การเงินน่ารู้สำหรับคู่รักสีรุ้ง

เพี้ยนmbptการเงินน่ารู้สำหรับคู่รักสีรุ้ง

เพี้ยนลาเวนเดอร์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง ของคู่รักสีรุ้งที่รักกันมานาน 11 ปี เป็นเรื่องของรุ่นพี่สจ๊วตที่ผมรู้จัก โดยเรื่องเริ่มจากรุ่นพี่ของผม “พี่อ๋อง” นามสมมติ ได้คบกับรุ่นพี่สจ๊วตอีกคนหนึ่ง และพี่อ๋อง ชอบเรียกแทนว่า “คุณนาย” ฟังดูแล้วคงพอจะเดากันได้นะครับว่าใครอยู่สถานะไหน อิอิ โดยทั้งสองเริ่มคบกันตั้งแต่เริ่มเป็นสจ๊วตใหม่ๆ หลังจากคบกันมาประมาณ 5 ปี ก็เริ่มคิดวางแผนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน โดยเริ่มจากการมีธุรกิจร่วมกัน รวมถึงเคยคิดจะทำประกันชีวิตให้กันและกันแต่ ณ เวลานั้นแทบไม่มีบริษัทประกันไหนทำได้หรือถ้าทำได้ก็ต้องมีเอกสารมากมายใช้ประกอบการทำประกัน ด้วยความรักและอยากอยู่ด้วยกันจริงๆ ต่างคนต่างขายคอนโดฯ ของตนเองและมาซื้อคอนโดฯ ใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ทำเลดีขึ้นเพื่อที่จะมาอยู่ร่วมกัน สำหรับเรื่องธุรกรรมการเงินต่างๆ รวมทั้งการกู้เงินบางส่วนเพิ่มเติมเพื่อมาซื้อคอนโดฯ นั้นก็เป็นชื่อของ “คุณนาย” ทั้งหมด ด้วยข้อจำกัดของการทำธุรกรรมของคู่รักสีรุ้งในสมัยนั้น สรุปคือคอนโดฯ นี้เป็นชื่อของ “คุณนาย” นั่นเอง
เพี้ยนเขินด้วยความรัก ไว้ใจ และคิดจะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอด รวมถึง “คุณนาย” เรียนจบบัญชีจากมหาลัยชื่อดัง เรื่องเงินจึงให้ “คุณนาย” ดูแลและจัดการ ส่วน “พี่อ๋อง” ก็มีหน้าที่บินหาเงินและนำเงินมาให้ “คุณนาย” จัดการดูแล หลังจากนั้นอีก 6 ปี เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น “คุณนาย” เสียชีวิตกะทันหันด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ด้วยอายุเพียง 40 กว่าๆ เท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ คอนโดฯ นั้นไม่ได้กลายมาเป็นทรัพย์สินของพี่อ๋องครับ คอนโดฯ กลับตกเป็นของทายาททางกฏหมายของ “คุณนาย” แต่ยังโชคดีที่ทาง คุณพ่อคุณแม่ของ “คุณนาย” รับรู้ถึงการคบกันของทั้งสองคนมาโดยตลอด แต่ก็ไม่รู้ละเอียดว่าการเงินของสองคนเขาจัดการกันอย่างไร สุดท้าย พี่อ๋องต้องหาเงินเพิ่มบางส่วนมาให้กับทายาททางกฎหมาย เพื่อให้ทายาททางกฎหมายโอนคอนโดฯ มาเป็นของตน (ทายาททางกฎหมายมีใครบ้าง ดูได้จากบทความ “มรดกน่ารู้...กับทายาทโดยธรรม” ตามลิงก์ด้านล่างครับ”)
เพี้ยนสู้สู้จากเรื่องของพี่อ๋อง ถ้าเอาตามเจตนาของ “คุณนาย” จริงๆ คงอยากยกคอนโดฯ ให้พี่อ๋องอยู่แล้ว แต่กฎหมายบ้านเราโดยเฉพาะชาวสีรุ้งยังไม่มีกฎหมายใดๆ ออกมารับรองเลย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาแบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้น ทาง K-Expert ขอแนะนำ 2 หนทาง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับเรื่องนี้
          1 วิธีทางตรง “พินัยกรรมชนะทุกสิ่ง”
          2 วิธีทางอ้อม “ส่งต่อมรดกผ่านประกันชีวิต”
เพี้ยนเพลียวิธีทางตรง “พินัยกรรมชนะทุกสิ่ง” วิธีนี้น่าจะตรงกับจุดประสงค์ของ"คุณนาย"มากที่สุด เพราะ 2 คนช่วยกันสร้างทรัพย์สินขึ้นมา ถ้าคนหนึ่งต้องจากไปก่อน ทรัพย์สินก็ควรตกเป็นของอีกคนหนึ่ง ในกรณีนี้ถ้าซื้อเป็นเงินสดก็คงใส่ชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมได้ แต่เมื่อต้องกู้เงินซื้อจากสถาบันทางการเงิน การกู้ร่วมของคู่รักสีรุ่งยังเป็นเรื่องยาก เลยต้องใช้ชื่อของใครคนใดคนหนึ่งเป็นผู้กู้ และเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น ผู้กู้ซึ่งมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของก็ควรทำพินัยกรรมให้อีกฝ่ายไว้เลย ซึ่งการทำพินัยกรรมให้ถูกต้องและสมบูรณ์ต้องศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ดี เช่น ผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน และพยานต้องเป็นผู้ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในพินัยกรรมนั้นด้วย เป็นต้น ดังนั้น ถ้าอยากทำพินัยกรรม ให้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการทำพินัยกรรมให้ดีด้วยครับ
เพี้ยนชนะเลิศวิธีทางอ้อม “ส่งต่อมรดกผ่านประกันชีวิต” นอกจากการทำพินัยกรรมแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการป้องกันทางอ้อมนั่นคือ การทำประกันชีวิตนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทประกันหลายแห่งสามารถให้คู่รักสีรุ้งใส่ชื่อผู้รับผลประโยชน์ให้กันได้ บางบริษัทให้ระบุความสัมพันธ์ว่าเป็น “คู่ชีวิต” บางบริษัทใช้คำว่า “หุ้นส่วนชีวิต” เป็นต้น แต่ก่อนการทำประกันชีวิตแบบนี้อาจต้องตกลงกันให้ทำประกันทั้งคู่ และยกผลประโยชน์ให้กันและกัน แต่ปัจจุบันบางบริษัทก็ไม่บังคับว่าต้องทำประกันทั้งคู่แล้ว สามารถทำให้กันได้เลย อย่างในกรณีพี่อ๋อง อาจให้ “คุณนาย” ทำประกันชีวิตที่ทุนประกันเท่ากับราคาคอนโดฯ ให้ผู้รับผลประโยชน์เป็นพี่อ๋องไว้เพิ่ม เผื่อเกิดมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด พี่อ๋องจากไปก่อน คุณนาย ได้คอนโดฯ ไป ถ้าคุณนายจากไปก่อน พี่อ๋องก็ได้เงินเอาประกันไปซื้อคอนโดต่อจากทายาททางกฎหมาย วินๆ ทั้ง 2 ฝ่ายครับ อย่างไรก็ตาม อยากให้ศึกษารายละเอียดกรมธรรม์จากบริษัทประกันอย่างละเอียดอีกที บางบริษัทยังมีข้อบังคับการทำประกันชีวิตคู่รักสีรุ้งที่สองฝ่ายต้องทำให้กันและกัน แต่บางที่สามารถทำประกันได้โดยไม่มีข้อบังคับแบบนี้แล้ว และในเรื่องเอกสารที่ต้องใช้แสดงความสัมพันธ์ เช่น จดหมายรับรองความสัมพันธ์คู่ชีวิต เอกสารที่เกี่ยวข้องว่าเราทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาอย่างน้อย 2 ปี ตัวอย่างเช่น ทะเบียนบ้านที่อาศัยร่วมกัน ทะเบียนสมรสในประเทศที่รับรอง เปิดบัญชีร่วมกัน เป็นต้น เอกสารเหล่านี้บางบริษัทประกันยังคงต้องใช้ประกอบอยู่ แต่บางบริษัทไม่ต้องใช้ประกอบแล้วครับ
เพี้ยนแบ๊วไม่ว่าความรักจะเป็นรูปแบบไหน ความรักที่ดีต้องประกอบด้วย เมตตาและปัญญา “เมตตา” คือ ความหวังดี ปรารถนาดี ที่มีให้คู่ของตน ส่วน “ปัญญา” คือ ให้รักอย่างมี “สติ” รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ รวมไปถึงการมี “สติ” ในการใช้ชีวิตคู่เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาจะให้เห็นความสำคัญของทรัพย์สินเงินทองมากกว่าความรักที่ดีงามนะครับ แต่ในเมื่อทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้น ถ้าเรารักใครสักคน วันที่เราไม่อยู่แล้ว เราคงอยากเห็นคนที่เรารักดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุขใช่ไหมครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีในความรักครับ
เพี้ยนขอใจแลกเบอร์https://www.kasikornbank.com/th/k-expert/knowledge/articles/retirement/Pages/Retire_A004.aspx

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่