ขอบคุณผู้ชายคนนั้นในพันทิป ที่ทำให้เราเห็นคุณค่าความเป็นตัวเอง และเจอความรักจริงๆในวันนี้

:: แด่เขาผู้เป็นอดีต ::
ย้อนราวๆ กลางปี 58 เราได้พูดคุยหลังไมค์กับชายหนุ่มอายุมากกว่าเรา 7 ปีได้
เราต่างคนต่างโสดมาเป็นสิบปี และมีโลกส่วนตัวของตัวเอง พอได้คุยกัน
เราต่างแชร์เรื่องของกันและกัน เปิดประสบการณ์ ถกเถียงกันเรื่องต่างๆ
เหมือนคนมีของแต่ไม่เคยได้แบ่งปันกับใคร ราวๆกับการตกหลุมรักกันผ่านตัวอักษร

หลังจากที่เราคุยกันสักพัก เราเองเป็นฝ่ายขอช่องทางการติดต่ออื่นๆ
แน่นอนทุกอย่างเป็นไปได้ดี เราต่างเห็นเรื่องราวส่วนตัวกันมากขึ้น
เราคุยกันทุกวันจนเหมือนเป็นส่วนนึง ด้วยความเป็นสาวยุคใหม่
เราตัดสินใจเดินเกมเพื่อขอความชัดเจนกับความสัมพันธ์นี้
เราขอเค้ามาเจอกันในชีวิตจริง ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี (มั้ง) ในความคิดเรา (ฝ่ายเดียว)

เราคิดว่าทุกอย่างไปได้ด้วยดีและเขาเปิดใจคุยกับเราคนเดียว
หลังจากที่เจอกัน เขาห่างไปอย่างเห็นได้ชัด
เราเริ่มรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เราจึงห่างออกมา หลังจากเดทครั้งนั้นสิบวัน
ผู้ชายคนนี้เปิดตัวคบกับผู้หญิงคนนึงที่อายุน้อยกว่าเค้าสิบกว่าปี
ทั้งที่เค้าเป็นผู้ชายโลกส่วนตัวสูงมาก
(แต่เล่นโซเชียลทุกอัน งงเหมือนกัน ตลกดี ก็เค้าบอกแบบนั้นนี่นะ ตอนนั้นเชื่อไง)

เราอยู่โหมดอกหัก เราห่างออกมา เราไม่เคยมีความรัก เราคิดว่าทุกคำพูดที่เราสื่อสารกันมันจะจริง มันหวานมาก
ก่อนหน้าที่เราจะเจอเขา เราลดน้ำหนักอย่างหนักเพราะเค้าเป็นสายออกกำลังกาย
เค้าชอบผู้หญิงรักสุขภาพเหมือนๆกัน เราทำในแบบที่คิดว่าเค้าจะชอบ มองตัวองตอนนี้แล้วก็ตลก
เราคุยกับเค้าสองเดือน ผ่านมาห้าเดือนยังไม่หายอกหักเลย บ้าบอมาก

หลังจากนั้นเราเริ่มทำอะไรบางอย่างที่ต้องการออกจากตรงนั้น เราบล็อกทุกช่องทาง
เลิกดูชีวิตเค้า เลิกที่อยากจะรู้ว่าเค้าเป็นยังไง เรากลับมาทบทวน ก่อนหน้านั้นเราคิดว่าเราไม่ดี
เราสู้เด็กคนนั้นไม่ได้ เราอ้วน เราไม่พอใจในตัวเอง เราเปรียบเทียบตัวเองต่างๆ นาๆ
เราคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ ดูถูกตัวเอง เหมือนเป็นแผลในใจ เราหลอนเรื่องนี้ไปพักใหญ่ๆ จนคิดว่าตัวเองเข้าใกล้ "โรคซึมเศร้า"

ด้วยความโชคดีที่รอบๆตัวเรามีแต่คนรักเรา เรามีครอบครัว มีเพื่อน มีงาน มีความฝัน
มันทำให้เราคิดได้ว่าแค่คนๆ เดียวที่ไม่รักเรา ก็ควรปล่อยเขาไป เขาพลาดที่ปล่อยผู้หญิงแบบเราไป
เรากลับมารักตัวเอง ช่วงนั้นติดตามบล็อกเกอร์คนนึง เราชอบความคิดเขา
สอนให้รักตัวเอง เป็นแบบที่ตัวเองเป็น สร้างทัศนคติที่ดีต่อตัวเอง
คนเราพอรักตัวเอง รักผู้อื่น ทำแต่สิ่งดีๆ มันจะแผ่รังสีนี้ออกไป และดึงดูดคนที่เหมือนกันเข้ามา
จนถัดมากลางปี 59 เราได้เจอกันใครอีกคนที่เข้ามาทำให้เชื่อในความรักอีกครั้ง

---------------------------------------------------------
:: แด่คุณคนที่เป็นปัจจุบัน ::
หลังจากหายบ้า เรามีคนเข้ามาบ้างตามสมควร แต่แน่นอนเราแผงฤทธิ์ เราเป็นตัวของตัวเอง
เราแกร่งขึ้น เราไม่เชื่อคำพูดของผู้ชายอีกต่อไปยกเว้นพ่อ และเพื่อนสนิทผู้ชาย

รอบนี้เราคิดแล้วว่าถ้าจะมีความรัก เราจะเป็นตัวของตัวเอง จะไม่วิ่งตามความรัก
แต่จะปล่อยให้ความรักทำงานของมันเอง ถ้าเป็นรักมันก็เป็นรัก ถ้ามันใช่มันก็ใช่
ผู้ชายคนนี้มาจากโซเชียลเหมือนกัน แต่ไม่ใช่พันทิป เขาเป็นฝ่ายเข้ามาหาเราก่อน
แต่เราเป็นคนจีบเขา เพราะเขาดันเป็นคนที่เราปลื้มมากสมัยเรียน แน่นอนเราปล่อยโอกาสนี้ไปไม่ได้

เราเริ่มคุยกัน โดยที่พี่เขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่โมเม้นท์เป็นการจีบกันไปมา
พี่คนนี้ไม่ปากหวานเท่าคนแรก ไม่พูดแต่เน้นการลงมือทำ เค้าไม่อัพอะไรเลยลงโซเชียล
ทำให้เราอ่านเค้าไม่ออก (คิดว่าอ่านคนแรกออกยัง อ่านผิดไปตั้งเยอะ กรรมจริงๆ)
เราแทบไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ ไม่ใช่หนุ่มสังคม ค่อนข้างเงียบ และมีโลกส่วนตัวจริงๆ แบบของจริง

เราคุยกันได้สองเดือนเราก็เป็นฝ่ายชวนเขาออกมาเจอกัน (เราไม่อยากรู้สึกดีเกินไปถ้ามันจะจบไม่สวยอีก)
รอบนี้เราชิลมาก น้ำหนักขึ้นมาจากตอนอกหักเกือบห้าโล ฮ่าๆๆๆ แต่เราไม่แคร์
เรากินอาหารคำใหญ่ๆ เราหัวเราะเสียงดัง เราเล่นมุกแบบที่เราชอบเล่นกับเพื่อน
เราเป็นแบบที่ไม่ได้เป็นตอนเจอผู้ชายคนแรก ครั้งนี้เราเป็นแบบที่คิดว่าถ้าไม่ได้คุยต่อเราก็ไม่เสียใจ
ท้ายที่สุด เดทนี้จบลงแบบที่พี่เค้าขอเราคบ เราก็แบบ O_O ฮ่าๆๆๆ ตกลงสิ แอบชอบมาหลายปี สวรรค์เป็นใจ

---------------------------------------------------
:: บทส่งท้าย ::
ดูเหมือนทุกอย่างจะแฮปปี้ใช่ไหมคะ เรากับพี่เค้าแฮปปี้มากค่ะ
แต่ดูเหมือนผู้ชายคนนั้นยังไม่ไปไหน เราฝันถึงเขาบ่อย ทั้งที่เราไม่รู้เรื่องของเราแล้ว
เราคิดว่าเราต้องทำอะไรสักอย่าง เราต้องปลดล็อคออกจากตรงนี้
ท้ายที่สุด เราเขียนจดหมายหาเขา เขียนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น (จริงๆเขียนไปว่านั้นแหละ)
อะไรหลายๆ อย่างที่ต้องการจะบอก ท้ายที่สุดเขาและเราขอโทษกัน จบกันแบบที่ได้บอกเหตุผล

จำไว้นะคะ ผู้หญิงบางคนเธอแมนมากพอที่จะฟังคำลาจาก
ไม่ใช่หายเงียบแบบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แบบนั้นมันกระจอกค่ะ ไม่ให้เกียรติ ค้างคาและทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่กับตัวเอง
เธอหาเหตุผลต่างๆ ที่จะบอกว่าตัวเองไม่ดี ทั้งที่จริงๆแล้ว
เหตุผลมันไม่มีอะไรมากไปกว่าใจเราไม่ตรงกัน แค่นั้นจบ
แต่การเงียบหายไปมันอาจจะสร้างบาดแผลที่คุณเองก็ไม่รู้ให้กับคนๆนึงได้

------------------------------------
:: ปัจจุบัน ::
จากการอกหักครั้งนั้น จนมาถึงวันนี้ เราพูดได้เลยว่าเราเจอคนดีจริงๆ
ต้องขอบคุณเขาที่ไม่เลือกเรา และไม่เก็บเราไว้ ทำให้วันนี้เราเจอคนที่แมนมากพอ
คนที่ไม่ต้องพูดมากแต่ลงมือทำ คนที่ทำให้ "ความรัก" เป็นกิริยา ไม่ใช่ "คำพูด"
คนที่เห็นคุณค่าเรา รักเราในแบบที่เราเป็น รักในข้อดีข้อเสียของเรา

ฝากถึงผู้หญิงทุกคน จงมองให้ออกว่าคุณควรจะเลือกใครมาเป็นคู่ชีวิต คุณต้องเลือกให้ถูกคน
ถ้าไม่ได้คนที่คู่ควรมากพอ การอยู่คนเดียวไม่ได้แย่ แต่มันแย่กว่าถ้ามีคนที่อยู่ด้วยแล้วหนักใจ
ขอให้เจอคนรักและความรักที่ดี สวัสดีปีใหม่ 2019
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่