เลิกหรือไปต่อ ถ้าแอบไปได้ยินบางอย่างความปากแฟน?

สวัสดีค่ะ ต้องเกริ่นก่อนว่า เราอาจจะใช้ทักษะในการเล่าไม่ดีนักนะคะ เขียนไม่ค่อยดีก็ขออภัย

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อคืนนี้(คืนวันที่ 9/12/2561) เราแอบไปได้ยินแฟนคุยกับแม่เขาทางมือถือ
(ที่ไปได้ยินได้เพราะลำโพงมือถือแฟนดังค่ะถึงไม่ได้เปิดลำโพงเสียงก็ทะลุออกมา)
แฟนคิดว่าเราหลับอยู่ในห้อง ตัวแฟนไปคุยนอกห้อง แต่เราไม่ได้หลับค่ะ เราไปแอบฟัง
ยอมรับว่าเสียมรรยาทอยู่เหมือนกันที่ทำแบบนั้น แต่เราสงสัยตลอดเลยว่าคุยกับแม่ ทำไมต้องแอบคุย
อ่านมาถึงตรงนี้คงคิดว่าเขาไม่ได้คุยกับแม่จริงๆใช่มั้ยคะ แต่เขาคุยกับแม่จริงๆค่ะ แต่แอบคุยไม่อยากให้เราได้ยินเรื่องที่คุย
จนมาเมื่อคืนค่ะ เราสงสัยว่าเขาจะคุยอะไรกัน ทำไมเขาต้องแอบคุย ทีเราคุยกับแม่สตอรี่มีอะไรบ้าง เขารู้หมด!!!

สิ่งที่เราได้ยิน คือเขานินทาเรากับแม่เขาค่ะ ในมุมมองเขาเราเป็นคนน่าสงสัย เขากลัวเราไปหลอกเขา
เขาคุยกับแม่ทำนองว่ากลัวเราจะไปหลอกลวงเขา เขาต้องการสืบเรื่องของเรา บลาๆๆ
ลามไปถึงครอบครัวเรา พูดจาเชิงดูหมิ่นมากๆ ตอนได้ยินรู้สึกแย่มากๆค่ะ เสียใจมาก
อยากรู้ใช่มั้ยคะว่า เราไปทำอะไรให้เขาคิดแบบนั้น บอกเลยค่ะ เราไม่ได้ทำอะไรเลย

เรากับแฟนคบกันได้มาสักระยะนึง ไม่นานมากค่ะประมาณเกือบปี ตลอดเวลาที่คบกัน เขาไม่ได้ทำงานเลย
แม่เขาจะส่งเงินให้ใช้เหมือนทุกเดือน ตั้งแต่เริ่มเรียนมหาลัย จนปัจจุบันที่เรียนจบมาได้2ปีก็ยังไม่มีงานทำ
ต้องบอกก่อน แฟนเราจบสายที่มันไม่สามารถทำงานออฟฟิศได้อ่ะค่ะ ไม่ใช่สายตรง มีวุฒิปริญญาจริง
เหมือนก็แค่มี แต่ใช้สมัครงานทั่วไปไม่ได้ ในสายงานแบบที่เขาเรียนมาเขาก็ไม่ค่อยเปิดรับ
แต่ยังดีที่เขาเก่งอิ้ง ก็รับงานฟรีแลนซ์พวกงานแปลบทพากย์มาทำได้ แต่มันไม่ได้มีตลอดอ่าค่ะ นานๆทีจะมีนานมากกก

จนล่าสุดเราก็เห็นเขาไม่มีงานสักที +กับที่บ้านเรากำลังจะเปิดร้านใหม่ บ้านเราทำธุรกิจเล็กๆค่ะ
เราเลยเสนอกับเขาว่า ถ้ายังหางานไม่ได้ก็รอออฟฟิศที่บ้านเราเสร็จ และลองมาทำงานดู เราจะลองสอนงานให้
และเหมือนกลายเป็นว่า เขาก็ไม่หางาน เขาก็รองานตรงนี้จากเรา ทั้งที่เราบอกว่าอยากให้เขาหางานที่เขาอยากทำก่อน
ถ้าท้ายที่สุดมันหาไม่ได้ค่อยว่ากัน เพราะเขาไม่เคยทำงานสายธุรกิจเลย เขาอาจจะไม่ชอบ +กับออฟฟิศยังไม่เสร็จ
เวลามันก็ผ่านมาสักระยะนึง สัก2-3เดือน ที่ออฟฟิศมันยังไม่เสร็จ เหมือนเขาก็เครียดค่ะ พยายามถามเราว่าออฟฟิศเสร็จยัง
จริงๆเรามีส่วนผิดที่บอกว่ามันจะเสร็จตั้งแต่กลางเดือนก่อน(พฤศจิกา) แต่ช่างขอเวลามาถึงต้นเดือนธันวา ก็เข้าใจนะคะ
เพราะว่าตึกที่ทำออฟฟิศเดิมทีมันก็เก่า ช่างก็คงอยากให้งานมันออกมาดีหน่อย เลยขอเวลาทางบ้านเราก็ไม่ติดขัดอะไร
แต่แฟนเราดันไม่พอใจ หาว่ามันมีจริงๆรึเปล่าออฟฟิศนี้ ให้เราเอาโลเคชั่นของออฟฟิศมา จะไปดูด้วยตาตัวเอง

และสิ่งที่เราแอบไปได้ยินที่เขาคุยกับแม่ ประมาณว่าเขาจะเข้าไปดูออฟฟิศที่เราว่า ว่ามันมีจริงๆหรือโกหก
พูดว่าเราอาจจะไปหลอกลวงเขา โกหกเขา ทำให้เขาเสียเวลา!! ลามไปถึงบ้านเรา มิจฉาชีพรึเปล่า
ให้แม่เขาตามสืบใบทะเบียนพาณิชย์เรา ค้นหาร้านของเราว่ามีในฐานข้อมูลจริงๆมั้ย
ใบทะเบียนพาณิชย์เขาเคยขอดูค่ะ ซึ่งเราก็มีให้จริงๆนะคะ เราไม่ได้ปิดบังอะไร เราก็ให้ดูเอกสารไปแล้ว
ขอไลน์แม่เรา จะไปคุยกับแม่เราเรื่องงานเรื่องร้าน เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แม่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่เรารู้สึกว่า เขาก็ไม่ได้มาร่วมลงทุนอะไรในธุรกิจบ้านเราเลยนะ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลย ทำไมต้องทำขนาดนี้
ตั้งแต่คบกันมาเงินสักบาทจากเขาเราไม่เคยได้ แม้แต่ข้าวจานนึง น้ำหยดนึงจากเขาไม่เคยจ่ายให้เรา
อะไรที่ทำให้เขาคิดว่าเราจะไปหลอกลวงเขา ทั้งที่ความจริงแล้วเราต่างหากที่เสียเงินให้เขาอยู่คนเดียว
รวมถึงเวลาไปตปท.ก็ซื้อของมาฝากแม่เขามากมาย ที่ให้ไปด้วยใจล้วนๆ ไม่เคยเอามาพูดกำเริบบุญคุณอะไร
เราเลยงงค่ะ อะไรที่ทำให้เขามองว่าเราไปหลอกเขา ไปปั่นหัวเขาให้เขาเสียเวลา แม่เขาก็กลัวว่าลูกชายจะโดนหลอก
บอกว่าเราจะไว้ใจได้รึเปล่า เขามาหลอกอะไรลูกรึเปล่าบลาๆ ที่เราได้ยินที่เขาคุยกัน
บอกก่อนนะคะ ไม่มีเรื่องผู้ชายหรือมือที่สาม คบกันมาไม่เคยทะเลาะเรื่องพวกนี้

อย่างที่บอกข้างบนอ่าค่ะ ว่าพอเราเสนองานที่บ้านให้ เขาก็ไม่หางานอื่นเลย
ทั้งที่เราก็บอกให้มองหางานไปเรื่อยๆ เพราะงานที่บ้านเราเป็นธุรกิจเล็กๆเอง ทำกันในครอบครัวได้
แต่เราอยากให้เขามีรายได้ทางอื่นบ้างนอกจากขอจากแม่อย่างเดียว ก็เลยชวนมาลองช่วยงานเราดู
แต่กลับกลายเป็นว่า เราทำให้เขาเสียเวลา เราอาจจะไปหลอกเขาเล่นๆว่าจะให้เขามาทำงานด้วย อันนี้ตามที่เราเดานะคะ
เราก็ไม่รู้ความคิดเขาเท่าไหร่ ตอนนี้เสียใจมากๆ ทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืน พยายามข่มตาให้หลับ
บอกตรงๆเรารู้สึกขื่นขมมากเลยค่ะ ที่คนข้างกายมีมุมมองแย่ๆต่อเรา ต่อครอบครัวเรา
ทั้งที่เราคิดว่าเราก็ดีกับเขาแล้วนะ ทำดีกับเขาแล้ว เพิ่มเติมนะคะที่ได้ยินคือ เขาไปพูดกับแม่ว่า
อะไรที่เราให้ๆไป ให้เขา ให้แม่เขา อาจจะแค่ทำดีช่วงแรกให้ตายใจ ให้ตายสิ นี่เราอยู่กับคนที่มีความคิดแบบนี้ได้ยังไง

----------------------------------------------
#เพิ่มเติม/// เราลืมใส่รายละเอียดเรื่องนี้ค่ะ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เกาะเรากินอย่างที่คิดๆกัน แต่ที่เราบอกว่าเราอาจจะมีให้บ้างก็คือ
เราอาจจะสั่งข้าว หรืออาหารแบบบริการส่งถึงที่ไปให้เขาที่ห้องเขา เพราะเขาชอบเล่นเกมจนลืมกินข้าว
ทำให้เราเป็นห่วง อาจจะมีซื้อของใช้จุกจิกให้บ้าง ซื้อของฝากจากตปท.ให้แม่เขาบ้างตามโอกาส
แต่ส่วนตัวเขาก็ไม่เคยให้อะไรเรานะคะ ไม่เคยเลี้ยงข้าวเรา เราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันค่ะ
อาจจะมีไปนอนอยู่ห้องเขาบ้าง แต่ก็ไม่บ่อย(แต่เมื่อคืนไปเลยทำให้ได้ยินทุกอย่าง)
เวลาเจอกันส่วนมากจะเจอข้างนอก ต่างคนต่างกินต่างคนต่างจ่าย ตรงนี้เราว่าแฟร์ดีค่ะ เราไม่คิดอะไรกับเรื่องนี้
แต่ก็นั่นแหละค่ะ ทุกอย่างมันมาพังตรงที่เราไปได้ยินว่าเขามีมุมมองอย่างไรกับครอบครัวเราและตัวเรา

#Tagห้องผิดขออภัยนะคะ
ปล. แก้ไขคำผิดค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 67
เราอาจจะตอบไม่ได้ทุกคนนะคะ แต่เราอ่านทุกคอมเม้นเลยจริงๆ ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นเลยค่ะ
#ตอนนี้เราเลิกกันแล้วค่ะ..
สำหรับบางความคิดเห็นที่อยากรู้ว่า แฟนเรียนจบอะไรมา ทำไมถึงทำงานทั่วไปไม่ได้
เราขอไม่เอ่ยถึงและกันนะคะ แต่เท่าที่เคยคุยกับเขามาว่า ไม่ว่าเขาจะเรียนอะไรมา
ผลลัพท์คือเขาก็แค่อยากทำงานด้านภาษาอยู่ดี แต่เราก็บอกนะว่า ภาษาอังกฤษอ่ะคนเก่งเยอะนะสมัยนี้
ถ้าจะหาแค่งานด้านนั้น คนทำมันก็เยอะ ทำไมไม่หางานด้านอื่นทำ อีกงานนึงที่เขาบอกก็คืออยากทำงานเกี่ยวกับเกม
แต่ก็นั่นแหละ บริษัทเกมเขาก็รับคนจบเฉพาะทางเหมือนกัน พวกด้านกราฟฟิค และคิดคอนเท้นให้กับเกม
ซึ่งเขาก็ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ค่ะ แม่เขาเคยให้ไปลองสอบ กพ. ก็สอบไม่ผ่าน อ่อนคณิตมากเลยสอบไม่ได้

แนะนำให้ไปสอบนักการทูต(ทำงานด้านภาษาเหมือนกัน)ที่เปิดรับสมัครสอบที่ผ่านมา เขาก็ไม่ได้สนใจหรือกะตือรือร้นที่จะสอบ
เราก็เหนื่อยที่จะพูด ทุกวันนี้เขาก็เครียดค่ะ เขาบอกเครียดเขาพยายามหางาน แต่ก็งานแค่ด้านภาษานะคะ 5555 ไม่เอางานด้านอื่นเหมือนกัน
บ้านเขาอยู่ในฐานะกลางๆ แม่พอมีเงินเดือนเงินเก็บส่งเสียเขาได้อยู่บ้าง เดือนละ 15k หักค่าเช่าห้องกินอยู่ก็เหลือบ้าง ไม่พอบ้าง
เขาไม่ใช่คนกรุงเทพโดยกำเนิด เป็นคนตจว. สอบเข้ามาเรียนในกรุงเทพ พอเรียนจบเหมือนติดใจไม่อยากกลับบ้านค่ะ
เราเคยถามว่า ทำไมไม่กลับบ้าน ถ้ากลับบ้านแม่ก็จะได้ไม่ต้องเงินมาให้จ่ายค่าห้อง (เดือนนึงรวมน้ำไฟ 5-6พัน)
ถ้ากลับบ้าน ก็จะประหยัดเงินตรงนั้นไปได้เยอะเลย เขาก็บอกว่าอยากทำงานในกรุงเทพ กลับบ้านไปก็ไม่รู้จะทำอะไร
เขาไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืน หรือใช้เงินสิ้นเปลืองอะไรนะคะ แต่ชอบการอยู่กรุงเทพ เขาว่าไปไหนสะดวกดี

พอคบกันผ่านมาเรื่อยๆเกือบๆปีเราก็เห็นว่าเขาไม่มีงานสักที เลยแนะนำงานที่บ้านให้ เงินเดือนยังไม่เคยตกลงกันค่ะ
เขาเลยเลือกรองานตรงนี้จากเราอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ไปหางานอื่นตามที่บอกในกระทู้เลยค่ะ
และร้านเรามันเสร็จช้า เลยกำหนดที่บอกว่าจะให้เขาทำงาน เขาก็ดันไม่พอใจอีก เขาบอกเขาเครียดเขาต้องการทำงาน
กลายเป็นว่า อยู่ๆจากที่ไม่สนใจงานด้านอื่นนอกจากงานด้านภาษา ก็ยิ้มอยากมารองานจากบ้านเราอย่างเดียว
จริงๆเขาก็เคยเห็นร้านของเราแล้วนะ แต่เป็นร้านแรก เรียกว่าสาขาแรกก็ได้ค่ะ แต่มันเล็กก็อยากขยับขยาย
เพราะของในร้านวางเรียงกันอย่างแออัด ก็เลยหาพื้นที่ใหม่ ที่มันกว้างขึ้นแค่นั้นเอง ทำให้เราก็งงว่า มองเราไปหลอกเขาได้ไง
คิดได้ไงว่าออฟฟิศเรามีจริงๆมั้ย ทั้งที่เขาเองก็เคยเห็นธุรกิจบ้านเราแล้ว ไอ้ร้านแรกที่บอกอ่ะค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นความเครียดของเขา อาจจะทำให้เขาเกิดอาการพารานอย เลยกดดันตัวเอง
และความกดดันนี้ เรามองว่าอาจจะมาจากแม่เขาด้วย ที่อยากให้เขาทำงานตั้งนานแล้ว แต่เขายังไม่ได้งานสักที
อันนี้เราเข้าใจนะคะ เพราะแม่เขาอายุเยอะแล้ว ไม่กี่ปีก็จะเกษียญออกจากราชการ อารมณ์คนเป็นแม่คงกลัวว่า
ลูกจะหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ และถ้าแม่เขาเกษียญก็อาจจะไม่มีเงินมาเลี้ยงดูเขา เพราะบำนาญอะไรก็คงได้ไม่เยอะมากเท่าไหร่

สำหรับบางคอมเม้นที่ถามว่าบ้านเราประกอบธุรกิจอะไร เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์เล็กๆค่ะ
แต่ตอนนี้ เราเลิกกับเขาแล้วนะคะ ค่อนข้างยากที่จะทำใจเลยค่ะ เพราะเราเป็นคนที่คบกับใครยาก
ใช้เวลาศึกษานานพอสมควร พอตัดสินใจคบแล้วมาเจออะไรแบบนี้ มันก็รู้สึกเสียใจ ทรมาน และรู้สึกว่าเราโคตรอาภัพรักเลย
ขนาดที่ผ่านมา มีแฟนมาไม่ถึง 3 คน (รวมปัจจุบันแล้ว)แต่ละคนก็รูปแบบใกล้เคียงกันทั้งนั้น
ขนาดไม่ได้มองที่รูปลักษณ์เลยนะคะ แฟนเราแต่ละคนไม่เข้าใกล้คำว่าหล่อเลยค่ะ เราชอบคนที่นิสัยใจคอล้วนๆ
แต่ใครจะรู้นะคะ ทุกคนใหม่ๆอะไรมันก็ดี เราไม่สามารถรู้ได้หรอกค่ะว่า คนที่เราคุยตัวตนที่แท้จริงเป็นยังไงจนกว่าเขาจะเผยออกมา
และคนล่าสุดนี้ก็เช่นกัน เขาทำให้เราคิดว่าเขาดี นิสัยเขาตรงใจเราสุดๆ ไม่หยาบคาย ไม่ดื่มไม่เที่ยวไม่สูบบุหรี่ ไม่ติดหรู กินข้าวข้างทางได้
ไม่เจ้าชู้ ไม่ทำอะไรที่ทำให้เราบั่นทอนจิตใจเลยสักนิด อะไรที่เราไม่ชอบ เราดีลกันและเขาก็ไม่ทำ ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะเอาเราไปพูดในเชิงนั้นได้

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกความคิดเห็นนะคะ ทุกแง่มุมเลย ขอบคุณที่อ่านค่ะ

เพี้ยนอรุณสวัสดิ์
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
จบมาแล้ว 2 ปี อายุก็คง 23-24 ปี  ยังให้แม่ส่งเสีย  ยังเกาะแฟนกิน

แค่ไม่ขวนขวายให้ตนเองเจริญด้วยตัวเอง ก็แย่มากแล้ว

แล้วนี่ยังมองคุณในแง่ลบ  กลัวมาหลอก  ถามว่าหลอกแล้วได้ไรเนี่ย? ห่วยขนาดเนี่ย?

มีสมบัติพันล้านเหรอ?  ปลอมตัวมาตกยากเหรอ? ถึงกลัวคนมาหลอกเอาสมบัติ

ฟีลลิ่งเลี้ยงงูพิษไว้กับตัวแท้ๆ  ไม่มีประโยชน์  มีแต่จะแว้งกัดให้เจ็บปวด
ความคิดเห็นที่ 7
เดี๋ยวถ้าได้เข้ามาทำงาน
เค้าก็จะพูดเรื่องเงิน
อยากได้เยอะๆแต่ขี้เกียจ
ประเภทจ้างหมื่น ทำสิบ
น้องก็น้ำท่วมปากพูดไม่ออก
เพราะผู้ชายหายากเลยไม่กล้าแตกหัก

เป็นโสดไม่ได้เป็นเรื่องแย่อะไรนะ
มีผัวห่วยๆแย่กว่าเยอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่