สวัสดีค่ะ ดิฉันอยากจะถามเพื่อนๆว่ามีใครเคยเจอกรณีแบบนี้บ้างมั้ย แล้วแต่ละคนมีวิธีแก้ปัญหายังไงคะ
เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันมีสินเชื่อบ้านกับTMB ครบสามปีไปเมื่อ22 เม.ย ที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ย3ปีแรก 3.99% ปีที่4 เป็นต้นไป 5% เนื่องจากดิฉันไม่ต้องการจะเสียดอกเบี้ยแพงในอัตรา5% จึงยื่นเรื่องขอลดดอกเบี้ยกับTMB จากการสอบถามกับจนท.ธนาคารทราบว่าสนง.ใหญ่ใช้เวลาเป็นเดือนในการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ย ดิฉันเลยไปยื่นเรื่องตั้งแต่ 11 กพ.62 โดยไปยื่นเรื่องขอลดดอกเบี้ยที่สาขาลาดพร้าว124 จนท.ที่รับเรื่อง ชื่อค.เจี๊ยบ ตอนแรกค.เจี๊ยบบอกว่ามาทำเรื่องเร็วไป ถ้าครบสามปี 22เม.ย. ควรมายื่นเรื่องประมาณต้นเม.ย.เพราะถึงยื่นเรื่องตอนนี้สนง.ใหญ่ก็ตีกลับอยู่ดี ดิฉันเลยบอกว่า ที่อยากมายื่นเรื่องตอนนี้เพราะมี.ค กับ เม.ย. งานจะยุ่งมากเลยอยากมายื่นเรื่องทิ้งไว้ก่อน พอถึงเวลาที่ค.เจี๊ยบคิดว่าเหมาะสมก็ฝากส่งเรื่องไปทางสนง.ใหญ่ให้ที แต่ค.เจี๊ยบบอกว่าจะลองส่งรื่องให้เลย หลังจากนั้นซักพักดิฉันโทรถามค.เจี๊ยบ ค.เจี๊ยบบอกสนง.ใหญ่ไม่ได้ตีเรื่องกลับมา ดิฉันก็รับทราบและก็ได้โทรสอบถามความคืบหน้ากับค.เจี๊ยบอยู่เรื่อยๆ และได้รับคำตอบว่าให้รอ ซึ่งดิฉันก็เข้าใจเพราะทราบอยู่แล้วว่าใช้เวลานาน จนวันที่ 1 เม.ย. โทรถามค.เจี๊ยบ ค.เจี๊ยบเลยโทรถามสนง.ใหญ่ให้ ได้ความว่าแบบฟอร์มที่ใช้ยื่นเรื่องครั้งแรก ไม่อัพเดทต้องเข้ามากรอกแบบฟอร์ม, เซ็นเอกสาร และยื่นเรื่องใหม่ ดิฉันก็เข้าไปเซ็นเอกสารวันนั้นเลย ต่อมาก็โทรถามค.เจี๊ยบอีกเรื่อยๆว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว ก็ได้คำตอบว่าให้รออย่างเดียว ทางสนง.ใหญ่จะติดต่อมาเอง แต่ดิฉันก็กังวลเพราะใกล้วันครบสัญญาสามปี นั่นหมายความว่า หลังวันที่22 เม.ย เป็นต้นไปดิฉันจะโดนคิดดอกเบี้ยที่5% จนวันที่22เม.ย. ดิฉันก็ยังไม่ได้รับโทรศัพท์จากสนง.ใหญ่ เลยโทรถามค.เจี๊ยบอีกที ค.เจี๊ยบเลยโทรถามสนง.ใหญ่ให้ และได้ความว่าสนง.ใหญ่กำลังพิจารณาเรื่องอยู่ ให้รอเหมือนเดิม ดิฉันจึงถามต่อว่าแล้วถ้าสนง.ใหญ่ติดต่อมาหลังวันนี้ ซึ่งดิฉันจะโดนชาร์จดอกเบี้ย5% ถ้าธนาคารยอมลดดอกเบี้ยให้และนัดเซ็นสัญญาใหม่ สัญญาจะมีผลย้อนหลังมั้ย ค.เจี๊ยบตอบว่าไม่ นั่นหมายความว่า ดิฉันจะต้องแบกรับภาระจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่แพง ในช่วงระหว่างที่รอสนง.ใหญ่ติดต่อมาจนถึงวันที่เซ็นสัญญาใหม่โดยที่TMBจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยทั้งที่เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะความล่าช้าของธนาคารเอง
ดิฉันก็ได้แต่รอต่อไป จนวันที่ 2 พค. ก็โทรหาค.เจี้ยบอีกรอบบอกว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากสนง.ใหญ่เลย คุณเจี๊ยบก็รีบโทรติดต่อสนง.ใหญ่ให้เพราะทราบว่าเลยวันครบกำหนดสามปีมาแล้วและตอนนี้ดิฉันกำลังจ่ายดอกเบี้ยแพง แล้วก็โทรกลับมาบอกว่าช่วยเร่งทางสนง.ใหญ่ให้แล้ว ให้รอโทรศัพท์จะมีจนท.ติดต่อมาในไม่ช้า พอวันที่ 7 พค. ค.นฤมลจากสนง.ใหญ่ก็ติดต่อมาแต่ดิฉันไม่ได้รับสายแต่พี่สาวเป็นคนรับเรื่องไว้ วันที่8 พค. ดิฉันก็รีบติดต่อกลับก็ตกลงอัตราดอกเบี้ยใหม่เรียบร้อย ค.นฤมลบอกว่าทางฝ่ายสินเชื่อจะมีการพิจารณาอนุมัติเรื่องดอกเบี้ยเป็นรอบๆ รอบเร็วสุดคือ 15 พค. หมายความว่าต้องรอฝ่ายสินเชื่ออนุมัติดอกเบี้ย เสร็จส่งเรื่องไปฝ่ายสัญญา แล้วจะมีจนท.โทรมานัดเซ็นสัญญาอีกทีหลัง15 พค. ให้รอ วันที่16 ดิฉันโทรไปหาค.นฤมลเพื่อถามความคืบหน้าแต่ไม่มีคนรับสาย
สิ่งที่ดิฉันกังวลคือ เมื่อไหร่TMBจะโทรมาเพื่อนัดเซ็นสัญญา แล้วดิฉันจะต้องจ่ายดอกเบี้ยบ้านในอัตราที่แพงไปถึงเมื่อไหร่ เหตุผลที่TMB ให้คือมีคนยื่นเรื่องขอลดดอกเบี้ยจากทั่วประเทศทำให้ต้องใช้เวลานาน แต่คำถามของดิฉันคือ แล้วทำไมผู้บริโภคหรือประชาชนคนธรรมดาต้องมาแบกรับภาระหรือผลเสียที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อ ไม่ใช่ว่าดิฉันเพิ่งทำเรื่องแล้วโทษว่าTMB ช้า แต่ดิฉันให้เวลาTMBแล้ว ก่อนหน้านี้ดิฉันได้สอบถามกับจนท.ธนาคารTMBหลายคนและได้รับคำตอบเหมือนกันในเรื่องระยะเวลาการยื่นเรื่องของลดดอกเบี้ยว่าควรยื่นประมาณต้นเม.ย.และธนาคารจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ1เดือน และถ้ายื่นเรื่องก่อนล่วงหน้านาน เรื่องก็จะถูกตีกลับ ดิฉันเลยถามต่อว่าเดือนเม.ย.มีวันหยุดยาวสงกรานต์แล้วธนาคาจะพิจารณาเรื่องทันก่อนวันที่22เม.ย ซึ่งเป็นวันครบกำหนดสามปีมั้ย ไม่มีใครตอบได้ซึ่งดิฉันเข้าใจ แต่พอถามว่าแล้วถ้าตกลงดอกเบี้ยใหม่ได้และเซ็นสัญญา แต่เลยวันครบสามปีสัญญาจะมีผลย้อนหลังมั้ย คำตอบคือไม่
ดิฉันถึงกับงงและอึ้งไปพักหนึ่งกับกระบวนการการพิจารณาลดดอกเบี้ยของTMB เพราะ 1) ถ้าลูกค้าจะยื่นเรื่องก่อนนานกว่า1 เดือนที่สัญญาจะครบสามปี เรื่องจะถูกตีกลับ 2) ถ้ายื่นเรื่องก่อนประมาณ1เดือน ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าเรื่องจะถูกพิจารณาให้เสร็จภายใน1เดือน หรือก่อนครบกำหนดสัญญาสามปี3) ถ้าธนาคารพิจารณาเรื่องเสร็จจนนัดเซ็นสัญญากับลูกค้าและเลยวันครบสามปี สัญญาไม่มีผลย้อนหลัง นั่นหมายความว่าช่วงระหว่างที่รอ ลูกค้าต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงแต่ธนาคารกลับปฏิเสธการชดเชยให้กับลูกค้าและผลักภาระมาให้ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบ
ดิฉันไม่ทราบว่ามีคนเคยเจอกรณีแบบดิฉันบ้างมั้ย ถ้ามี เค้าแก้ปัญหากันยังไง เคยมีใครคิดที่จะเรียกร้องสิทธิของผู้บริโภคบ้างหรือไม่ ดิฉันมองว่านี่เป็นช่องโหว่ทางกระบวนการซึ่งถูกละเลยและไม่มีใครสนใจที่จะแก้ไข หรือนี่จะเป็นวิธีที่ธนาคารใช้เพื่อแสวงหาผลกำไรจากผู้บริโภคตาดำๆ แล้วก็ไม่มีใครคิดจะออกมาเรียกร้องสิทธิเลย
ยื่นเรื่องขอลดดอกเบี้ยเงินกู้บ้านกับTMBแต่เหมือนจะโดนยื้อ แบบนี้ทำยังไงดีคะ
เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันมีสินเชื่อบ้านกับTMB ครบสามปีไปเมื่อ22 เม.ย ที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ย3ปีแรก 3.99% ปีที่4 เป็นต้นไป 5% เนื่องจากดิฉันไม่ต้องการจะเสียดอกเบี้ยแพงในอัตรา5% จึงยื่นเรื่องขอลดดอกเบี้ยกับTMB จากการสอบถามกับจนท.ธนาคารทราบว่าสนง.ใหญ่ใช้เวลาเป็นเดือนในการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ย ดิฉันเลยไปยื่นเรื่องตั้งแต่ 11 กพ.62 โดยไปยื่นเรื่องขอลดดอกเบี้ยที่สาขาลาดพร้าว124 จนท.ที่รับเรื่อง ชื่อค.เจี๊ยบ ตอนแรกค.เจี๊ยบบอกว่ามาทำเรื่องเร็วไป ถ้าครบสามปี 22เม.ย. ควรมายื่นเรื่องประมาณต้นเม.ย.เพราะถึงยื่นเรื่องตอนนี้สนง.ใหญ่ก็ตีกลับอยู่ดี ดิฉันเลยบอกว่า ที่อยากมายื่นเรื่องตอนนี้เพราะมี.ค กับ เม.ย. งานจะยุ่งมากเลยอยากมายื่นเรื่องทิ้งไว้ก่อน พอถึงเวลาที่ค.เจี๊ยบคิดว่าเหมาะสมก็ฝากส่งเรื่องไปทางสนง.ใหญ่ให้ที แต่ค.เจี๊ยบบอกว่าจะลองส่งรื่องให้เลย หลังจากนั้นซักพักดิฉันโทรถามค.เจี๊ยบ ค.เจี๊ยบบอกสนง.ใหญ่ไม่ได้ตีเรื่องกลับมา ดิฉันก็รับทราบและก็ได้โทรสอบถามความคืบหน้ากับค.เจี๊ยบอยู่เรื่อยๆ และได้รับคำตอบว่าให้รอ ซึ่งดิฉันก็เข้าใจเพราะทราบอยู่แล้วว่าใช้เวลานาน จนวันที่ 1 เม.ย. โทรถามค.เจี๊ยบ ค.เจี๊ยบเลยโทรถามสนง.ใหญ่ให้ ได้ความว่าแบบฟอร์มที่ใช้ยื่นเรื่องครั้งแรก ไม่อัพเดทต้องเข้ามากรอกแบบฟอร์ม, เซ็นเอกสาร และยื่นเรื่องใหม่ ดิฉันก็เข้าไปเซ็นเอกสารวันนั้นเลย ต่อมาก็โทรถามค.เจี๊ยบอีกเรื่อยๆว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว ก็ได้คำตอบว่าให้รออย่างเดียว ทางสนง.ใหญ่จะติดต่อมาเอง แต่ดิฉันก็กังวลเพราะใกล้วันครบสัญญาสามปี นั่นหมายความว่า หลังวันที่22 เม.ย เป็นต้นไปดิฉันจะโดนคิดดอกเบี้ยที่5% จนวันที่22เม.ย. ดิฉันก็ยังไม่ได้รับโทรศัพท์จากสนง.ใหญ่ เลยโทรถามค.เจี๊ยบอีกที ค.เจี๊ยบเลยโทรถามสนง.ใหญ่ให้ และได้ความว่าสนง.ใหญ่กำลังพิจารณาเรื่องอยู่ ให้รอเหมือนเดิม ดิฉันจึงถามต่อว่าแล้วถ้าสนง.ใหญ่ติดต่อมาหลังวันนี้ ซึ่งดิฉันจะโดนชาร์จดอกเบี้ย5% ถ้าธนาคารยอมลดดอกเบี้ยให้และนัดเซ็นสัญญาใหม่ สัญญาจะมีผลย้อนหลังมั้ย ค.เจี๊ยบตอบว่าไม่ นั่นหมายความว่า ดิฉันจะต้องแบกรับภาระจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่แพง ในช่วงระหว่างที่รอสนง.ใหญ่ติดต่อมาจนถึงวันที่เซ็นสัญญาใหม่โดยที่TMBจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยทั้งที่เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะความล่าช้าของธนาคารเอง
ดิฉันก็ได้แต่รอต่อไป จนวันที่ 2 พค. ก็โทรหาค.เจี้ยบอีกรอบบอกว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากสนง.ใหญ่เลย คุณเจี๊ยบก็รีบโทรติดต่อสนง.ใหญ่ให้เพราะทราบว่าเลยวันครบกำหนดสามปีมาแล้วและตอนนี้ดิฉันกำลังจ่ายดอกเบี้ยแพง แล้วก็โทรกลับมาบอกว่าช่วยเร่งทางสนง.ใหญ่ให้แล้ว ให้รอโทรศัพท์จะมีจนท.ติดต่อมาในไม่ช้า พอวันที่ 7 พค. ค.นฤมลจากสนง.ใหญ่ก็ติดต่อมาแต่ดิฉันไม่ได้รับสายแต่พี่สาวเป็นคนรับเรื่องไว้ วันที่8 พค. ดิฉันก็รีบติดต่อกลับก็ตกลงอัตราดอกเบี้ยใหม่เรียบร้อย ค.นฤมลบอกว่าทางฝ่ายสินเชื่อจะมีการพิจารณาอนุมัติเรื่องดอกเบี้ยเป็นรอบๆ รอบเร็วสุดคือ 15 พค. หมายความว่าต้องรอฝ่ายสินเชื่ออนุมัติดอกเบี้ย เสร็จส่งเรื่องไปฝ่ายสัญญา แล้วจะมีจนท.โทรมานัดเซ็นสัญญาอีกทีหลัง15 พค. ให้รอ วันที่16 ดิฉันโทรไปหาค.นฤมลเพื่อถามความคืบหน้าแต่ไม่มีคนรับสาย
สิ่งที่ดิฉันกังวลคือ เมื่อไหร่TMBจะโทรมาเพื่อนัดเซ็นสัญญา แล้วดิฉันจะต้องจ่ายดอกเบี้ยบ้านในอัตราที่แพงไปถึงเมื่อไหร่ เหตุผลที่TMB ให้คือมีคนยื่นเรื่องขอลดดอกเบี้ยจากทั่วประเทศทำให้ต้องใช้เวลานาน แต่คำถามของดิฉันคือ แล้วทำไมผู้บริโภคหรือประชาชนคนธรรมดาต้องมาแบกรับภาระหรือผลเสียที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อ ไม่ใช่ว่าดิฉันเพิ่งทำเรื่องแล้วโทษว่าTMB ช้า แต่ดิฉันให้เวลาTMBแล้ว ก่อนหน้านี้ดิฉันได้สอบถามกับจนท.ธนาคารTMBหลายคนและได้รับคำตอบเหมือนกันในเรื่องระยะเวลาการยื่นเรื่องของลดดอกเบี้ยว่าควรยื่นประมาณต้นเม.ย.และธนาคารจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ1เดือน และถ้ายื่นเรื่องก่อนล่วงหน้านาน เรื่องก็จะถูกตีกลับ ดิฉันเลยถามต่อว่าเดือนเม.ย.มีวันหยุดยาวสงกรานต์แล้วธนาคาจะพิจารณาเรื่องทันก่อนวันที่22เม.ย ซึ่งเป็นวันครบกำหนดสามปีมั้ย ไม่มีใครตอบได้ซึ่งดิฉันเข้าใจ แต่พอถามว่าแล้วถ้าตกลงดอกเบี้ยใหม่ได้และเซ็นสัญญา แต่เลยวันครบสามปีสัญญาจะมีผลย้อนหลังมั้ย คำตอบคือไม่
ดิฉันถึงกับงงและอึ้งไปพักหนึ่งกับกระบวนการการพิจารณาลดดอกเบี้ยของTMB เพราะ 1) ถ้าลูกค้าจะยื่นเรื่องก่อนนานกว่า1 เดือนที่สัญญาจะครบสามปี เรื่องจะถูกตีกลับ 2) ถ้ายื่นเรื่องก่อนประมาณ1เดือน ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าเรื่องจะถูกพิจารณาให้เสร็จภายใน1เดือน หรือก่อนครบกำหนดสัญญาสามปี3) ถ้าธนาคารพิจารณาเรื่องเสร็จจนนัดเซ็นสัญญากับลูกค้าและเลยวันครบสามปี สัญญาไม่มีผลย้อนหลัง นั่นหมายความว่าช่วงระหว่างที่รอ ลูกค้าต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงแต่ธนาคารกลับปฏิเสธการชดเชยให้กับลูกค้าและผลักภาระมาให้ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบ
ดิฉันไม่ทราบว่ามีคนเคยเจอกรณีแบบดิฉันบ้างมั้ย ถ้ามี เค้าแก้ปัญหากันยังไง เคยมีใครคิดที่จะเรียกร้องสิทธิของผู้บริโภคบ้างหรือไม่ ดิฉันมองว่านี่เป็นช่องโหว่ทางกระบวนการซึ่งถูกละเลยและไม่มีใครสนใจที่จะแก้ไข หรือนี่จะเป็นวิธีที่ธนาคารใช้เพื่อแสวงหาผลกำไรจากผู้บริโภคตาดำๆ แล้วก็ไม่มีใครคิดจะออกมาเรียกร้องสิทธิเลย