เบื่อ ลำคาน ครอบครัวสามี

ขออนุญาติระบาย ไม่รู้จะไปเล่าให้ใครฟัง ...
คือวิธีการใช้ชีวิตของครอบครัวเรากับสามีเเตกต่างกันมาก มากจนบางทีรู้สึกรำคานทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ
บ้านเราค่อนข้างมีฐานะ เเต่ทุกคนในบ้านจะใช้เงินเเบบประหยัด รู้คุณค่าเงิน จะไม่ใช่จ่ายฟุ่มเฟือยกับสิ่งที่ไม่จำเป็น
ของเเบรนเนมบ้านเราไม่นิยม เสื้อผ้ากระเป๋าตัวละ ร้อยสองร้อยก็ใส่ได้ อาหารข้างทางก็กินได้ พ่อเเม่เรา support เรากับพี่น้องเราในทุกๆด้าน
หยิบยื่นความช่วยเหลือให้โดยที่เราไม่เคยต้องเอ่ยปากขอ พ่อเเม่เราไม่เคยขออะไรจากเราเลยซักอย่าง ขนาดบางทีซื้อของให้ยังไม่ยอมจะรับ บอกให้เราเก็บเงินไว้อย่าสิ้นเปลือง... มีเงินเก็บพ่อเเม่ก็ซื้อที่ซื้อบ้านใส่เป็นชื่อเรา เผื่ออนาคตของเรา.. ตัดมาที่ครอบครัวสามี (คนเกาหลี) พ่อสามีทำงานคนเดียว ตำเเหน่งค่อนข้างสูง ส่วนเเม่สามีไม่ทำงาน เเต่ใช้เงินเก่งมากกก เสื้อผ้าไม่มียี้ห้อใส่ไม่ได้ ต้องใช้เเต่ของเเบรนเนม เวลาว่างไปตีกอฟล์ กระเป๋าต้อง กุชชี่ ชาเเนล รองเท้าต้อง พราด้า...ของกินที่ซื้อมาทำต้องเป็นเเบบพรีเมี่ยมเท่านั้น ...เเต่พอลูกชายได้งานที่จำเป็นต้องใช้รถ ซึ่งตอนนั้นเรากับสามีเพิ่งจะเรื่มทำงานยังไม่มีเงินเก็บมาก เลยถามพ่อเเม่เขาว่าพอจะช่วยเงิน เล็กๆน้อยๆ ได้มั้ย คำตอบคือ ไม่มีเงิน .. พอเราบอกพ่อเเม่เรา ส่งมาให้ทันที ..
เรากับสามีทำงานต่างประเทศ เช่าบ้านอยู่ ค่าเช่าเเพงมาก  จ่ายกันเองไม่มีคนช่วย อยู่ดีๆ พ่อเเม่สามีก็ส่งน้องมาเรียนภาษา มาอยู่บ้านเราฟรีๆ ตอนเเรกว่าจะอยู่ 6 เดือน ไปๆมา บอกให้น้องอยู่ไปเลย ไม่ต้องกลับ ?? ตอนเเรกๆ เวลาจะไปกินอะไรต้องพาน้องไปด้วย  หลังๆ ดีหน่อยที่น้องมีเเฟน เลยไม่ต้องกระเตงไปทุกที่ด้วยกัน...ต้นปีนี้พอรู้ว่าเราท้อง  เรากับสามีอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เเม่เราก็เห็นด้วยเพราะไม่อยากให้เราไปเช่าเขาอยู่เพราะเหมือนเอาเงืนไปทิ้งเฉยๆ อาทิตย์ล่ะหลายร้อยเหรียน เลยให้เงินก้อนเรามา 5 ล้าน ที่เหลือให้เรากับสามีกู้เเบงค์ (ราคาบ้านที่นี่ 10 ล้านคืออย่างต่ำ)  พอรู้ว่าเรากับสามี ซื้อบ้าน พ่อเเม่สามีก็จองตั๋วเครื่องบินมาเยี่ยมทันที ตังค์ไม่ช่วยซักบาท พอมาถึงก็ให้เงิน 5 หมื่นบาท เราบอกให้เอาไปซื้อของที่จำเป็น ตอนนั้นเราคิดว่า เออ เขาก็ดีนะ คงจะให้ไว้สำหรับหลาน (ลูกในท้องเรา) . เเม่สามีบอกว่า ตู้เย็นที่เราใช้อยู้มันเล็กเกินไป ต้องเปลี่ยนใหม่ สำหรับบ้านใหม่ เราคิดว่ามันไม่จำเป็นมของเก่ายังดีอยู่เลย เพื่งซื้อไม่ถึง 3 ปี  ...เเต่ เเม่สามีบอกสามีว่า จำเป็นต้องเปลี่ยนเพราะมันเล็ก พอมีลูกต้องใช้ตู้เย็นใหญ่ๆ ไม่งั้นใส่ของไม่พอ บอกว่าให้เราซื้อเถอะ เดี๋ยวพ่อสามีจะจ่ายให้เป็นของขวัญสำหรับบ้านใหม่ ...เเล้วพ่อสามีก็ซื้อให้จิงๆค่ะ เเต่เชื่อมั้ยคะ ตกเย็น เเม่สามีบอกสามีว่า ให้เอาเงินที่เขาให้ไปคืน ครึ่งนึง เพราะจะเอาไปจ่ายค่าตู้เย็น ... ??? คือเสียความรุ้สึกมากๆ ให้เเล้วมีการมาขอคืน ใครเขาทำบ้าง? ยังไม่พอ วันนี้เราไป ซุปเปอร์มาเก็ต เเม่นางก็ทำเหมือนไม่เคยมาเมืองนอก หยิบเเหลก อันนั่น ถูก อันนี้ดี ซื้ออันนึงไม่พอ ต้อง ชิ้นล่ะ 5 อย่าง เนื้อสเต็ก ชิ้นล่ะ เกิอบพัน นางบอก ถูกมาก หยิบใส่ตระกร้าใหญ่ เลย พอตอนจ่ายตัง เดินออกไปเฉย ให้สามีเราจ่าย...  คือหมดคำจะพูด ทุเรศสุดๆ เอาจิงๆ มันไม่เกี่ยวกับเงินเเต่เสียความรุ้สึก วันนี้ไป ช้อป2 ที่ ก็ทำเหมือนเดิมทั้งสองที่ คือหยิบเเหลก เเล้วให้สามีเราจ่าย จนเราเอ่ยปากถามสามี ว่า ทำไมพ่อเธอถึงไม่จ่ายเงินเอง สามีบอกไม่รุ้เหมือนกัน เราเลยบอก ก็บอกให้เขาจ่ายซิ สามีก็หน้าบาง ไม่กล้าพูดกับพ่อ บอกว่าปีนึงเจอพ่อเเม่เขาไม่กี่วันเอง เขาจ่ายได้ นี่จะอยู่กันอีกเกือบอาทิตย์ ไม่รุ้ว่าสามีเราจะต้องจ่ายจนจนทริปเลยรึป่าว.... จิงๆ คน เป็นพ่อเป็นเเม่ รู้ว่าลูกเพิ่งจะซื้อบ้าน มีหนี้เพิ่มขึ้นมา หลานก็กำลังจะเกิดค่าใช้จ่ายเยอะเเยะ ยังให้ลูกจ่ายเงินให้ตัวเองซื้อของบ้าบอที่ไม่มีความจำเป็นอีก..ไม่รู้ว่าเราใจเเคบเกินไปมั้ย หรือเป็นเพราะว่าเขาเป็นคนต่างชาติ คนล่ะ วัฒนธรรม หรือว่าพ่อเเม่เราดีเกินไป ? เเต่ขอบอกเลยว่า รับไม่ได้ เกิดมาไม่เคยเจอเเบนี้ คิดถึงพ่อเเม่เราจัง... เมื่อกี้วีดีโอ call กับเเม่เรา ซื้อของเตรียมให้หลานเต็มเลย... ส่วนพ่อเเม่สามี มาเยี่ยมลูกสะไภ้ท้อง 8 เดือน ไม่มีของฝากหลานสักชิ้น มาหลายวันเเล้ว ไม่เคยถามว่าเราเตรียมนู้นนี่ให้ลูกรึยัง อย่างที่บอกค่ะ มันไม่เกี่ยวกับเงิน แต่มันเสียความรู้สึก. 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่