สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
อยากบอกว่าอยู่ที่การจัดการกับวัตถุดิบที่เราซื้อมาครับ เช่นถ้าซื้อผักหรือเนื้อมาแล้วเหลือทิ้งเยอะ ก็อาจจะไม่คุ้ม แต่ถ้าซื้อมาแล้วนำวัตถุดิบนั้นๆไปต่อยอด เช่นทำหลายจานเก็บไว้ได้อีกหลายมื้อ หรือเอาไว้ผสมโณงเพื่อทำเมนูถัดไปก็จะคุ้มมากครับ เรียกง่ายๆว่าเหลือทิ้งให้น้อยที่สุด ตัวอย่างแบบโคตรง่ายคือ ปกติผมจะซื้อแซลม่อนทั้งตัว นำมาหั่นเป็นซาชิมิบ้าง สเต๊กบ้าง ส่วนพวกก้าง หัว หาง เอาไปต้มเป็นน้ำสต๊อกไว้ทำชาบูหรือซุปในรูปแบบต่างๆ ก็จะคุ้มกว่าซ์้อหลายเท่าเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมคนส่วนใหญ่ บอกว่า ทำอาหารเอง ประหยัดกว่า ซื้อสำเร็จ?....
ทำอาหารเอง ซื้อวัตถุดิบเอง เลือกราคาสูงบ้าง ต่ำบ้าง กลางบ้าง
ส่วนใหญ่จะกินอาหารพื้นบ้าน ที่มาจากธรรมชาติ เช่น ปลาดุกนา เพราะเนื้อดีกว่า ปลาดุกเลี้ยง
หมู ไข่ ก็ซื้อราคาตลาดทั่วไป แต่เลือกส่วนที่เป็น กระดูกอ่อนบ้าง ซี่โครงบ้าง หมูบดบ้างเล็กน้อย
มีเห็ดตามฤดูกาล ผักต่างๆ ตามฤดูกาล ราคาก็ไม่ได้ถูกมาก
ถ้าลองไปเดินตลาดแล้วซื้อมาลองทำอาหารเอง กิน 2 คนกับ ภรรยา + ลูกคนเล็ก ทีกินเฉพาะเนื้อ ไข่ นิดๆหน่อยๆ
จะพบว่า กำเงิน 1000 บาท ไปตลาด ซื้อมาแช่ไว้ในตู้เย็น วัตถุดิบหลัก อย่างหมู กระตูก ปลา เห็ด หมูยอ หรือ
เนื้อต่างๆ จะหมดภายใน 2-3 วัน เพราะ 1 มื้อ จะทำกับข้าว 2-3 อย่าง มีไข่เจียวบ้าง บางมื้อ
ถ้าทำน้อยไม่อิ่ม ถ้าทำเยอะเหลือ....แต่ ก็ไม่เคยเหลือเพราะ กินแต่ละทีเหมือน ห่าลง 55
มาเทียบดู ซื้อแบบขายในตลาดสำเร็จ แกงถุง 40 บาท ต้องซื้อถึง 4 ถุง กิน 2 คนถึงจะอิ่ม ข้าวสวยอีก 2 ถุง 20 บาท
ผักอีก 20 บาท รวมคาบนั้นแล้ว 200 บาท แต่ลูกไม่ได้กินด้วย....เพราะลูกกินแบบที่เค้าเคยกิน
แสดงว่า 1 วันจะหมดไปแล้ว 500-600 บาท หากซื้ออาหารถุง หรือ อาหารที่ทำเสร็จแล้ว
ยกเว้นจะกินกันตาย.... อย่าง อาหารตามสั่ง กระเพรา หมู เห็ดเป็ดไก่
ส่วนใหญ่มักจะบอกว่า ให้ทำอาหารเอง จะได้ประหยัด โอเคร ถ้าคุณต้องการกินแบบประหยัด ก็ประหยัดได้ประมาณนึง
แต่คุณจะทุรนทุราย จากสารอาหารที่มีเพียงเล็กน้อย 55
คนเดินตลาด คนทำกับข้าว คนเลือกกิน มักจะมองอีกมุม....
คุณว่าอย่างไรกับ ประโยคเหล่านี้ที่คนส่วนใหญ่ชอบพูดกัน...