เมื่อตัวอยู่ไกล...แต่ใจรักทุเรียน
*ทุเรียนไทย...ไปไกลถึงอเมริกา*
แถมยังสดใหม่ เหมือนเพิ่งแกะหมาดๆ
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นเพื่อนชาวไทย โพสภาพกินทุเรียนกันใหญ่
เราเองก็อดใจไม่ไหว คิดถึงรสชาติทุเรียนหอมหวานของไทย
จนนึกอยากกลับบ้านขึ้นมาทันที แต่เอ๊ะ! จะต้องถึงขั้นตีตั๋วกลับไทย
เพื่อจะไปกินทุเรียนมันก็คงไม่ใช่เรื่อง เลยตัดสินใจเดินออกไปร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ
เพื่อหาอะไรมาทดแทน (T^T)
ทันใดนั้น เราก็ไปสะดุดตากับผลไม้สีเหลืองทอง ซึ่งดูคล้ายกับ “ทุเรียนหมอนทอง”
บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใส ภายใต้แบรนด์
" Smile " โดยกล่องระบุว่า
“ KING of FRUIT ”
ต่อมความสงสัยเริ่มทำงานทันที “ที่นี่มีทุเรียนด้วยหรอ? จะสู้ไทยได้ไหม? ”
ก่อนจะเหลือบไปเห็นว่า
“Product of Thailand”
ก็อ๋อขึ้นมาทันที ดีใจจนเนื้อเต้น
"ที่ทุเรียนไทย มาไกลถึงอเมริกา" คงไม่ต้องตีตั๋วกลับบ้านกระทันหันแล้วล่ะ
ไม่รอช้า เราลองซื้อกลับมาจัดเป็นผลไม้สำหรับดินเนอร์มื้อนี้
ให้คนที่นี่ได้ลิ้มรสทุเรียนหมอนทองของไทย ที่เราบ่นหนักหนาว่า
“อยากกลับไทยไปกิน” จนคนที่นี่อยากลิ้มชิมรสไปตามๆ กัน
ทันทีที่แกะกล่องออกมา กลิ่นที่คุ้นเคยก็โชยมาเตะจมูก จนวงสนทนาหลังมื้อค่ำต้องหยุดชะงัก
นี่แหละ! กลิ่นของทุเรียนหมอนทองขนานแท้ พลูโตๆ สีเหลืองทอง ดูสดใหม่ราวกับแม่ค้าเพิ่งแกะ
ออกจากลูก ทุกอย่างมันดูสดใหม่สมชื่อ
“Fresh Cut” จริงๆ โดยเฉพาะกลิ่น นี่คือใช่เลย !
ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหมอนทองได้ดีสมชื่อ King of Fruit ของไทยจริงๆ
นำมาจัดเรียงใส่จาน มองไปมีแต่สีเหลืองอร่ามเนื้อแน่นเต็มจาน
** มาที่เรื่องของรสชาติ บอกตามตรงว่าตอนแรกก็แอบเผื่อใจไว้นิดๆ เพราะคงไม่มีทุเรียนที่ไหน
เหมือนกินจากประเทศไทยแท้ๆ แต่คุณพระ ! หลังจากที่หยิบพลูอวบๆ ขึ้นมาลองกัดคำแรกก็น้ำตาคลอ
เพราะมันคือรสชาติที่เราคิดถึง รสชาติของทุเรียนหมอนทองของไทยที่คุ้นเคย เนื้อแน่นฟู รสสัมผัส
กรอบนอกนุ่มใน รสชาติก็หอมหวานจับใจ ไม่ทำให้ผิดหวัง พลูแรกผ่านไป พลูสอง พลูสามค่อยๆผ่านไป
ทั้งไทย และเทศ ต่างกินกันอย่างเอร็ดอร่อย นับว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับดินเนอร์มื้อนี้ได้ดีเลยทีเดียว
บอกเลยว่าทุเรียนหมอนทองเจ้านี้ ทำให้เรารู้สึก “เหมือนได้กลับไปกินทุเรียนที่เมืองไทยจริงๆ”
เพราะยังคงคุณภาพของความสดใหม่ ในทั้งด้านรูปลักษณ์ กลิ่น และรสชาติได้เป็นอย่างดี
เพราะ
“No Frozen” ก็สมกับเป็น
“Premium Quality” ตามที่ได้การันตีไว้บนกล่องจริงๆ
เอาล่ะค่ะ... หวังว่ารีวิวฉบับนี้ จะเป็นอีกหนึ่ง Choice ดีๆ สำหรับใครที่คิดถึงอาหารไทย ผลไม้ไทย
หรืออยากลิ้มลองของไทย ก็สามารถหาซื้อมาลองกันได้ สดใหม่ เหมือนอยู่ไทยจริงๆ ราคาก็สมคุณภาพ
อยากให้เพื่อนๆได้ลอง รับรองว่า
“ไม่ผิดหวัง” เผลอๆ Roommate ของท่าน อาจติดใจ
ไม่เสียชื่อแน่นอนค่ะ อยากกินเมื่อไร ก็แวะไปซื้อได้ตลอด ไม่ต้องรอกลับไทย...
หมดกังวลเรื่องแอบแบกทุเรียนขึ้นเครื่องอีกต่อไป...
“ถึงตัวจะอยู่ไกล
แต่ใจยังรักทุเรียน” จริงๆ (หัวเราะ)
[CR] เมื่อตัวอยู่ไกล...แต่ใจรักทุเรียน
*ทุเรียนไทย...ไปไกลถึงอเมริกา*
แถมยังสดใหม่ เหมือนเพิ่งแกะหมาดๆ
เราเองก็อดใจไม่ไหว คิดถึงรสชาติทุเรียนหอมหวานของไทย
จนนึกอยากกลับบ้านขึ้นมาทันที แต่เอ๊ะ! จะต้องถึงขั้นตีตั๋วกลับไทย
เพื่อจะไปกินทุเรียนมันก็คงไม่ใช่เรื่อง เลยตัดสินใจเดินออกไปร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ
เพื่อหาอะไรมาทดแทน (T^T)
ทันใดนั้น เราก็ไปสะดุดตากับผลไม้สีเหลืองทอง ซึ่งดูคล้ายกับ “ทุเรียนหมอนทอง”
บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใส ภายใต้แบรนด์ " Smile " โดยกล่องระบุว่า “ KING of FRUIT ”
ต่อมความสงสัยเริ่มทำงานทันที “ที่นี่มีทุเรียนด้วยหรอ? จะสู้ไทยได้ไหม? ”
ก่อนจะเหลือบไปเห็นว่า “Product of Thailand” ก็อ๋อขึ้นมาทันที ดีใจจนเนื้อเต้น
"ที่ทุเรียนไทย มาไกลถึงอเมริกา" คงไม่ต้องตีตั๋วกลับบ้านกระทันหันแล้วล่ะ
ไม่รอช้า เราลองซื้อกลับมาจัดเป็นผลไม้สำหรับดินเนอร์มื้อนี้
ให้คนที่นี่ได้ลิ้มรสทุเรียนหมอนทองของไทย ที่เราบ่นหนักหนาว่า
“อยากกลับไทยไปกิน” จนคนที่นี่อยากลิ้มชิมรสไปตามๆ กัน
ทันทีที่แกะกล่องออกมา กลิ่นที่คุ้นเคยก็โชยมาเตะจมูก จนวงสนทนาหลังมื้อค่ำต้องหยุดชะงัก
นี่แหละ! กลิ่นของทุเรียนหมอนทองขนานแท้ พลูโตๆ สีเหลืองทอง ดูสดใหม่ราวกับแม่ค้าเพิ่งแกะ
ออกจากลูก ทุกอย่างมันดูสดใหม่สมชื่อ “Fresh Cut” จริงๆ โดยเฉพาะกลิ่น นี่คือใช่เลย !
ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหมอนทองได้ดีสมชื่อ King of Fruit ของไทยจริงๆ
นำมาจัดเรียงใส่จาน มองไปมีแต่สีเหลืองอร่ามเนื้อแน่นเต็มจาน
** มาที่เรื่องของรสชาติ บอกตามตรงว่าตอนแรกก็แอบเผื่อใจไว้นิดๆ เพราะคงไม่มีทุเรียนที่ไหน
เหมือนกินจากประเทศไทยแท้ๆ แต่คุณพระ ! หลังจากที่หยิบพลูอวบๆ ขึ้นมาลองกัดคำแรกก็น้ำตาคลอ
เพราะมันคือรสชาติที่เราคิดถึง รสชาติของทุเรียนหมอนทองของไทยที่คุ้นเคย เนื้อแน่นฟู รสสัมผัส
กรอบนอกนุ่มใน รสชาติก็หอมหวานจับใจ ไม่ทำให้ผิดหวัง พลูแรกผ่านไป พลูสอง พลูสามค่อยๆผ่านไป
ทั้งไทย และเทศ ต่างกินกันอย่างเอร็ดอร่อย นับว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับดินเนอร์มื้อนี้ได้ดีเลยทีเดียว
บอกเลยว่าทุเรียนหมอนทองเจ้านี้ ทำให้เรารู้สึก “เหมือนได้กลับไปกินทุเรียนที่เมืองไทยจริงๆ”
เพราะยังคงคุณภาพของความสดใหม่ ในทั้งด้านรูปลักษณ์ กลิ่น และรสชาติได้เป็นอย่างดี
เพราะ “No Frozen” ก็สมกับเป็น “Premium Quality” ตามที่ได้การันตีไว้บนกล่องจริงๆ
เอาล่ะค่ะ... หวังว่ารีวิวฉบับนี้ จะเป็นอีกหนึ่ง Choice ดีๆ สำหรับใครที่คิดถึงอาหารไทย ผลไม้ไทย
หรืออยากลิ้มลองของไทย ก็สามารถหาซื้อมาลองกันได้ สดใหม่ เหมือนอยู่ไทยจริงๆ ราคาก็สมคุณภาพ
อยากให้เพื่อนๆได้ลอง รับรองว่า “ไม่ผิดหวัง” เผลอๆ Roommate ของท่าน อาจติดใจ
ไม่เสียชื่อแน่นอนค่ะ อยากกินเมื่อไร ก็แวะไปซื้อได้ตลอด ไม่ต้องรอกลับไทย...
หมดกังวลเรื่องแอบแบกทุเรียนขึ้นเครื่องอีกต่อไป...
“ถึงตัวจะอยู่ไกล แต่ใจยังรักทุเรียน” จริงๆ (หัวเราะ)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้