แรงบันดาลใจของการเริ่มทำหมูปิ้งของผม มีอยู่ 3 อย่างหลักๆครับ
1. อยากพัฒนาจนสามารถหาเป็นรายได้เสริม
2. ความชอบกินส่วนตัว
3. บอร์ดพันทิพนี่แหละครับ
ถามว่าทำไม ต้องขอแนะนำตัวคร่าวๆก่อนครับ
ผมอายุ 38 ปี รายได้อยู่ 40K กลางๆ มีทาวเฮ้าส์ อยู่คนเดียว ไม่มีลูก ไม่มีเมีย มีแต่หมาปอม 1 ตัว ชีวิตธรรมดาสุดๆ เลยคิดว่า ไหนๆก็ไม่มีบ่วงอะไร หาอะไรทำเพิ่มดีกว่า
เริ่มจากการวิเคราะห์ตัวเองก่อนเลย ว่าจะทำอะไรดี
นอกจากงานประจำที่ทำในระดับหัวหน้าระดับกลาง ผมไม่มีความสามารถในการผลิตใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น แปลว่าเริ่มจาก 0 งานเสริมที่คิดจะทำ ต้องมีความชอบพอสมควร จะได้ทำได้นานหน่อย ไม่ล้มเลิกง่ายๆ
จึงมาจบที่ หมูปิ้ง เพราะบอร์ดพันทิพ ชอบแนะนำให้ขายหมูปิ้ง แสดงว่ามันต้องมีอะไรดี คนรายได้เป็นแสนเป็นล้านยังแนะนำให้ทำ แล้วตัวเองก็ชอบกินด้วย ทำที่บ้านได้ ลงทุนต่ำ เข้าท่าสุดๆ ในบอร์ดก็พูดเหมือนง๊าย ง่าย ลองทำดูเลยละกัน
ผมบอกได้เลย ว่า "หมูปิ้ง มันไม่หมูอย่างชื่อ" มันคือ business model ชั้นดี ที่เอาไว้ฝึกฝนใช้ได้กับทุกๆสิ่งเลยทีเดียว
มันคือ
budget planning
costing
timing
marketing
packaging
lost
ฯลฯ เท่าที่ ธุรกิจ จะมี เรียกว่าครบ
ลองมาดูกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นในการเริ่มทำหมูปิ้งครั้งแรก
1. ผมใช้เวลา 2.30 ชั่วโมง ในการทำหมูปิ้ง 10 ไม้
มันเกิดจากความไม่ชำนาญ ผมต้องคอยเปิดสูตรตลอด ความไม่คล่องแคล่วในการใช้อุปกรณ์ โดยผมเลือกจะทำหมูปิ้งแบบหมูบด ไม่ได้เป็นแบบชิ้นๆ ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย เช่น
1. ความไม่ชำนาญในการใช้เครื่องบด การหั่น การใช้มีด การแกะกระเทียมด้วยมือ การใช้ครก ที่พอตำเครื่องเทศที่จะไว้หมัก ตำที กระเด็นออกนอกครกที
2. เมื่อได้หมูบดแล้ว เอามาคลุกกับเครื่องเทศเพื่อจะหมัก ปรากฏว่า ไม่สามารถปั้นเป็นก้อนๆ ให้หมูเกาะกับไม้เสียบได้ มันเหลว ร่วงออกหมด โดยที่ผมไม่ได้หาข้อมูลมากพอว่าเทคนิคการทำให้หมูเกาะตัวกัน ทำอย่างไร ผมจึงใช้วิธี ปั้นหมูแยกเป็นก้อนๆ แล้วแช่ตู้เย็น
3. ผมเลือกจะปิ้งด้วยเตาถ่าน เพราะเชื่อว่าจะอร่อยกว่า ปรากฏว่า เตาถ่านมันไม่ได้จุดติดง่ายๆอย่างที่คิด กว่าถ่านจะติดดี มันใช้เวลานานมาก
ณ.จุดนี้ ผมสอบตกสิ้นเชิง ในเรื่องของการ planning และ analysis thinking ผมหาข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่คิดเผื่อถึงปัญหาและทางแก้ ด้วยความอ่อนประสบการณ์บวกประมาท คิดว่ามันง่าย
ปัญหาแค่ในกระบวนการ production ยังไม่จบแค่นั้น มันเกิด waste และ lost มากกว่าที่คิด
เนื้อหมูส่วนที่ต้องตัดทิ้ง
ผักชีที่ซื้อมาทั้งต้น แต่ใช้แค่ราก
กระทิที่เหลือจากการใช้
ไข่ไก่ที่ตกแตก
ของที่กระเด็นตกพื้นตอนตำ
เนื้อหมูที่ติดในเครื่องบด
หมูที่ปิ้งเสีย
ฯลฯ
ซึ่งผมไม่ได้คิด budget ส่วนตรงนี้ไว้เลย แน่นอน ผมสอบตกอีกครั้ง
ยังๆ ยังไม่จบแค่นั้น ปัญหายังมีอีก ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงการตั้งราคา หรือ pricing
ผมพบว่า ขนาดของหมูปิ้งที่กำลังสวย ในสายตาผม จะใช้หมูบด ประมาณ 4 กรัม ต่อ 1 ไม้
ซึ่ง หมูที่ผมใช้ เป็นส่วนสันนอก ซื้อที่ Big C ขนาด 400 กรัม ราคา 46 บาท
แปลว่า ต้นทุนต่อไม้ของผม เนื้อหมู 4 กรัม + ไม้เสียบ + เครื่องปรุง ประมาณ 6 บาท
แต่เดี๋ยวก่อน มันต้องเอา พวก waste และ lost มาคำนวนด้วยสิ ต้นทุนต่อไม้ผมน่าจะพุ่ง ไปราวๆ 8 บาทต่อไม้
ถามว่า ขาย 10 บาท จะได้อะไร ขาย 15 บาท ใครจะบ้าไปซื้อกิน
คราวนี้ต้องมาดูแล้ว ว่าเราจะลด cost ได้ในจุดไหน
ความผิดพลาดในส่วน production
หรือจะลดคุณภาพของวัตถุดิบลง
หรือจะต้องหา source อื่นที่ถูกกว่า
หรือช่างมัน ก็ indy อ่ะ จะขายแพงๆ ใครจะทำไม
สุดท้าย สิ่งที่เป็นหัวใจของการทำอาหาร
รสชาติ
หมูปิ้งในการทำครั้งแรกของผม สรุปได้ว่า
รสชาดของเครื่องเทศดี
แต่เนื้อสัมผัสห่วย และ ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย
ซึ่งต้องมานั่งวิเคราะห์ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอีก
เห็นมั้ยครับ หมูปิ้ง มันง่ายซะที่ไหน สำหรับคนที่เริ่มต้นจากศูนย์
แล้วมาดูกันจริงๆ มันมีอะไรให้เรียนรู้จากหมูปิ้งมากมาย นี่ผมยังไปไม่ถึงจุดที่ว่าจะทำการตลาดยังไง วางขายที่ไหน packaging แบบไหน expense ที่จะเกิดขึ้นตามมา และอีกมากมายก่ายกอง
แต่ผมมองว่า มันช่างท้าทายเหลือเกิน มันสนุก มันเหนื่อย มันทำให้ไฟในตัวผมลุกโชน ผมอยากเห็นหมูปิ้งของผมได้ถูกวางขายจริงๆ
แน่นอนล่ะ ผมจินตนาการไปล่วงหน้าแล้วว่าหมูปิ้งผมต้องขายดี ดังระเบิด ไม่ผิดที่คนเราจะฝัน แต่เราต้องฝันเป็นเสต็ป
วันนี้ขายได้ 10 ไม้ ค่อยฝันถึงขายได้ 50 ไม้
วันนี้ขายได้ 100 ไม้ ค่อยฝันต่อ ว่าขายได้ 500 ไม้
ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมบอร์ดถึงให้ไปขายหมูปิ้ง เพราะมันให้อะไรมากกว่าที่คิดจริงๆ
ขอบคุณที่อ่านครับ ขอตัวไปหมักหมูก่อน
หมูปิ้ง ทำจริงๆง่ายซะที่ไหน
1. อยากพัฒนาจนสามารถหาเป็นรายได้เสริม
2. ความชอบกินส่วนตัว
3. บอร์ดพันทิพนี่แหละครับ
ถามว่าทำไม ต้องขอแนะนำตัวคร่าวๆก่อนครับ
ผมอายุ 38 ปี รายได้อยู่ 40K กลางๆ มีทาวเฮ้าส์ อยู่คนเดียว ไม่มีลูก ไม่มีเมีย มีแต่หมาปอม 1 ตัว ชีวิตธรรมดาสุดๆ เลยคิดว่า ไหนๆก็ไม่มีบ่วงอะไร หาอะไรทำเพิ่มดีกว่า
เริ่มจากการวิเคราะห์ตัวเองก่อนเลย ว่าจะทำอะไรดี
นอกจากงานประจำที่ทำในระดับหัวหน้าระดับกลาง ผมไม่มีความสามารถในการผลิตใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น แปลว่าเริ่มจาก 0 งานเสริมที่คิดจะทำ ต้องมีความชอบพอสมควร จะได้ทำได้นานหน่อย ไม่ล้มเลิกง่ายๆ
จึงมาจบที่ หมูปิ้ง เพราะบอร์ดพันทิพ ชอบแนะนำให้ขายหมูปิ้ง แสดงว่ามันต้องมีอะไรดี คนรายได้เป็นแสนเป็นล้านยังแนะนำให้ทำ แล้วตัวเองก็ชอบกินด้วย ทำที่บ้านได้ ลงทุนต่ำ เข้าท่าสุดๆ ในบอร์ดก็พูดเหมือนง๊าย ง่าย ลองทำดูเลยละกัน
ผมบอกได้เลย ว่า "หมูปิ้ง มันไม่หมูอย่างชื่อ" มันคือ business model ชั้นดี ที่เอาไว้ฝึกฝนใช้ได้กับทุกๆสิ่งเลยทีเดียว
มันคือ
budget planning
costing
timing
marketing
packaging
lost
ฯลฯ เท่าที่ ธุรกิจ จะมี เรียกว่าครบ
ลองมาดูกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นในการเริ่มทำหมูปิ้งครั้งแรก
1. ผมใช้เวลา 2.30 ชั่วโมง ในการทำหมูปิ้ง 10 ไม้
มันเกิดจากความไม่ชำนาญ ผมต้องคอยเปิดสูตรตลอด ความไม่คล่องแคล่วในการใช้อุปกรณ์ โดยผมเลือกจะทำหมูปิ้งแบบหมูบด ไม่ได้เป็นแบบชิ้นๆ ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย เช่น
1. ความไม่ชำนาญในการใช้เครื่องบด การหั่น การใช้มีด การแกะกระเทียมด้วยมือ การใช้ครก ที่พอตำเครื่องเทศที่จะไว้หมัก ตำที กระเด็นออกนอกครกที
2. เมื่อได้หมูบดแล้ว เอามาคลุกกับเครื่องเทศเพื่อจะหมัก ปรากฏว่า ไม่สามารถปั้นเป็นก้อนๆ ให้หมูเกาะกับไม้เสียบได้ มันเหลว ร่วงออกหมด โดยที่ผมไม่ได้หาข้อมูลมากพอว่าเทคนิคการทำให้หมูเกาะตัวกัน ทำอย่างไร ผมจึงใช้วิธี ปั้นหมูแยกเป็นก้อนๆ แล้วแช่ตู้เย็น
3. ผมเลือกจะปิ้งด้วยเตาถ่าน เพราะเชื่อว่าจะอร่อยกว่า ปรากฏว่า เตาถ่านมันไม่ได้จุดติดง่ายๆอย่างที่คิด กว่าถ่านจะติดดี มันใช้เวลานานมาก
ณ.จุดนี้ ผมสอบตกสิ้นเชิง ในเรื่องของการ planning และ analysis thinking ผมหาข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่คิดเผื่อถึงปัญหาและทางแก้ ด้วยความอ่อนประสบการณ์บวกประมาท คิดว่ามันง่าย
ปัญหาแค่ในกระบวนการ production ยังไม่จบแค่นั้น มันเกิด waste และ lost มากกว่าที่คิด
เนื้อหมูส่วนที่ต้องตัดทิ้ง
ผักชีที่ซื้อมาทั้งต้น แต่ใช้แค่ราก
กระทิที่เหลือจากการใช้
ไข่ไก่ที่ตกแตก
ของที่กระเด็นตกพื้นตอนตำ
เนื้อหมูที่ติดในเครื่องบด
หมูที่ปิ้งเสีย
ฯลฯ
ซึ่งผมไม่ได้คิด budget ส่วนตรงนี้ไว้เลย แน่นอน ผมสอบตกอีกครั้ง
ยังๆ ยังไม่จบแค่นั้น ปัญหายังมีอีก ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงการตั้งราคา หรือ pricing
ผมพบว่า ขนาดของหมูปิ้งที่กำลังสวย ในสายตาผม จะใช้หมูบด ประมาณ 4 กรัม ต่อ 1 ไม้
ซึ่ง หมูที่ผมใช้ เป็นส่วนสันนอก ซื้อที่ Big C ขนาด 400 กรัม ราคา 46 บาท
แปลว่า ต้นทุนต่อไม้ของผม เนื้อหมู 4 กรัม + ไม้เสียบ + เครื่องปรุง ประมาณ 6 บาท
แต่เดี๋ยวก่อน มันต้องเอา พวก waste และ lost มาคำนวนด้วยสิ ต้นทุนต่อไม้ผมน่าจะพุ่ง ไปราวๆ 8 บาทต่อไม้
ถามว่า ขาย 10 บาท จะได้อะไร ขาย 15 บาท ใครจะบ้าไปซื้อกิน
คราวนี้ต้องมาดูแล้ว ว่าเราจะลด cost ได้ในจุดไหน
ความผิดพลาดในส่วน production
หรือจะลดคุณภาพของวัตถุดิบลง
หรือจะต้องหา source อื่นที่ถูกกว่า
หรือช่างมัน ก็ indy อ่ะ จะขายแพงๆ ใครจะทำไม
สุดท้าย สิ่งที่เป็นหัวใจของการทำอาหาร
รสชาติ
หมูปิ้งในการทำครั้งแรกของผม สรุปได้ว่า
รสชาดของเครื่องเทศดี
แต่เนื้อสัมผัสห่วย และ ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย
ซึ่งต้องมานั่งวิเคราะห์ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอีก
เห็นมั้ยครับ หมูปิ้ง มันง่ายซะที่ไหน สำหรับคนที่เริ่มต้นจากศูนย์
แล้วมาดูกันจริงๆ มันมีอะไรให้เรียนรู้จากหมูปิ้งมากมาย นี่ผมยังไปไม่ถึงจุดที่ว่าจะทำการตลาดยังไง วางขายที่ไหน packaging แบบไหน expense ที่จะเกิดขึ้นตามมา และอีกมากมายก่ายกอง
แต่ผมมองว่า มันช่างท้าทายเหลือเกิน มันสนุก มันเหนื่อย มันทำให้ไฟในตัวผมลุกโชน ผมอยากเห็นหมูปิ้งของผมได้ถูกวางขายจริงๆ
แน่นอนล่ะ ผมจินตนาการไปล่วงหน้าแล้วว่าหมูปิ้งผมต้องขายดี ดังระเบิด ไม่ผิดที่คนเราจะฝัน แต่เราต้องฝันเป็นเสต็ป
วันนี้ขายได้ 10 ไม้ ค่อยฝันถึงขายได้ 50 ไม้
วันนี้ขายได้ 100 ไม้ ค่อยฝันต่อ ว่าขายได้ 500 ไม้
ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมบอร์ดถึงให้ไปขายหมูปิ้ง เพราะมันให้อะไรมากกว่าที่คิดจริงๆ
ขอบคุณที่อ่านครับ ขอตัวไปหมักหมูก่อน