คำนิยาม [สรุปใจความตามลำดับคัมภีร์ พุทธพจน์ >สู่ปฏิสัมภิทามรรค >สู่วิมุติมรรค >สู่วิสุทธิมรรค]
-ปริมุขํสตึ พุทธพจน์
@อานาฯสูตร = บริเวณปากทางเข้าออกพระสารีบุตร
@ปฏิสัมภิทามรรค
-ฑีฆํ อัสสสันโต พุทธพจน์
@อานาฯสูตร = ความยาวที่จุดเดียว(ยาวตามกาล;ภาษาไทยอธิบายยาก "ให้ดู How long? ไม่ใช่ How far?"
พระพุทธโฆษาจารย์@วิสุทธิมรรค เพราะว่าเมื่อกำหนดจุดเดียว ความยาวโดยระยะจะวัดไม่ได้ แต่จะรู้ยาวได้ก็เพราะรู้ว่า ลมมันสัมผัสจุดนั้นนานมากแค่ไหน
-ลมหายใจปกติเป็นลมยาว. ลมสั้นจะเกิดตามมาเองเมื่อจิตสงบระงับ
สมเด็จสังฆราชองค์ที่ 19@เทศน์สอนอานาฯ
-การตามลมเป็นอุปกิเลสในอานาปานัสสติ
พระสารีบุตร@ปฏิสัมภิทามรรค
-ลมหายใจสั้นมีลักษณะ สั้นมากๆ น้อยกว่าเสี้ยววินาที ศีรษะโล่งโปร่งสบาย ไม่อึดอัด พระสารีบุตรเปรียบดั่ง เสียงแห่งกังสดาน คือกำหนดตีครั้งเดียวแล้ว ความสั่นจะทำให้เกิดเสียงตามมาอีก ลมหายใจก็เช่นกัน เมื่อสั้นมากๆๆ เข้า จะหายไป(ยังไม่เกี่ยวกับฌาน ๔) แต่นักปฏิบัติยัง กำหนดรู้ลมอยู่ได้ เพราะ อาการคล้ายดั่งแห่งคลื่นเสียง
เฉกเช่น กังสดาล
-อาการกำหนดรู้ลมที่จุดเดียวนี้ใช้จนสุดสาย อานาฯ คือ แม้เข้า นิพพานธาตุ ก็ยังรู้ลมเข้าออก นิโรธานุปัสสี อสฺสสิสฺสามีติ ปชานาติ>สลัดคืน(ปฏินิสสัคโค)
พุทธพจน์@อานาฯสูตร
----------------------------------------------------
ลมหายใจยาวคือลมหายใจปกติ ยาวหมายถึงยาวตามกาล ฑีฆํ ศัพท์หากตรัสเป็นเรื่องระยะทางจะมีคำขยายเช่น จากที่นั้นถึงที่นี้ แต่ในรูปศัพท์ของ อานาฯสูตร นี้พระองค์ตรัส ฑีฆํ เฉยๆ ไม่มีรูปขยาย เมื่อกำหนดรู้ ทำได้สภาพยาวได้แล้ว(ไม่ง่าย) จิตจะหยุดแบบวิเศษ แล้วเมื่อสงบระงับจะพบลมสั้น เป็นจุดเวลา(สั้นมากๆ) ก็รู้ต่อไป เหมือนเดิมจุดเดียว(ปลายจมูกหรือริมฝีปากบน) สั้นตามกาลเวลา จนลมดับไป ให้นึกถึงสภาพกังสดาล
คือไม่มีลมหายใจเหมือนมีลมหายใจ อยู่ที่จุดเดียว ทำจนชำนาญ และอย่าตรวจสอบองค์ฌาน(วสี ข้อที่๕) เช่น พิจารณา อันนี้ ปิติ อันนี้สุข จะทำให้ที่ผ่านมาเสื่อม ตั้งมั่นได้ยาก
ควรศึกษา วสี๕ หัดการวสี
ตามลำดับ คือ ๑.ชำนาญทรงไว้(อุ่นเครื่อง=อุคหนิมิต อานาฯ ความเสียว น๊วบๆ ที่จุดสัมผัส) ๒.การเข้า ๓.การทรงอารมณ์ได้ตามเวลาต้องการ ๔.การชำนาญการออก ๕.ตรวจสอบองค์ฌาน
หากถามว่าจะทำอย่างไรให้ปฏิบัติได้นานขึ้น ตอบว่า ต้อง ทำ ๑ คือชำนาญอุ่นเครื่องตลอด ๒.เข้าให้ชำนาญ เมื่อชำนาญดีแล้ว อธิษฐานเวลาก่อนทำว่าจะเป็นเวลาเท่าใดแล้วทำใหม่ จนตั้งเวลาได้ เที่ยงดีแล้วฝึกต่อไปจนครบ ๕ข้อ ข้อสังเกตุ บุคคลที่ตรวจสอบ องค์ฌาน เช่น อันนี้วิตก วิจารณ อันนี้ปิติ สุข......ก่อนจะมีความชำนาญ(วสี ๔ ข้อแรก ) สิ่งที่ทำมาจะไม่ก้าวหน้า และพาลให้เสื่อมถอยอีกด้วย พระองค์เปรียบดั่ง แม่วัวที่ไม่รู้ที่หากิน อาจตกเขาตายได้ ฉะนั้นควรชำนาญในขอบเขตพื้นที่ก่อน
ข้ออื่นยังมีอีก.....เช่น สั้นแล้วทำไงต่อ.....รู้ทั้วกองลม.... แล้วไงต่อ.......(ตามนัยยะ อานาฯ ๑๖ )
ตอบ ลมสั้น หรือลมหยุด เป็นขอบเขตสิ้นสุดทางกายภาพของอานาฯ คือ สภาพกังสดาลต่อไป พูดง่ายๆก็คือ สภาพกังสดาลใช้จนกระทั่ง แล่นไปสู่ นิพพาน โดยรู้ ลมเข้า-ออก จนจบนั้นแหละ ฉะนั้น สภาพกังสดาล จึงสำคัญมากๆ....
http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/06/Y9318097/Y9318097.html
สารบัญ Group 1 สรุปคำตอบที่โต๊ะศาสนา 2549-2553 โดย Aero.1
อานาปานสติ
-ปริมุขํสตึ พุทธพจน์@อานาฯสูตร = บริเวณปากทางเข้าออกพระสารีบุตร@ปฏิสัมภิทามรรค
-ฑีฆํ อัสสสันโต พุทธพจน์@อานาฯสูตร = ความยาวที่จุดเดียว(ยาวตามกาล;ภาษาไทยอธิบายยาก "ให้ดู How long? ไม่ใช่ How far?" พระพุทธโฆษาจารย์@วิสุทธิมรรค เพราะว่าเมื่อกำหนดจุดเดียว ความยาวโดยระยะจะวัดไม่ได้ แต่จะรู้ยาวได้ก็เพราะรู้ว่า ลมมันสัมผัสจุดนั้นนานมากแค่ไหน
-ลมหายใจปกติเป็นลมยาว. ลมสั้นจะเกิดตามมาเองเมื่อจิตสงบระงับสมเด็จสังฆราชองค์ที่ 19@เทศน์สอนอานาฯ
-การตามลมเป็นอุปกิเลสในอานาปานัสสติพระสารีบุตร@ปฏิสัมภิทามรรค
-ลมหายใจสั้นมีลักษณะ สั้นมากๆ น้อยกว่าเสี้ยววินาที ศีรษะโล่งโปร่งสบาย ไม่อึดอัด พระสารีบุตรเปรียบดั่ง เสียงแห่งกังสดาน คือกำหนดตีครั้งเดียวแล้ว ความสั่นจะทำให้เกิดเสียงตามมาอีก ลมหายใจก็เช่นกัน เมื่อสั้นมากๆๆ เข้า จะหายไป(ยังไม่เกี่ยวกับฌาน ๔) แต่นักปฏิบัติยัง กำหนดรู้ลมอยู่ได้ เพราะ อาการคล้ายดั่งแห่งคลื่นเสียง เฉกเช่น กังสดาล
-อาการกำหนดรู้ลมที่จุดเดียวนี้ใช้จนสุดสาย อานาฯ คือ แม้เข้า นิพพานธาตุ ก็ยังรู้ลมเข้าออก นิโรธานุปัสสี อสฺสสิสฺสามีติ ปชานาติ>สลัดคืน(ปฏินิสสัคโค) พุทธพจน์@อานาฯสูตร
----------------------------------------------------
ลมหายใจยาวคือลมหายใจปกติ ยาวหมายถึงยาวตามกาล ฑีฆํ ศัพท์หากตรัสเป็นเรื่องระยะทางจะมีคำขยายเช่น จากที่นั้นถึงที่นี้ แต่ในรูปศัพท์ของ อานาฯสูตร นี้พระองค์ตรัส ฑีฆํ เฉยๆ ไม่มีรูปขยาย เมื่อกำหนดรู้ ทำได้สภาพยาวได้แล้ว(ไม่ง่าย) จิตจะหยุดแบบวิเศษ แล้วเมื่อสงบระงับจะพบลมสั้น เป็นจุดเวลา(สั้นมากๆ) ก็รู้ต่อไป เหมือนเดิมจุดเดียว(ปลายจมูกหรือริมฝีปากบน) สั้นตามกาลเวลา จนลมดับไป ให้นึกถึงสภาพกังสดาล คือไม่มีลมหายใจเหมือนมีลมหายใจ อยู่ที่จุดเดียว ทำจนชำนาญ และอย่าตรวจสอบองค์ฌาน(วสี ข้อที่๕) เช่น พิจารณา อันนี้ ปิติ อันนี้สุข จะทำให้ที่ผ่านมาเสื่อม ตั้งมั่นได้ยาก
ควรศึกษา วสี๕ หัดการวสี ตามลำดับ คือ ๑.ชำนาญทรงไว้(อุ่นเครื่อง=อุคหนิมิต อานาฯ ความเสียว น๊วบๆ ที่จุดสัมผัส) ๒.การเข้า ๓.การทรงอารมณ์ได้ตามเวลาต้องการ ๔.การชำนาญการออก ๕.ตรวจสอบองค์ฌาน
หากถามว่าจะทำอย่างไรให้ปฏิบัติได้นานขึ้น ตอบว่า ต้อง ทำ ๑ คือชำนาญอุ่นเครื่องตลอด ๒.เข้าให้ชำนาญ เมื่อชำนาญดีแล้ว อธิษฐานเวลาก่อนทำว่าจะเป็นเวลาเท่าใดแล้วทำใหม่ จนตั้งเวลาได้ เที่ยงดีแล้วฝึกต่อไปจนครบ ๕ข้อ ข้อสังเกตุ บุคคลที่ตรวจสอบ องค์ฌาน เช่น อันนี้วิตก วิจารณ อันนี้ปิติ สุข......ก่อนจะมีความชำนาญ(วสี ๔ ข้อแรก ) สิ่งที่ทำมาจะไม่ก้าวหน้า และพาลให้เสื่อมถอยอีกด้วย พระองค์เปรียบดั่ง แม่วัวที่ไม่รู้ที่หากิน อาจตกเขาตายได้ ฉะนั้นควรชำนาญในขอบเขตพื้นที่ก่อน
ข้ออื่นยังมีอีก.....เช่น สั้นแล้วทำไงต่อ.....รู้ทั้วกองลม.... แล้วไงต่อ.......(ตามนัยยะ อานาฯ ๑๖ )
ตอบ ลมสั้น หรือลมหยุด เป็นขอบเขตสิ้นสุดทางกายภาพของอานาฯ คือ สภาพกังสดาลต่อไป พูดง่ายๆก็คือ สภาพกังสดาลใช้จนกระทั่ง แล่นไปสู่ นิพพาน โดยรู้ ลมเข้า-ออก จนจบนั้นแหละ ฉะนั้น สภาพกังสดาล จึงสำคัญมากๆ....
http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/06/Y9318097/Y9318097.html
สารบัญ Group 1 สรุปคำตอบที่โต๊ะศาสนา 2549-2553 โดย Aero.1