การสั่งซื้อครั้งแรกกับแอป
Shopee ยอดนิยม โดยเราก็เลือกตามร้านที่มีรูปสินค้าชัดเจน มีรีวิวจากคนอื่นๆ เช่นภาพ(อันดับแรก)
คอมเม้นต่างๆ เพราะบางร้านก็ไม่ได้ถ่ายตัวสินค้าจริงมาลงขาย แต่เป็นรูปที่ตกแต่งเพื่อการค้า ซึ่งร้าน Mliving ก็เป็นอันดับต้นๆในใจล่ะ
ที่จะซื้อราวตากผ้า ประเมินจากราคาและมีคอมเม้นภาพจริงให้เห็นต่างจากร้านอื่นที่ขายสินค้าชนิดเดียวกัน เลยกดสั่งไปพร้อมกับสินค้า
ชนิดอื่นที่มีขายอีก รวม 3 รายการ 6 ชิ้น โดยกดสั่งไป - ตัดจ่ายบัตรเครดิตสะดวกรวดเร็ว...สบายใจล่ะ ราวแขวนผ้าที่บ้านพังพอดี ให้คุณแม่ดูแล้วก็ชอบ
จากนั้นก็รอ...รอจนวันเกือบสุดท้ายก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวทางสินค้า จนเราร้อนใจติดต่อไปทางข้อความ...ร้านมาตอบเอาวันที่ 2
ตอน 5 ทุ่มกว่าๆ ก็โล่งใจไปนึกว่าจะไม่ได้สินค้าแล้ว ใจหายหมด เงินก็ตัดจ่ายไปแล้ว
ได้สินค้ามาจากพนง. kerry เจ้าประจำ แต่มาส่งตอนเราไปทำงาน ก็เลยได้ประกอบในวันถัดไป
นี่คือสินค้าที่ได้และภาพที่เป็นที่มาของเรื่อง จนเราต้องเอามารีวิวค่ะ เพื่อไม่ให้คนพลาดเหมือนเรากับเเม่อีก...


รูปบน ฝั่งซ้ายคือราวตากผ้าที่สั่งมา 2 อันค่ะ และ ฝั่งขวาคือสินค้าที่เราได้ไม่ครบค่ะ ขาดตรงข้อต่อด้านล่าง...
ก็ติดต่อร้านไปทางข้อความค่ะ รอร้านตอบอีก 1 วัน...
ข้อสรุปที่ได้จากร้านคือตามนี้ค่ะ


ช่วงหลังจากนี้คือทางร้านโทรมาค่ะ ก็พูดเหมือนบทสนทนาในภาพเลยค่ะ ให้เลือก...ด้วยความร้อนใจที่ไม่รู้จะเอายังไงกับสินค้า
เพราะติดต่อทางร้านก็ไม่มีใครตอบ เนื่องจากมีช่องทางเดียวในการติดต่อ ก็เลยไม่เคยปรึกษากับแม่ไว้ก่อนค่ะ
เราก็เลยบอกทางร้านว่าขอเวลาสักครู่นะคะ
รอบ 2....แม่ก็เลยคุยเองค่ะ โดยตอนแรกเลือกว่าจะให้ส่งอะไหล่มาค่ะ เพราะว่าในส่วนของเรื่องค่าจัดส่งยังไม่มีใครให้คำตอบได้
เพราะติดต่อทางร้านไม่ได้ ก็เลยโทรเข้า callcenter Shopee ค่ะ เพื่อปรึกษาหาทางแก้ไขเบื้องต้น คือให้ตกลงกับทางร้านเอง
โดยส่วนมากทางร้านจะเป็นผู้ออกค่าจัดส่งให้ ในกรณีของเรา คือของชำรุด/มาไม่ครบ
แต่ถ้าติดต่อทางร้านไม่ได้ ลูกค้าอาจจะต้องส่งสินค้ากลับไป แล้วรอทางร้านติดต่อกลับมา...คือเราก็เสียเงินค่าส่งคืนเองแบบนั้น
พอได้คุยกับร้าน....ร้านก็บอกว่าให้เราส่งสินค้ากลับคืนไปแล้วเอาใบเสร็จค่าส่งมาขอเงินคืนกับทางแอป Shopee...
ตอนนั้นคือเริ่มงงแล้ว... ด้วยสอบถามกับแอปมาก่อน แต่พอคุยกับร้านกลับให้ไปเอาจากแอปแทน
แต่ในความกำลังสับสนว่าควรเชื่อใคร?
ราวตากผ้าที่ได้มาอีกอันที่อปก.ครบ นั้น แม่บอกเราก่อนแล้วว่าตอนประกอบข้อต่อช่วงล่างไม่ค่อยดี เลยจะขอเคลมเฉพาะข้อต่อช่วงล่าง
แต่ทางร้านกลับบอกว่าถ้าให้ เท่ากับทางร้านเสียสินค้าไปฟรี 2 ชิ้น
โดยร้านค้าบอกเองว่า
สินค้าทุกชิ้นร้านค้าไม่เคยเปิดดูก่อนส่งให้ลูกค้า
ต้องแล้วแต่ดวงลูกค้าคนไหนจะเจอแบบไหน ((อันนี้เราเติมเองค่ะ))
คือทางเจ้าของร้านผู้หญิงอาจจะเริ่มมีอารมณ์ไม่ดี น้ำเสียงที่ใช้กับแม่เราก็เริ่มแข็งขึ้น เราเองฟังแล้วก็รู้สึกไม่ดีมากขึ้นกับร้านนี้
แม่ : บอกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนะคะทำการค้าแบบนี้ ไม่ตรวจดูสินค้าก่อน งั้นจะขอคืนราวตากผ้าอันที่ชำรุดไปแล้วกันนะคะ แต่ทางนี้ก็จะขอรีวิวสินค้านะคะ
ร้าน : ถ้าคุณลูกค้าจะรีวิวสินค้าเราในทางไม่ดี ทางเราขอไม่กดรับคืนสินค้านะคะ แล้วก็เริ่มทำน้ำเสียงสะบัดมาทางปลายสาย
แม่ : อ้าวคุณ สินค้าที่ทุกคนเขาเสียเงินซื้อมา ทุกคนก็มีสิทธิที่จะรีวิว ว่ามันดีหรือไม่ดี
ร้าน : ถ้าอย่างนั้นทางเราขอไม่กดรับคืนสินค้านะคะ!
แม่ : คุณคะ ช่วยพูดจาให้น้ำเสียงมันดีๆได้ไหมคะ สินค้าของคุณรวมแล้วราคาแค่พันกว่าบาท ไม่เห็นต้องใส่อารมณ์เลยนะคะ
เราไม่ได้ไปขอคุณมาฟรี แล้วที่สำคัญเราเองก็ไม่ใช่คนผิดที่สั่งสินค้ามาแล้วมันชำรุด ช่วยพูดจากันดีๆได้ไหมคะ
ร้าน : ก็เมื่อกี้คุณข่มขู่ฉันก่อนนี่คะ(เรื่องที่ขอเคลมอันที่ไม่ดี) ฉันก็เลยต้องพูดจาแบบนี้ค่ะ
ทางร้าน...พูดเสียงสะบัดใส่แม่เราเนื้อหาประมานนี้ค่ะ จริงๆยาวกว่านั้น ใครเด็กกว่าใครผู้ใหญ่กว่าไม่มีค่ะสำหรับเจ้าของร้านนี้...
ตอนนั้นคือเราทั้งโกรธร้าน ที่สำคัญคือ
โกรธตัวเองค่ะ!
ทำไมแม่เราจะต้องมาเจอร้านค้าที่ไม่มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ด้วย แค่ของราคาพันกว่าบาท แต่แม่เรากลับต้องเจอทั้งบอกว่า
แม่เราจะโกง แม่เราข่มขู่เขา คือแย่มาก...จริงๆค่ะในความรู้สึกตอนนั้นกับทั้งร้านและตัวแอปเอง
เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าการที่ได้รับสินค้าชำรุด/เงินค่าส่งคืนใครออก ร้านค้า Mliving หรือ Shopee app/เคลมข้อต่อช่วงที่ไม่แข็งแรงได้ไหม
คือทัศนคติของเจ้าของร้านผู้หญิงค่ะ!
จากบทสนทนาข้างบน ทางเจ้าของร้านไม่มีทัศนคติที่ดีและทัศนวิสัยในการทำการค้าเลยค่ะ คือเหมือนอยู่ๆก็วีนขึ้นมา
สุดท้ายคือเราและแม่เลือกที่จะคืนทุกอย่างกลับไปค่ะ! เราไม่อยากได้ของที่พอเราเห็น เราก็จะนึกถึงบทสนทนาวันนี้กันอีกค่ะ
โดยกดคืนทั้งออเดอร์ และเสียค่าโง่ไปด้วย 290 บาท ผ่านทาง Kerry ค่ะ...เพราะไม่มีใครรับผิดชอบในส่วนนี้ให้
ทางร้านเองก็ตัดสายไปไม่ติดต่อมาตั้งแต่วันที่คุยกัน
Shopee : พนง.บอกว่าร้านไม่ใช่ร้านแนะนำที่ shopee รับรอง แล้วพนง.ก็เงียบไป
เรา : โอเคค่ะ ถ้าทางแอปไม่สามารถรับผิดชอบหรือช่วยเหลืออะไรได้เลย ก็ขอบคุณนะคะ
จึงไม่มีใครมีความรับผิดชอบในส่วนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ทางเดียวคือต้องคุยกับทางร้านเอง....เยี่ยมจริงๆ

***อยากให้ทุกคนจำไว้นะคะและไม่พลาดแบบเรา เราสรุปได้เองว่าถ้าไม่ใช่ร้านที่มีคำว่าแนะนำตรงหัวมุม***
จะเท่ากับ
ร้านค้าเถื่อน(อันนี้เติมเองให้เข้าใจง่าย) ของ shopee เพราะมันจะไม่มีรับประกันอะไรเลย แบบที่เราเจอคือพลาดที่ไม่รู้ว่าต้องซื้อยังไง
ก็ได้แต่รอเงินคืนตามระบบ เพราะทางร้านก็ไม่ได้ติดต่อมาอีก เพราะสินค้าที่เราส่งคืนไปก็แพ็คกลับเหมือนเดิมเรียบร้อย
1) ส่งภาพยืนยันกับ shopee ทั้งภาพของและภาพกล่อง + ใบเสร็จส่งของ
จากนั้นก็รอร้านได้รับสินค้าจะกดรับสินค้าให้
ระบบถึงคืนเงินให้เรา(แบบปกติ)
2) กรณีเรานั้น รอ...จนหมดวันสุดท้ายของระบบคืนเงินค่ะ คือ 5 วัน เพราะทางร้านไม่กดรับให้ ทั้งที่ได้รับสินค้าไปนานแล้ว...
3) รู้สึกเหมือนโดยทิ้งให้ลอยตัวอยู่กลางทะเลดีค่ะ ต้องสละเวลาแพ็คของ สละเวลาไปส่งของ ถ่ายภาพยืนยันสินค้า ถ่ายใบเสร็จ
เหมือนทางแอปก็ไม่ได้ช่วยอะไรลูกค้าเลยค่ะ แต่เราก็ผิดเองที่ไม่ได้ซื้อกับร้านที่ลงทะเบียนค่ะ
ย้ำ!ร้านค้าแนะนำเท่านั้นค่ะ
เปรียบเทียบกับอีกเจ้านะคะ ขออนุญาติแอดมินและบริษัทที่น่ารักด้วยค่ะ


อันนี้ก็คือซื้อแค่ลิปสติกแท่งละไม่กี่บาท ถ้าใครเคยใช้ก็คงจะรู้ราคานะคะ แต่ความรับผิดชอบของเขามันมีราคามากกว่าตัวสินค้าจริงๆค่ะ
ลูกค้าแทบไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แล้วยังขอบคุณเราที่ไปบอกเขาเรื่องสินค้ามีความผิดปกติอีกค่ะ เขาจะได้ตรวจสอบสินค้า
เพื่อมาตราฐานที่ดีให้ลูกค้าได้ใช้ต่อๆไปด้วยค่ะ น่าชื่นชมจริงๆค่ะ ต่างจากร้านที่เราเสียค่าโง่ไป 290 บาทเลยค่ะ....T T
[CR] ร้าน Mliving ราวตากผ้าที่สั่งผ่านแอป Shopee กับทัศนคติร้านที่แย่ ขึ้นเสียงใส่แม่เรา
คอมเม้นต่างๆ เพราะบางร้านก็ไม่ได้ถ่ายตัวสินค้าจริงมาลงขาย แต่เป็นรูปที่ตกแต่งเพื่อการค้า ซึ่งร้าน Mliving ก็เป็นอันดับต้นๆในใจล่ะ
ที่จะซื้อราวตากผ้า ประเมินจากราคาและมีคอมเม้นภาพจริงให้เห็นต่างจากร้านอื่นที่ขายสินค้าชนิดเดียวกัน เลยกดสั่งไปพร้อมกับสินค้า
ชนิดอื่นที่มีขายอีก รวม 3 รายการ 6 ชิ้น โดยกดสั่งไป - ตัดจ่ายบัตรเครดิตสะดวกรวดเร็ว...สบายใจล่ะ ราวแขวนผ้าที่บ้านพังพอดี ให้คุณแม่ดูแล้วก็ชอบ
จากนั้นก็รอ...รอจนวันเกือบสุดท้ายก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวทางสินค้า จนเราร้อนใจติดต่อไปทางข้อความ...ร้านมาตอบเอาวันที่ 2
ตอน 5 ทุ่มกว่าๆ ก็โล่งใจไปนึกว่าจะไม่ได้สินค้าแล้ว ใจหายหมด เงินก็ตัดจ่ายไปแล้ว
ได้สินค้ามาจากพนง. kerry เจ้าประจำ แต่มาส่งตอนเราไปทำงาน ก็เลยได้ประกอบในวันถัดไป
นี่คือสินค้าที่ได้และภาพที่เป็นที่มาของเรื่อง จนเราต้องเอามารีวิวค่ะ เพื่อไม่ให้คนพลาดเหมือนเรากับเเม่อีก...
ก็ติดต่อร้านไปทางข้อความค่ะ รอร้านตอบอีก 1 วัน...
ข้อสรุปที่ได้จากร้านคือตามนี้ค่ะ
ช่วงหลังจากนี้คือทางร้านโทรมาค่ะ ก็พูดเหมือนบทสนทนาในภาพเลยค่ะ ให้เลือก...ด้วยความร้อนใจที่ไม่รู้จะเอายังไงกับสินค้า
เพราะติดต่อทางร้านก็ไม่มีใครตอบ เนื่องจากมีช่องทางเดียวในการติดต่อ ก็เลยไม่เคยปรึกษากับแม่ไว้ก่อนค่ะ
เราก็เลยบอกทางร้านว่าขอเวลาสักครู่นะคะ
รอบ 2....แม่ก็เลยคุยเองค่ะ โดยตอนแรกเลือกว่าจะให้ส่งอะไหล่มาค่ะ เพราะว่าในส่วนของเรื่องค่าจัดส่งยังไม่มีใครให้คำตอบได้
เพราะติดต่อทางร้านไม่ได้ ก็เลยโทรเข้า callcenter Shopee ค่ะ เพื่อปรึกษาหาทางแก้ไขเบื้องต้น คือให้ตกลงกับทางร้านเอง
โดยส่วนมากทางร้านจะเป็นผู้ออกค่าจัดส่งให้ ในกรณีของเรา คือของชำรุด/มาไม่ครบ
แต่ถ้าติดต่อทางร้านไม่ได้ ลูกค้าอาจจะต้องส่งสินค้ากลับไป แล้วรอทางร้านติดต่อกลับมา...คือเราก็เสียเงินค่าส่งคืนเองแบบนั้น
พอได้คุยกับร้าน....ร้านก็บอกว่าให้เราส่งสินค้ากลับคืนไปแล้วเอาใบเสร็จค่าส่งมาขอเงินคืนกับทางแอป Shopee...
ตอนนั้นคือเริ่มงงแล้ว... ด้วยสอบถามกับแอปมาก่อน แต่พอคุยกับร้านกลับให้ไปเอาจากแอปแทน
แต่ในความกำลังสับสนว่าควรเชื่อใคร?
ราวตากผ้าที่ได้มาอีกอันที่อปก.ครบ นั้น แม่บอกเราก่อนแล้วว่าตอนประกอบข้อต่อช่วงล่างไม่ค่อยดี เลยจะขอเคลมเฉพาะข้อต่อช่วงล่าง
แต่ทางร้านกลับบอกว่าถ้าให้ เท่ากับทางร้านเสียสินค้าไปฟรี 2 ชิ้น
โดยร้านค้าบอกเองว่าสินค้าทุกชิ้นร้านค้าไม่เคยเปิดดูก่อนส่งให้ลูกค้า
ต้องแล้วแต่ดวงลูกค้าคนไหนจะเจอแบบไหน ((อันนี้เราเติมเองค่ะ))
คือทางเจ้าของร้านผู้หญิงอาจจะเริ่มมีอารมณ์ไม่ดี น้ำเสียงที่ใช้กับแม่เราก็เริ่มแข็งขึ้น เราเองฟังแล้วก็รู้สึกไม่ดีมากขึ้นกับร้านนี้
แม่ : บอกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนะคะทำการค้าแบบนี้ ไม่ตรวจดูสินค้าก่อน งั้นจะขอคืนราวตากผ้าอันที่ชำรุดไปแล้วกันนะคะ แต่ทางนี้ก็จะขอรีวิวสินค้านะคะ
ร้าน : ถ้าคุณลูกค้าจะรีวิวสินค้าเราในทางไม่ดี ทางเราขอไม่กดรับคืนสินค้านะคะ แล้วก็เริ่มทำน้ำเสียงสะบัดมาทางปลายสาย
แม่ : อ้าวคุณ สินค้าที่ทุกคนเขาเสียเงินซื้อมา ทุกคนก็มีสิทธิที่จะรีวิว ว่ามันดีหรือไม่ดี
ร้าน : ถ้าอย่างนั้นทางเราขอไม่กดรับคืนสินค้านะคะ!
แม่ : คุณคะ ช่วยพูดจาให้น้ำเสียงมันดีๆได้ไหมคะ สินค้าของคุณรวมแล้วราคาแค่พันกว่าบาท ไม่เห็นต้องใส่อารมณ์เลยนะคะ
เราไม่ได้ไปขอคุณมาฟรี แล้วที่สำคัญเราเองก็ไม่ใช่คนผิดที่สั่งสินค้ามาแล้วมันชำรุด ช่วยพูดจากันดีๆได้ไหมคะ
ร้าน : ก็เมื่อกี้คุณข่มขู่ฉันก่อนนี่คะ(เรื่องที่ขอเคลมอันที่ไม่ดี) ฉันก็เลยต้องพูดจาแบบนี้ค่ะ
ทางร้าน...พูดเสียงสะบัดใส่แม่เราเนื้อหาประมานนี้ค่ะ จริงๆยาวกว่านั้น ใครเด็กกว่าใครผู้ใหญ่กว่าไม่มีค่ะสำหรับเจ้าของร้านนี้...
ตอนนั้นคือเราทั้งโกรธร้าน ที่สำคัญคือโกรธตัวเองค่ะ!
ทำไมแม่เราจะต้องมาเจอร้านค้าที่ไม่มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ด้วย แค่ของราคาพันกว่าบาท แต่แม่เรากลับต้องเจอทั้งบอกว่า
แม่เราจะโกง แม่เราข่มขู่เขา คือแย่มาก...จริงๆค่ะในความรู้สึกตอนนั้นกับทั้งร้านและตัวแอปเอง
เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าการที่ได้รับสินค้าชำรุด/เงินค่าส่งคืนใครออก ร้านค้า Mliving หรือ Shopee app/เคลมข้อต่อช่วงที่ไม่แข็งแรงได้ไหม
คือทัศนคติของเจ้าของร้านผู้หญิงค่ะ!
จากบทสนทนาข้างบน ทางเจ้าของร้านไม่มีทัศนคติที่ดีและทัศนวิสัยในการทำการค้าเลยค่ะ คือเหมือนอยู่ๆก็วีนขึ้นมา
สุดท้ายคือเราและแม่เลือกที่จะคืนทุกอย่างกลับไปค่ะ! เราไม่อยากได้ของที่พอเราเห็น เราก็จะนึกถึงบทสนทนาวันนี้กันอีกค่ะ
โดยกดคืนทั้งออเดอร์ และเสียค่าโง่ไปด้วย 290 บาท ผ่านทาง Kerry ค่ะ...เพราะไม่มีใครรับผิดชอบในส่วนนี้ให้
ทางร้านเองก็ตัดสายไปไม่ติดต่อมาตั้งแต่วันที่คุยกัน
Shopee : พนง.บอกว่าร้านไม่ใช่ร้านแนะนำที่ shopee รับรอง แล้วพนง.ก็เงียบไป
เรา : โอเคค่ะ ถ้าทางแอปไม่สามารถรับผิดชอบหรือช่วยเหลืออะไรได้เลย ก็ขอบคุณนะคะ
จึงไม่มีใครมีความรับผิดชอบในส่วนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ทางเดียวคือต้องคุยกับทางร้านเอง....เยี่ยมจริงๆ
***อยากให้ทุกคนจำไว้นะคะและไม่พลาดแบบเรา เราสรุปได้เองว่าถ้าไม่ใช่ร้านที่มีคำว่าแนะนำตรงหัวมุม***
จะเท่ากับร้านค้าเถื่อน(อันนี้เติมเองให้เข้าใจง่าย) ของ shopee เพราะมันจะไม่มีรับประกันอะไรเลย แบบที่เราเจอคือพลาดที่ไม่รู้ว่าต้องซื้อยังไง
ก็ได้แต่รอเงินคืนตามระบบ เพราะทางร้านก็ไม่ได้ติดต่อมาอีก เพราะสินค้าที่เราส่งคืนไปก็แพ็คกลับเหมือนเดิมเรียบร้อย
1) ส่งภาพยืนยันกับ shopee ทั้งภาพของและภาพกล่อง + ใบเสร็จส่งของ
จากนั้นก็รอร้านได้รับสินค้าจะกดรับสินค้าให้ ระบบถึงคืนเงินให้เรา(แบบปกติ)
2) กรณีเรานั้น รอ...จนหมดวันสุดท้ายของระบบคืนเงินค่ะ คือ 5 วัน เพราะทางร้านไม่กดรับให้ ทั้งที่ได้รับสินค้าไปนานแล้ว...
3) รู้สึกเหมือนโดยทิ้งให้ลอยตัวอยู่กลางทะเลดีค่ะ ต้องสละเวลาแพ็คของ สละเวลาไปส่งของ ถ่ายภาพยืนยันสินค้า ถ่ายใบเสร็จ
เหมือนทางแอปก็ไม่ได้ช่วยอะไรลูกค้าเลยค่ะ แต่เราก็ผิดเองที่ไม่ได้ซื้อกับร้านที่ลงทะเบียนค่ะ ย้ำ!ร้านค้าแนะนำเท่านั้นค่ะ
เปรียบเทียบกับอีกเจ้านะคะ ขออนุญาติแอดมินและบริษัทที่น่ารักด้วยค่ะ
อันนี้ก็คือซื้อแค่ลิปสติกแท่งละไม่กี่บาท ถ้าใครเคยใช้ก็คงจะรู้ราคานะคะ แต่ความรับผิดชอบของเขามันมีราคามากกว่าตัวสินค้าจริงๆค่ะ
ลูกค้าแทบไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แล้วยังขอบคุณเราที่ไปบอกเขาเรื่องสินค้ามีความผิดปกติอีกค่ะ เขาจะได้ตรวจสอบสินค้า
เพื่อมาตราฐานที่ดีให้ลูกค้าได้ใช้ต่อๆไปด้วยค่ะ น่าชื่นชมจริงๆค่ะ ต่างจากร้านที่เราเสียค่าโง่ไป 290 บาทเลยค่ะ....T T
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้