แชร์ประสบการณ์ปอดรั่ว
อยากแชร์และอยากบันทึกไว้เป็นเรื่องราวการเป็นปอดรั่วครั้งแรกในชีวิตเรา ครั้งแรกและครั้งเดียว ไม่อยากเป็นอีกแล้วววว
ปอดรั่วคืออะไรขอเล่าก่อน
Pneumothorax หรือภาวะปอดรั่ว คือภาวะที่มีอากาศเข้าไปแทรกอยู่ภายในช่องปอดจนเบียดเนื้อปอด เป็นเหตุให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่และทำงานได้ไม่ดี ส่งผลต่อการหายใจของผู้ป่วย เป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
Pneumothorax แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
ภาวะ Pneumothorax จากอุบัติเหตุ มีสาเหตุมาจากการได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจนทำให้ลมจากภายนอกเข้าสู่ช่องปอด ภาวะนี้ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมักทำให้มีอาการรุนแรงและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้
ภาวะ Pneumothorax จากสาเหตุอื่น อาจเกิดจากอาการเจ็บป่วยซึ่งส่งผลกระทบต่อปอดโดยตรง เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง การติดเชื้อ โรคมะเร็งปอด โรคทางพันธุกรรมบางชนิด หรือโรคหอบหืด บางครั้งอาจเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุหรือสัญญาณเตือนใด ๆ
(ซึ่งของเราเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ ไม่เคยสูบบุหรี่ คนในครอบครัวไม่สูบบุหรี่)
อาการของภาวะปอดรั่ว
ภาวะ Pneumothorax จะมีอาการแสดงให้เห็นทันที โดยอาจเกิดขึ้นหลังจากเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุก็ได้ และในบางกรณีภาวะนี้อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่น ๆ ที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ โดยอาการหลัก ๆ ของ Pneumothorax ที่พบได้ คือ หายใจไม่อิ่ม และมีอาการเจ็บแปลบบริเวณหน้าอกข้างที่มีความผิดปกติ โดยเฉพาะเวลาหายใจเข้า แต่บางรายอาจมีอาการน้อยมากจนผู้ป่วยไม่ได้สังเกต ทำให้ไม่รู้ว่าตนเองมีความผิดปกติจนกระทั่งผ่านไปหลายวันแล้ว
อะเข้าเรื่องตัวเองบ้าง
25 มิ.ย 62 ทำงานปกติมาทั้งวันจนถึงช่วงใกล้เลิกงาน ช่วงเกือบหกโมงเย็น หลังจากกินชาไข่มุกหมดแก้ว (ตอนนั้นคิดว่าเป็นเพราะชาไข่มุก) เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกเหมือนมันจุกๆ หายใจเข้าเจ็บช่วงบริเวณอกข้างขวา (ด้านที่รั่ว) แต่คือตอนนั้นมันไม่รู้ว่าเป็นอะไรจริงๆ คิดไปเองว่าหรือกินอิ่มเกินไปวะไรงี้ จนเริ่มทนไม่ไหวเลยรีบออกไปหาหมอเพราะมันหายใจไม่ค่อยออก
ถึง ร.พ ตรวจความดัน อะไรคือมันปกติหมด หมอก็ฟังเสียงการหายใจเรา ก็บอกดูไม่ได้มีอะไร ยังบอกอีกไม่น่าเป็นอะไรร้ายแรง วินิจฉัยว่าเป็นกรดไหลย้อนจ้าาา แถมยังฉีดยาลดกรดให้ไปอีก รับยากลับบ้านตามปกติ
แต่ตอนนั้นก็รู้สึกว่ามันเหนื่อยๆหายใจไม่สุด แต่ไม่คิดอะไรเพราะเชื่อหมอว่ากรดไหลย้อน
แต่ความโชคดีคือ สิทธิประกันสังคม มีตรวจสุขภาพฟรี พยาบาลก็ถามว่าตรวจเลือด เอ็กซเรย์ไปเลยไหม เราก็เลยอะไหนๆก็มาละทำๆไปให้หมด แล้วก็ให้โทรฟังผลวันที่ 28 มิ.ย
26 มิ.ย.62 ตื่นมาทำงานปกติ แต่ก็ยังรู้สึกหายใจไม่สุดเหมือนเดิม แต่ก็กินยาลดกรดที่หมอให้ (ก็ยังคิดว่าเป็นกรดไหลย้อนจ้าา)
นั่งทำงานสักพัก โทรศัพท์มีสายเข้า คุณ...เมื่อวานได้มาตรวจสุขภาพ
กับรพ....ใช่ไหมค่ะ พอดีผลเอ็กซเรย์ผิดปกติให้มาพบคุณหมอตอนนี้เลยนะคะ (โทรมาบอกผลก่อนเลยจ้าเพราะผิดปกติ)
ตอนนั้นคิดไปร้อยแปดพันเก้า ไม่เคยตรวจอะไรแล้วผิดปกติอะไรสักอย่างตั้งแต่เกิดมา นั่งรถไปรพ.ด้วยความงงๆและร้องไห้ไปด้วย เพราะคิดไปเรื่อยตอนนั้น55555
เข้าห้องตรวจ หมอนั่งดูฟิล์มที่เอ็กซเรย์ไว้เมื่อวาน ก็บอกเราว่าปอดรั่วนะ สตั้นไปแปบนึง ยังถามหมออีกปอดอยู่ตรงไหนหรอค่ะ แล้วทำไมถึงรั่ว รั่วได้ไง แล้วต้องทำยังไง อันตรายไหม ร้ายแรงรึป่าว ถามไปรัวๆ
หมอก็ให้เอ็กซเรย์ย้ำอีกรอบ ดูว่ารอยรั่วเพิ่มไหม
สรุปไม่เพิ่มไม่ลด เลยส่งแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมทรวงอก
คุยกับหมอเฉพาะทาง สรุปต้องแอดมิดและเจาะใส่ท่อระบายลมการใส่สายระบายทรวงอก(chest tube insertion, tube thoracostomy หรือ intercostal drainage; ICD) คือการใส่สายเข้า
ไปยังช่องเยื้อหุ้มปอด เพื่อระบายลม น้ำ หนอง หรือเลือด รักษาพยาธิสภาพของช่องเยื้อหุ้มปอด ถือเป็นหัตถการ
พื้นฐานที่สำคัญ และจำเป็นสำหรับแพทยเ์วชปฏิบัติเนื่องจากสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพในช่องเยื่อหุ้มปอดได้เพื่อเอาอากาศออก
ทุกอย่างเร็วมากทำเรื่องแอดมิดเจาะสายให้น้ำเกลือ เตรียมเข้าห้องผ่าตัด4โมงเย็นวันนั้นเลย
ถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัด ครั้งแรกในชีวิตพึ่งเคยนอนรพ.และยังเข้าห้องผ่าตัดอีก ไม่รู้จะอธิบายยังไงเลย
พยาบาลดูวุ่นวายกันเตรียมอุปกรณ์ก่อนหมอจะมา
เรานอนอยู่บนเตียงผ่าตัดด้วยความทั้งกลัว และตื่นเต้น ถามพยาบาลในห้องทุกคนที่เดินเข้าออก ว่ามันเจ็บไหม มันจะเป็นยังไง มีคนเคยเป็นแบบนี้ไหม บลาๆ55555
พยาบาลต่อสายออกซิเจนเข้าจมูก เตรียมความพร้อมก่อนหมอมา หมอมาล้าวววววว
ก่อนจะทำอะไรหมอจะบอกทุกขั้นตอนว่ากำลังจะทำแบบนี้ๆนะ
ฉีดยาชาก็บอกว่าจะแทงตรงนี้นะ
แล้วก็ทำการฉีดยาชาเข้าที่ชายโครงด้านขวา (ปอดข้างที่รั่ว) ประมาณ3เข็ม นาทีที่แทงเข้าไปเข็มแรกเจ็บจนน้ำตาไหล แล้วเขาก็ลองจิ้มว่ารู้สึกไหม พอบอกไม่รู้สึกเท่านั้นแหละ แทงอะไรเข้าไปไม่รู้พร้อมมีสายค่อยๆลำเลียงเข้าไปจนถึงหน้าอกเรา
หมอก็ถามว่ารู้สึกแน่นไปไหมหายใจสะดวกไหม เลยบอกแน่นไป เขาก็ค่อยๆถอยสายออกมาให้รู้สึกดีขึ้น แล้วก็ทำการแปะแผลให้เรียบร้อย แต่สายก็จะคาไว้ที่ตัวเราแบบนั้น พร้อมต่อใส่ขวดไว้เป็นขวดแก้วที่มีน้ำอยู่ เพื่อระบายลมรั่วออกจากปอด
ออกจากห้องผ่าตัดมานอนพักฟื้น ตอนนี้ร่างกายเราก็จะมีสายที่คาไว้เพื่อระบายลมรั่วพร้อมกับขวด แล้วก็ต้องดูอาการวันต่อวัน คืนแรกหมดฤทธิ์ยาชา ปวดจนนอนไม่ได้เพราะท่อคาอกเราอยู่แบบนั้น จนต้องขอยาแก้ปวด พยาบาลก็มาฉีดให้ ยาแรงมากจากแอร์หนาวๆ ร้อนจนเหงื่อแตกเริ่มชาๆและค่อยๆหายปวดถึงหลับได้ในคืนแรก
หมอก็จะมาตรวจเราช่วงเช้าของวัน มาสังเกตุขวด และให้เราลองไอเพื่อที่จะสังเกตุดูลมจากขวด
หมอก็จะดูอาการและเอ็กซเรย์เกือบทุกวันเพื่อดูปอดเรา
ว่ารอยรั่วลดลงไหม สามารถถอดท่อได้หรือยัง เพราะบางเคสแค่ใส่ท่อระบายลมรั่วก็อาจหายได้ ถอดสายก็กลับบ้านได้
แต่เราผ่านไป 3 วันก็ยังรั่วต่อเนื่อง จนต้องต่อขวด เป็น2ขวดจากขวดเดียว และใช้เครื่องช่วยเพื่อระบายลมออกให้เร็วขึ้น
จากปกติก็ทรมานจะตายอยู่แล้ว เพิ่มเป็น2ขวด แถมมีเครื่องช่วยอีก มันจะเจ็บจี๊ดๆเหมือนอะไรแทงปอดเราตลอดเวลา นอนร้องไห้ทุกคืนเพราะมันทรมานจริงๆ
หลังจากนั้นก็เอ็กซเรย์เกือบทุกวันเหมือนเดิม นอนดูอาการ และรอฟังผลเอ็กซเรย์แต่ละครั้งก็ขอให้มันดีขึ้น เพราะกลัวการผ่าตัดอีกครั้งมาก
1 ก.ค 62
นอนมา6วัน ผลเอ็กซเรย์ออกมาสุดท้ายมันก็ไม่ดีขึ้น และหมอก็มาคุยบอกต้องผ่าตัดเพราะลมรั่วต่อเนื่องมีถุงลมโปร่งพองที่ยอดปอดขวา ต้องผ่าตัดถุงลมออกและเย็บรอยรั่ว คือกลัวการผ่าตัดมากแล้วนี้คือผ่าตัดใหญ่ ในชีวิตแต่มีดบาดก็จะเป็นลมแล้ว
หมอก็มาคุยด้วยอธิบายเรา เอารูปมาให้ดูว่าจะผ่าตรงนี้ออกมา ก็คือถุงลมที่มันพองนั้นแหละ ผ่าแล้วจะหายไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าไม่ผ่าก็จะให้เซนต์ปฎิเสธการรักษา เพราะนี้คือวิธีสุดท้ายที่ต้องทำแล้ว ตัดสินใจผ่าเพราะอยากหายและเชื่อว่าตัวเองต้องหายและผ่านมันไปได้ ได้คิวผ่าวันที่ 3 ก.ค 62 ช่วง 8.30 มีเวลานอนทำใจอยู่อีกคืน
2 ก.ค 62
พยาบาลก็เจาะเลือดไปดูว่าร่างกายเราพร้อมที่จะผ่าตัดไหม
และก็เจาะไปอีก3หลอด เพื่อที่จะเอาเลือดไปปั่นเผื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินที่เราเสียเลือดเยอะ คือทุกอย่างต้องเตรียมพร้อม
แล้วก็จะมีคุณหมอดมยา หรือวิสัญญีแพทย์มาตรวจร่างกายเรา และอธิบายถึงการดมยาสลบ (ซึ่งผ่าตัดครั้งนี้ต้องดมยาสลบ)
ซึ่งช่วยให้เราหายกังวลได้เยอะ เพราะกลัวการดมยาตอนนั้นกลัวว่าตัวเองจะไม่ตื่น คือคิดมาก คิดไปเรื่อย แต่เขาก็บอกว่าเราจะรู้สึกตัวทันทีหลังผ่าตัดเสร็จ และต้องนอนดูอาการที่ ICU 24ชม.
ถ้าประเมินแล้วไม่มีอันตรายหรืออาการแทรกซ้อน ก็ออกมานอนห้องพักฟื้นได้ปกติ วันนี้งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืนเพื่อเตรีมผ่าตัดพรุ่งนี้
3 ก.ค 62
วันผ่าตัด ประมาน8โมงเช้า ก็มีพยาบาลเข็นรถมารับไปห้องผ่าตัด ต้องไปก่อนเผื่อเซททุกอย่างรอหมอ ช่วงเวลาที่ถูกเข็นไป
คือความรู้สึกตื่นเต้น กลัว คือทุกอย่างเร็วไปหมด คือชีวิตต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้ใช่ไหม
สุดท้ายก็ทำใจยอมรับ พยาบาลเข็นเราเข้าห้องผ่าตัด บรรยากาศยังเหมือนครั้งแรก แต่ความรู้สึกไม่เหมือนเลย เพราะครั้งนี้เราต้องหลับ และมันคือผ่าตัดใหญ่ ถึงเวลาทีมแพทย์วิสัญญีเข้ามาเตรียม ถามชื่อถามประวัติถามการแพ้ยา และเตรียมอุปกรณ์ดมยาที่จะใช้ในการผ่าตัดครั้งนี้
พยาบาลจับเรานอนกางแขน รัดแขนและขาเอาไว้ นี้สินะที่เขาเรียกขึ้นเขียง ในห้องผ่าตัดก็ยังดูวุ่นวายคงคอนเซปเดิม
ภาพสุดท้ายที่เห็นคือ มีออกซิเจนให้เราสูด
บอกค่อยๆสูด จำได้ว่าสูดไปแค่2ทีนิดๆ วาร์ปเลยจ๊ะพี่จ๋า เราจำได้ว่าเราสะดุ้งทีนึงคือตอนนั้นน่าจะผ่าเสร็จแล้ว แล้วทุกคนทำอะไรไม่รู้เร็วมาก
แล้วมารู้ตัวอีกทีคือเข็นเราไปไว้ห้องICUเพื่อดูอาการ ตื่นมาก็ยังเบลอๆกับฤทธิ์ยาสลบ และรู้สึกเจ็บคอ (เป็นปกติของผลข้างเคียงการดมยา) รู้สึกร่างกายชาๆงงๆ
หมอมาดูอาการ คือเราไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร ทุกอย่างปกติ
เลยนอนอยู่ประมาน5ชม. ก็ได้มาพักห้องพักฟื้น ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ร่างกายก็ยังมีสายต่อที่บริเวณราวนมเพื่อที่ระบายเลือด
หลังการผ่าตัดปอด
จะมีนักกายภาพ มาสอนวิธีการหายใจเพราะแรกๆคือมันเจ็บข้างในมาก และมีไตรโฟนที่เป็นคล้ายๆลูกปิงปองให้เราดูดให้ขึ้น การขึ้นของลูกปิงปองก็บ่งบอกความแข็งแรงของปอด ซึ่งช่วงแรกลูกแรกก็ไม่ขยับละจ้าาา ดูดไม่ไหวเพราะเจ็บเหลือเกิน แต่ต้องฝึกดูดทุกวันเพื่อให้ปอดขยายให้เต็มที่
5 ก.ค 62
ผลเอ็กซเรย์ปกติแล้ว หมอบอกกลับบ้านได้ แต่เดี๋ยวววว
สายระบายเลือดยังอยู่ อะหมอและพยาบาลมาจัดการถึงเตียง
เครื่องมือพร้อม มาถอดสดๆถึงเตียงเลยจ้า
ยาชาอะไรไม่มี ทั้งเจ็บทั้งเสียว แต่อยากกลับบ้านทำไรก็ทำเลยจ้าหมอ
รู้สึกถึงความค่อยๆสาวออกมา แล้วก็ตัดอะไรไม่รู้ปุ้บปั้บ โป๊ะนู้นนี้นั้นแล้วก็ติดแผลไว้
10วันกับการนอนติดเตียง เดินไปไหนไม่ได้ นี่คือการเดินครั้งแรกในรอบ10วัน แทบล้มเลยจ้ะ เดินเป็นสลอตเลยเพราะทุกอย่างต้องช้าๆไปหมด เดินประมาน5ก้าวก็เหนื่อย กลับบ้านมาก็ต้องฟื้นร่างกายตัวเองสักพัก หัดดูดไตรโฟนให้ปอดแข็งแรง
12 ก.ค 62
หมอนัดเอ็กซเรย์ติดตามหลังผ่าตัด และดูแผลผ่าตัด ทุกอย่างปกติดี ใจชื่นไปอีก ช่วงแรกๆทำอะไรอาจจะเหนื่อยง่ายหน่อย ต้องค่อยๆปรับสภาพร่างกายกันไป
ล่าสุด 9 ส.ค 62
หมอนัดเอ็กเซย์ติดตามดูอาการเหมือนเดิม
หมอบอกปอดเต็มดี เป็นปกติและดีขึ้นมากแล้ว ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ค่อยเหนื่อยง่าย แต่อาจลีกเลี่ยงการยกของหนักการออกกำลังกายรุนแรง เพราะมันส่งผลต่อปอด ตอนนี้ก็นัดอีกที3เดือน คอยติดตามดูต่อไปเรื่อยๆ
และสิ่งที่เรียนรู้จากการเจ็บป่วยที่หนักที่สุดในชีวิตในวัย23 การมองชีวิตที่เปลี่ยนไป เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ในทุกวัน
ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ คำนี้คือเรื่องจริง จิตใจที่เข้มแข็ง และกำลังใจดีๆจากคนรอบข้าง เป็นสิ่งที่ดีมากจริงๆในวันที่โลกใจร้ายกับเรา วันที่เราทุกข์ เราเจ็บจนเราไม่รู้จะผ่านมันไปได้ยังไง ขอบคุณครอบครัว ขอบคุณกัลยาณมิตรดีๆ รู้สึกโชคดีเหลือเกิน 10วันที่เห็นคนที่รักและเป็นห่วงเราเต็มไปหมด มาหากันด้วยรอยยิ้มและบอกให้เราสู้ๆ มันมีความหมายกับคนป่วยมากจริงๆ ทุกวันนี้นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็ยังอินทุกครั้ง ถึงมันจะดูเป็นเรื่องเลวร้ายในชีวิต แต่สิ่งที่มันดูเลวร้ายมันยังมีสิ่งดีๆซ้อนอยู่เสมอ : )
#บันทึกปอดรั่ว
แชร์ประสบการณ์ปอดรั่ว #ผ่าตัดปอดรั่ว #บันทึกวันที่ฉันป่วย
อยากแชร์และอยากบันทึกไว้เป็นเรื่องราวการเป็นปอดรั่วครั้งแรกในชีวิตเรา ครั้งแรกและครั้งเดียว ไม่อยากเป็นอีกแล้วววว
ปอดรั่วคืออะไรขอเล่าก่อน
Pneumothorax หรือภาวะปอดรั่ว คือภาวะที่มีอากาศเข้าไปแทรกอยู่ภายในช่องปอดจนเบียดเนื้อปอด เป็นเหตุให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่และทำงานได้ไม่ดี ส่งผลต่อการหายใจของผู้ป่วย เป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
Pneumothorax แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
ภาวะ Pneumothorax จากอุบัติเหตุ มีสาเหตุมาจากการได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจนทำให้ลมจากภายนอกเข้าสู่ช่องปอด ภาวะนี้ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมักทำให้มีอาการรุนแรงและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้
ภาวะ Pneumothorax จากสาเหตุอื่น อาจเกิดจากอาการเจ็บป่วยซึ่งส่งผลกระทบต่อปอดโดยตรง เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง การติดเชื้อ โรคมะเร็งปอด โรคทางพันธุกรรมบางชนิด หรือโรคหอบหืด บางครั้งอาจเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุหรือสัญญาณเตือนใด ๆ
(ซึ่งของเราเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ ไม่เคยสูบบุหรี่ คนในครอบครัวไม่สูบบุหรี่)
อาการของภาวะปอดรั่ว
ภาวะ Pneumothorax จะมีอาการแสดงให้เห็นทันที โดยอาจเกิดขึ้นหลังจากเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุก็ได้ และในบางกรณีภาวะนี้อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่น ๆ ที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ โดยอาการหลัก ๆ ของ Pneumothorax ที่พบได้ คือ หายใจไม่อิ่ม และมีอาการเจ็บแปลบบริเวณหน้าอกข้างที่มีความผิดปกติ โดยเฉพาะเวลาหายใจเข้า แต่บางรายอาจมีอาการน้อยมากจนผู้ป่วยไม่ได้สังเกต ทำให้ไม่รู้ว่าตนเองมีความผิดปกติจนกระทั่งผ่านไปหลายวันแล้ว
อะเข้าเรื่องตัวเองบ้าง
25 มิ.ย 62 ทำงานปกติมาทั้งวันจนถึงช่วงใกล้เลิกงาน ช่วงเกือบหกโมงเย็น หลังจากกินชาไข่มุกหมดแก้ว (ตอนนั้นคิดว่าเป็นเพราะชาไข่มุก) เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกเหมือนมันจุกๆ หายใจเข้าเจ็บช่วงบริเวณอกข้างขวา (ด้านที่รั่ว) แต่คือตอนนั้นมันไม่รู้ว่าเป็นอะไรจริงๆ คิดไปเองว่าหรือกินอิ่มเกินไปวะไรงี้ จนเริ่มทนไม่ไหวเลยรีบออกไปหาหมอเพราะมันหายใจไม่ค่อยออก
ถึง ร.พ ตรวจความดัน อะไรคือมันปกติหมด หมอก็ฟังเสียงการหายใจเรา ก็บอกดูไม่ได้มีอะไร ยังบอกอีกไม่น่าเป็นอะไรร้ายแรง วินิจฉัยว่าเป็นกรดไหลย้อนจ้าาา แถมยังฉีดยาลดกรดให้ไปอีก รับยากลับบ้านตามปกติ
แต่ตอนนั้นก็รู้สึกว่ามันเหนื่อยๆหายใจไม่สุด แต่ไม่คิดอะไรเพราะเชื่อหมอว่ากรดไหลย้อน
แต่ความโชคดีคือ สิทธิประกันสังคม มีตรวจสุขภาพฟรี พยาบาลก็ถามว่าตรวจเลือด เอ็กซเรย์ไปเลยไหม เราก็เลยอะไหนๆก็มาละทำๆไปให้หมด แล้วก็ให้โทรฟังผลวันที่ 28 มิ.ย
26 มิ.ย.62 ตื่นมาทำงานปกติ แต่ก็ยังรู้สึกหายใจไม่สุดเหมือนเดิม แต่ก็กินยาลดกรดที่หมอให้ (ก็ยังคิดว่าเป็นกรดไหลย้อนจ้าา)
นั่งทำงานสักพัก โทรศัพท์มีสายเข้า คุณ...เมื่อวานได้มาตรวจสุขภาพ
กับรพ....ใช่ไหมค่ะ พอดีผลเอ็กซเรย์ผิดปกติให้มาพบคุณหมอตอนนี้เลยนะคะ (โทรมาบอกผลก่อนเลยจ้าเพราะผิดปกติ)
ตอนนั้นคิดไปร้อยแปดพันเก้า ไม่เคยตรวจอะไรแล้วผิดปกติอะไรสักอย่างตั้งแต่เกิดมา นั่งรถไปรพ.ด้วยความงงๆและร้องไห้ไปด้วย เพราะคิดไปเรื่อยตอนนั้น55555
เข้าห้องตรวจ หมอนั่งดูฟิล์มที่เอ็กซเรย์ไว้เมื่อวาน ก็บอกเราว่าปอดรั่วนะ สตั้นไปแปบนึง ยังถามหมออีกปอดอยู่ตรงไหนหรอค่ะ แล้วทำไมถึงรั่ว รั่วได้ไง แล้วต้องทำยังไง อันตรายไหม ร้ายแรงรึป่าว ถามไปรัวๆ
หมอก็ให้เอ็กซเรย์ย้ำอีกรอบ ดูว่ารอยรั่วเพิ่มไหม
สรุปไม่เพิ่มไม่ลด เลยส่งแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมทรวงอก
คุยกับหมอเฉพาะทาง สรุปต้องแอดมิดและเจาะใส่ท่อระบายลมการใส่สายระบายทรวงอก(chest tube insertion, tube thoracostomy หรือ intercostal drainage; ICD) คือการใส่สายเข้า
ไปยังช่องเยื้อหุ้มปอด เพื่อระบายลม น้ำ หนอง หรือเลือด รักษาพยาธิสภาพของช่องเยื้อหุ้มปอด ถือเป็นหัตถการ
พื้นฐานที่สำคัญ และจำเป็นสำหรับแพทยเ์วชปฏิบัติเนื่องจากสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพในช่องเยื่อหุ้มปอดได้เพื่อเอาอากาศออก
ทุกอย่างเร็วมากทำเรื่องแอดมิดเจาะสายให้น้ำเกลือ เตรียมเข้าห้องผ่าตัด4โมงเย็นวันนั้นเลย
ถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัด ครั้งแรกในชีวิตพึ่งเคยนอนรพ.และยังเข้าห้องผ่าตัดอีก ไม่รู้จะอธิบายยังไงเลย
พยาบาลดูวุ่นวายกันเตรียมอุปกรณ์ก่อนหมอจะมา
เรานอนอยู่บนเตียงผ่าตัดด้วยความทั้งกลัว และตื่นเต้น ถามพยาบาลในห้องทุกคนที่เดินเข้าออก ว่ามันเจ็บไหม มันจะเป็นยังไง มีคนเคยเป็นแบบนี้ไหม บลาๆ55555
พยาบาลต่อสายออกซิเจนเข้าจมูก เตรียมความพร้อมก่อนหมอมา หมอมาล้าวววววว
ก่อนจะทำอะไรหมอจะบอกทุกขั้นตอนว่ากำลังจะทำแบบนี้ๆนะ
ฉีดยาชาก็บอกว่าจะแทงตรงนี้นะ
แล้วก็ทำการฉีดยาชาเข้าที่ชายโครงด้านขวา (ปอดข้างที่รั่ว) ประมาณ3เข็ม นาทีที่แทงเข้าไปเข็มแรกเจ็บจนน้ำตาไหล แล้วเขาก็ลองจิ้มว่ารู้สึกไหม พอบอกไม่รู้สึกเท่านั้นแหละ แทงอะไรเข้าไปไม่รู้พร้อมมีสายค่อยๆลำเลียงเข้าไปจนถึงหน้าอกเรา
หมอก็ถามว่ารู้สึกแน่นไปไหมหายใจสะดวกไหม เลยบอกแน่นไป เขาก็ค่อยๆถอยสายออกมาให้รู้สึกดีขึ้น แล้วก็ทำการแปะแผลให้เรียบร้อย แต่สายก็จะคาไว้ที่ตัวเราแบบนั้น พร้อมต่อใส่ขวดไว้เป็นขวดแก้วที่มีน้ำอยู่ เพื่อระบายลมรั่วออกจากปอด
ออกจากห้องผ่าตัดมานอนพักฟื้น ตอนนี้ร่างกายเราก็จะมีสายที่คาไว้เพื่อระบายลมรั่วพร้อมกับขวด แล้วก็ต้องดูอาการวันต่อวัน คืนแรกหมดฤทธิ์ยาชา ปวดจนนอนไม่ได้เพราะท่อคาอกเราอยู่แบบนั้น จนต้องขอยาแก้ปวด พยาบาลก็มาฉีดให้ ยาแรงมากจากแอร์หนาวๆ ร้อนจนเหงื่อแตกเริ่มชาๆและค่อยๆหายปวดถึงหลับได้ในคืนแรก
หมอก็จะมาตรวจเราช่วงเช้าของวัน มาสังเกตุขวด และให้เราลองไอเพื่อที่จะสังเกตุดูลมจากขวด
หมอก็จะดูอาการและเอ็กซเรย์เกือบทุกวันเพื่อดูปอดเรา
ว่ารอยรั่วลดลงไหม สามารถถอดท่อได้หรือยัง เพราะบางเคสแค่ใส่ท่อระบายลมรั่วก็อาจหายได้ ถอดสายก็กลับบ้านได้
แต่เราผ่านไป 3 วันก็ยังรั่วต่อเนื่อง จนต้องต่อขวด เป็น2ขวดจากขวดเดียว และใช้เครื่องช่วยเพื่อระบายลมออกให้เร็วขึ้น
จากปกติก็ทรมานจะตายอยู่แล้ว เพิ่มเป็น2ขวด แถมมีเครื่องช่วยอีก มันจะเจ็บจี๊ดๆเหมือนอะไรแทงปอดเราตลอดเวลา นอนร้องไห้ทุกคืนเพราะมันทรมานจริงๆ
หลังจากนั้นก็เอ็กซเรย์เกือบทุกวันเหมือนเดิม นอนดูอาการ และรอฟังผลเอ็กซเรย์แต่ละครั้งก็ขอให้มันดีขึ้น เพราะกลัวการผ่าตัดอีกครั้งมาก
1 ก.ค 62
นอนมา6วัน ผลเอ็กซเรย์ออกมาสุดท้ายมันก็ไม่ดีขึ้น และหมอก็มาคุยบอกต้องผ่าตัดเพราะลมรั่วต่อเนื่องมีถุงลมโปร่งพองที่ยอดปอดขวา ต้องผ่าตัดถุงลมออกและเย็บรอยรั่ว คือกลัวการผ่าตัดมากแล้วนี้คือผ่าตัดใหญ่ ในชีวิตแต่มีดบาดก็จะเป็นลมแล้ว
หมอก็มาคุยด้วยอธิบายเรา เอารูปมาให้ดูว่าจะผ่าตรงนี้ออกมา ก็คือถุงลมที่มันพองนั้นแหละ ผ่าแล้วจะหายไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าไม่ผ่าก็จะให้เซนต์ปฎิเสธการรักษา เพราะนี้คือวิธีสุดท้ายที่ต้องทำแล้ว ตัดสินใจผ่าเพราะอยากหายและเชื่อว่าตัวเองต้องหายและผ่านมันไปได้ ได้คิวผ่าวันที่ 3 ก.ค 62 ช่วง 8.30 มีเวลานอนทำใจอยู่อีกคืน
2 ก.ค 62
พยาบาลก็เจาะเลือดไปดูว่าร่างกายเราพร้อมที่จะผ่าตัดไหม
และก็เจาะไปอีก3หลอด เพื่อที่จะเอาเลือดไปปั่นเผื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินที่เราเสียเลือดเยอะ คือทุกอย่างต้องเตรียมพร้อม
แล้วก็จะมีคุณหมอดมยา หรือวิสัญญีแพทย์มาตรวจร่างกายเรา และอธิบายถึงการดมยาสลบ (ซึ่งผ่าตัดครั้งนี้ต้องดมยาสลบ)
ซึ่งช่วยให้เราหายกังวลได้เยอะ เพราะกลัวการดมยาตอนนั้นกลัวว่าตัวเองจะไม่ตื่น คือคิดมาก คิดไปเรื่อย แต่เขาก็บอกว่าเราจะรู้สึกตัวทันทีหลังผ่าตัดเสร็จ และต้องนอนดูอาการที่ ICU 24ชม.
ถ้าประเมินแล้วไม่มีอันตรายหรืออาการแทรกซ้อน ก็ออกมานอนห้องพักฟื้นได้ปกติ วันนี้งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืนเพื่อเตรีมผ่าตัดพรุ่งนี้
3 ก.ค 62
วันผ่าตัด ประมาน8โมงเช้า ก็มีพยาบาลเข็นรถมารับไปห้องผ่าตัด ต้องไปก่อนเผื่อเซททุกอย่างรอหมอ ช่วงเวลาที่ถูกเข็นไป
คือความรู้สึกตื่นเต้น กลัว คือทุกอย่างเร็วไปหมด คือชีวิตต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้ใช่ไหม
สุดท้ายก็ทำใจยอมรับ พยาบาลเข็นเราเข้าห้องผ่าตัด บรรยากาศยังเหมือนครั้งแรก แต่ความรู้สึกไม่เหมือนเลย เพราะครั้งนี้เราต้องหลับ และมันคือผ่าตัดใหญ่ ถึงเวลาทีมแพทย์วิสัญญีเข้ามาเตรียม ถามชื่อถามประวัติถามการแพ้ยา และเตรียมอุปกรณ์ดมยาที่จะใช้ในการผ่าตัดครั้งนี้
พยาบาลจับเรานอนกางแขน รัดแขนและขาเอาไว้ นี้สินะที่เขาเรียกขึ้นเขียง ในห้องผ่าตัดก็ยังดูวุ่นวายคงคอนเซปเดิม
ภาพสุดท้ายที่เห็นคือ มีออกซิเจนให้เราสูด
บอกค่อยๆสูด จำได้ว่าสูดไปแค่2ทีนิดๆ วาร์ปเลยจ๊ะพี่จ๋า เราจำได้ว่าเราสะดุ้งทีนึงคือตอนนั้นน่าจะผ่าเสร็จแล้ว แล้วทุกคนทำอะไรไม่รู้เร็วมาก
แล้วมารู้ตัวอีกทีคือเข็นเราไปไว้ห้องICUเพื่อดูอาการ ตื่นมาก็ยังเบลอๆกับฤทธิ์ยาสลบ และรู้สึกเจ็บคอ (เป็นปกติของผลข้างเคียงการดมยา) รู้สึกร่างกายชาๆงงๆ
หมอมาดูอาการ คือเราไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร ทุกอย่างปกติ
เลยนอนอยู่ประมาน5ชม. ก็ได้มาพักห้องพักฟื้น ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ร่างกายก็ยังมีสายต่อที่บริเวณราวนมเพื่อที่ระบายเลือด
หลังการผ่าตัดปอด
จะมีนักกายภาพ มาสอนวิธีการหายใจเพราะแรกๆคือมันเจ็บข้างในมาก และมีไตรโฟนที่เป็นคล้ายๆลูกปิงปองให้เราดูดให้ขึ้น การขึ้นของลูกปิงปองก็บ่งบอกความแข็งแรงของปอด ซึ่งช่วงแรกลูกแรกก็ไม่ขยับละจ้าาา ดูดไม่ไหวเพราะเจ็บเหลือเกิน แต่ต้องฝึกดูดทุกวันเพื่อให้ปอดขยายให้เต็มที่
5 ก.ค 62
ผลเอ็กซเรย์ปกติแล้ว หมอบอกกลับบ้านได้ แต่เดี๋ยวววว
สายระบายเลือดยังอยู่ อะหมอและพยาบาลมาจัดการถึงเตียง
เครื่องมือพร้อม มาถอดสดๆถึงเตียงเลยจ้า
ยาชาอะไรไม่มี ทั้งเจ็บทั้งเสียว แต่อยากกลับบ้านทำไรก็ทำเลยจ้าหมอ
รู้สึกถึงความค่อยๆสาวออกมา แล้วก็ตัดอะไรไม่รู้ปุ้บปั้บ โป๊ะนู้นนี้นั้นแล้วก็ติดแผลไว้
10วันกับการนอนติดเตียง เดินไปไหนไม่ได้ นี่คือการเดินครั้งแรกในรอบ10วัน แทบล้มเลยจ้ะ เดินเป็นสลอตเลยเพราะทุกอย่างต้องช้าๆไปหมด เดินประมาน5ก้าวก็เหนื่อย กลับบ้านมาก็ต้องฟื้นร่างกายตัวเองสักพัก หัดดูดไตรโฟนให้ปอดแข็งแรง
12 ก.ค 62
หมอนัดเอ็กซเรย์ติดตามหลังผ่าตัด และดูแผลผ่าตัด ทุกอย่างปกติดี ใจชื่นไปอีก ช่วงแรกๆทำอะไรอาจจะเหนื่อยง่ายหน่อย ต้องค่อยๆปรับสภาพร่างกายกันไป
ล่าสุด 9 ส.ค 62
หมอนัดเอ็กเซย์ติดตามดูอาการเหมือนเดิม
หมอบอกปอดเต็มดี เป็นปกติและดีขึ้นมากแล้ว ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ค่อยเหนื่อยง่าย แต่อาจลีกเลี่ยงการยกของหนักการออกกำลังกายรุนแรง เพราะมันส่งผลต่อปอด ตอนนี้ก็นัดอีกที3เดือน คอยติดตามดูต่อไปเรื่อยๆ
และสิ่งที่เรียนรู้จากการเจ็บป่วยที่หนักที่สุดในชีวิตในวัย23 การมองชีวิตที่เปลี่ยนไป เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ในทุกวัน
ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ คำนี้คือเรื่องจริง จิตใจที่เข้มแข็ง และกำลังใจดีๆจากคนรอบข้าง เป็นสิ่งที่ดีมากจริงๆในวันที่โลกใจร้ายกับเรา วันที่เราทุกข์ เราเจ็บจนเราไม่รู้จะผ่านมันไปได้ยังไง ขอบคุณครอบครัว ขอบคุณกัลยาณมิตรดีๆ รู้สึกโชคดีเหลือเกิน 10วันที่เห็นคนที่รักและเป็นห่วงเราเต็มไปหมด มาหากันด้วยรอยยิ้มและบอกให้เราสู้ๆ มันมีความหมายกับคนป่วยมากจริงๆ ทุกวันนี้นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็ยังอินทุกครั้ง ถึงมันจะดูเป็นเรื่องเลวร้ายในชีวิต แต่สิ่งที่มันดูเลวร้ายมันยังมีสิ่งดีๆซ้อนอยู่เสมอ : )
#บันทึกปอดรั่ว