💫🕛💫 "หลงกาล" Episode-61 : ภาคอวสาน ตอนที่ 18 💫🕛💫

กระทู้คำถาม


ในส่วนหนึ่งของฐานทัพลับ ภายใต้ถ้ำ ซึ่งแอนดี้ สถาพร และรัชนี เคยเข้ามา และนำพาแคปซูลบรรรจุศพของพลเอกอนันต์ฝ่าฝูงหุ่นยนต์เอไอออกมาจนแทบเอาชีวิตไม่รอดกันมาก่อนหน้านี้...

กัปตันวันชนะ ตัดสินใจสั่งให้แอนดี้พาแซมและเอกกลับเข้าไปสำรวจอีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่าเป็นแหล่งเก็บซ่อนสิ่งสำคัญ คือ ร่างต้นแบบและโคลนนิ่งของคนหลายคน เขาต้องการให้แอนดี้เก็บหลักฐานเป็นวีดิโอชนิดเลเซอร์โฮโลแกรมสามมิติเอาไว้ เพื่อจะได้นำออกไปเปิดเผยต่อสาธารณชนภายนอก โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุดก็คือ ต่อองกรสหประชาชาติ เพื่อที่ว่า UN จะได้ส่งกำลังทหารเข้าจัดการยึดอำนาจรัฐบาล เนื่องจากการทำโคลนนิ่งมนุษย์นั้นเป็นการฝ่าฝืนต่อข้อห้ามในสนธิสัญญาความมั่นคงนานาชาติซึ่งทุกประเทศในโลกลงนามกันมาแล้ว !!!

เพียงแค่เรื่องโคลนนิ่ง ฝ่ายองค์กรกอบกู้อิสรภาพก็สามารถใช้เป็นหมัดเด็ดโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการได้แล้ว มิหนำซ้ำยังมีเรื่องการลักลอบผลิตยาเสพติดจำนวนมหาศาลเพิ่มเข้ามาอีก!! ยิ่งถ้าพวกกัปตันสามารถชิงตัวเยาวชนทีมเร้ดฟ็อกซ์ออกไปได้เมื่อไร ฝ่ายรัฐบาลก็เตรียมตัวนับถอยหลังสำหรับกาลอวสานของพวกตนและรอชดใช้กรรมเมื่อนั้น !!

แอนดี้จึงพาหนุ่มแซมและมหาเอกบุกเข้ามายังฐานทัพลับอีกครั้ง สองหนุ่มมีอาวุธพร้อมด้วยอุปกรณ์พิเศษ "เทเลพอร์ท ริสต์" กำไลหายตัวจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งซึ่งไม่ได้ใช้กันมานานนับตั้งแต่เสร็จสิ้นภารกิจ "เซฟ JFK"

แอนดรอยด์อัจฉริยะพาสองหนุ่มผ่านด่านต่างๆตั้งแต่แรก จนกระทั่งเข้ามาถึงห้องสำคัญ และทันทีที่ไถลลงมาตามท่อโลหะยาวเหยียดจากเบื้องบนลงมาสู่พื้นเหล็กข้างล่าง เสียงสัญญาณก็ดังขึ้นตามด้วยเสียงประกาศ

"ด่วน! มีผู้บุกรุกผ่านจุดอี 1 มีผู้บุกรุกผ่านจุดอี 1 หน่วยรักษาความปลอดภัย รีบจัดการกับผู้บุกรุกโดยทันที จับเป็นไม่ได้ก็จับตาย!!"

มีทางเดินสามทางให้เลือก! ทางที่ตรงไปข้างหน้ามีแสงสว่างมากที่สุด ส่วนทางซ้ายและขวามีแสงสลัวๆ

"คราวที่แล้ว นายกับคุณรัชนีและสถาพร ไปทางไหนกัน ?" แซมถามเบาๆ

"ทางซ้ายครับ" แอนดี้ตอบขณะที่กำลังใช้ 'เอ็กซ์เรย์อายส์' ตรวจทั่วบริเวณ แล้วรีบบอกชายหนุ่มทั้งสอง "เราต้องไปทางเดิมจึงจะไปเจอห้องเก็บพวกโคลนนิ่ง พวกหุ่นยนต์กำลังมากันแล้วครับ เปิดเครื่องอำพรางตัวครับ มันพอช่วยถ่วงเวลาได้ พวกมันจะไม่เห็นคุณสองคนแบบตรงๆ ต้องใช้อินฟราเรดถึงจะมองเห็นหรือจับสัญญาณได้ ซึ่งนั่นจะทำให้พวกคุณมีเวลาพอที่จะยิงพวกมันก่อน!"

"โอเค..." แซมยิ้มและพยักหน้า ล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ กดปุ่มเปิดเครื่องอำพรางตัว มหาเอกเห็นเพื่อนทำดังนั้นก็ทำตาม

"รีบไปกันครับผม" แอนดี้เร่งเร้าเมื่อเห็นว่าทั้งสองพร้อมแล้ว เขาออกตัววิ่งไปตามทางเดินทางซ้ายก่อน สองหนุ่มตามมาติดๆ ภายใต้สภาวะพรางตัวล่องหน

มีเสียงเอะอะโวยวายดังตามมาห่างๆ และค่อยๆ กระจายไปทั่ว ทำให้ผู้บุกรุกทั้งสามได้รู้ว่าพวกมันมีทั้งหุ่นยนต์เอไอและทหารซึ่งเป็นมนุษย์!

ทั้งสามพากันวิ่งไปจนถึงสุดทางซึ่งพพบกับทางแยกอีก 3 ทาง แอนดี้นำไปยังทางที่สามซึ่งจะนำพาไปสู่ที่หมายทันที!

"ถ้าไปทางแรกกับทางที่สอง จะเจออะไร แอนดี้ ?" มหาเอกถามขณะกำลังวิ่งตาม

"ทางแรกไปห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ทางที่สองไปห้องผลิตและเก็บอาวุธกับหุ่นยนต์ครับผม"

"อยากจะถล่มห้องที่สองเหมือนกันนะ!" แซมพูดอย่างมันเขี้ยว

"ไว้ทีหลังครับ ห้องที่สามสำคัญกว่าเพราะเป็นเป้าหมายของเจ้านาย" แอนดี้ตอบ แล้วทุกคนก็มาถึงหน้าประตูทางเข้า ซึ่งมีช่องสแกนม่านตาติดตั้งอยู่บนบานประตูในระดับสายตา

"ผมจะลองแฮ็กเอารหัสเปิดประตูก่อนครับ" ว่าแล้วเขาก็ทาบสองฝ่ามือกับบานประตู สแกนหาจุดเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง

"ไวหน่อยนะแอนดี้ !" แซมกำชับ ตอนนี้ทั้งเขาและเอกต่างถือปืนเลเซอร์ไว้ในมือ เตรียมพร้อมรับมือกับพวกหุ่นยนต์เอไอที่จะโผล่มา

"คราวก่อน นายใช้เวลาเท่าไรในการเปิดประตูนี่ ?" แซมเอ่ยถาม

"สองนาทีกว่าๆ ครับผม แต่มีคุณหนูคอยช่วยอยู่ด้วยนะครับ"

"ตอนนี้น้องแอนนาไม่อยู่ด้วย และรหัสผ่านก็คงจะถูกเปลี่ยนไปแล้ว" เอกสันนิษฐาน

"ครับผม เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ผมลองใช้รหัสเก่าแล้วไม่ผ่านครับ" แอนดี้ตอบ

และบัดนั้น เอไอกลุ่มแรกก็มาถึง !

ทันทีที่สองสามตัวแรกโผล่มาให้เห็น แซมและเอกก็ยิงปืนเลเซอร์เข้าใส่ก่อน!

แซ่ดดดดดดดดด.........แซ่ดดดดดดดดดดด......

เจ้าสองสามตัวแรกนั้นผงะหงายไปปะทะกับพวกตัวเองซึ่งกำลังหนุนเนื่องกันเข้ามามากขึ้นๆ

"แอนดี้! พวกมันมาเยอะแล้วตอนนี้ !!" แซมร้องบอกขณะยิงปืนเลเซอร์อยู่พัลวันพร้อมกับมหาเอก

"ถึงรหัสถูกเปลี่ยน แต่โครงสร้างพื้นฐานของการสร้างรหัสยังเป็นโครงสร้างเดิม อีกนิดเดียวจะได้แล้วครับ! อดทนกันหน่อยครับผม!!" แอนดี้ตอบขณะหันหลังให้สองหนุ่ม สมองกลส่วนการคำนวณและการสแกนกำลังทำงานอย่างหนัก!

แซมและเอกช่วยกันยิงต้านพวกหุ่นยนต์เอไออย่างเต็มกำลัง หุ่นหลายตัวถูกพวกเขาทั้งสองยิงทำลายกองอยู่ตรงหน้าทางเข้าขวางทางพวกที่จะหนุนเนื่องเข้ามาให้ช้าลงได้บ้าง

ในที่สุด เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นให้ทั้งสามได้ยินและใจชื้น

ตี๊ดดดดดดดดดด............... ฟี้ดดดดดดดดด..........

แอนดี้แกะรหัสได้สำเร็จ บานประตูซ้ายขวาเลื่อนเปิดออกจากกัน! เขารีบบอกกับเจ้านายมนุษย์ทั้งสองทันที

"คุณสองคนเข้าไปก่อนเลยครับ ผมคุ้มกันข้างหลังให้ครับผม!!"

"โอเค แจ๋ว! แอนดี้!!" หนุ่มแซมบอกและยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ ก่อนจะลากแขนมหาเอกเข้าประตูไปโดยมีแอนดี้ถอยออกมา กลับหลังหันยืนเผชิญหน้ากับพวกหุ่นเอไอซึ่งกำลังผ่านทางเข้ามาเรื่อยๆ พอตั้งหลักได้ก็ยื่นสองฝ่ามือแบออก ปล่อยลำแสงพิฆาตลำใหญ่จากกลางฝ่ามือถล่มพวกมัน

แซ่ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด......................

บึ้มม!!!......... บึ้มม!!!......... บึ้มม!!!......... บึ้มม!!!......... บึ้มม!!!.........


เอไอเหล่านั้นถูกทำลายระเบิดกองเป็นเศษเหล็กชิ้นน้อยชิ้นใหญ่ กลายเป็นกองขยะใหญ่โตจนปิดทางเข้าเกือบมิด! เมื่อเห็นว่าได้จัดการพวกมันมากพอสมควรแล้ว แอนดี้จึงรีบกลับหลังหันกระโจนผ่านประตูซึ่งเปิดอ้าอยู่ตามสองหนุ่มเข้าไปในห้องลับ แล้วกดปุ่มปิดประตูทันที!

แอนดี้ตามสองหนุ่มไปจนทัน แล้วทั้งสามก็เดินตรงไปข้างหน้าพร้อมกัน ผ่านระยะทางร้อยเมตร เลี้ยวขวา ลงบันไดเหล็ก 20 ขั้น จึงได้ยืนอยู่ข้างหน้าแท่นติดตั้งแคปซูลหลอดแก้วเรียงรายเป็นแผงยาว ภายในแต่ละแคปซูลมีของเหลวสีฟ้าหล่อเลี้ยงร่างมนุษย์อยู่

"โอ้....โฮ....เว้ย!!" แซมร้องอุทาน "พวกมัน ทำกันเป็นล่ำเป็นสันขนาดนี้เลยหรือวะ ??"

"ข้างล่างหลอดแก้วมีป้ายกำกับไว้ด้วยสิ ดูกันหน่อย" เอกกล่าวแล้วค่อยๆย่างก้าวเดินดูไปทีละแคปซูล

"อย่าลืมถ่ายวีดิโอให้เจ้านายของนายด้วยล่ะ แอนดี้" แซมเตือน

"เริ่มถ่ายแล้วครับผม ผ่านสองตาของผมนี่แหละครับ บันทึกทั้งภาพและเสียงโดยอัตโนมัติครับผม"

"เดินดูไปเรื่อยๆ นะ เงียบสงบดีจังเลยห้องนี้" เอกตั้งข้อสังเกต

ทั้งสามเดินผ่านแท่นติดตั้งแคปซูลซึ่งเรียงรายเป็นแถวๆ ไปจนถึงบริเวณแถวกลาง

"เฮ้! ตรงนี้ ติดรหัส โอซีแอล และเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในอดีต ในวงการวิทยาศาสตร์และอวกาศด้วย!" มหาเอกร้องบอกด้วยความตื่นเต้น

"ใครวะ ?" แซมถาม แล้วเดินเข้าไปดูด้วยใกล้ๆ ก้มลงอ่านป้ายกำกับ

"ด็อกเตอร์ องอาจ ชุมนุมสายธาร!"

"อืม...รู้จักไหม แซม ?"

"รู้....คนนี้ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรเป็นเลิศ! เคยทำงานกับพวกนาซ่ามาแล้วในช่วงเวลาที่เขายังมีชีวิตอยู่"

"ศตวรรษที่ 26 ช่วงต้นนะ...เขาตายเมื่อ พ.ศ. 2590"

"เดี๋ยวนะ!" แซมฉุกคิด "ครอบครัวเขาเป็นพุทธ ตายแล้ว ศพก็ต้องเผา"

"ใช่....ถูกเผงเลย"

"งั้น ....ร่างนี้ มาได้ยังไง ? รหัสขึ้นต้นด้วย โอซีแอล ผิดหรือเปล่า ?" แซมทำหน้าฉงนข้องใจ

"เขาอาจจะสั่งลูกหลานให้เก็บศพเขาไว้ ไม่ให้เผาก็ได้นี่นา" เอกลองเดา แล้วหันมาถามแอนดี้ "แอนดี้ นายลองหาประวัติของศพด็อกเตอร์องอาจคนนี้ซิ เอาเฉพาะช่วงหลังจากเขาตายไปแล้ว"

"ครับผม สักครู่ครับ" แอนดรอยด์คนเก่งพยักหน้า แล้วควานมือหาจุดเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง เมื่อพบแล้วจึงปล่อยท่อเสียบจากปลายนิ้วชี้ เสียบเชื่อมต่อ ดูดข้อมูลต่างๆเข้ามาเก็บไว้ในตัวพร้อมสแกนหาข้อมูลที่แซมต้องการ ไม่กี่วินาทีก็บอกได้

"ด็อกเตอร์องอาจ ชุมนุมสายธาร ได้ทำสัญญาอุทิศร่างกายของตนให้กับคณะแพทย์เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ครับ และหลังจากศพถูกนำไปใช้ในการศึกษาแล้ว มีหน่วยงานของรัฐบาลหน่วยหนึ่งซึ่งไม่ระบุ ขอรับศพไปเก็บไว้ต่อ ร่างกายนี้จึงอยู่มาจนถึงเดี๋ยวนี้ครับผม"

"เออ...มีเลือกเก็บไว้ด้วยหรือวะเนี่ย" แซมกล่าวด้วยความประหลาดใจ

"ร่างโคลนของเขาอยู่ข้างๆนี่ไง!!" เอกชี้ไปทางขวาของร่างต้นแบบ

แซมเดินตามไปดู และพบว่าร่างนั้น เหมือนต้นแบบทุกกระเบียดนิ้ว!!

"Ship-หาย! แบบนี้แสดงว่า พวกมันวางแผน จะโคลนบุคคลสำคัญคนอื่นๆ อีกแน่นอนเลย!!" น้องเขยฟาโรห์กล่าวฟันธง "ลองคิดดูสิ ถ้าพวกมันโคลนบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ขึ้นมาได้อย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เซอร์ไอแซค นิวตั้น หรือไปหลงใหลลัทธินาซี โคลนฮิตเลอร์ขึ้นมา โลกนี้จะเป็นยังไง!!"

"ก็เพราะอย่างนี้ไง ยูเอ็นถึงได้จัดการประชุมทุกประเทศและร่วมกันลงนามในสนธิสัญญาปี 2560 ห้ามมิให้ประเทศใดๆ ทำการโคลนนิ่งมนุษย์โดยเด็ดขาด และอนุญาตให้ทำได้เฉพาะกับสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธ์เท่านั้น ประเทศใดฝ่าฝืน ยูเอ็นจะส่งกองกำลังนานาชาติเข้าควบคุมและทำรัฐประหารปลดรัฐบาลของประเทศนั้นในขณะนั้นทันทีและแต่งตั้งรัฐบาลรักษาการ เตรียมการเลือกตั้งเสรี ถ้าประเทศนั้นถูกครอบครองโดยเผด็จการ!!"

"งั้นอวสานของไอ้พวกบัดซบเหล่านี้ก็มาถึงแล้ว!!" แซมพูดพลางกำหมัดชกลม แล้วหันไปบอกแอนดี้ "เฮ้! ไออ้อนแมน! ถ่ายวีดิโอให้ละเอียดยิบเลยนะ!"

"ครับผม" แอนดี้ตอบยิ้มๆ

ทันใดนั้น กัปตันวันชนะก็ติดต่อเข้ามา.... "แอนดี้ ถึงไหนกันแล้วตอนนี้ ?"

"กำลังอยู่ท่ามกลางแคปซูลบรรจุร่างโคลนนิ่งและต้นแบบครับผม"

"ส่งสัญญาณถ่ายทอดสดมาให้หน่อยสิ ฉันเปิดเครื่องคอมเล็ตอยู่"

"ได้เลยครับเจ้านาย"

แล้วทั้งภาพและเสียงก็ถูกถ่ายทอดสดขึ้นบนจอคอมเล็ตขนาดเท่าพ็อกเก็ตบุ๊คของสาวเล็กซึ่งเธอพกพามันไปทุกที่ แล้วทุกคนทางฝั่งของกัปตันก็พากันห้อมล้อมดูการถ่ายทอดสดจากแอนดี้

"น่าทึ่ง น่าตะลึงมาก" สาวจอยเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นภาพ

"แหม...มันน่าถูกถ่ายทอดออกอากาศสดๆ ทุกช่องทางสื่อสารจริงๆ! ทั้งทีวี อินเตอร์เน็ต!!" สาวเล็กกล่าวเสริม

"ที่สำคัญคือยูเอ็น....สมควรได้เห็นได้ประจักษ์" กัปตันกล่าวต่อเป็นคนที่สาม "เสียดายที่ตอนนี้เราไม่พร้อม ถ้าหากอยู่บนยาน THE FUGITIVE เราจะสามารถลงมือถ่ายทอดสดไปทั่วโลกได้ทันทีที่ติดต่อกับยูเอ็นได้ มันจะเป็น BREAKING NEWS ขึ้นจอทุกจอ !!"

"และนั่นคือการฉีกหน้ากากพวกทางการเผด็จการอย่างเจ็บแสบอีกเรื่อง!" สาวจอยกล่าวอย่างกระตือรือล้นคันไม้คันมือ "นอกเหนือไปจากเรื่องทีมเร้ดฟ็อกซ์ซึ่งกัปตันกำลังรออุปกรณ์สำคัญจากคุณสถาพรก่อนแล้วถึงจะเริ่มลุย! ใช่ไหมคะกัปตัน ??"

"ใช่ครับ คุณจอย" กัปตันพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น "หลังจากชิงตัวทุกคนในทีมเร้ดฟ็อกซ์ออกไปแล้ว ก็เริ่มดำเนินการเปิดโปงความชั่วร้ายของทางการได้เลย พร้อมกันทั้งสองเรื่อง คราวนี้พวกมันล่มสลายแน่!!" แล้วเปลี่ยนมาถามลูกน้องคนเก่งต่อ "พวกนายสามคน อยู่ในนั้นนานกี่นาทีแล้ว ?"

"ประมาณสิบนาทีเห็นจะได้ครับ"

"นายเก็บข้อมูลจากคอมพิวเตอร์กลางของมันแล้วหรือยัง ?"

"เรียบร้อยครับเจ้านาย"

"ถ่ายวีดิโอไว้ตั้งแต่แรกเริ่มใช่ไหม ?"

"ใช่ครับผม"

"ยังเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์กลางอยู่หรือเปล่า ?"

"เชื่อมต่ออยู่ครับผม"

"โอเค...งั้น ตอนนี้" กัปตันวันชนะรีบใช้ความคิด แล้วสั่งการ "สั่งชัตดาวน์ระบบทั้งระบบเลย แอนดี้ !!"

"ได้เลยครับเจ้านาย!" แอนดี้ตอบรับคำสั่งทีเด็ด แล้วสั่งการผ่านปลายนิ้วชี้ที่ต่อท่อเสียบกับคอมพิวเตอร์ส่วนกลางอยู่

"SHUT DOWN" !!!

บี๊บบ.........

เสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น ให้รู้ว่า ระบบยังไม่พร้อม และแจ้งบอกกับแอนดี้ว่า ยังมีโปรแกรมบางอย่างทำงานอยู่เบื้องหลัง แล้วถามว่า "ยังยืนยันการปิดระบบทั้งหมด หรือไม่ ?"

(ต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่