ถามผู้รู้เรื่องของกฎหมายจัดสรร

เรื่องมีอยู่ว่า หมู่บ้านที่เราอาศัยอยู่ เกิดปัญหาน้ำท่วมขังแทบจะทุกครั้งที่ฝนตก ตอนแรกที่มาอยู่ยังไม่เกิดปัญหาเรื่องน้ำท่วม เพราะบริเวณโดยรอบหมู่บ้านยังเป็นพื้นที่โล่งไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ แต่ผ่านมาหลายปี เริ่มมีโครงการบ้านจัดสรรผุดขึ้นรอบหมู่บ้าน ทำให้น้ำที่เคยระบายได้ถูกบล๊อค จึงทำให้ทุกวันนี้ฝนตกน้ำก็จะขังนาน เราจึงส่งเรื่องร้องเรียนไปที่สำนักงานเขต และได้รับหนังสือตอบกลับมาว่า กรรมสิทธิ์ที่ดินที่เป็นถนนบนที่ดินจัดสรรนี้ ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของผู้ประกอบการหมู่บ้านจัดสรร (ขอเรียกว่าบริษัท T) สืบไปสืบมา เลยรู้ว่าบริษัท T ซื้อที่ดินจัดสรรมาเพื่อสร้างบ้านขาย โดยไม่มีใบอนุญาตจัดสรร และไม่ได้รับโอนใบอนุญาตจัดสรรมา แต่บริษัท T ขายบ้านพร้อมที่ดินในโครงการเกิน 10 หลัง และมีเพียงใบอนุญาตค้าที่ดินเท่านั้น บริษัท T ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง กับลูกค้าทุกราย แต่วันที่ไปทำเรื่องโอนที่สำนักงานที่ดิน เอกสารที่เราได้รับกลับมาคือ 1 สัญญาซื้อขายที่ดิน 2. สัญญาซื้อขายสิ่งปลูกสร้าง สองสัญญาแยกกัน โดยตอนนั้นเราไม่มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจัดสรรเลย ไม่รู้เลยว่า บริษัท T ไม่มีใบอนญาตจัดสรร และ กรรมสิทธิ์สาธารณูปโภคประเภทถนนก็เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทอื่น (ขอเรียกว่าบริษัท P) เราทำเรื่องร้องเรียนไปที่กรมที่ดิน กรมที่ดินก็ตอบมาแค่ว่า จัดสรรก็คือจัดสรร สรุปทำอะไรบริษัท T ไม่ได้เลย กรมที่ดินออกคำสั่งให้ผู้จัดสรรบริษัท P มาลอกท่อ เท่านั้น เพราะเจ้าของหมู่บ้านบริษัท T ได้ทำการเชื่อมท่อระบายน้ำทิ้งกับท่อเมนของกรมทางหลวงแล้ว แต่ผลจากการเชื่อมท่อนี้ มันทำให้น้ำสกปรกจากท่อระบายน้ำทิ้งไหลเข้ามาในหมู่บ้านสรุปแล้ว เชื่อมท่อแล้วท่วมหนักยิ่งกว่าเดิม แถมน้ำดำน้ำสกปรกเข้ามา พอน้ำแห้งพื้นถนนขาวโพลนเต็มไปด้วยคราบสกปรก  อยากสอบถามว่ากรณีแบบนี้ สามารถเอาผิดบริษัท T ได้ไหม ถ้าเอาผิดได้ เข้าข่ายผิดกฎหมายใดบ้าง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่