนตายายต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล เพราะคำพูดของพ่อ ที่ว่า "เราปกติดีหนิ"
มีครั้งนึงตอนเราอายุ13 เรากับพี่สาววัย15ปี ขับรถมอเตอร์ไซค์อยู่ดีๆมีหมาวิ่งตัดหน้า จนเกิดอุบัติเหตุ เราเป็นแผลยับเยินทั้งตัว พี่สาวขาหัก โชคดีที่มีคนพาไปส่งที่บ้านคุณตายายที่เราอยู่ เรายังทนไหว จึงรีบโทรหาพ่อ ให้พ่อข่วยพาไปหาหมอ พ่อขับรถขึ้นมาด้วยความเร็ว พร้อมสบถคำหยาบใส่เรา เควี้ยงกระเป๋าสตางค์ใส่หน้าเราอย่างแรง และขับรถจากไป .. แต่เราเก็บไว้ในใจตลอด เพราะเราสงสารน้องสาวที่อยู่กับพ่อ ต้องคอยไปดูแลน้องอย่างไม่ห่าง เพราะมีแค่ พ่อ ปู่ และน้องสาว บ้านตายายกับบ้านพ่อเราไม่ไกลกันค่ะ ห่างกันแค่3กิโลเมตรเอง
จนวันนึงตาเราลเมป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตซีกตัว เราก็พยายามเรียนหนังสือม.ต้นให้จบ(เราเรียนโรงเรียนวัด) โดยมีน้าชายที่เป็นน้องแม่ และแม่เราเองที่คอยส่งเงินมาช่วยเหลือ
จนเราเรียนจบม.ต้น ต่อม.ปลาย จบม.6 เราก็ออกมาหางานทำ เพราะสงสารแม่และน้าที่ช่วยส่งเสีย จนตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว เรามีครอบครัวมีลูก1คนแล้วค่ะลูกเราอายุ1ปี ..
เรามีความจำเป็นบางอย่างที่ต้องหาที่อยู่ใหม่ .. สามีจึงบอกว่าให้ไปอาศัยบ้านพ่อของเราก่อนชั่วคราว เราจึงตัดสินใจขนของไปค่ะ
เราซื้อทุกอย่าง จ่ายทุกอย่าง ที่เป็นของในบ้าน ทั้งกับข้าว ของจุกจิกน้องสาว เงินค่าขนมไปโรงเรียน ค่าน้ำค่าไฟ แต่เราก็ยังไม่เคยดีเลยจริงๆ