ไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาทำเพื่อทำสิ่งนั้นๆ คุณก็อาจจะทำได้ ไปถึงจุดนั้นได้
แต่กี่ปีละ กว่าจะไปถึงตรงนั้น
ในขณะที่บางคน อาจขยันกว่า บางคนมีพรสวรรค์ เค้าเลยไปได้ไวกว่า
นักแข่งเกมดูดีๆ ก็เหมือนกีฬาอื่นๆแหละ สมมติว่าเทียบกับบาส คนเล่นบาสมีตั้งไม่รู้กี่คนทั่วโลก แต่ได้ไปแข่งใน NBA กี่คนหละ
สมมติว่าเล่น ROV แต่ถ้าไม่ติด conqueror ทุกซีซั่นความหวังก็เริ่มน้อยแล้ว

ลองทำงี้ดู ถ้าเวลาไม่ค่อยมี ลองแค่ วันนึงเล่นเกมที่อยากเทพวันละ 2-3 ชั่วโมง

แต่ระหว่างเวลานั้นคือ ต้องเล่นจริงจั ไต่แรงค์หรือซ้อมทีม อย่างเดียว เกมอะไรก็แล้วแต่คุณ
และตั้ง goal ไว้ว่าจะไปให้ถึงแรงค์นั้นๆ ภายในกี่เดือน
และพยายามทำให้ได้ดู

แต่ถ้าระหว่างทำไป รู้สึกว่ามันไม่สนุก มันเครียด และเหนื่อยก็ปล่อยไปครับ
เล่นให้สนุกพอ จริงจังได้ แต่อย่าไปหวังว่าจะไปถึงระดับแข่ง

ขอเล่าให้ฟังประสบการณ์ส่วนตัว ผมเคยเล่น Dota 2 อยู่ตั้งแต่ สมัยมันยังเป็น beta ยังไม่มีระบบแรงค์
ผมเล่นเกมนี้อยู่ 4 ปีก็เหมือน ก็อยากเป็น pro player เหมือนคุณแหละ
จนระบบแรงค์เข้ามา ผม calibrate แรงค์ solo ได้ 3300 ปลายๆ และไต่ไปจนถึง 3800 ปลายๆ
(สมัยนั้น 4000+ คือ top10% ของโลก 5000+ นี่คือ 1%  top 200 leaderboard top 10 อันดับตอนนั้น คือ 6000 ต้นๆ)
หลังจากเล่นอยู่ 4 ปีผมก็เริ่มเห็นความจริงแล้วว่า ผมทำไม่ได้ เพราะผมไม่มีความสามารถพอ และไม่ขยันพอ
ผมเล่นแรงค์วันนึงไม่กี่เกมเอง ยิ่งถ้าแพ้ยิ่งหมดกำลังใจ
สุดท้ายผมก็เลิกเล่นเกมนี้ และเลิกจริงจังที่จะไปเป็นนักแข่ง
หันมาเล่นเกมแบบพอเอาสนุก เน้นเกมพวกเนื้อเรื่อง บรรยากาศดีกว่า
แต่ก็ยังเล่นเกมแนวนี้อยู่นะ (Overwatch) เวลาเล่นแรงค์กับเพื่อนก็จริงจัง
แต่ถ้าแพ้ก็ปล่อยไป ไม่ได้หวังจะไปถึง Grandmaster หรือ Top 500 อยู่แล้ว

แต่ในขณะเดียวกันก็มีตัวอย่างของคนที่พยายามจริงๆ และมี potential ไม่ขอเอ่ยนาม เป็นผู้เล่น overwatch ทีมชาติไทยคนนึง
เค้าเล่าให้ฟัง เคยเล่น LoL อยู่ ก่อนมาเล่น overwatch
เค้าใช้เวลาแค่ 3 เดือนจากคนเล่นไม่เป็นเลย ไต่แรงค์จนถึง challenger ได้ (แรงค์สูงสุดใน LoL)
แต่สิ่งที่เค้าทำคือ เค้าเล่นเกมนี้ตั้งแต่ เที่ยงวัน ยันเที่ยงคืน กินข้าวแค่วันละมื้อ กับ พักเข้าห้องน้ำนิดนึง

ถ้าคิดว่าสามารถขยันได้แบบคนนี้ (แต่ไม่ต้องทำตามเค้า ที่ว่ากินข้าวแค่วันละมื้อเล่นตั้งแต่ เที่ยงวันยันเที่ยงคืน ไม่ต้องนะ ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างแรง)
ก็ลองดู