🎆☀🎆THE WEEKLY GLOVES ไตรมาสสุดท้าย วีคที่ 37 เรื่องสั้น#86 "Meditation" โดย "ถุงมือสมาธิ"🎆☀🎆

กระทู้คำถาม


ถุงมือเรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายสำหรับวีคก่อนวีคสุดท้าย เป็นเรื่องของ "น.ช." คนหนึ่ง อยู่ในเรือนจำ แล้วได้มีโอกาสพบหนทางสว่าง เรียนสมาธิวิปัสสนาจากพระที่ได้เข้าไปสอน ขัดเกลาจิตใจของตัวเอง...

เป็นเรื่องซึ่งมาพร้อมด้วยหลักธรรมและความรู้เรื่องสมาธิครับ ออกแนวสารคดี...

มาอ่านกัน...ไม่แน่ว่าอาจจะจุดประกายให้บางท่าน หรือหลายๆท่าน เริ่มบำเพ็ญเพียรทางจิต ก็อาจเป็นได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น คนเขียนเรื่องนี้จะได้บุญกุศลและอาสิสงส์เป็นอันมากเลยละครับ รับรอง!

อ่านจบแล้วอย่าลืมให้เกรดกันเน้อ ก่อนจะหาตัวผู้เขียนนะครับ...อมยิ้ม04หัวใจดอกไม้






       ผมมีชื่อว่าชัยชนะ เพื่อนๆเรียกกันสั้นๆว่า นะ การศึกษาก็จบปริญญาตรี ฐานะก็หาเช้ากินค่ำไปวันๆ ดีอยู่หน่อยตอนนี้ตรงที่บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ อย่าคิดว่าผมเป็นลูกศิษย์วัด นะครับ ที่จริงแล้ว ตอนนี้ ผมอยู่ในเรือนจำครับ เป็นนักโทษอยู่ในนี้มาได้เกือบสิบปีแล้วครับ ด้วยข้อหาฆ่าคนตาย ด้วยสมัยหนุ่มๆ ผมเป็นคนโมโหร้าย ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จึงได้ลงมือกับคู่อริจนถึงแก่ความตาย จึงถูกจับ และศาลตัดสินประหารชีวิต แต่ผมสารภาพ ศาลเลยปรานีลดโทษประหารชีวิต เปลี่ยนเป็นจำคุกตลอดชีวิตแทน
      
       แรกเข้ามาใหม่ๆ ผมเครียดมากครับ นอนก็ไม่ค่อยหลับ มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับเพื่อนนักโทษในเรือนจำก็หลายครั้งด้วยความโมโหร้ายของผม เจ้าหน้าที่เรือนจำก็ตักเตือนผมให้ทำตัวดีๆ แล้วอาจจะได้รับการลดโทษ หรืออภัยโทษ เมื่อถึงวาระสำคัญ เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ผมก็พยายามควบคุมตัวเอง แต่ก็ลำบากพอดู

    จนกระทั่ง เมื่อเร็วๆนี้  หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ได้ทำโครงการสอนสมาธิให้กับนักโทษในเรือนจำ เรียกว่า โครงการสัคคสาสมาธิ ไอ้เรื่องสมาธก สมาธิ อะไรนี่ ผมไม่ได้สนใจหรอกครับ แต่ที่ผมสนใจคือผู้คุมบอกว่าใครผ่านหลักสูตรนี้ จะได้ใบประกาศนียบัตร ซึ่งสามารถลดหย่อนโทษได้ ผมถึงได้สนใจสมัครเข้ามาเรีอน

     หลักสูตรนี้ใช้เวลาเข้าอบรมทุกวัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ หยุดเสาร์และอาทิตย์ เป็นเวลา 1 เดือน ถ้าเข้าอบรมครบตามที่กำหนด ถึงจะมีสิทธิสอบรับใบประกาศฯ โดยมีอาจารย์ที่เป็นอาสาสมัครเข้ามาทำหน้าที่แทนพระอาจารย์หลวงพ่อ เป็นวิทยากรมาบรรยาย

     ทีแรกผมก็ฟังไปอย่างนั้นเอง แต่พอวิทยากร บรรยายว่า

     ประโยชน์ของสมาธิ นี่ มี 12 ข้อ

       1. ทำให้หลับสบายคลายกังวล

       2. กำจัดโรคภัยไข้เจ็บ

       3. ทำให้สมองปัญญาดี

      4. ทำให้มีความรอบคอบ

      5. ทำให้ระงับความร้ายกาจ

      6. บรรเทาความเครียด

      7. มีความสุขพิเศษ

      8. ทำให้จิตใจอ่อนโยน

      9. กลับใจได้

     10. เวลาสิ้นลมพบทางดี

     11. เจริญวาสนาบารมี

     12. เป็นกุศล


      ผมก็เห็นว่า มีหลายข้อที่ผมอยากได้ และตรงกับความต้องการของผม ผมจึงตั้งใจฟัง

     หลักสูตรนี้ดีตรงที่เริ่มสอนจากคนที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องสมาธิ จนทำสมาธิเป็น ซึ่งผมพอจับใจความได้ว่า จุดประสงค์ของการทำสมาธิ คือต้องการพลังจิต หรือบางคนอาจเรียกว่าพลังใจ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต

     ผมจึงตั้งใจฝึกสมาธิทุกวัน แรกๆก็ใช้เวลานานมาก กว่าจิตมันจะสงบ เที่ยวคิดโน้นคิดนี่ จิตมันจึงไมนิ่งสักที จนกระทั่ง การสอนมาถึงหัวข้อเกี่ยวกับอุบาย พระอาจารย์หลวงพ่อบอกว่า จิตของเรามันอยู่ไม่นิ่ง เหมือนลิงที่ชอบอยู่ไม่สุข การที่เราจะให้ลิงอยู่นิ่งต้องหาอุบายวิธี คือเอาเชือกไปล่ามไว้กับหลัก ลิงมันจึงไปไหนไม่ได้ พอจะไปก็ติดเชือกที่ล่าม หลายๆครั้งเข้า ลิงมันก็เริ่มเชื่อง ไปนั่งกอดหลักอยู่ไม่ไปไหน ตอนนี้ถึงเอาเชือกที่ล่ามออก ลิงก็ไม่ไปไหน

     ดังนั้นการที่จะให้จิตอยู่นิ่ง ไม่วอกแวกไปไหน จึงต้องมีอุบายวิธียึดจิตไว้ พระอาจารย์หลวงพ่อ แนะให้ใช้คำบริกรรม มาทำหน้าที่แทนเชือกล่ามจิตไว้ โดยล่ามไว้กับหลักซึ่งก็คือฐานวางจิต
    
      ฐานวางจิตนี่มีอยู่ 3 ที่ คือ หน้าผาก หน้าอก และหน้าท้อง เลือกให้ถูกโฉลกของแต่ละคน ถ้าเลือกได้แล้ว ก็คงไว้ตลอดไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา โดยการบริกรรมย้ำไปที่จุดเดียวคือที่ฐานวางจิตซ้ำไปซ้ำมา หลายๆครั้ง เปรียบเหมือนการตัดต้นไม้เราต้องใช้ขวานฟันซ้ำลงไปที่เดียวกัน หลายๆครั้ง ต้นไม้ถึงจะขาด แต่ถ้าเราไม่ย้ำที่เดิมในการฟันแต่ละครั้ง ต้นไม้ก็ไม่ขาด

     คำบริกรรมจะใช้คำอะไรก็ได้ ขอให้เป็นคำที่สุภาพดูดี เพราะฉะนั้นคนที่นับถือศาสนาอื่นก็สามารถทำสมาธิได้ แต่ของพระอาจารย์หลวงพ่อ ให้ใช้คำว่า “พุทโธ” เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน บางแห่งผมเคยได้ยินมาว่าใช้อุบาย กำหนดลมหายใจเข้าออก เพื่อให้จิตรวม ไม่ฟุ้งซ่าน ก็มี

     หลังจากผมบริกรรมไปสักพัก จิตก็เริ่มสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน เกิดความรู้สึกเบาสบายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ตรงนี้ พระอาจารย์หลวงพ่อให้ละคำบริกรรมได้ แต่เมื่อจิดหลุดเมื่อไร เกิดฟุ้งซ่านให้กลับมาเริ่มบริกรรมเพื่อรวบรวมจิตขึ้นมาใหม่ ตอนทำใหม่ๆจิตรวมอยู่ได้ไม่นาน แต่พอทำบ่อยเข้า จิตจะสงบรวมอยู่ได้นาน  ตรงนี้พระอาจารย์หลวงพ่อว่า เริ่มจะได้ปฐมฌาน  ตรงจุดนี้ บางคนอาจจะเกิดนิมิตขึ้นมา ถ้าเกิดขึ้นไม่ต้องไปสนใจมัน เดี๋ยวมันก็จะหายไปเอง (แต่ถ้าไปสนใจมัน อาจจะทำเสียสติ หรือเป็นบ้า หรือตื่นตระหนกตกใจได้) แต่ของผมไม่ยักจะเกิดนิมิตเหมือนคนอื่น จากนั้นเราจะเริ่มเคลิ้มๆเข้าสู่ภวังค์  

    ถ้าเข้าภวังค์แบบไม่รู้ตัว เราก็จะหลับไป แต่ถ้าสามารถเข้าภวังค์แบบรู้ตัวได้ จะได้พลังจิตมาก

    ถ้าเราทำแบบนี้บ่อยๆ เหมือนเรากรองจิตเราให้ละเอียดขึ้นเรื่อยๆ เราจะได้ฌานที่ลึกขึ้นเรื่อยๆ เป็นทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน ตามลำดับ และที่จตุตถฌานนี้ เมื่อเราสะสมพลังจิตของเราในฐานวางจิตได้มากพอ ก็จะถึงจุดพลังอำนาจ จะเกิดความหยั่งรู้ที่เรียกว่า ญาณขึ้น

    ญาณนี่แบ่งง่ายๆเป็น 2 แบบ คือ วิชาญาณ และ วิปัสนาญาณ วิชาญาณใช้ในการแสดงฤทธิ เช่น ตาทิพย์ หูทิพย์ ระลึกชาติ หยั่งรู้อนาคต อ่านใจ รักษาโรค ฯลฯ ส่วนวิปัสนาญาณ ใช้เพื่อให้พิจารณาเรื่องไตรลักษณ์ เพื่อให้หลุดพ้นจากทางโลก สำเร็จเป็นอรหันต์  

    ไอ้ตรงเรื่องฌาน (อ่านว่าชาน) กับเรื่อง ญาณ (อ่านว่ายาน) นี่ไม่ได้สอนในหลักสูตรนี้นะครับ แต่ที่ผมทราบ เพราะสอบถามกับวิทยากรที่มาบรรยาย  ท่านวิทยากรบอกว่า มีสอนในสถาบันพลังจิตตานุภาพ ซึงมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ

     ซึ่งผมก็กะว่า ถ้าผมได้อภัยโทษ จนออกจากคุกได้ ผมจะเข้าไปเรียนที่สถาบันต่อแน่ๆ เพราะตอนนี้หลังจากที่ผมนั่งสมาธืเป็น ผมรู้สึกว่าผมมีสติมากขึ้น ไม่โมโหง่าย รู้จักควบคุมอารมณ์ แถมนอนหลับสบาย พวกท่านละครับ สนใจอยากจะเรียนสมาธิกันบ้างหรือยัง




รายชื่อให้เลือกตอบ
ฝ่ายชาย
1. จอมยุทธนักสืบ
2. ชายขอบคันนายาว
3. ลูนาติก
4. ส.สัตยา
5. สวนดอก
6. B-thirteen
7. Chee River (ลำน้ำ C)
8. Christian Trevelyan Grey
9. GTW
10. KTHc
11. Na(นะ) (วีคนี้ไม่มี)
12. psycho_factory
13. ruennara (วีคนี้ไม่มี)
14. Soul Master
15. สมาชิกหมายเลข 4563770
16. WANG JIE (พฤษภเสารี)

ฝ่ายหญิง  
1. นลินมณี
2. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
3. รัชต์สารินท์
4. ลายลิขิต
5. สมาชิกหมายเลข 817884 (โจอี้)
6. Lady Star 919
7. สมาชิกหมายเลข 2326325 (ladylongleg)
8. Susisiri

*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขเพิ่มเติม ได้ทุกเมื่อ ^^

*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 21 กันยายน 2561 (ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 19 ครับ) ***

สโลแกนของเราคือ "เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง แล้วมาเล่นซ่อนหากัน"

จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ สรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย

ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเป็น มือวาง ในเกมใหญ่ THE GLOVES FINAL 2018 หลังสิ้นเดือนนี้ครับผม

*** ป.ล. งานกวี และงานเรื่องสั้น ขณะนี้เพียงพอแล้วไม่ต้องส่งมาเพิ่มแล้วนะครับ ***
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่