ร้านทำเล็บบนห้าง พนักงานขายน่ารำคานมาก แถมปิดท้ายด้วยการยื่นซองผ้าป่าให้ลูกค้าช่วยใส่ซอง มันได้เหรอ?

สวัสดีค่ะ

ขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะคะ

ยอมรับค่ะ ว่าโมโห และ อึดอัดมากค่ะ กับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน  และ ไม่เข้าใจว่าทำไม ร้านถึงไม่อบรมมารยาทการขายให้กับพนักงานบ้าง  ทำไมถึงได้ออกมาในรูปแบบนี้  

จขกท. เป็นเมมเบอร์ร้านทำเล็บร้านนึง ที่มีสาขาอยู่ตามห้างค่ะ  โดยการซื้อคอร์ส ณ ตอนนั้น ร้านแจ้งว่าต้องซื้อขั้นต่ำที่ 20,000 บาท ร้านจะแถมวงเงินให้อีก 8,000 บาท  รวมมียอดวงเงินที่สามารถใช้ได้  28,000 บาท

จขกท. ก็ซื้อคอร์สไว้ตามรายละเอียดข้างต้นค่ะ เพราะ สะดวกเวลามาทำเล็บ จะได้ราคาสมาชิก และ สะดวกในการหักเงินออกจากวงเงินไปเลย  ก็เห็นว่าสะดวกดี เพราะ ทำเล็บเป็นประจำอยู่แล้ว

หลังจากนั้นก็ มาใช้สิทธิ์ตามปกติค่ะ  แต่ละครั้งค่าทำเล็บจะอยู่ที่ 1,700 บาท (มือเท้า)  โดยประมาน   ก็หักออกไปจากวงเงินปกติ

โดยปกติ จะใช้บริการที่สาขา เซ็นทรัล พระราม9 ค่ะ  แต่เนื่องจากเมื่อวานมีธุระที่ เดอะมอล บางกะปิ  จึงได้โทรสอบถามสาขาดังกล่าวว่าพอจะมีคิวไหม  ก็ได้คิวค่ะ  จึงเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าไปใช้บริการที่สาขานี้

วงเงินคงเหลือเมื่อวาน อยู่ที่ 18,200 บาทค่ะ

ก็เข้าไปที่ร้าน แจ้งพนักงาน แล้วเค้าก็จะจัดคิวช่างให้ และ เรียกเราไปทำเล็บค่ะ  

และ นั่นแหละค่ะ  ระหว่างการทำเล็บ  พนักงานขายคนแรกก็เข้ามา  เข้ามาเกาะข้างเก้าอี้เราค่ะ ทำตาใส และ แสดงความสนิทสนมกับเรามากค่ะ

ขอเล่าแบบรวบยอดคำถาม และ วิธีการพูดของพนักงานขาย คร่าวๆ ดังนี้ค่ะ

พนักงานขายคนที่ 1 :  ลูกค้าค่าาาา มาสาขานี้ครั้งแรกเหรอคะ  หน้าเด้งมากเลย ผิวดีจัง ลูกค้าทำหน้า ทำตัวอยู่ที่ไหนคะ ทำหน้าอยู่ที่ไหนคะ (ถามย้ำอยู่นั่น) ไม่สนใจทำที่นี้บ้างเหรออ ที่นี้ไม่เหมือนที่อื่นเลยน้าาาา  ปกติลูกค้า wax ไหมคะ  สนใจบราซิลเลี่ยนแว็กซ์ไหมคะ  มันดีมากเลยนะคะ ไม่ลองเหรอ สะอาดนะคะ เวลาเป็นประจำเดือน ไม่ติดเลย...  สนใจพอกน้ำดำไหมคะ  นี่ค่ะ  ขาวทันตาเลยค่ะ  (ยื่นรูปในโทรศัพท์ให้ดู)   ซื้อไว้เลยไหมคะ  อยากให้ลองจัง  วันนี้มีเวลาอีกซักชั่วโมงไหมคะ  อยากให้ลองมากเลย  ลองเถอะนะค่า มันดีจริงๆ   ไม่อยากให้พลาดเลย  เสียดาย ไม่อยากให้พลาดเลย  เสียดาย ไม่อยากให้พลาดเลย  ลองเถอะ ครั้งนี้ลองเลย  ซื้อไว้ 1 ครั้งก็ได้ ลองเถอะ ไม่อยากให้พลาด เสียดาย ๆๆๆ .....    (วนเวียนเหมือนยุงข้างหูอะค่ะ)
  

จขกท. ตอบทุกอย่างด้วยความสุภาพนะคะ ว่าที่นี้เรามาเพื่อทำเล็บ ส่วนหน้ามีคลินิคประจำดูแล และ ตัวมีสปาประจำอยู่แล้ว  ก็ยังถามคลินิคชื่ออะไร สปาอยู่ที่ไหน บลาๆ

คือ เข้าใจในงานขายนะ ว่าเค้าต้องขาย  แต่เมื่อเริ่มเยอะเกิน และ จขกท. ปฎิเสธไปมากกว่า 5 รอบ  มันก็เริ่มน่ารำคานค่ะ  ก็เริ่มมีจ้องหน้าพนักงานขายบ้าง พร้อมย้ำเสียงว่า  ไม่สนใจค่ะ

คือ เรามาเนี่ย อยากมาทำเล็บ เราชอบร้านคุณเรื่องทำเล็บ  เราซื้อคอร์ส ยอมจ่ายค่าทำเล็บต่อครั้งในราคาเกือบสองพันบาท  เพื่อมาเจอความตอแย ความไร้มารยาท ความเกาะติดตลอดเวลาการทำเล็บแบบนี้เหรอ  มัน unprofessional มากค่ะ   มันน่ารำคานมาก และ มันทำให้ลูกค้าอยากเดินออกจากร้าน ณ ตอนนั้นเลย

การขาย การเสนอขายอะไรต่างๆเพิ่ม  ทำได้ไหม  ทำได้ค่ะ  แต่มันต้องมีขอบเขตค่ะ  และ  สิ่งสำคัญที่คุณ ในฐานะพนักงานขายควรพูดกับลูกค้าเวลามาเสนอขายคือ  คุณขายอะไร  ข้อดีมันคืออะไร ส่วนผสมที่น่าสนใจของมันคืออะไร ช่วยในเรื่องอะไร  คือ ข้อมูลในเชิง product details อะค่ะ  ความน่าสนใจของมันที่จะทำให้ลูกค้าสนใจคืออะไร    เสนอให้ครบถ้วน  แล้วที่เหลือให้ลูกค้าพิจารณาเองต่อไปค่ะ ว่าจะซื้อไหม  ฝีปากเซลล์เก่งๆที่ควรใช้ มันอยู่ตรงนี้ค่ะ  

ไม่ใช่การมานั่งขาย แบบเกาะขอบเก้าอี้  ทำตาแป๋ว  แล้วพูดแต่ว่า  ซื้อเถอะนะๆๆๆๆ ไม่ซื้อ น่าเสียดายนะๆๆๆๆ  เดี๋ยวพลาดนะๆๆๆๆๆ

เอิ่ม...คือ ไปเทรนมาใหม่เถอะค่ะ   จริงๆนะ  ขายแบบนี้  พังมาก   เพราะ เราในฐานะลูกค้า สุดท้ายแล้ว  ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งที่คุณขายเลย  มีแค่รูปแขนขาใครก็ไม่รู้ ที่เอามาให้เราดู  ว่าแช่แล้วขาว  เฮ้อ

สรุป พนักงานขายคนแรก ก็ยอมถอยค่ะ  เราก็กำลังจะหลับตาพัก ระหว่างทำเล็บเพลินๆ  ก็มาอีกแล้วค่ะ  พนักงานขายคนที่ 2

และ ที่มันน่าโมโห คือ  พูดเหมือนคนแรกเป๊ะ   คำถามเดิมๆ  สเต็ปการชมแบบเดิมๆ  ถามว่าเราเป็นเนตไอดอลตามเพจรึเปล่า  หน้าทำที่ไหน ตัวทำที่ไหน บลาๆ  ไม่ลองพอกน้ำดำเหรอ และ ทุกอย่างย้อนกลับขึ้นไปอ่านแบบที่พนักงานคนที่ 1 พูดค่ะ   แบบเดียวกันเป๊ะ  เราต้องตอบคำถามเดิมๆ อีกหลายรอบ  และ ปฎิเสธแบบเดิมๆ อีกหลายรอบ

เบื่อ..อึดอัด...และ เริ่มโมโห  

พอทำเล็บเสร็จ  ก็เดินออกมา เพราะ ต้องเซ็นต์ใบใช้บริการ ตรงเคาท์เตอร์หน้าร้าน

พนักงานก็ยืนกันเต็มอะค่ะ  และ พนักงานขาย 1 และ 2  ก็เดินเข้ามา

เสนอขายต่อ...แบบเดิมๆ    

โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย  อะไรนักหนาเนี่ย  555555555

เรารำคานมากแล้ว เลยบอก ไม่สนใจ  ขอใบเซ็นต์ด้วย  จะเซ็นต์แล้วจะไปแล้ว

พนักงานขายคนที่ 2 เลยพูดว่า  ยังไงก็ไม่สนใช่ไหมคะ ?

...ยังจะถาม....คือ เราพูดไปมากกว่า 10 รอบนะ...

หลังจากนั้น ก็ถึงจุดพีค  

พนักงานก็เดินไปหยิบ....ซองผ้าป่า มาจากเคาท์เตอร์  ยื่นให้เรา

ตอนนั้น หูชาแล้วค่ะ เพราะ โมโห อาจจะฟังไม่รู้เรื่องไปบ้าง  จับใจความได้ว่า จะมีไปทอดผ้าป่ากัน

ลูกค้าสะดวกเท่าไหร่ ก็ได้ค่ะ....

เหรอ...มันได้เหรอ  ร้านไม่ใช่ระดับ 5 ดาว  เข้าใจนะ  แต่ก็ไม่ใช่ร้านกะโหลกกะลา ที่จะมาแบบเร่ผ้าป่ากับลูกค้าในร้านแบบนี้ไหมอะ  

คือ ชวนร่วมทำบุญอะ ได้นะ  แต่ต้องไม่ใช่การยื่นซองใส่หน้าลูกค้าแบบนี้  

ก่อนลูกค้าจะกลับ สอบถามเค้าสิ   คุณลูกค้าสนใจร่วมทำบุญกับทางร้านไหมคะ  เนื่องจากทางร้านจะมีไปทำบุญสร้างศาลาที่วัดxxxx ในวันที่ xxนี้ค่ะ  หากสนใจสามารถร่วมทำบุญได้นะคะ ตามความสะดวกเลยค่ะ

สอบถาม เพื่อรอคำตอบ    

ถ้าลูกค้าตอบสนใจ  คุณค่อยลงลึกในรายละเอียด แล้วค่อยยื่นซองให้เค้าใส่ไหมอะ

อันนี้อะไร  เหมือนอารมณ์แบบ เฮ้อ เซง ขายเพิ่มไม่ได้เลย  งั้น  ใส่ซองให้ก็ยังดี  อารมณ์นั้นอะ  

จขกท. : "ผ้าป่าเนี่ย ตามที่สะดวกใช่ไหมคะ"  

พนักงานพยักหน้า

จขกท. : "งั้น ไม่สะดวกค่ะ"

จากนั้น ก็ลุกเดินออกจากร้านมาเลยค่ะ  

เฮ้ออออ

ขอจบการระบายเท่านี้ค่ะ  มีใครเคยเจอการขายแย่ๆแบบไหน แล้วรับมือยังไง  เล่าสู่กันฟังได้นะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่