คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ต้องการหย่ากับสามี เเต่สามีไม่ยอมเซ็นใบหย่าคะ Ep 2
ในระหว่างที่เราอยู่ไทย เค้าก็โทหาทุกคืน เเต่ช่วงกลางวันเราอยู่บ้านย่า สามีของเราเล่นเกมเเละไม่เคยนอนในห้องกับเราอีก เราบอกกับเค้าว่า เราต่างคนต่างอยู่เพื่อกันตัวเองเเละเลือกชัดเจนเเล้วว่า จะไม่เอาเเล้ว เเต่เราอยู่เพื่อลูก อดทนเเละทยอยขนของของเรากลับมาบ้านเเละกลับมานอนบ้านบ้าง บางคืน ในช่วงนั้น เราค่อยๆออกมาจากบ้านย่า ทีละหน่อยคะเพื่อเเสดงเจตนาชัดเจนว่าเราจะไม่เอาเค้าเเล้ว เเละจนในที่สุดเรา ก้ตัดสินใจอยู่บ้านเราเเละให้ลูกอยู่ในความดูเเลของย่าเพราะ ย่าไม่ให้พามาอยู่บ้านเราด้วย เค้าก็รักหลานค่ะ เลยให้ลูกนอนกับย่า บางคืนอยากนอนด้วยก้ จะขออนุญาติพามานอนที่บ้าน ได้มากสุด 2 คืนคะ บวกกับเรียน เสาร์ เเละอาทิตย์ วันธรรมดาก้จะช่วยย่าดูเเลลูก จนความสัมพันธ์กับอีกคนก้พัฒนามาเรื่อยๆไปหาเค้าบ้างเเละเค้ามาหาเรา ทั้งที่บ้านของเราเเละที่ กทม ไปเที่ยว ไปรีเเลคตัวเอง ส่วนอีกคนเราเเสดงจุดยืนว่าเราไม่เอาเราขอหย่า เเต่เค้าไม่ยอมเซ็นใบหย่าคะ จนปัจจุบันผ่านมา 1 ปีเเล้วเค้าก้ไม่ยอมเซ็นให้เราคะ หลอกเราว่าจะเซ็นให้เราเตรียมเอกสาร ไปก้เสียเวลาไปเฉยๆ เราไม่ได้บอกคะว่าเรามีใครเพราะเรากลัวจะเป็นหลักฐานให้เค้าฟ้องหย่าได้คะ (ต้องบอกก่อนเลยว่าเราต้องการหย่าไม่ใช่เพราะคนที่เข้ามาเเต่เป็นเพราะเรา รับไม่ได้กับเหตุการณ์นั้นที่เกิดขึ้น ซึ่งเรากับพ่อของลูกเราเเยกกันอยู่เเละต่างคนต่างอยู่มานานเเละเราไม่ได้รักเค้าตั้งเเต่ที่เราไปทำงานที่อุบลเเล้วคะเเต่เพียง ลังเลเเละทดสอบตัวเอง ว่าทำเพื่อลูกได้นานเเค่ไหน เเต่เราพบว่าตัวเองไม่มีความรู้สึกอะไรกับพ่อของลูกอีกเลยคะเเม้เเต่เสี้ยวนิดหนึ่งของความรักก็ไม่มี เหลือเพียงความเคยชินที่ยังคุยกันเหมือนเพื่อนคะ ) เราไม่เคยเปิดเผยอีกคน กับสาธารณะชน เเต่เราพาไปบ้านคะเจอพ่อเเม่เพราะว่าเรามั่นใจว่าเราจะเลือกคนนี้ เราจดทะเบียนสมรสครั้งนั้นไปเพราะเราคิดสั้นๆเพียงอย่างเดียวว่ามันคือสิ่งที่ยึดเค้าไว้กับเรา เเละเค้าคือคนสุดท้ายของเราจริงๆเเต่มันกลับไม่ใช่ เรากับมีอีกคนที่เข้ามาเเละช่วยเราให้หลายๆเรื่องเเละทราบ่าเรามีลูกเเล้วเเต่เค้าไม่ทราบว่าเรายังไม่หย่า คะเค้าโอเคมากตอลดเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา เราอยากบอกกับเค้าคะเเต่เรากลัวเหลือเกินที่จะพูดออกไปว่าเรายังไม่หย่า เพราะตัวพ่อของลูกเค้าไม่เซ็นให้คะ เครียดคะ จะทำยังไงดีคะให้พ่อของลูกหย่าได้เเละบอกกับเค้าอย่างไรว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเค้า เพียงเเต่เราบอกไปเช่นนั้นเพราะเรา ไม่คิดว่าจะพากันจริงจัง มาถึงขั้นจะเเต่งงานกันคะ เราตัดสินใจว่าเรียนจบจะจดทะเบียนไปอยู่ที่ สิงค์โปร์ เเต่เรายังไม่หย่าเราจะได้งานการอะไรดีไม่ได้เลยหากเรายังไม่หย่า ต้องติดเเงกเพราะความผิดพลาดคิดตื้นๆของเราเอง ฟ้องหย่าก้ไม่ได้คะ เราเป็นคนเดินออกมาเอง โดยที่เค้าไม่ได้ยินยอม เราอยากได้งานดีเกมเงินเยอะๆเพื่อลูกเราจะได้สบายคะ
ในระหว่างที่เราอยู่ไทย เค้าก็โทหาทุกคืน เเต่ช่วงกลางวันเราอยู่บ้านย่า สามีของเราเล่นเกมเเละไม่เคยนอนในห้องกับเราอีก เราบอกกับเค้าว่า เราต่างคนต่างอยู่เพื่อกันตัวเองเเละเลือกชัดเจนเเล้วว่า จะไม่เอาเเล้ว เเต่เราอยู่เพื่อลูก อดทนเเละทยอยขนของของเรากลับมาบ้านเเละกลับมานอนบ้านบ้าง บางคืน ในช่วงนั้น เราค่อยๆออกมาจากบ้านย่า ทีละหน่อยคะเพื่อเเสดงเจตนาชัดเจนว่าเราจะไม่เอาเค้าเเล้ว เเละจนในที่สุดเรา ก้ตัดสินใจอยู่บ้านเราเเละให้ลูกอยู่ในความดูเเลของย่าเพราะ ย่าไม่ให้พามาอยู่บ้านเราด้วย เค้าก็รักหลานค่ะ เลยให้ลูกนอนกับย่า บางคืนอยากนอนด้วยก้ จะขออนุญาติพามานอนที่บ้าน ได้มากสุด 2 คืนคะ บวกกับเรียน เสาร์ เเละอาทิตย์ วันธรรมดาก้จะช่วยย่าดูเเลลูก จนความสัมพันธ์กับอีกคนก้พัฒนามาเรื่อยๆไปหาเค้าบ้างเเละเค้ามาหาเรา ทั้งที่บ้านของเราเเละที่ กทม ไปเที่ยว ไปรีเเลคตัวเอง ส่วนอีกคนเราเเสดงจุดยืนว่าเราไม่เอาเราขอหย่า เเต่เค้าไม่ยอมเซ็นใบหย่าคะ จนปัจจุบันผ่านมา 1 ปีเเล้วเค้าก้ไม่ยอมเซ็นให้เราคะ หลอกเราว่าจะเซ็นให้เราเตรียมเอกสาร ไปก้เสียเวลาไปเฉยๆ เราไม่ได้บอกคะว่าเรามีใครเพราะเรากลัวจะเป็นหลักฐานให้เค้าฟ้องหย่าได้คะ (ต้องบอกก่อนเลยว่าเราต้องการหย่าไม่ใช่เพราะคนที่เข้ามาเเต่เป็นเพราะเรา รับไม่ได้กับเหตุการณ์นั้นที่เกิดขึ้น ซึ่งเรากับพ่อของลูกเราเเยกกันอยู่เเละต่างคนต่างอยู่มานานเเละเราไม่ได้รักเค้าตั้งเเต่ที่เราไปทำงานที่อุบลเเล้วคะเเต่เพียง ลังเลเเละทดสอบตัวเอง ว่าทำเพื่อลูกได้นานเเค่ไหน เเต่เราพบว่าตัวเองไม่มีความรู้สึกอะไรกับพ่อของลูกอีกเลยคะเเม้เเต่เสี้ยวนิดหนึ่งของความรักก็ไม่มี เหลือเพียงความเคยชินที่ยังคุยกันเหมือนเพื่อนคะ ) เราไม่เคยเปิดเผยอีกคน กับสาธารณะชน เเต่เราพาไปบ้านคะเจอพ่อเเม่เพราะว่าเรามั่นใจว่าเราจะเลือกคนนี้ เราจดทะเบียนสมรสครั้งนั้นไปเพราะเราคิดสั้นๆเพียงอย่างเดียวว่ามันคือสิ่งที่ยึดเค้าไว้กับเรา เเละเค้าคือคนสุดท้ายของเราจริงๆเเต่มันกลับไม่ใช่ เรากับมีอีกคนที่เข้ามาเเละช่วยเราให้หลายๆเรื่องเเละทราบ่าเรามีลูกเเล้วเเต่เค้าไม่ทราบว่าเรายังไม่หย่า คะเค้าโอเคมากตอลดเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา เราอยากบอกกับเค้าคะเเต่เรากลัวเหลือเกินที่จะพูดออกไปว่าเรายังไม่หย่า เพราะตัวพ่อของลูกเค้าไม่เซ็นให้คะ เครียดคะ จะทำยังไงดีคะให้พ่อของลูกหย่าได้เเละบอกกับเค้าอย่างไรว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเค้า เพียงเเต่เราบอกไปเช่นนั้นเพราะเรา ไม่คิดว่าจะพากันจริงจัง มาถึงขั้นจะเเต่งงานกันคะ เราตัดสินใจว่าเรียนจบจะจดทะเบียนไปอยู่ที่ สิงค์โปร์ เเต่เรายังไม่หย่าเราจะได้งานการอะไรดีไม่ได้เลยหากเรายังไม่หย่า ต้องติดเเงกเพราะความผิดพลาดคิดตื้นๆของเราเอง ฟ้องหย่าก้ไม่ได้คะ เราเป็นคนเดินออกมาเอง โดยที่เค้าไม่ได้ยินยอม เราอยากได้งานดีเกมเงินเยอะๆเพื่อลูกเราจะได้สบายคะ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
รักสามเส้า
ปัญหาครอบครัว
ประสบการณ์ชีวิตคู่
หย่าร้าง
ประสบการณ์ความรัก
ต้องการหย่ากับสามี เเต่สามีไม่ยอมเซ็นใบหย่าคะ EP1
จนกระทั้ง เราถึงบ้านคะเค้ามีเวลาเเค่หนึ่งวัน ในการอยู่บ้านเพราะลางานไว้เเค่ 1 วัน เค้าส่งเราที่บ้านของเราเสร็จเค้าก้หายไป อยู่ที่บ้านของเค้าโดยที่ไม่ได้มีการดูเเลอะไรเลย เเม้เเต่เค้ากลับไปทำงานที่ สปก. ก็ไม่มีเเม้ข้อความสักข้อความบอกว่ากลับช่วงเวลาไหน เค้าถึง สกป. ก็หายไปเลยคะไม่ได้ติดต่อเราเราก็ยุ่งกับงานศพของคุณตาคะ จนกระทั้งก่อนวันเผาช่วงเย็นเค้าโทหาเราโดย**ก่อนหน้านี้เราโทรตามเค้าตลอดทุกวันเเต่ไม่ได้มีการตอบกลับเเต่อย่างใด
ในวันนั้นเค้าพูดให้เราตัดใจเรื่องเค้า เค้าบอกกับเราว่าอยากอยู่คนเดียว อยากเที่ยวอยากอยู่เงียบๆไม่มีใคร โดยทั้งๆที่ลูกของเค้ากับเรากำลังจะออกมาดูโลก เค้าบอกให้เราตัดใจ เราคือความรักเด็กๆที่เค้ามีเเละเคยรักมาก ที่เค้าพูดเช่นนี้ออกมาเพราะอยากเคลียตัวเองเพื่อจะได้มีชีวิตนำพาตัวเค้าเองไปอยู่กับผู้หญิงที่เค้าเพิ่งจะได้รู้จักกัน (เค้าใช้ชีวิตด้วยกันตั้งเเต่เรากลับบ้านไปคลอดโดยที่เราอยู่ที่ต่างจังหวัด) เราเสียใจมากจนอยากจะตายในคำพูดนั้นเราคุยเเละได้บอกเเม่ของเขาไปในคำพูดที่เค้าพูดกับเราออกมา เเละเเม่เค้าปลอบใจเราว่า ไม่มีอะไรหรอก เพื่อให้เราสบายใจไม่เครียดกับเรื่องนี้ เราก้บอกเลยเสียใจมากคะทั้งที่เค้าบอกว่าเค้ารักเรา เเล้วเค้าหายไปจนกระทั้งหลังจากเผาศพคุณตาไป 7 วัน เรามีน้ำคร่ำไหลออกทางช่องคลอด เราตกใจรีบบอกเเม่ของเราเเละเเม่ของเขา ในทันทีไม่กิน 30 นาที ทางปู่เเละย่าก็มาถึงบ้านของเราคะเเละได้นำพาเราไปที่โรงพยาบาลประจำตัวอำเภอ ในเวลานั้นเราทักเเชทติดต่อเค้าไปในทุกๆทางที่สามารถทำได้ว่า เรากำลังจะคลอดนะ ลูกกำลังจะออกมาดูโลก โดยที่มีความหวังว่าเค้าจะเห็นเเก่ลูก ของเราเเต่เค้าเงียบไป จนถึงโรงพยาบาลเเละได้ทำงานตรวจเช็คประวัติเบื้องต้น ในระหว่างนั้นคุณปู่กับคุณย่าก็คอยเราอยู่ข้างๆก่อนเข้าห้องคลอดด้วยวามดีอกดีใจมากๆเลยก็ว่าได้ ท่านรอเราตั้งเเต่ ตี 2 ที่พาเราไป รพ. จนกระทั้งเราคลอด เวลา 12.45 ของอีกวันโดยการให้ยาเร่งคลอดทางน้ำเกลือเเละกินยา ท่านทั้งสองรออย่างใจจดใจจ่อจนได้พบหลาน ในห้องรอคลอดจะมีเพียงคุณพ่อเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ซึ่งเราไม่มีเเละเตียงข้างๆเค้ามีคนคอยช่วยเราทรมานอยู่ในนั้นเพียงคนเดียวบวกกับคิดถึงพ่อของลูกว่าเมื่อไรเค้าจะตอบกลับมา คิดในเชิงบวกว่าเค้าคงรู้เเล้วเเละรีบมาหาเราทันทีเเน่ๆ ให้กำลังใจตัวเองว่า คลอดเสร็จเค้าคงจะถึงที่โรงพยาบาลเเล้ว เเต่มันไม่ใช่ เราคลอดเสร๊จพยาบาลพาเราไปห้องพักเเละฝึกให้เราอุ้มเเละให้นมลูก หลังคลอด 20 นาที จากนั้นญาติทางฝ่ายบ้านของเราก้เข้ามาให้กำลังใจพร้อมเเม่ของเราก็มาเช่นกัน ฉันยิ้มเเละดีใจมาก ที่ลูกออกมาครบสมบูรณ์ทุกประการ เเละทุกคนก็ยิ้มเเละยินดีเช่นกัน เราถามเเม่ย่าว่า สามีเรามาถึงเเล้วใช่ไหม เค้าตอบเราว่าเดี่ยวก็มายังคงหาเวลาลางานกลับมาหาเรากับลูกอยู่ ย่าเลือกห้องพักดูอาการหลังคลอดของเรา เป็นห้องพิเศษเพื่อเราจะได้รับเเขกได้สะดวก เเละดูเเละลูกได้โดยที่ไม่มีเสียงเด็กคนอื่นร้องรบกวน ย่าช่วยดูเเลเราในระหว่างคลอดสลับกับเเม่เเละเป็นเเบบนั้นตลอด เกือบ 5 วัน ก็ยังคงไม่เจอหน้าพ่อของลูก โทรไปส่งข้อความเฟสไปก็เงียบหาย เราเลยทักเฟสไปถามพี่ที่เรารู้จักเเละทำงานที่เดียวกันกับสามี เค้าพูกกับเราว่าให้เราทำใจสามีเราไปไกลเเล้ว ให้กำลังใจเราว่าให้สู้เพื่อลูก เเล้วบอกเราว่าเค้าลาไปดูลูกเเล้วเเต่เพียงว่าเค้าไม่มาหาลูกเค้าไปอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงคนนั้น จนออกจากโรงพยาบาลเราก็ตัดสินใจไปอาศัยอยู่ที่บ้านย่า เเละอยู่ไฟตามความเชื่อโบราณ โดยมีผู้ใหญ่ฝั่งย่าช่วยดูเเล หายาหาข้าวช่วยดูลูกให้ ซึ่งเราหาไม่ได้จากไหนเเต่ได้จากย่า ระหว่างนั้นเราก้พยายาม ทักเเชทไปเค้าก้ตอบกลับมาเฉพาะช่วงที่เค้า ค่าใช้จ่ายไม่พอใช้ก็ขอเราก้ให้ ตามประสาคนเป็นภรรยา กลัวสามีอดตาย จนกระทั้งลูกของเราได้อายุครบ 15 วัน เค้ากลับมาคะมาดูลูก โดยมีเวลา 1 คืนเท่านั้นเค้าก็ช่วยเเค่ บางเวลานอกนั้นเค้าใช้เวลาอยู่กับ โทรศัพท์เเละเกม หมกตัวเองอยู่ในห้องไม่ได้ใส่ใจ ถึงเวลาจะกลับก็รีบจองตั๋วกลับโดยที่ไม่ได้ร่ำลาเราเเต่อย่างใด เเละหลังจากนั้น 2 วัน เราก็มีความรู้สึกว่าทำไมเฟสบุ๊คเค้าไม่อัพเดทเราค้นไปค้นมาเจออีกเฟสที่เค้า ปิดบังเเละเปิดเผยตัวเค้าเองกับผู้หญิงอีกคน โดยที่เราไม่รู้เค้าลงรูปคู่กันทำทุกอย่างเเทนเราอยู่ด้วยกันบอกรักกัน เราก็เเคบไว้ เเละได้บอกกับทางย่าเราไม่ไหวนะ เราขอเอาลูกไปอยู่บ้านก็ปลอบใจเราอีกรอบว่าจะจัดการเค้าให้ เช้าของอีกวันเราตัดสินใจกลับโดยให้ทางย่ามาส่งลูกกับเราที่บ้าน เเละย่าได้บอกว่าจะให้เค้ามาขอขมา เราหลังจากที่เค้ากลับมาบวช ในไม่ช้านี้ เราด้วยความที่รักเค้ามากเลยยอมอยู่คนเดียวเเละรอเค้ากลับมา ใกล้ถึงวันที่เค้าจะกลับมา ย่าเป็นคนไปตามตัวเค้าเเละเก็บของในห้องเช่าของเรากับเค้ามาเพื่อตัดปัญหาไม่ให้เค้าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีกเเละนำเค้ากลับมาบวช ก่อนบวชเค้ามาขอขมาเรา เเละเเม่ เเละพาเรากลับไปอยู่บ้าน ในวันบวชย่าอาสามารับเราอยู่บ้านกับลูกเเละเเม่ไปงานบวชที่เค้าบวชทดเเทนคุณพ่อเเม่ ที่บ้านของย่าเค้า บวชให้ปู่ของเค้าเเละพ่อของเค้า คะ เค้าบวช15 วันโดยบางวันที่เราว่างจากการดูลูกเราก็ทำทำเพลไปถวายคะ บวชเสร๊จครบ 15 วันในวันที่เค้าสึกลาสิขา นั้นเค้าก้ต้องมาเเต่งงานกับเราคะโดยบ้านเรา ทำเพียงพิธีเซ่นไหว้ผี บรรพบุรุษเเละเราไปเเต่งที่บ้านของเค้าเข้าพิธีสู่ขวัญผูกเเขน จบวันงานเเต่งคะ เราก้ไปเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนๆ คือต่างคนต่างไปลูก เราฝากย่าไว้คะ ก็อยู่กินกันปกติได้ 1 อาทิตย์ เราก็บอกเค้าว่าเราไปจดทะเบียนสมรสกันไหม เค้าบอกได้เพื่อเเสดงความบริสุทธิ์ใจ เราสองคนจดทะเบียนกันเสร็จเเล้วอยู่กินกันสักพักเราก้ได้งานที่จังหวัดใกล้ๆ คะเราก้เดินทางไปทำงานที่นั่นโดยอาศัยอยู่ที่นั่น ระหว่างที่อยู่ต่างจังหวัดหรือตั้งเเต่ เค้ากลับลงมาอยู่ที่บ้านเค้าชัดเจนว่าไม่มีใคร เเต่เค้าไม่ค่อยใส่ใจเรา มัวเเต่เล่นเกมหามรุ่งหามค่ำ งานไม่ทำเล่นเเต่เกมอะไรไม่ทำไม่หา ขอเเต่เงินแม่บางที่เราเกรงใจย่าก้ปฏิเสธไม่ได้เพราะไม่มีรายได้ ทำงานที่นั่นได้ 1 เดือน เราก้ตัดสินใจไปทำงานที่สิงค์โปร์โดยการแอบทุกคนไป ไม่บอกใครไปทำงานโมเดลคะ หรือพี่อาร์เด็กนั่งดริ้ง นั่นเอง ทำอยู่ประมาน 26 วันคะ (ก่อนอื่นต้องบอกเลยคะเรามารู้ตัวเองว่าเราไม่สามารถ ไปมีเซกกับเค้าเเลัอยู่กับเค้าได้เพราะเรื่องความหลังที่ฝังใจเราทำใจในช่วงที่ทำงานต่างจังหวัดคะ จนไม่ได้รู้สึกรักเเต่พยายามอยู่เพื่อลูก เพื่อคำว่าครอบครัวเเละเพื่อที่ตัวเองจะได้มีเวลทบทวนว่า จะตัดสินใจเช่นไหนคะ) ในระหว่างที่เราจะบินไป เราก้เเอบไปทำพาสปอตเเละให้ส่งในที่อยู่ของพี่ที่รู้จักคะ แอบไปโดยบอกกับทุกคนว่าเราไปทำงานช่วงปิดเทอมที่ กทม. คะ (หลังจากคลอดเราตัดสินใจเรียน ต่อ ชั้น ปวส. คะ) วันเเรกที่ไปถึงที่นั่นมีทั้งความกังวลหลายอย่างโดยเราคิดเพื่อปลอบใจตัวเองว่าทำเพื่อลูกหาเงินไปให้ลูก ทำครั้งเดียวเเละจะไม่ทำอีก ถ้าพ่อมันไม่หา คนเป็นเเม่ต้องดิ้น คิดเเค่ว่าลูกต้องมีเงินกินนม คืนเเรกที่เริ่มงาน เราก้หาดริ้งตามโต๊ะคะ ไปเจอโต๊ะหนึ่งที่ดูๆจะไม่ค่อยโอกับคนไทยเท่าไรคะเเต่เค้าก็ให้เราไปนั่งด้วยเเละมีการคุยกัน เป็นภาษาไทยบ้างเเละทางกูเกิ้ลเเปลภาษาบ้าง คุยอยู่โตะนั้นก็นานพอสมควรเเละเเลกไลน์ กันตามปกติที่ทำกับโตะอื่น เพื่อให้เค้ามาซื้อสายสะพายให้เราอีกคะ เเต่เราไม่รู้เลยว่าเริ่มต้นการสนทนาวันนั้น ทำให้เรารู้สึกชอบเค้า เค้าตามมาดูดเเลเราทุกๆคืนเปย์ให้เราทุกอย่าง 2 วันที่ทำงานที่นั่น ช่วงเลิกงานเเล้วเค้าชวนเราออกไปกินข้าวหลังเลิกงานเเละอาสาไปส่งเราคะ เค้าพาเราไปบ้านเค้า เเละปล่อยให้เรานอน เราไม่ได้มีอะไรกันเกินเลยคะ เพราะในใจเราก้คิดว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์นั้นมาเราจะคิดสะว่าเเค่ one night stan เเต่เราคิดผิดเค้าไม่ทำไรเราคะหมือนลองใจมั้งเเค่นอนกอดจนส่างเมาเเละไปส่งที่บ้านพักคะ เเละกลับมานอนเอาเเรงสู้งานต่อในคืนนี้คะ เค้าก้ทักเเชทกับเราตลอดเเทบทั้งวันที่เราตื่นนอน มาถึงอีกคืนเราทำงานตามปกติ เเต่วันนี้เราเมามากกินผสมกันจนตัวเองไม่ไหวเพราะไม่เคยกินเหล้านาน เค้ามารอดูเเลเราเช่นเดียวกับทุกวันที่ผ่านมา วันนี้เค้าต้องไปส่งเราที่บ้านพักเเต่เราเมาจนไม่รู้เรื่องมากจนเค้ากังวลเเละบวกกับเค้าก็เมาอยู่นิดหน่อยเเต่สามารถขับรถยนต์ได้ ในคืนนั้นทั้งเค้าเเละเรามากันทั้งคู่ เเละได้มีอะไรเกินเลยกัน จนเช้าเราไม่พูดอะไร เค้าบอกเค้าจะรับผิดชอบในสิ่งที่เค้าทำลงไป บอกชอบเรา ไม่อยากให้เราคิดกับเค้าเพียงคนชั่วข้ามคืน เค้าไม่รู้ตัวว่าชอบเราตอนไหนเเต่เค้าเป็นห่วงเราตั้งเเต่วันเเรกที่เจอ เพราะหลายๆอย่างที่เราคุยกันเราไม่ได้ปัดใจเชื่อเเต่เราก็ตามน้ำคะ ตัดสินใจ เหมือนคบกัน ไปเที่ยวด้วยกันกินนอนด้วยกันทุกคืนหลังจากนั้นคะเค้ารับผิดชอบเราทุกอย่างเเละไปรับส่งเราทุกคืนเอาใจใส่เรา เราก็ชอบเค้านะคะเเต่ด้วยความที่ว่า เรามีสามีอยู่เเล้วเเต่ สามีเราไม่เคยใส่ใจกันเเม้เเต่โทหาก็ไม่มีคะระหว่างที่ห่างกัน เราก้เผื่อใจตัวเองว่าหากเรากลับไทยไปเราคงต้องตัดใจ ไปอยู่กับความถูกต้อง เรารักเค้าเข้าไปโดยไม่รู้ตัวบวกกับเเพ้ความเอาใจใส่ของผู้ชายคนนี้เราก็รู้ตัวเลยว่า ความรู้สกที่เราเคยใส่กับสามี มันไม่ใช่รักเเบบเดิมอีกเเล้ว ตอนเเรกเราลองใจตัวเองอยู่นานว่ารักใครกันเเน่ จนมารู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รักสามีของเราอีกต่อไป ก่อนถึงวันกลับไทย เค้าบอกจะไปหาเราที่ไทย ที่ กทม. เราก้ได้เพียงรับฟังเเต่ยังไม่ปักใจเชื่อคะว่าเค้าจะไปจริงๆ ก่อนเรากลับเค้าใส่เงินมาในกระเป๋าตังเรา ประมา 500 เหรียญ หรือประมาน 12,000 บาทไทยโดยที่มารู้ตัวตอนอยู่บนเครื่องกลับไทยเเล้ว เราถึงไทยก้รีบโทหาเค้าทันที เเละคุยกันทุกวันหลังจากที่กลับโดยไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของเราค่อยๆ ก่อมาเรื่อยๆ