ทุกท่านไม่ต้องลำบากกาย(นั่งหลังขดหลังแข็ง ปวดแข้งปวดขา)
ไม่ต้องลำบากตา(นั่งเพ่งจ้องกสิณ)
เพียงแต่กำหนดรู้ กาย เวทนา จิต ธรรม ด้วยสติ
แล้วฌาน1-8จะเกิดขึ้นเอง
ดูนี่ครับ....
[๗๑๗] ดูกรอานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย(รวมทั้ง เวทนา จิต ธรรม)อยู่ มีความ
เพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย เมื่อเธอพิจารณาเห็นกาย(รวมทั้ง เวทนา จิต ธรรม)ใน
กายอยู่ ความเร่าร้อนมีกาย(รวมทั้ง เวทนา จิต ธรรม)เป็นอารมณ์เกิดขึ้นในกาย(รวมทั้ง เวทนา จิต ธรรม)ก็ดี ความหดหู่แห่งจิตเกิดขึ้นก็ดี จิตฟุ้งซ่าน
ไปในภายนอกก็ดี ภิกษุนั้นพึงตั้งจิตไว้ให้มั่นในนิมิต อันเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใสอย่างใด
อย่างหนึ่ง เมื่อเธอตั้งจิตไว้มั่นในนิมิต อันเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใสอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่
ปราโมทย์ย่อมเกิด เมื่อเธอปราโมทย์ ปีติย่อมเกิด เมื่อเธอมีใจประกอบด้วยปีติ กายย่อมระงับ
เธอมีกายระงับแล้ว ย่อมเสวยสุข เมื่อเธอมีสุข
จิตย่อมตั้งมั่น....( สูตรที่ ๑๐ อัมพปาลิวรรค)
☆☆เมื่อเกิดจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิของพระพุทธองค์แล้ว
ต่อไปสิ่งเหล่านี้จะเกิดตามมาครับ☆☆
...เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น เธอสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุ
ปฐมฌาน(รวมรูปฌาน4และอรูปฌาน4) มีวิตก มีวิจาร
มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ .....(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค๑๐. สุภสูตรเรื่องสุภมาณพ)
★มีข่าวดีมาบอกทุกๆท่านที่อ่านจะได้ฌานหมดเพียงแต่ท่านปฏิบัติสติปัฎฐาน4สมาธิของพระพุทธองค์ท่านก็จะได้ฌาน1-8เป็นของแถมฟรีๆ★
ไม่ต้องลำบากตา(นั่งเพ่งจ้องกสิณ)
เพียงแต่กำหนดรู้ กาย เวทนา จิต ธรรม ด้วยสติ
แล้วฌาน1-8จะเกิดขึ้นเอง
ดูนี่ครับ....
[๗๑๗] ดูกรอานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย(รวมทั้ง เวทนา จิต ธรรม)อยู่ มีความ
เพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย เมื่อเธอพิจารณาเห็นกาย(รวมทั้ง เวทนา จิต ธรรม)ใน
กายอยู่ ความเร่าร้อนมีกาย(รวมทั้ง เวทนา จิต ธรรม)เป็นอารมณ์เกิดขึ้นในกาย(รวมทั้ง เวทนา จิต ธรรม)ก็ดี ความหดหู่แห่งจิตเกิดขึ้นก็ดี จิตฟุ้งซ่าน
ไปในภายนอกก็ดี ภิกษุนั้นพึงตั้งจิตไว้ให้มั่นในนิมิต อันเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใสอย่างใด
อย่างหนึ่ง เมื่อเธอตั้งจิตไว้มั่นในนิมิต อันเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใสอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่
ปราโมทย์ย่อมเกิด เมื่อเธอปราโมทย์ ปีติย่อมเกิด เมื่อเธอมีใจประกอบด้วยปีติ กายย่อมระงับ
เธอมีกายระงับแล้ว ย่อมเสวยสุข เมื่อเธอมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น....( สูตรที่ ๑๐ อัมพปาลิวรรค)
☆☆เมื่อเกิดจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิของพระพุทธองค์แล้ว
ต่อไปสิ่งเหล่านี้จะเกิดตามมาครับ☆☆
...เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น เธอสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน(รวมรูปฌาน4และอรูปฌาน4) มีวิตก มีวิจาร
มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ .....(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค๑๐. สุภสูตรเรื่องสุภมาณพ)