พลีชีพ "ฉันมาไกล" : หนทางสู่วิถี Fit Girl จากผู้หญิงที่เคยหนัก 81 กิโล

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน ชื่อใหม่นะคะ หรือเรียกว่าโหม่ยได้
เปิดเพจใน IG ชื่อ "นี่โหม่ยเอง" https://www.instagram.com/thisismoibymai/
อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ หนทางลดน้ำหนักจาก 81กิโลกรัม สู่ 61 กิโล จนถึงปัจจุบัน 65 กิโล ด้วยความสูง 175 ซมค่ะ
คิดอยู่นานว่าจะลงดีรึเปล่า แต่ก็ตัดสินใจลงเพราะอยากเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ค่า
โหม่ยทำได้ คุณก็ทำได้ค่า
มาชมกันเล๊ยยยยย



Chapter 1


เกริ่นก่อน เกิดมาก็อ้วนแล้ว 555 ลูกคนเดียวพ่อแม่ อาม่า ญาติ อัดให้กินทุกอย่าง ดูความฉุ55 จ้ำม้ำ ไจโกะมากแต่เด็ก หนัก 39 ตอน ป.1 5555 แล้วสูง โครงสร้างใหญ่ กระดกใหญ่ด้วยไงเลยค่อนข้างดูเป็นไจโกะหัวหน้าแก๊งค์นะ แต่ดูๆไปก็น่ารัก55 ชมตัวเอง 😂

Chapter 2


บอกก่อนว่าหารูปมต้น มปลายไม่ค่อยเจอ ขอเล่าก่อนว่าสูง 172 ตั้งแต่ ป.6 และแตะ 175 ตอน ม.2-3 น้ำหนักราวๆ 70 กิโลมาตลอด กินตามประสาเด็กเลย อยู่กับคำว่า “ตัวใหญ่” “เด็กยักษ์” มาตลอด โดนคนว่า โดนคำลบๆมาเยอะมากในช่วงวัยนี้ ทำให้เป็นคนไม่มั่นใจเลย  เดี๋ยวนี้ได้ยินใครเรียกน้องๆตัวใหญ่ๆอ้วนๆว่ายักษ์ โมโหแทน มันขำไม่ออกนะ ไม่สร้างปมให้เด็ก แต่ก็มอในอีกมุมว่าเป็นแรงผลกดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ดีค่ะ

พอ ม.5 คือจุดพีคที่สุด ทะยานแตะ 81 กิโลกรัม และไม่ลงอีกเลย จนเข้ามหาลัยปี 1 เริ่มเจอผู้ชายไง 5555 กินน้อยลง อะดูเบ้าหน้าตอนปี1 จ้ำม้ำ น่าจะประมาณ 77-78 ได้ ปี2 เริ่มลงหน่อย ก็75-76 มันก็ขึ้นๆลงๆ โดนเพื่อนล้อบ้างประปราย คือด้วยความที่อวบด้วยมันเลยดูเจ๊ๆหน่อย แต่ไม่มากเพราะโตๆแล้วแหละ ล้อแบบคงอยากให้สวยซะทีมั้ง เพราะอยู่ในคณะ ฝั่งสามย่าน ที่ชะนีสวยทุกคน!!! น่าเบื่อ! 5555
จนถึงจุดเปลี่ยนตอนปี 3ขึ้นปี4 ช่วงน้ำท่วม
คือกินอะไรไม่ได้โดยไร้สาเหตุจริงๆ เครียดหรืออะไรไม่แน่ใจ5555 ลงไป10 กว่าโล เหลือ 65-67 แล้วค่อยๆทะยานลงจนเริ่มทำงาน แต่มันไม่ healthy เพราะมันคือการไม่กิน กินแล้วอาเจียนๆ ตัวเลยย้อยๆ ไม่กระชับไม่เฟิร์มเลย

Chapter 3


ช่วงทำงาน ช่วงอายุ 23-26 ก็น้ำหนักวิ่งราวๆ 61-65 ตลอด ไม่ออกกำลังกายเลย กินจุกจิกตลอด จนมาช่วง

ปี 2016 เริ่มออกกำลังแต่ไม่มีความรู้เลยอะไรคือ Cardio (พวกวิ่ง พวกปั่นจักรยาน หรืออะไรที่กระตุ้น heart rate )อะไรคือ Strength (พวกเล่นเวท) เต้น Zumba อย่างเดียว รัวๆๆๆๆๆ เอ๊ะทำไมไม่ผอม ทำไมไม่เฟิร์ม อะไปลองจ้างเทรนเนอร์อาทิตย์ละครั้ง ต่อ Body Pump เออดีขึ้น ผอมเลย เปรี้ยะๆ 55555 แต่การกินไม่ดีนะ กินทุกอย่าง ตอน หนัก61-62 มันคือช่วงที่รู้สึกสะพรั่งที่สุดในชีวิตละ555555555

จนมาช่วงนึงปี 2017 จุดแตกหัก! กินเยอะมาก มากมากมาก ออกกำลังไปสิ ทำไมยิ่งออกยิ่งอ้วน ด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้การเผาผลาญแย่ลง ก็กินเข้าไป เที่ยวต่างจังหวัด กินเหล้า กินนู่นนี่ ระบบเละมาก จนน้ำหนักไปแตะ 67.5-68 คือกังวลมาก ว่าจะไปแตะ 70 กิโล คือโหม่ยไม่อยากกลับไปหนักมากๆอีกแล้ว
เอาล่ะ ต้องทำอะไรซักอย่างละ

Chapter 4


จุดเปลี่ยนที่ยั่งยืน
จุดแตกหักมันมาถึงละ ใส่เสื้อผ้าไม่สวยละ ไม่มั่นใจ ถึงเวลาละค่ะคุณ!
1. เริ่มจากมาเริ่มศึกษาการกิน ลองกินคลีน ดู Nutrition เน้นโปรตีน กินผักเยอะขึ้น มีวินัยในการกิน ลดปริมาณแป้ง เวลาดู Nutrition Fact ก็จะไม่ดูแค่แคลลอรี่อย่างเดียว จะดูไปถึง Carb / Protein / Fat ด้วย

2. จัดตารางออกกำลัง ตั้ง Objective เลยนะ เช่นโอเคตอนนี้ Fat เยอะ Cardio ออกก่อน แล้วก็จัด Strength ให้มีกล้ามเนื้อมากขึ้น มันจะทำให้เราถึงเป้าหมายเร็วขึ้นจริงๆ ดีกว่าการออกอย่างบ้าคลั่งแต่ไม่รู้ว่าการทำไปทั้งหมดจะไปจบที่อะไร ทุกวันนี้ Cycling วีคละ 3 ครั้ง ครั้งละ 40 นาที แล้วเล่น Strength & HIIT (High Intensity Interval Training) วีคละ 4-5 วัน เพื่อ Balance ระหว่าง Cardio &Strength ถามว่าบ้าคลั่งมั้ย ก็บ้าคลั่ง แต่เรารู้ว่าอยากได้อะไร
ตอนนี้ Workout Plan ของโหม่ย โดยปกติคือ Cardio 70% weight 30% ค่ะ


3. เลิกสนใจน้ำหนัก! น้ำหนักจริงๆก็สำคัญ แต่ที่สำคัญคืออะไรคือส่วนประกอบในน้ำหนักมากกว่า ดูมวลกล้ามเนื้อ ดูไขมัน ไม่ให้ดีดเกิน

4. มีวินัย ทั้งการกินและการออกกำลังกายนะ ที่ผ่านมาพยายามให้วันนึงแคลวิ่งอยู่ประมาณ 1,300-1,400 แคล แต่! ไม่ได้วัดเป๊ะๆ กะๆเอา  คือไม่เครียดขนาดนั้น เอาคร่าวๆ คือเราต้องใช้ชีวิตนึกออกปะ เดี๋ยวมันจะเป็นพลังงานไม่ดีกับคนรอบข้าง แบบคนอื่นจะรำคาญ5555 เวลาซื้ออาหารคลีนก็จะมีฉลากบอกอยู่ละ ก็บวกๆเอา อันไหนไม่มีก็กะๆไป ส่วนเรื่องขนมก็เลือกกิน ขนมคลีนก็มีเป็นทางเลือก แต่กินเยอะก็อ้วนน๊ออออ ปริมาณคือสิ่งสำคัญ! กินอะไรมากไปก็อ้วนทั้งนั้น ดังนั้นต้องคอย Monitor ตัวเอง


5. Be Happy คือเอาจริงๆ กินคลีนโหม่ยก็แฮปปี้นะ แต่บางทีก็อยากกินนู่นนี่บ้างเลยจัดตาราง และบอกตัวเองว่า You are 70% Healthy Eater & 30% Happy Eater! พุงต้องแฮปปี้ วันไหนกินเยอะก็เบิร์นเยอะ ต้องมีวินัย เท่านี้เลยอันนี้สำคัญ ต้องมี cheat meal เรากินบิงซูกินเละเทะเหมือนกัน อยากกินก็กินค่ะ คือกินได้ แต่ดูปริมาณนะคะ  อย่าเครียดมากเกิน อย่า pressure เอาตัวเองมีความสุข ตั้งเป้าหมายไว้เพื่อให้เราแพลนได้ว่าต้องทำไร แต่สุดท้าย เราต้องแฮปปี้ สุขภาพจิตต้องดีเนอะ

ผลลัพธ์ 2 เดือน ที่ตั้งใจทำมากๆ
1. ลด Fat ไป 4 โล
2. ได้ Muscle มา 3 โล

ตอนนี้แฮปปี้กับตัวเองมาก กินดี ออกกำลัง ตัวไม่ได้บางเลยนะ แต่เฟิร์ม แล้วรู้สึกแข็งแรงกว่าแต่ก่อนมาก ไปตรวจสุขภาพ ผลออกมาดีจนหมอถามว่า เป็นนักกีฬารึป่าว55555 ไขมันดีมีมากกว่าไขมันเลวมาก ทุกอย่างดีหมด กล้ามเนื้อถึงจุดที่เราแฮปปี้จากเวลาที่วัดผลออกมาคือ Muscle = Under / Fat = Over ตอนนี้ไม่มีแล้ว โหม่ยHappyมาก

โพสนี้ค่อนข้างยาว
หวังว่าโพสนี้จะเป็นพลังและ กำลังใจดีๆให้กับคนที่กำลังลดน้ำหนักนะคะ ทุกคนก็ทำได้ค่าาาา❤️
หากอยากติดตามเรื่องราว การกิน การออกกำลังกาย สามารถติดตามได้ที่ช่องทาง Instagram & Facebook "นี่โหม่ยเอง" นะค๊าา

Instagram : https://www.instagram.com/thisismoibymai/
Facebook : นี่โหม่ยเอง

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค๊า  หัวใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่