คุณคิดอย่างไรกับพ่อแม่ที่เห็นแกตัวปล่อยปะละเลยไม่สนใจดูแลลูก เอาคำว่าบุญคุณที่ให้กำเหนิดมาเป็นข้ออ้าง เพื่อทำลายชีวิตลูกของตัวเอง
คือครอบครัวเราไม่ได้สมบูรณ์เราเกิดจากครอบครัวที่แม่มีชู้พ่อติดการพนัน หลังจากที่เค้าทั้งสองคนหย่ากันเรายืนยันจะอยู่กับพ่อแต่แม่ดราม่าเล่นน้ำตาเราเลยสงสารแม่เลยอยู่กับแม่(ตอนนั้นเรา5ขวบ เราเป็นคนบอกให้พ่อกับแม่หย่ากันเอง เพราะเราไม่เห็นว่าพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขถึงจะไม่ได้ทะเลาะกันให้เราเห็นแต่เรารู้สึกได้ว่าเค้าทั้ง2คนไม่ได้รักกันแล้วแต่ทนอยู่เพื่อลูก) แล้วเราก็อยู่กับแม่ แต่แม่ไม่ได้เลี้ยงเราแม่ไปทำงานแล้วเราก็อยู่กับยายเลี้ยง ซึ่งหลังจากนั้นเวลาแม่เลิกงานถ้าแม่ปกติที่อยู่บ้านเดียวกันกับลูก(คือครอบครัวเราอยู่กัน7คนซึ่งรวมแม่เราด้วย) คือเลิกงานมาก็จะกลับบ้านมาหาลูกมาอยู่กับลูกแต่แม่เราใช้เวลาหลังเลิกงานไปอยู่กับผู้ชายไปหาผู้ชายไปเที่ยว ปล่อยให้เรานอนอยู่ในห้องนอนมึดๆคนเดียว(เด็ก5ขวบ)แล้วมาอ้างกับเราว่าที่ต้องไปหาผู้ชายเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงดูเราทั้งๆที่เราเรียนโรงเรียนรัฐบาลและไม่เคยเรียกร้องอะไรเลยที่อยากจะเรียนโรงเรียนเอกชนเพราะคิดว่าแม่มีส่งให้แค่นี้ก็โอเคแล้ว พอเราโตมาเรื่อยๆเราก็อยากให้แม่มีเวลาอยู่กับเราให้เวลากับเราบ้างแต่แม่ก็อ้างอยู่แบบนั้นบ้างทีโกหกเราด้วยซ้ำว่าทำงานแต่เอาเวลาไปหาผู้ชายอยู่กับผู้ชายจนเราโทรไปที่ทำงานแม่แล้วคนที่ทำงานแม่บอกว่าวันนี้เป็นวันหยุดแม่เป็นวันแรกที่เราโกรธแม่มากๆจนเอาหัวตัวเองโคกกับชักโครกที่บ้าน (คือจะเล่าถึงสาเหตุว่าทำไมเราถึงเป็นเด็กก้าวร้าวอารมณ์รุนแรง เพราะเราโดนยายเลี้ยงที่เลี้ยงเราตบตีตลอด ทั้งตบหน้า ทั้งจิกหัว ทั้งน้ำลายใส่ เพราะเราไม่ทำตามที่เค้าบอก และเราคิดว่าที่เราโดนทำแบบนี้เพราะยายเลี้ยงเราเกลียดแม่ของเราเลยมาลงที่เราด้วย((โดนทำแบบนี้ตั้งแต่หลังจากที่พ่อเราเลิกกับแม่เราตั้งแต่5ขวบยันอายุ15(((ตอนแม่เรายังไม่หย่ากับพ่อ พ่อเรารับราชการเลิกงานมาจะนั่งรถไฟกลับมาบ้านมาสอนการบ้านเราทุกเย็น) พ่อแม่เราได้ผัวใหม่คือพ่อเลี้ยงเรา(จดทะเบียนสมรส)(ก่อนจะมีพ่อเลี้ยงแม่เราก็มีผู้ชายใหม่หลังจากพ่อเราอีก2-3คนก่อนจะมาเจอกับพ่อเลี้ยง) จนกระทั่งหายนะของชีวิตเราก็มาถึงเมื่อแม่เราพาเราไปบ้านพ่อเลี้ยงอยู่ในความดูแลของพ่อเลี้ยงแล้วแม่เราก็ปล่อยให้เราอยู่กับพ่อเลี้ยงและลูกชายของพ่อเลี้ยงตามลำพังตอนนั้นเรา7-8ขวบ แล้วแม่เราก็ออกไปทำงานแล้วสิ่งที่บัดซบที่สุดในชีวิตเราก็เกิดขึ้น เราถูกลูกชายของพ่อเลี้ยงเราข่มขื่นเราด้วยการเอานิ้วสอดใส่อวัยวะเพศของเรา แต่เราไม่กล้าร้องไม่กล้าเอะอะโวยวาย(บ้านพ่อเลี้ยงมี2ชั้น เราโดนข่มขืนอยู่ชั้นล่าง พ่อเลี้ยงเรานอนดูทีวีอยู่ชั้นบน) เพราะเรากลัวโดนฆ่า เพราะลูกชายของพ่อเลี้ยงเราพึ่งออกจากคุกมั่วยา หลังจากนั้นเราก็ไม่กล้าบอกใครไม่เคยพูดกับใครเลยว่าเราเจออะไรมาบ้างแม้กระทั่งแม่ของเรา เพราะเราไม่อยากให้แม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พอหลังจากนั้นลูกพ่อเลี้ยงก็โดนจับเพราะเรื่องยา แต่เรารู้สึกว่าเราโดนทอดทิ้งโดดเดียว เดียวดายมาก (ตอนเราอายุ9ขวบเราเคยคิดหาวิธีที่จะฆ่าตัวตาย)เพราะตอนนั้นขนาดเราไม่สบายเป็นไข้แม้แต่ยาแม่เรายังไม่เอาให้กินเลยสักเม็ด(เพราะต้องไปทำงานเลยดูแลเราไม่ได้((เราอยู่บ้านกับพ่อเลี้ยง)จนเวลาล่วงเลยไปจนเราเรียนม.ต้น ก็เหมือนกับวัยรุ่นทั่วไปคือมีเพื่อนมีผู้ชายมาจีบเราก็เริ่มเสียความบริสุทธิ์ ณ ตอนนั้น แล้วเราก็เริ่มทะเลาะกับแม่ เพราะแม่ไม่เข้าใจเราอะไรเราก็ผิดตลอด เราแค่อยากมีสังคมของเราแต่แม่เริ่มจะมาวิ่งไล่ตามเราตอนที่เราไม่ต้องการแม่อีกแล้ว เราอยากอยู่กับเพื่อนเราอยากมีสังคม เราอยากทำอะไรที่เราอยากทำ(หมายถึง เตะบอล คุยกับเพื่อน ไปแว้นกับเพื่อนไรงี้ ซึ่งตอนนั้นบ้านเราห้ามเรามาก ขนาดโรงเรียนห่างจากบ้านแค่3กิโล ยังไม่ให้เรากลับดึกๆเลย พอหลังจากเราเรียนจบม.ต้น เราก็อยากเรียนโรงเรียนพาณิชย์เพราะเราไม่เก่งเลข แต่แม่เราบังคับให้เราเรียนม.ปลาย (เพราะความฝันแม่ แม่เราอยากให้เราทำงานในสถานฑูตหรือเป็นแอร์) คือเราถนัดภาษาอังกฤษ ที่เราได้ภาษาอังกฤษเพราะเราชอบฟังเพลงสากลตั้งแต่4ขวบ-ปัจจุบัน26ขวบ แล้วก็ตอนอายุ14มีฝรั่งมาจีบเราแก่แล้วแหละแต่ตอนนั้นเราพูดภาษาอังกฤษไม่เป็นบวกกับแม่เลิกกับพ่อเลี้ยงเพราะพ่อเลี้ยงจับได้ว่าแม่มีชู้หนีไปอยู่กับชู้ หลังจากนั้นสถานะทางการเงินแม่ก็ตกต่ำ เราไม่เคยเข้าครอสเรียนภาษาอังกฤษเลย เราก็อาศัยตรงช่วงฝรั่งมาจีบเราให้แม่เป็นล่ามช่วยสอนภาษาอังกฤษให้เราไปเที่ยวไหนก็เอาแม่ไปด้วยเป็นไม้กันหมา555 พอเราโตมาจนถึงตอนนี้ เรามีลูกเรามีครอบครัวของเราเองแล้วแต่ทำไมแม่ไม่ยอมปล่อยชีวิตเราสักที คือมาพูดแบบเหนบแนมทวงบุญคุณตลอดเวลาทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ร้องขออะไรที่พิเศษไปกว่าชีวิตเด็กธรรมดาเลย ชอบพูดเรื่องพัฒนาการของลูกเรา ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องของแม่เราเลย เราเลี้ยงลูกเองอยู่ต่างประเทศค่ะ คือเราจะทำยังไงดีที่ใก้เราได้เป็นอิสระจากแม่ของเราสักที(แต่ไม่ถึงกับตัดขาด เพราะแม่เรายังเป็นยายของลูกเราอยู่ เราอาจจะมีความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับแม่เรา แต่เราก็ยังไม่อยากตัดโอกาสความสัมพันธ์ของยายกับหลานค่ะ) คือที่เราอยากจะพูดกับแม่คือ แม่ไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตหนูขอแค่ให้แม่ดูแลชีวิตของตัวเองให้ดีก็พอ จะพูดยังไงให้ดูซอฟที่สุดค่ะ
คุณคิดอย่างไรกับคำว่าบุญคุณที่เห็นแกตัว
คือครอบครัวเราไม่ได้สมบูรณ์เราเกิดจากครอบครัวที่แม่มีชู้พ่อติดการพนัน หลังจากที่เค้าทั้งสองคนหย่ากันเรายืนยันจะอยู่กับพ่อแต่แม่ดราม่าเล่นน้ำตาเราเลยสงสารแม่เลยอยู่กับแม่(ตอนนั้นเรา5ขวบ เราเป็นคนบอกให้พ่อกับแม่หย่ากันเอง เพราะเราไม่เห็นว่าพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขถึงจะไม่ได้ทะเลาะกันให้เราเห็นแต่เรารู้สึกได้ว่าเค้าทั้ง2คนไม่ได้รักกันแล้วแต่ทนอยู่เพื่อลูก) แล้วเราก็อยู่กับแม่ แต่แม่ไม่ได้เลี้ยงเราแม่ไปทำงานแล้วเราก็อยู่กับยายเลี้ยง ซึ่งหลังจากนั้นเวลาแม่เลิกงานถ้าแม่ปกติที่อยู่บ้านเดียวกันกับลูก(คือครอบครัวเราอยู่กัน7คนซึ่งรวมแม่เราด้วย) คือเลิกงานมาก็จะกลับบ้านมาหาลูกมาอยู่กับลูกแต่แม่เราใช้เวลาหลังเลิกงานไปอยู่กับผู้ชายไปหาผู้ชายไปเที่ยว ปล่อยให้เรานอนอยู่ในห้องนอนมึดๆคนเดียว(เด็ก5ขวบ)แล้วมาอ้างกับเราว่าที่ต้องไปหาผู้ชายเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงดูเราทั้งๆที่เราเรียนโรงเรียนรัฐบาลและไม่เคยเรียกร้องอะไรเลยที่อยากจะเรียนโรงเรียนเอกชนเพราะคิดว่าแม่มีส่งให้แค่นี้ก็โอเคแล้ว พอเราโตมาเรื่อยๆเราก็อยากให้แม่มีเวลาอยู่กับเราให้เวลากับเราบ้างแต่แม่ก็อ้างอยู่แบบนั้นบ้างทีโกหกเราด้วยซ้ำว่าทำงานแต่เอาเวลาไปหาผู้ชายอยู่กับผู้ชายจนเราโทรไปที่ทำงานแม่แล้วคนที่ทำงานแม่บอกว่าวันนี้เป็นวันหยุดแม่เป็นวันแรกที่เราโกรธแม่มากๆจนเอาหัวตัวเองโคกกับชักโครกที่บ้าน (คือจะเล่าถึงสาเหตุว่าทำไมเราถึงเป็นเด็กก้าวร้าวอารมณ์รุนแรง เพราะเราโดนยายเลี้ยงที่เลี้ยงเราตบตีตลอด ทั้งตบหน้า ทั้งจิกหัว ทั้งน้ำลายใส่ เพราะเราไม่ทำตามที่เค้าบอก และเราคิดว่าที่เราโดนทำแบบนี้เพราะยายเลี้ยงเราเกลียดแม่ของเราเลยมาลงที่เราด้วย((โดนทำแบบนี้ตั้งแต่หลังจากที่พ่อเราเลิกกับแม่เราตั้งแต่5ขวบยันอายุ15(((ตอนแม่เรายังไม่หย่ากับพ่อ พ่อเรารับราชการเลิกงานมาจะนั่งรถไฟกลับมาบ้านมาสอนการบ้านเราทุกเย็น) พ่อแม่เราได้ผัวใหม่คือพ่อเลี้ยงเรา(จดทะเบียนสมรส)(ก่อนจะมีพ่อเลี้ยงแม่เราก็มีผู้ชายใหม่หลังจากพ่อเราอีก2-3คนก่อนจะมาเจอกับพ่อเลี้ยง) จนกระทั่งหายนะของชีวิตเราก็มาถึงเมื่อแม่เราพาเราไปบ้านพ่อเลี้ยงอยู่ในความดูแลของพ่อเลี้ยงแล้วแม่เราก็ปล่อยให้เราอยู่กับพ่อเลี้ยงและลูกชายของพ่อเลี้ยงตามลำพังตอนนั้นเรา7-8ขวบ แล้วแม่เราก็ออกไปทำงานแล้วสิ่งที่บัดซบที่สุดในชีวิตเราก็เกิดขึ้น เราถูกลูกชายของพ่อเลี้ยงเราข่มขื่นเราด้วยการเอานิ้วสอดใส่อวัยวะเพศของเรา แต่เราไม่กล้าร้องไม่กล้าเอะอะโวยวาย(บ้านพ่อเลี้ยงมี2ชั้น เราโดนข่มขืนอยู่ชั้นล่าง พ่อเลี้ยงเรานอนดูทีวีอยู่ชั้นบน) เพราะเรากลัวโดนฆ่า เพราะลูกชายของพ่อเลี้ยงเราพึ่งออกจากคุกมั่วยา หลังจากนั้นเราก็ไม่กล้าบอกใครไม่เคยพูดกับใครเลยว่าเราเจออะไรมาบ้างแม้กระทั่งแม่ของเรา เพราะเราไม่อยากให้แม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พอหลังจากนั้นลูกพ่อเลี้ยงก็โดนจับเพราะเรื่องยา แต่เรารู้สึกว่าเราโดนทอดทิ้งโดดเดียว เดียวดายมาก (ตอนเราอายุ9ขวบเราเคยคิดหาวิธีที่จะฆ่าตัวตาย)เพราะตอนนั้นขนาดเราไม่สบายเป็นไข้แม้แต่ยาแม่เรายังไม่เอาให้กินเลยสักเม็ด(เพราะต้องไปทำงานเลยดูแลเราไม่ได้((เราอยู่บ้านกับพ่อเลี้ยง)จนเวลาล่วงเลยไปจนเราเรียนม.ต้น ก็เหมือนกับวัยรุ่นทั่วไปคือมีเพื่อนมีผู้ชายมาจีบเราก็เริ่มเสียความบริสุทธิ์ ณ ตอนนั้น แล้วเราก็เริ่มทะเลาะกับแม่ เพราะแม่ไม่เข้าใจเราอะไรเราก็ผิดตลอด เราแค่อยากมีสังคมของเราแต่แม่เริ่มจะมาวิ่งไล่ตามเราตอนที่เราไม่ต้องการแม่อีกแล้ว เราอยากอยู่กับเพื่อนเราอยากมีสังคม เราอยากทำอะไรที่เราอยากทำ(หมายถึง เตะบอล คุยกับเพื่อน ไปแว้นกับเพื่อนไรงี้ ซึ่งตอนนั้นบ้านเราห้ามเรามาก ขนาดโรงเรียนห่างจากบ้านแค่3กิโล ยังไม่ให้เรากลับดึกๆเลย พอหลังจากเราเรียนจบม.ต้น เราก็อยากเรียนโรงเรียนพาณิชย์เพราะเราไม่เก่งเลข แต่แม่เราบังคับให้เราเรียนม.ปลาย (เพราะความฝันแม่ แม่เราอยากให้เราทำงานในสถานฑูตหรือเป็นแอร์) คือเราถนัดภาษาอังกฤษ ที่เราได้ภาษาอังกฤษเพราะเราชอบฟังเพลงสากลตั้งแต่4ขวบ-ปัจจุบัน26ขวบ แล้วก็ตอนอายุ14มีฝรั่งมาจีบเราแก่แล้วแหละแต่ตอนนั้นเราพูดภาษาอังกฤษไม่เป็นบวกกับแม่เลิกกับพ่อเลี้ยงเพราะพ่อเลี้ยงจับได้ว่าแม่มีชู้หนีไปอยู่กับชู้ หลังจากนั้นสถานะทางการเงินแม่ก็ตกต่ำ เราไม่เคยเข้าครอสเรียนภาษาอังกฤษเลย เราก็อาศัยตรงช่วงฝรั่งมาจีบเราให้แม่เป็นล่ามช่วยสอนภาษาอังกฤษให้เราไปเที่ยวไหนก็เอาแม่ไปด้วยเป็นไม้กันหมา555 พอเราโตมาจนถึงตอนนี้ เรามีลูกเรามีครอบครัวของเราเองแล้วแต่ทำไมแม่ไม่ยอมปล่อยชีวิตเราสักที คือมาพูดแบบเหนบแนมทวงบุญคุณตลอดเวลาทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ร้องขออะไรที่พิเศษไปกว่าชีวิตเด็กธรรมดาเลย ชอบพูดเรื่องพัฒนาการของลูกเรา ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องของแม่เราเลย เราเลี้ยงลูกเองอยู่ต่างประเทศค่ะ คือเราจะทำยังไงดีที่ใก้เราได้เป็นอิสระจากแม่ของเราสักที(แต่ไม่ถึงกับตัดขาด เพราะแม่เรายังเป็นยายของลูกเราอยู่ เราอาจจะมีความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับแม่เรา แต่เราก็ยังไม่อยากตัดโอกาสความสัมพันธ์ของยายกับหลานค่ะ) คือที่เราอยากจะพูดกับแม่คือ แม่ไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตหนูขอแค่ให้แม่ดูแลชีวิตของตัวเองให้ดีก็พอ จะพูดยังไงให้ดูซอฟที่สุดค่ะ