เรื่องของเรื่องก็คือ เราเองเป็นลูกค้าทรูมูฟคนหนึ่งที่ใช้งานมานานหลายปี จนเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เราก็ไปเปิดเบอร์ใหม่กับทรูมูฟอีก 1 เบอร์ เพื่อใช้งานกับ aircard เพราะเรามีความจำเป็นที่จะต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการทำงานที่บ้าน แล้วเราก็ใช้งานเบอร์นี้มาเรื่อยๆ จนเมื่อเดือนกันยายน 2560 เราก็ตัดสินใจไปทำเรื่องปิดเบอร์นี้ เพราะตอนนั้นเราติดอินเทอร์เน็ต wi-fi ที่บ้านแล้ว ก็เลยคิดว่าคงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ aircard อีกต่อไป
ตอนเราจะไปปิดเบอร์ aircard เราก็ไปทำเรื่องที่ศูนย์บริการทรูมูฟในจังหวัดที่เราอยู่ ก็แจ้งเหตุผลที่จะปิดเบอร์ไปตามเรื่องราวข้างต้น เราเองแอบคิดในใจมาแล้วว่า นี่ต้องเจอพนักงานพูดโน้มน้าวนู้นนี่นั่นแน่ๆ เพื่อไม่ให้ปิดเบอร์ 555 ซึ่งถามว่ามันก็เป็นไปตามนั้นแหละ แต่เราก็ยังยืนยันว่าต้องการจะปิด ทีนี้พนักงานที่รับเรื่องปิดเบอร์ก็บอกกับเราว่า
"เอาอย่างนี้ดีมั้ย เดี๋ยวทางเราจะเปลี่ยนโปรเบอร์นี้ให้เป็นโปร 0 บาท เผื่อว่าถ้าวันข้างหน้าลูกค้าอยากจะกลับมาใช้เบอร์นี้อีกก็จะได้ไม่ต้องมาเปิดเบอร์ใหม่" เราเองพอได้ยินแบบนี้ ก็เข้าใจว่ามันก็คงไม่มีอะไร ก็เลยตอบตกลงกับพนักงานไป ซึ่งตรงนี้อยากให้ทุกคนอ่านย้ำตรงที่พนักงานพูดกับเราอีกครั้ง และเราขอยืนยันว่าพนักงานพูดบอกข้อมูลกับเราแค่นี้จริงๆ และไม่มีการอธิบายข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมกับเราอีก
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ทุกอย่างก็ดูปกติ เบอร์ที่เราแจ้งปิดไปก็ไม่มีค่าบริการใดๆ เกิดขึ้น จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (13/11/61) เราไปจ่ายค่ามือถือของทรูมูฟ (เป็นอีกเบอร์หนึ่งที่เรามีอยู่และยังใช้งานตามปกติ) โดยจ่ายผ่านตู้อัตโนมัติของทรูมูฟ ปรากฏว่ามันมียอดของเบอร์ที่เราแจ้งปิดโผล่ขึ้นมา 107 บาท เราก็งงสิ อ้าว! อยู่ดีๆ ค่าบริการมันโผล่มาได้ไง อะไรยังไง! เราเลยลองโทร. ไปเช็คกับทางคอลเซ็นเตอร์ของทรูมูฟ แล้วความจริงก็ปรากฏ เพราะพนักงานคอลเซ็นเตอร์บอกกับเราว่า โปร 0 บาทของเบอร์เก่าที่เราได้มานั้น มันจะมีอายุแค่ 12 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นเบอร์เก่าของเราจะถูกปรับเป็นโปร 199 บาท แต่จ่าย 100 บาท พอได้ยินแบบนี้เราก็นึกย้อนกลับไปในวันที่ไปทำเรื่องปิดเบอร์ที่ศูนย์ทันที และก็รู้เลยว่านี่เราเสียรู้ให้กับทรูมูฟเข้าแล้วสินะ 555
ถามว่าเรารู้สึกยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น เอาจริงๆ ก็เสียความรู้สึกนะที่พนักงานไม่บอกรายละเอียดทั้งหมดกับเราตั้งแต่วันที่เราไปแจ้งปิดเบอร์ เพราะถ้ารู้แบบนี้ แน่นอนว่าเราก็ไม่ยอมหรอก แต่ใจหนึ่งก็โทษตัวเองที่สะเพร่าและไม่เช็คข้อมูลกับพนักงานให้ดีๆ แต่นี่ก็จะกลับไปที่ศูนย์อีกครั้งและคราวนี้ก็จะขอปิดแบบถาวรจริงๆ แล้วล่ะ ไม่เอาโปรใดๆ อื่นๆ อีกแล้ว นี่ยังคิดอยู่ว่าอีกเบอร์ของทรูมูฟที่เราใช้อยู่ก็ชักอยากจะปิดไปเลยเหมือนกันอะ
ทั้งหมดนี้ก็แค่อยากมาเล่าสู่กันฟัง และฝากเรื่องของเราให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับลูกค้าคนอื่นๆ ของทรูมูฟล่ะกันนะ
ความหมกเม็ดของทรูมูฟที่ในที่สุดก็ได้เจอกับตัวเองจริงๆ
ตอนเราจะไปปิดเบอร์ aircard เราก็ไปทำเรื่องที่ศูนย์บริการทรูมูฟในจังหวัดที่เราอยู่ ก็แจ้งเหตุผลที่จะปิดเบอร์ไปตามเรื่องราวข้างต้น เราเองแอบคิดในใจมาแล้วว่า นี่ต้องเจอพนักงานพูดโน้มน้าวนู้นนี่นั่นแน่ๆ เพื่อไม่ให้ปิดเบอร์ 555 ซึ่งถามว่ามันก็เป็นไปตามนั้นแหละ แต่เราก็ยังยืนยันว่าต้องการจะปิด ทีนี้พนักงานที่รับเรื่องปิดเบอร์ก็บอกกับเราว่า "เอาอย่างนี้ดีมั้ย เดี๋ยวทางเราจะเปลี่ยนโปรเบอร์นี้ให้เป็นโปร 0 บาท เผื่อว่าถ้าวันข้างหน้าลูกค้าอยากจะกลับมาใช้เบอร์นี้อีกก็จะได้ไม่ต้องมาเปิดเบอร์ใหม่" เราเองพอได้ยินแบบนี้ ก็เข้าใจว่ามันก็คงไม่มีอะไร ก็เลยตอบตกลงกับพนักงานไป ซึ่งตรงนี้อยากให้ทุกคนอ่านย้ำตรงที่พนักงานพูดกับเราอีกครั้ง และเราขอยืนยันว่าพนักงานพูดบอกข้อมูลกับเราแค่นี้จริงๆ และไม่มีการอธิบายข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมกับเราอีก
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ทุกอย่างก็ดูปกติ เบอร์ที่เราแจ้งปิดไปก็ไม่มีค่าบริการใดๆ เกิดขึ้น จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (13/11/61) เราไปจ่ายค่ามือถือของทรูมูฟ (เป็นอีกเบอร์หนึ่งที่เรามีอยู่และยังใช้งานตามปกติ) โดยจ่ายผ่านตู้อัตโนมัติของทรูมูฟ ปรากฏว่ามันมียอดของเบอร์ที่เราแจ้งปิดโผล่ขึ้นมา 107 บาท เราก็งงสิ อ้าว! อยู่ดีๆ ค่าบริการมันโผล่มาได้ไง อะไรยังไง! เราเลยลองโทร. ไปเช็คกับทางคอลเซ็นเตอร์ของทรูมูฟ แล้วความจริงก็ปรากฏ เพราะพนักงานคอลเซ็นเตอร์บอกกับเราว่า โปร 0 บาทของเบอร์เก่าที่เราได้มานั้น มันจะมีอายุแค่ 12 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นเบอร์เก่าของเราจะถูกปรับเป็นโปร 199 บาท แต่จ่าย 100 บาท พอได้ยินแบบนี้เราก็นึกย้อนกลับไปในวันที่ไปทำเรื่องปิดเบอร์ที่ศูนย์ทันที และก็รู้เลยว่านี่เราเสียรู้ให้กับทรูมูฟเข้าแล้วสินะ 555
ถามว่าเรารู้สึกยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น เอาจริงๆ ก็เสียความรู้สึกนะที่พนักงานไม่บอกรายละเอียดทั้งหมดกับเราตั้งแต่วันที่เราไปแจ้งปิดเบอร์ เพราะถ้ารู้แบบนี้ แน่นอนว่าเราก็ไม่ยอมหรอก แต่ใจหนึ่งก็โทษตัวเองที่สะเพร่าและไม่เช็คข้อมูลกับพนักงานให้ดีๆ แต่นี่ก็จะกลับไปที่ศูนย์อีกครั้งและคราวนี้ก็จะขอปิดแบบถาวรจริงๆ แล้วล่ะ ไม่เอาโปรใดๆ อื่นๆ อีกแล้ว นี่ยังคิดอยู่ว่าอีกเบอร์ของทรูมูฟที่เราใช้อยู่ก็ชักอยากจะปิดไปเลยเหมือนกันอะ
ทั้งหมดนี้ก็แค่อยากมาเล่าสู่กันฟัง และฝากเรื่องของเราให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับลูกค้าคนอื่นๆ ของทรูมูฟล่ะกันนะ