สวัสดีครับ ผมเป็นนักศึกษาปี 3 อยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ผมมีแฟนที่อายุรุ่นเดียวกันและเรียนคณะเดียวกัน เราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด และคบกันมาตั้งแต่ปี 1 ชีวิตคู่ก็ถือว่าปกติดีครับ ช่วงปี 2 ที่ย้ายไปอยู่หอด้วยกัน ผมทำกับข้าว เขาก็ช่วยงานบ้าน ทุกอย่างก็ลงตัวไม่มีปัญหาอะไร
แต่หลังจากอยู่ด้วยกันได้ประมาณ 1 ปี แฟนผมเริ่มไม่มีเหตุผลมากขึ้น และใช้อารมณ์เป็นหลัก จากเดิมที่ช่วยล้างจาน กวาดบ้าน ก็เริ่มกลายเป็นหน้าที่ผมแทบทั้งหมด เวลาผมตักเตือนอะไร เขาก็มักจะทำหน้าไม่พอใจและใช้อารมณ์ใส่ตลอด พอผมเริ่มโกรธหรือขึ้นเสียงบ้าง เขาก็จะตัดพ้อ ทั้งที่บางอย่างผมเคยเตือนแล้วเขาไม่เคยรับฟังเลยครับ เหมือนเขาเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากขึ้น
พื้นฐานเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยฟังใครอยู่แล้ว แม้แต่กับคนที่บ้านก็ไม่ค่อยเคารพหรือมีสัมมาคารวะ แต่ตอนคบกันแรก ๆ เขาไม่เป็นแบบนี้เลย ช่วงปีหลังที่อยู่ด้วยกัน ผมเริ่มรู้สึกว่าสุขภาพจิตตัวเองแย่ลง เพราะผมต้องเป็นฝ่ายง้อตลอด ไม่ว่าผมจะผิดหรือไม่ก็ตาม
ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ฝนตก เขาบอกให้พาออกไปซื้อของ ทั้งที่ผมห้ามแล้วเพราะเขาเป็นประจำเดือนอยู่ แต่เขาไม่ฟัง ผมก็เลยพาไปตามที่ขอ เราใส่เสื้อกันฝนตามปกติ แต่ตอนกลับเสื้อกันฝนที่วางไว้หน้าตะกร้ารถมันเปียก เขาก็วีนใส่ผมว่า “ทำไมวางไว้ให้มันเปียก” ผมก็ตอบว่า “ฝนมันตก มันก็ต้องเปียกอยู่แล้ว” เขาก็พูดประชดกลับว่า “เดี๋ยวฉันป่วยตายเอง เป็นประจำเดือนอยู่ด้วย” ผมก็บอกว่า “ก็ห้ามแล้ว แต่ไม่ฟังเอง” หลังจากนั้นก็งอนยกใหญ่
พอกลับถึงหอ ผมบอกให้เขาปิดเพลงหน่อยเพราะผมไม่สบายมา 2 วันแล้ว แต่เขาก็ไม่ปิดทั้งที่ขอร้องหลายครั้ง จนผมพูดเบา ๆ ว่า “เปิดดัง

” หลังจากนั้นเขาก็ด่าผมกลับด้วยคำหยาบเต็มไปหมด
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าความรักของเรากลายเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้าง toxic ทะเลาะกันแทบทุกวันบอกว่าผมพูดหยาบแต่พอพูดด้วยดีๆเขาไม่เคยรับฟังอะไรหรือทำตามเลย ผมปวดหัวและเหนื่อยมาก ผมคิดว่าเขาที่อยู่ด้วยตอนนี้คงเพราะอีกแค่ 3 เดือนก็ต้องแยกไปฝึกงานแล้ว ถ้าเลิกกันตอนนี้เขาคงลำบาก เพราะขับรถเองไม่ได้ โปรเจคจบผมก็เป็นคนทำ ไหนจะเรื่องหอพักอีก
ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับชีวิตดีครับ ตอนปกติเราก็เข้ากันได้ดี แต่พอทะเลาะกัน ผมต้องเป็นฝ่ายง้อทุกครั้ง ทั้งที่บางทีผมก็อยู่เฉย ๆ ถ้าเป็นพี่ๆจะแก้ปัญหายังไงครับ
ความรักในวัยเรียนนี่มันเหนื่อยจังโว้ยยยย
แต่หลังจากอยู่ด้วยกันได้ประมาณ 1 ปี แฟนผมเริ่มไม่มีเหตุผลมากขึ้น และใช้อารมณ์เป็นหลัก จากเดิมที่ช่วยล้างจาน กวาดบ้าน ก็เริ่มกลายเป็นหน้าที่ผมแทบทั้งหมด เวลาผมตักเตือนอะไร เขาก็มักจะทำหน้าไม่พอใจและใช้อารมณ์ใส่ตลอด พอผมเริ่มโกรธหรือขึ้นเสียงบ้าง เขาก็จะตัดพ้อ ทั้งที่บางอย่างผมเคยเตือนแล้วเขาไม่เคยรับฟังเลยครับ เหมือนเขาเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากขึ้น
พื้นฐานเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยฟังใครอยู่แล้ว แม้แต่กับคนที่บ้านก็ไม่ค่อยเคารพหรือมีสัมมาคารวะ แต่ตอนคบกันแรก ๆ เขาไม่เป็นแบบนี้เลย ช่วงปีหลังที่อยู่ด้วยกัน ผมเริ่มรู้สึกว่าสุขภาพจิตตัวเองแย่ลง เพราะผมต้องเป็นฝ่ายง้อตลอด ไม่ว่าผมจะผิดหรือไม่ก็ตาม
ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ฝนตก เขาบอกให้พาออกไปซื้อของ ทั้งที่ผมห้ามแล้วเพราะเขาเป็นประจำเดือนอยู่ แต่เขาไม่ฟัง ผมก็เลยพาไปตามที่ขอ เราใส่เสื้อกันฝนตามปกติ แต่ตอนกลับเสื้อกันฝนที่วางไว้หน้าตะกร้ารถมันเปียก เขาก็วีนใส่ผมว่า “ทำไมวางไว้ให้มันเปียก” ผมก็ตอบว่า “ฝนมันตก มันก็ต้องเปียกอยู่แล้ว” เขาก็พูดประชดกลับว่า “เดี๋ยวฉันป่วยตายเอง เป็นประจำเดือนอยู่ด้วย” ผมก็บอกว่า “ก็ห้ามแล้ว แต่ไม่ฟังเอง” หลังจากนั้นก็งอนยกใหญ่
พอกลับถึงหอ ผมบอกให้เขาปิดเพลงหน่อยเพราะผมไม่สบายมา 2 วันแล้ว แต่เขาก็ไม่ปิดทั้งที่ขอร้องหลายครั้ง จนผมพูดเบา ๆ ว่า “เปิดดัง
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าความรักของเรากลายเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้าง toxic ทะเลาะกันแทบทุกวันบอกว่าผมพูดหยาบแต่พอพูดด้วยดีๆเขาไม่เคยรับฟังอะไรหรือทำตามเลย ผมปวดหัวและเหนื่อยมาก ผมคิดว่าเขาที่อยู่ด้วยตอนนี้คงเพราะอีกแค่ 3 เดือนก็ต้องแยกไปฝึกงานแล้ว ถ้าเลิกกันตอนนี้เขาคงลำบาก เพราะขับรถเองไม่ได้ โปรเจคจบผมก็เป็นคนทำ ไหนจะเรื่องหอพักอีก
ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับชีวิตดีครับ ตอนปกติเราก็เข้ากันได้ดี แต่พอทะเลาะกัน ผมต้องเป็นฝ่ายง้อทุกครั้ง ทั้งที่บางทีผมก็อยู่เฉย ๆ ถ้าเป็นพี่ๆจะแก้ปัญหายังไงครับ