💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 13 🚀💫🕛💫

กระทู้คำถาม

ศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในกองบัญชาการกองทัพอากาศโลโคเทีย สหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือ...

ร่างของกัปตันวันชนะ ซึ่งถูกครอบครองโดยจิตวิญญาณของเลโอนีดาส ถูกจับพันธนาการติดตรึงไว้กับแผ่นโลหะรูปตัว X โดยมีปลอกโลหะหนาเกือบนิ้วล็อคทั้งข้อมือและข้อเท้าทั้งสอง ไม่อาจดิ้นรนหนีไปไหนได้ สร้างความหงุดหงิดงุ่นง่านให้แก่ผู้ครอบครองร่างเป็นอย่างยิ่ง

"ปล่อยข้า! ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้นะ !!" เลโอนีดาสในร่างกัปตันร้องโวยวายและดิ้นรนอย่างหนัก แต่ไร้ผล

ข้างหน้าเขา คือชาวคณะของกัปตันเกือบทุกคน ขาดก็แต่สองสามีภรรยา แซมและสาวจอยสองคนเท่านั้น และรายล้อมด้วยชาวสหพันธรัฐเหนืออีกหลายคนซึ่งนำโดย อิบิคัส ผู้นำแห่งโลโคเทีย และเซบาสเต็นผู้เป็นสหายสนิท

ฉับพลันนั้นก็มีฝ่ามือหนักๆ ของใครคนหนึ่งตบฉาดเข้าให้ที่ใบหน้าจนหน้าสะบัด

เพี๊ยะ !!!

"อ้ากกก...!!"

นักสับเปลี่ยนวิญญาณร้องออกมา พลางจ้องมองหน้าเจ้าของมือนั้นราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่แล้วก็แผดเสียงหัวเราะออกมา

"ฮ่ะๆๆ ฮ่าาาาา ฮ่ะๆๆๆๆ"

"เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือวะ เลโอนีดาส ?" เจ้าของมือถาม

หัวหน้าขัณฑีหลวงในร่างกัปตันยังหัวเราะต่อไปอีกครู่หนึ่งแล้วจึงตอบ "ตบได้ดี....สถาพร! เจ้าตบได้ดี หนักมือดีแท้! ตบข้าอีกสิวะ!! หรือจะต่อย เตะ กระทืบให้หนำใจเจ้าไปเลยก็เอา! เพราะเจ้าทำร้ายข้า ก็เท่ากับทำร้ายสหายรักของเจ้าเอง!! ฮ่าาา..ฮ่าะๆๆๆ"

"ไอ้สัส ra ยำเอ๊ยยย !!!" ด็อกเตอร์หนุ่มจอมห่ามแยกเขี้ยวและเงื้อหมัดขวาเตรียมชก แต่มหาเอกรีบเข้ามาคว้าจับแขนข้างนั้นห้ามไว้

"อย่าครับ คุณสถาพร! มันพูดถูกนะครับ คุณทำอะไรมันตอนนี้ ก็คือทำกับกัปตันไปด้วย"

"ใช่แล้วค่ะ พี่พร พอเถอะ!" รัชนีร้องห้ามอีกคน คนอื่นๆ ก็ทยอยๆ กันช่วยห้ามปราม

สถาพรทำท่าฮึดฮัดอยู่นานถึงจะยอมผ่อนคลายกล้ามเนื้อลดแขนลง แล้วยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมาชี้หน้า

"จะให้พวกเราปล่อยตัววายร้ายอย่างเจ้าไปเฉยๆน่ะ ฝันไปเถอะ! นอกจากจะมีข้อแปลกเปลี่ยน!"

"ข้อแลกเปลี่ยนอันใด ?" เลโอนีดาสย้อนถาม

"เจ้าน่าจะรู้ดีนี่ ไม่น่าถาม!"

"อ้อ..." กัปตันวันชนะซึ่งข้างในมิใช่ พยักหน้าสองสามครั้ง "คงจะต้องการให้ข้า พาไปหาร่างของข้า แล้วสลับวิญญาณกลับไปยังร่างเดิมของข้า เพื่อให้วิญญาณของวันชนะหวนคืนสู่ร่างของมันละสิ ?"

"ใช่ !!!" สถาพรตอบด้วยเสียงอันดัง

"แล้วข้าจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าหลังจากที่ข้ากับวันชนะสลับวิญญาณกลับไปเหมือนเดิมแล้ว ข้าจะปลอดภัย จะได้กลับไปยังจักรวรรดิโดยสวัสดิภาพ เจ้าคงไม่ปล่อยข้าไปเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน จริงไหมล่ะ ? สถาพร ??"

ด็อกเตอร์หนุ่มจนแต้มกับคำกล่าวนั้นจนอึ้งไป พูดอะไรไม่ออก

"ให้ผมพูดกับเขาเองครับ คุณสถาพรถอยไปก่อนดีกว่านะครับ" มหาเอกเห็นท่าว่าจะเจรจากันไม่สำเร็จ จึงเดินเข้ามาแทรกระหว่างกลางและเสนอตัว

"อืม...ก็ได้ครับ คุณเอก..." สถาพรพยักหน้าก่อนจะยอมถอยห่างออกไป ปล่อยให้มหาเอกทำหน้าที่เจรจา

อดีตมหาเปรียญหันไปเผชิญหน้ากับเลโอนีดาสในร่างของเจ้านายอย่างใจเย็น ในขณะที่ฝ่ายตรงกันข้ามก็จ้องมองเขาอย่างระแวดระวัง

"ขอบอกให้ท่านทราบเสียก่อนนะ เลโอนีดาส..." มหาเอกเริ่มการเจรจาเกลี้ยกล่อม "พวกเราทุกคนที่เดินทางมาจากอนาคตกาลห่างจากกาลเวลาของดินแดนแอตแลนติสราวหมื่นสองพันปี มีท่านวันชนะเป็นผู้นำ..."

"ข้ารู้ดี ว่าวันชนะสำคัญต่อพวกเจ้าอย่างไร!" เลโอนีดาสพูดสอด แต่มหาเอกก็ยกมือขึ้นห้าม

"อย่าเพิ่งพูดสอดแทรกในระหว่างที่ข้ากำลังอธิบาย โปรดฟังข้าพูดให้จบเสียก่อนเถิด"

"ฮึ่มม...ได้! เชิญท่านสาธยายต่อไป!"

"ขอบคุณ" มหาเอกกล่าวอย่างเยือกเย็น และลีลาของเขาทำให้เลโอนีดาสมองเห็นว่าบุรุษผู้ซึ่งอยู่ต่อหน้าตนในขณะนี้แตกต่างจากสถาพรเป็นอันมาก มีความใจเย็นสุขุมลุ่มลึก ละม้ายคล้ายคลึงกับวันชนะหลายส่วนทีเดียว!

"ท่านพึงทราบว่า ในหมู่คณะของพวกเรา มีกฏข้อบังคับในการปกครองซึ่งกันและกัน..." มหาเอกอธิบายต่อ "...กฏข้อหนึ่งซึ่งสำคัญมาก และทุกคนในคณะยอมรับและปฏิบัติกันมาเสมอก็คือ เมื่อใดก็ตามที่กัปตัน...ข้าหมายถึงท่านวันชนะ...คำว่า 'กัปตัน' เป็นชื่อของตำแหน่งผู้นำที่เขาเป็น...เมื่อไรก็ตามที่กัปตันวันชนะไม่อยู่กับเรา หรืออยู่ด้วย แต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้นำของพวกเราได้ เช่น ป่วยไข้อย่างหนัก หรือเสียสติ ไม่เป็นตัวของตัวเองเป็นต้น ความเป็นผู้นำของเขาจะถูกระงับไว้เป็นการชั่วคราว และจะต้องมีผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บังคับการ ทำหน้าที่แทนเขา โดยเริ่มจากกลุ่มบุรุษก่อน และเรียงตามลำดับอาวุโสในการเข้ามาร่วมคณะ...ถ้าไม่มีบุรุษผู้ใดอยู่เลย ก็ให้สตรีผู้มีอาวุโสสูงสุดในคณะ เป็นผู้บังคับการแทน ซึ่งกรณีนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง..."

มหาเอกหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อ "และขณะนี้ คณะของพวกเรา กัปตันวันชนะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้นำได้ เพราะถูกท่านครอบครองร่างเสียแล้ว วิญญาณของเขาล่องลอยไปอยู่ที่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีใครสักคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นผู้บังคับการ ทำหน้าที่แทนท่านวันชนะ ในหมู่คณะของพวกเรา มีบุรุษเหลืออยู่ ณ ที่นี่ 2 คนด้วยกัน คือ ข้า ผู้มีนามว่าเอก และท่านสถาพร"

"แล้ว บุรุษสามคนนั้นเล่า ?" เลโอนีดาสบุ้ยใบ้ไปยังสามหนุ่มชาวอาข่าซึ่งยืนอยู่ห่างออกไป

"อ้อ...สามคนนั้น อยู่ในฐานะบริวารผู้รับใช้สมาชิกทุกคน พวกเขาจะอยู่ในลำดับสุดท้าย หากบรรดาเจ้านายทั้งหลายไม่อยู่ คนที่มีอาวุโสที่สุดก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บังคับการเช่นกัน" มหาเอกหันไปมองสามหนุ่มอาข่าและยิ้มให้พวกเขาทีหนึ่งก่อนจะหันมาอธิบายต่อ

"สรุปแล้ว ขณะนี้ ผู้บังคับการแห่งคณะของพวกท่านคือ..."

"ข้าเอง!!" อดีตมหาเปรียญกล่าวยิ้มๆ ซึ่งเป็นยิ้มที่ทำให้เลโอนีดาสรู้สึกอึดอัด

คำกล่าวของเขาไม่ผิด เพราะในคณะ THE FUGITIVE กัปตันวันชนะได้ตั้งกฏอย่างนี้ไว้จริงๆ และเคยมีวิกฤติการณ์ที่ีทำให้เหลือสมาชิกในยานเพียงสองคนคือสาวเล็กและสาวจอยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ในตอนที่ชาวคณะไปสู่แดนไอยคุปต์ครั้งแรก กัปตันและชาวคณะหลายคนถูกมนุษย์ต่างดาวเชิญตัวขึ้นยาน เหลือแต่สองสาว และสาวเล็กเป็นผู้มีอาวุโสกว่า จึงรับหน้าที่เป็นผู้บังคับการชั่วคราว ณ กาลเวลานั้น

ทุกคนในคณะทราบกฏข้อนี้ดี ดังนั้นแต่ละคนจึงพากันพยักหน้าหงึกๆ ขณะที่ฟังมหาเอกอธิบาย

"ถ้าอย่างนั้น..." เลโอนีดาสถามทันที "ท่านเอก ในฐานะผู้บังคับการแห่งคณะของท่าน ณ บัดนี้ ท่านจะให้คำมั่นสัญญากับข้าได้หรือไม่ว่า หากข้า พาพวกท่านไปยังสถานที่ซ่อนร่างเดิมของข้า และหลังจากข้า สละร่างของวันชนะนี้ กลับเข้าสู่ร่างเดิมของข้าแล้ว ข้า จะปลอดภัย พวกท่านจะปล่อยข้ากลับไปสู่ดินแดนจักรวรรดิแอตแลนติสใต้โดยสวัสดิภาพ จะไม่มีผู้ใดทำร้ายข้า ???"

สถาพรอ้าปาก ทำท่าจะพูดอะไรออกมา แต่มหาเอกเหลือบไปเห็นและยกมือห้ามไว้ เขาจึงหุบปากเสีย

"ข้าสัญญา!" มหาเอกรับปากอย่างง่ายดาย "เพราะสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเราในขณะนี้ก็คือ การได้กัปตันวันชนะ ผู้นำของพวกเรา เจ้านายของพวกเรากลับคืนมา โดยเขาต้องเป็นปกติเหมือนเดิม อย่างสมบูรณ์ ทั้งร่างกาย และวิญญาณ!! ข้าจะไม่ให้ผู้ใดทำร้ายท่านโดยเด็ดขาด ท่านจะได้กลับไปยังจักรวรรดิแอตแลนติสใต้ตามความต้องการ!!"

"ดี....ดีมาก!!" เลโอนีดาสกล่าวอย่างลิงโลด "ถ้าอย่างนั้น จงพาข้าไปที่ชายแดนใต้สุดแห่งเมืองแคสสิโอเปีย แล้วข้ามไปยังมหาวิหารบูชาเทพแอตลาส ในจักรวรรดิ ข้าจะพาพวกท่านเข้าไปหาร่างของข้า ในมหาวิหารนั้น"

"ช้าก่อน...อย่าเพิ่งรีบเร่งนัก" มหาเอกยกมือขึ้นปรามอีกครั้ง

"มีอะไรอีกอย่างนั้นหรือ ท่านผู้บังคับการ ?" เลโอนีดาสถามด้วยความข้องใจและหวาดระแวง

"ข้าก็มีข้อแม้หนึ่งข้อ ที่ท่านต้องให้คำมั่นสัญญาเสียก่อน"

"ข้อแม้อันใด จงว่ามาเถิด ข้าพร้อมที่จะรับปากท่าน"

"ดี! ถ้าอย่างนั้น จงสัญญาว่า พวกเรา จะไม่ถูกพวกท่าน พวกจักรวรรดิแอตแลนติสใต้ขัดขวางหรือโจมตีใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งในขณะไปที่ชายแดน ขณะที่กำลังอยู่ในมหาวิหาร ขณะที่กำลังออกจากมหาวิหาร และขณะที่กำลังเดินทางออกจากจักรวรรดิ"

"ได้! ข้าให้สัญญา ทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น!!" เลโอนีดาสรีบรับปากทันทีด้วยแววตาเป็นประกาย

แต่แววตานั้นหาได้รอดพ้นไปจากสายตาของมหาเอกไม่ แม้กระนั้น เขาก็ยังตอบรับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

"ถ้าเช่นนั้น ก็เป็นอันว่า เราตกลงกันแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม..." อดีตมหาเปรียญเว้นวรรคนิดหนึ่ง "ในช่วงนี้ ท่านยังคงต้องถูกพันธนาการเยี่ยงนี้ไปก่อน จนกว่าพวกเราจะพาท่านเดินทางไปถึงชายแดนทางใต้สุดแห่งเมืองแคสสิโอเปีย ไปถึงมหาวิหารแห่งเทพแอตลาส และนำยานของพวกเราลงจอดหน้ามหาวิหารนั้นเรียบร้อยเสียก่อน ท่านจึงจะเป็นอิสระจากเครื่องพันธนาการนี้!"

"ตกลง! สุดแล้วแต่ท่านเถิด"

"ดี! ถ้าเช่นนั้น ตอนนี้ท่านพักผ่อนไปก่อนเถิด ข้าและคณะ พร้อมกับชาวสหพันธรัฐบางส่วน ขอไปเตรียมตัวเพื่อออกเดินทางก่อน เราจะไปแคสสิโอเปียกันในเช้าวันพรุ่งนี้ ข้าขอตัวก่อน!"

"ช้าก่อน ท่านผู้บังคับการ!" เลโอนีดาสร้องห้ามการไป ในขณะที่มหาเอกกลับหลังหันและกำลังจะเดินจากไป

"มีอะไรอีกอย่างนั้นหรือ ท่านเลโอนีดาส ?" เขาหันกลับมาถาม

"ข้าถูกพันธนาการอยู่อย่างนี้ ในยามที่ข้าปวดหนักปวดเบา จะให้ข้าทำเช่นไร ? ให้ข้าปลดปล่อยออกมาตรงนี้เลย กระนั้นหรือ ?"

มหาเอกยิ้มก่อนตอบ "เรื่องนั้น ท่านอย่าได้กังวล จะมีทหารยามเฝ้ารักษาการอยู่ตลอดเวลา หากท่านเกิดอาการดังว่า จงเรียกหาพวกเขา บอกความต้องการของท่าน แล้วพวกเขาจะพาท่านไปยังห้องปลดทุกข์ ท่านจะเป็นอิสระชั่วคราวเมื่ออยู่ในห้องปลดทุกข์นั้น และพวกเขาจะระแวดระวังท่านอย่างเต็มที่และเข้มงวด ท่านอย่าได้คิดใช้เล่ห์เหลี่ยมใดๆในขณะนั้นเป็นอันขาด เพราะพวกเขาจะจัดการกับท่านขั้นเด็ดขาดอย่างแน่นอน!"

"แม้ว่า อาจจะต้องทำร้ายร่างของวันชนะนี่ด้วย กระนั้นหรือ ?" เลโอนีดาสพูดเป็นเชิงขู่เอาร่างกัปตันเป็นตัวประกัน

"ใช่!!" มหาเอกตอบอย่างหนักแน่น "ถ้าจำเป็นก็ต้องลงมือ! ข้าจะสั่งพวกเขาให้ทำเช่นนั้น!!"

เลโอนีดาสในร่างกัปตันวันชนะ จ้องสบตาอดีตมหาเปรียญอย่างพยายามชั่งใจ และก็ได้พบความเอาจริงเอาจังในแววตาคู่นั้น!

"ก็ได้...ข้าจะไม่กระทำเล่ห์เพทุบายใดๆ ทั้งสิ้น"

"ดี! ถ้าเช่นนั้น ข้าขอตัวก่อน...ท่านจงพักผ่อนเถิด!"

มหาเอกกลับหลังหันหลังจากกล่าวจบ แล้วเดินออกไปจากห้องคุมขังเดี่ยวห้องนั้นซึ่งมีทหารยามรักษาการถืออาวุธทั้งดาบและปืนเลเซอร์เฝ้าอยู่ข้างประตูทางออกทั้งซ้ายและขวา โดยมีชาวคณะและชาวสหพันธรัฐเดินตามหลังกันไปเป็นพรวน เมื่อทุกคนออกไปกันหมดแล้ว บานประตูก็เลื่อนปิดจากด้านบนลงสู่ด้านล่างโดยอัตโนมัติอย่างแน่นหนาทันที ปล่อยให้เลโอนีดาสในร่างของกัปตันอยู่เดียวดายในความมืดสลัวแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย

"เฮ้อ....." หนึ่งในตัวแสบแห่งจักรวรรดิแอตแลนติสใต้ถอนใจ "ข้าจะทำประการใด จึงจะหลุดพ้นจากเครื่องพันธนาการบ้าๆ นี่ได้ และจะหลบหนีพวกมันไปได้อย่างไรล่ะนี่!!" พูดกับตัวเองแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า

"มันต้องมีวิธีอะไรสักอย่าง....ต้องมีช่องทางอะไรสักอย่างหนึ่งสิ !!"

เลโอนีดาสได้แต่ครุ่นคิด....จนกระทั่งรู้สึกอ่อนเพลีย คอตก ผลอยหลับไป....

*************************************************


ในมิติแห่งโลกวิญญาณ.....

ยูไล เกลเลอร์ แอนนา และเด็กชายแจ๊ค พากันถอดจิตออกจากร่างซึ่งนั่งสงบนิ่งอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิโดยหันหน้าเข้าหากัน เข่าชนกันเป็นรูปสามเหลี่ยมในห้องพักของสาวพลังจิต

ทันทีที่ดวงจิตของทั้งสามคนลอยออกจากร่างเข้าสู่อีกมิติหนึ่ง ทุกคนก็ได้พบกัปตันวันชนะยืนรออยู่ ณ มุมหนึ่ง ท่ามกลางความมืด

"คุณพ่อ!"

"คุณพ่อคับ!"

"กัปตันครับ!"

ทั้งสามเข้าไปหาเขาซึ่งยืนมองยิ้มๆ อยู่

"ว่าไง แอนนา แจ๊ค ยูไล ออกมาทำอะไรกันล่ะเนี่ย ?" กัปตันถามพลางยกสองมือขึ้นลูบหัวลูกสาวและลูกชายตัวเล็ก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่