มาสำรวจกันครับว่าคุณอยากได้ผู้นำประเทศที่เป็นอย่างไร และอยากให้อะไรเกิดขึ้นในประเทศบ้าง วิธีแก้ความเหลื่มล้ำอย่างไรดี

ช่วงนี้ได้เห็น Comment ต่างๆ นาๆ ว่ายุโรปแบบนั้นประชาธิปไตย์ไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ ประท้วงรุนแรง โจรเยอะ ชาติตะวันตกอย่างนั้นอย่างนี้ ชาติพัฒนาแล้วมีข้อเสียคนไม่พอใจยังนั้นอย่างนี้ เอาละ อยากจะให้พิจารณา ให้ดูตามนี้ แบบกว้างๆ
- ผู้ก่อการเป็น Native จริงๆไหม หรือผู้อพยพ หลายประเทศรับผู้อพยพมาเยอะมาก แล้วต้องเข้าใจ พวกนี้งานก็ไม่มี ถ้ามีงาน ทำงานก็โดนกดเงินเพราะเป็นผู้อพยพ ก็ไม่แปลกที่มันจะก่อการจลาจลบ้าง ขโมยของบ้าง และอื่นๆ
- แต่ที่จริง เขาดูที่นี่ต่างหาก รายรับต่อหัวทุกๆเดือนของ Native ย้ำว่า Native ว่ามีรายได้เข้ามาเยอะพอกับค่าครองชีพไหม และมีเงินเหลือเก็บ เหลือใช้ขีวิตบ้างไหม(เช่นเที่ยว ซื้อของต่างๆ ค่าเรียนลูก และอื่นๆ) ต่างหาก นโยบายการแจกเงินก็แต่ชั่วคราวรอดตายไปวันๆ ไม่ว่ารัฐไหนทำ พรรคไหนทำ ส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วย ถ้า “ไม่ได้เพิ่มรายรับต่อหัวที่เข้าทุกเดือนๆ จริงๆ ที่ใช้ได้จริงๆ " ไม่ใช่เพิ่มร้อย สองร้อย พันต้นๆ มันไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เพราะค่าแรง เงินเดือน ค่าวิชาชีพปัจจุบันมันน้อยมากอยู่แล้ว และยังเป็นการส่งเสริมให้คนอยากได้ของฟรีแบบไม่ยั่งยืน และไม่เกิดความภูมิใจด้วย เช่นถ้าวันนี้คุณทำงาน ได้เงินเดือน 4 หมื่นอัพ เริ่มต้น คุณจะภูมิใจเพราะได้จากปัญญาของเรา ทักษะของเรา ไม่ใช่แบบมีคนยื่นเงินให้เฉยๆ คุณจะไม่ภูมิใจ แถมโดนดูถูกอีก ทั้งที่บางทีคุณเก่ง คุณมีทักษะประกอบอาชีพที่เกิดจากการฝึกฝน แต่คุณโดนดูถูก ผู้อ่านบางคนอย่าดูแค่เงินเดือนตัวเอง เพราะส่วนใหญ่ก็รู้ๆกันอยู่ว่ารายได้ส่วนใหญ่เท่าไรกัน
-สวัสดิการเป็นไง หาเงินแทบตายพอป่วย ไม่มีเงินรักษา ปล่อยตาย? โรงพยาบาลรัฐก็รู้ๆอยู่ว่าเป็นอย่างไร หมอคนนึงดูแลกี่คน วินิจฉัยถูกบ้างผิดบ้าง รอผ่าตัด รอยา จนตาย ?

สำหรับผมสิ่งที่ผมต้องการคือต้องการผู้นำที่
1. กระจายรายได้ แก้ความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่ว่าแจกเงิน นั่นเป็นการแก้ชั่วคราว คุณลองดูทุกวันนี้ เจ้าของส่วนใหญ่บ้านใหญ่โตเยี่ยงคฤหาส ขับรถหรูๆ แต่พนักงาน ผ่อนบัตรเครดิต ใช้เงินเดือนชนเดือน (ขอร้องอย่าใช้คำว่าพอเพียง เพราะสิ่งที่เราต้องการคือคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีไม่ใช่หรอ? อย่าใช้คำนี้มาเป็นข้ออ้างในการควบคุมคนให้ขังอยู่ในเงินที่ให้ ใช้คำนี้จนผิดจุดประสงค์) บางคนเรียนแทบตาย เรียนจบ ม.ดัง คณะยอดนิยม (ที่ไม่ใช่แพทย์) เงินเริ่มต้นเงินเดือน 15k-18k  เพิ่มเงินเดือนปีละ 5 % บางปีไม่เพิ่ม โอฟรี มากกว่าโอที แต่เจ้าของรับงาน หรือยอดขาย
หลักหลายสิบ หลายร้อยล้าน ทำให้คนดูถูกคุณอีกว่าเรียนแทบตาย ใช้ชีวิตแบบนี้ ได้แค่นี้หรอ?

ตัวอย่างความเหลื่อมล้ำง่ายๆ ถ้าใครไปเที่ยว ตปท. ประเทศพัฒนาแล้ว ที่การกระจายรายได้ ดี ขอยกตัวอย่างห้างดีกว่าเพราะมันชัดดี ห้างที่ต่างประเทศแทบจะเทียบไทยไม่ได้เลย ไม่ว่าจะจำนวนสาขา การตกแต่ง สินค้าภายในที่ห้างเป็นคนนำเข้ามาขายเอง และความหรูหรา หรือร้านอาหารหลายร้านในไทยเจ้าของเดียวกัน เปลี่ยนชื่อ เช่น m.. Yay.. Miya... และอื่นๆ ที่เจ้าของเดียวกัน รู้ไหมทำไมไทยเราทำได้ เป็นเพราะค่าแรงที่จ่ายพนักงานไงครับ มันน้อยจนทำให้กำไรของเจ้าของเขาสูงมาก แต่ต่างประเทศที่พัฒนาแล้วกิจการส่วนใหญ่ไม่ได้ขยายได้เร็วขนาดนั้นภายในประเทศ เพราะเขาต้องจ่ายค่าแรงพนักงานเริ่มก็ 4หมื่น- 6 หมื่นบาท เริ่มต้นแล้ว อันนี้คือพนักงาน Low skill ด้วยนะ มีปรัญญาก็สูงกว่านี้ ถ้าทำงานเกิน โอทียิ่งเยอะ คนไทยถึงชอบไปทำงานเก็บเงินต่างประเทศกันไง เข้าใจยังครับว่าทำไมไม่ว่าร้าน 7-11 หรือ ห้าง หรืออะไร มีเจ้าของไม่กี่กลุ่มถึงอลังและมีสาขามากมายใหญ่โตได้ขนาดนี้

2. รู้เท่าทันต่างชาติ ข้อนี้ก็สำคัญ หลายธุรกิจต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจแบบทุบตลาด SME ตาย

ที่จริงยังมีอีกหลายข้อแต่ผมเองเชื่อว่า แค่ 2 เรื่องนี่ก็แก้กันยากแล้ว สำหรับผมคำว่าผู้นำ จะต้องไม่ใช่นักวิชาเกิน คำว่านักวิชาเกินจะมีแต่ข้ออ้างเพื่อแก้ตัวในผลลัพธ์ที่ทำไม่ได้ไงครับ เช่นสมมุติ ผู้นำแก้ปัญหานี้ไม่ได้ นักวิชาเกินฝั่งผู้นำก็จะหาหลักการโน่นนี่มาอ้าง แล้วยกตัวอย่างประเทศที่มันมีความเหลื่อมล้ำ หรือไม่พัฒนาเหมือนกันและทำไม่ได้เหมือนกันมาอ้าง หรอบาง topic ก็เอาประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีจุดดำนิดหน่อยก็เอามายกตัวอย่าง เอามาอ้างจนลืมดูว่าภาพรวมประชากร Native ของเขาโอเคหรือไม่

ผมไม่ใช่คนเก่งอะไร เป็นแค่ประธานบริษัทเล็กๆแห่งนึง ผมบริหารบริษัทรอดในยุคปี 40 แบบกระท่อนกระแท่น แต่ถ้าระดับประเทศต้องเจอคนเก่งกว่านี้หลายๆๆเท่า หลายหมื่นเท่า

คนที่สามารถหาเงินเข้าประเทศ แก้ความเหลื่อมล้ำ รู้เท่าทันธุรกิจต่างชาติ บริหารงานในภาคขนาดใหญ่ได้ ผมยกตัวอย่าง ในปี 40 ธุรกิจแย่กันหมด รวมถึงผมแม้จะรอดมาได้ แต่ก็แย่ แต่ก็มีบางประธาน บางเจ้าของ บางผู้นำบริษัทบางคนที่ยังสามารถหาช่องว่างได้ ทำกำไรได้ หาเงินได้
แม้กระทั่งในยุคนี้ ที่เขาว่าทำธุรกิจแย่กันแต่ก็มีบางผู้นำบริษัทที่พาธุรกิจโตเอาๆ

หรืออีกตัวอย่างสมมุติ เช่น ข้อสอบ Entrance ก็ได้ ปีนั้นคนบอกข้อสอบยากมากๆ คนตกเพียบ แต่ก็ยังมีบางคนที่ทำได้ 100 คะแนนเต็ม จุดนี้ละครับที่ผมบอก มีไม่กี่คนที่ทำได้ ไม่มีข้ออ้าง เก่งและฉลาดจริง  มีเพชรที่น้อยนักจะหาพบ เราต้องการคนๆนี้แหละครับที่จะมาเป็นผู้นำ หรือว่ากลุ่มผู้นำ ที่ส่งผลสำเร็จออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่ถ้าได้ผู้นำที่ทำไม่ได้ ผลลัพธ์ออกมาไม่ได้ แต่มีข้ออ้างเชิงวิชาเกินมาเยอะๆ หาข้ออ้างสารพัดมาสนับสนุนเหตุผลที่ทำให้สำเร็จไม่ได้ แบบนี้ไม่ต้องการคนฉลาด และเก่งขนาดนั้นมาเป็นผู้นำ เราหานักวิชาเกินมาเป็นผู้นำก็ได้ มีถมเท เพียบไปหมด ยิ่งนักวิชาเกินตามเพจเฟสบุ๊คที่เวลารัฐทำอะไรผิด หรือไม่ดี หรือปัญหาต่างๆ ก็จะหาข้อมูลวิชาเกินต่างๆนาๆมาได้ จนลืมดูว่าทำไมตัวเองถึงได้แค่นี้นะ  เพราะสุดท้ายเราดูกันที่ผลครับ

บางทีการบางว่าขึ้นค่าแรงไม่ได้เพราะ บลาๆๆ หรือเพราะประเทศเราเป็นเกษตรกรรม หรือบลาๆๆ คนธรรมดาก็จะมองวิธีแก้ไม่ออกหรอกครับ แต่ต้องมีคนที่สามารถทำคะแนนเต็ม 100 แม้โจทย์จะยากแค่ไหน หรือมีข่าวเด็กอายุ 14 เป็นอาจารย์สอนเลขในมหาวิทยาลัย หรือมีนักธุรกิจที่สามารถมองปัญหาออก ทำตัวเองประสบความสำเร็จแม้เศรษฐกิจจะเป็นยังไร "เราต้องการกลุ่มคนเหล่านี้หละครับ คนเก่งและฉลาดที่ไร้ข้ออ้างวิชาการสนับสนุนความล้มเหลวเป็นผู้นำและกลุ่มผู้นำ"

บางท่านชอบยกตัวอย่างจีน ส่วนตัว ต่อให้จีนยิ่งใหญ่แค่ไหนถ้าเป็นแบบนี้ผมก็ไม่อิจฉา ส่งยานไปดวงจันทร์ได้แล้วไง ตราบใดที่ความเหลื่อมล้ำในจีนก็สูง พนักงานทำงานหนักเฉลี่ยกันตั้งแต่ 14 ชั่วโมงขึ้นไป แล้วถ้ามาแบบนี้ในไทยละ งานหนักเงินน้อย คุณจะเอาหรอ หรือยิ่งถ้าธุรกิจจีนแผ่มามีอิธิพลในไทยมากๆ การทำงานของเราที่หนักอยู่แล้ว จะหนักกว่าเดิมอีก หรือจะเอาอย่างประเทศตะวันตกที่พัฒนาแล้วดี งานสบายๆหน่อย มีเวลางานชัดเจน มีเวลาใช้ชีวิต มีเงินใช้จ่ายเพียงพอกับคุณภาพชีวิตที่ดี  การที่เราอยู่ได้ด้วยการกินข้างทางไม่ได้เรียกว่าดีนะครับ ทั้งวิธีการล้าง การเก็บภาชนะ น้ำมันซ้ำ ควันฝุ่นฟุ้งเข้าอาหาร คุณภาพการทำอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะที่ส่งผลในระยะยาวต่อร่างกายในอนาคต หรือการต้องผ่อนบัตรเดือนชนเดือน วิ่งหาค่าเทอมลูก ป่วยไม่มีเงินรักษา ไม่มีเงินทำประกันสุขภาพ ไม่มีเงินซื้อบ้าน ต้องเช่า และอื่นๆ คุณต้องถามตัวเองว่าคุณจะเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต หรือ จะเอาแค่ประหยัดสุดๆ ใช้ชีวิตไปวันๆแค่ไม่ตายก็พอจนกว่าชีวิตจะสิ้น เกิดมาแบบนี้หรอ??

ถ้ามีคนถามว่าแล้วจะแก้อย่างไร ไม่อยากเป็นแบบนี้ ถ้าถามผม ผมตอบไม่ได้ ไม่ได้เก่งขนาดนั้น ไม่ได้ฉลาดพอเป็นผู้นำประเทศได้ ถ้าผมบริหารคงจะมีข้ออ้างสไตล์นักวิชาเกินมาตอบแก้ตัวผลลัพธ์ที่ล้มเหลวเป็นแน่ เราต้องการคนที่เก่ง และฉลาดพอ ที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาได้ ให้เขาแก้ ให้เวลาเขาพิสูจน์ พิสูจน์ไม่ได้ แก้ไม่ได้ ก็อย่าจี้ไปเลือกต่อสมัยต่อไป Next please ทันทีครับ

กรุณาตอบคอมเมนต์นี้ด้วยความไม่รุนแรง ภาษาสุภาพ เพราะไม่อยากให้กระทู้ปลิว แต่อยากให้กระทู้นี้ไปถึงหลายหลายๆพรรค ว่าแท้จริงที่สุดแล้วประชาชนต้องการอะไรที่สุด และจะแก้ปัญหาประชาชนเหล่านี้ได้อย่างไร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่