ความรักของสายน้ำ...ตอนที่ ๑ เจอกันอีกครั้ง

เสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากห้องทำงานของเกริกก้อง หรือพี่ก้อง ผู้จัดการแผนก ทำเอาชลธี หรือน้ำ ที่พึ่งเดินเข้ามาในออฟฟิศอมยิ้มและลุ้นว่า ใครเป็นสาเหตุของน้ำเสียงหงุดหงิดตบะแตกนี้ ถ้าให้หล่อนเดา น่าจะเป็น...

“ไอ้เวรยอด...ทิ้งระเบิดลงกูแล้ว” เยส...ทายถูก วันนี้สงสัยจะถูกหวย

ชลธีวางกระเป๋าและอุปกรณ์ต่างๆ ลงบนโต๊ะ พลางหันไปถามสาวิตตรี ผู้ช่วยเขียนแบบประจำแผนก “สา...วันนี้พี่ยอดก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ”

สาวิตตรีเอามือป้องปากกระซิบกระซาบทั้งที่ไม่จำเป็นเลย เพราะทั้งแผนกไม่นับเกริกก้องมีแค่สี่คนคือ ชลธี มีนา กานต์และตัวเธอเอง

“ก็พี่ยอดสิคะ นัดลูกค้าชนพรีเซ้นต์งานวันนี้สองราย นี่จะเที่ยงแล้วรายแรกยังพรีเซ้นต์ไม่ถึงไหนเลย เค้ายังรอเอ็มดีมาเลือกแบบตอนบ่ายน่ะค่ะ...ดีไม่ดีนะพี่ ต้องพรีเซ้นต์ใหม่อีกรอบอ่ะ”

“อืม...เลื่อนลูกค้าบ่ายไปวันอื่นไม่ได้เหรอ...ของแบบนี้โทษพี่ยอดก็ไม่ได้นะ” มีนาออกความคิดเห็น น้ำพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“โธ่พี่ ลูกค้าบ่ายน่ะ...เจเอสทีนะพี่ ใครจะกล้าเลื่อน แถมคนตัดสินใจที่ว่านัดแล้วนัดอีก ไม่เคยว่างอ่ะ ดันว่างวันนี้วันเดียว ไม่งั้นพี่ก้องไม่ปรี๊ดแตกขนาดนี้ร๊อก”

น้ำเม้มปากเมื่อได้ยินคำว่า เจเอสที แม้จะแค่แป๊บเดียวแต่สาวิตตรีก็สังเกตเห็น สาวรุ่นน้องแอบสงสัยตะหงิดๆ หล่อนสังเกตุเห็นพี่น้ำออกอาการชะงักชะงันบ่อยครั้งเวลาพูดถึงโปรเจ็คของเจเอสที

“เออว่ะ สมควร” กานต์ หนึ่งในสถาปนิกประจำแผนกเสริม “ไอ้ยอดมันขยันหาเรื่องปวดกบาลให้เจ้านายทุกวัน”

น้ำหัวเราะพยักหน้าเห็นด้วย แต่เมื่อนึกอะไรออก หล่อนเลยหยุดหัวเราะกระทันหัน

“เป็นไรวะน้ำ” กานต์หันมาถามรุ่นน้อง

“เมื่อเช้าตาขวาขยิบ...น้ำชักสังหรณ์ว่า...” ยังพูดไม่ทันจบ ได้ยินเสียงก้องตะโกนปรอทแตกออกมาจากในห้อง

“ไอ้สา...ไอ้น้ำมายัง...โทรเรียกเข้าออฟฟิศด่วนที่สุด”

น้ำแสร้งทำท่าบีบคอตัวเองก่อนรีบเดินเข้าห้องเจ้านาย

“โอ๊ย พี่ก้อง เบาหน่อย หูน้ำจะแตกอยู่แล้ว...” หล่อนทรุดนั่งตรงข้ามเจ้านายที่ทำหน้ายักษ์ ยิ้มประจบเอาใจ “มีอะไรให้น้ำรับใช้คะ”

“ไม่ต้องมาหน้าเป็นเลย...เจ้ายอดมันบอกว่า แกช่วยทำโปรเจ็คนี้นี่”

“น้ำช่วยทำแค่ตอนร่างแบบ ตอนไปสรุปแบบกับลูกค้าครั้งหลังสุดเนี่ย น้ำไม่ได้ไป เพราะฉะนั้น....”

“เหลือเถื่อ” ก้องขัดทันที ใบหน้ามีหวังขึ้นมารำไร “ยอดมันเตรียมพรีเซ้นต์และสรุปหัวข้อสำคัญๆ ไว้หมดแล้ว มันบอกว่า มันเชื่อใจแก”

น้ำมีสีหน้ากังวล “แต่มันไม่เหมาะมั้งคะ ลูกค้าจะคิดยังไง ทำงานอีกคน ไปเสนองานอีกคน”

“ลูกค้าก็คิดว่าเราทำงานเป็นทีมไง จะอะไรซะอีก หรือแกอยากให้เราหลุดงานนี้ไปโดยไม่สู้” ก้องทำเสียงสูงท้าทายคำตอบ

น้ำทำท่าลำบากใจ “เอายังงี้มั้ยคะ น้ำไปเปลี่ยนพี่ยอดให้ ให้พี่ยอดไปพรีเซ้นต์งานตอนบ่าย”

ก้องจ้องหน้าน้ำอย่างสงสัย “ทำไมดูแกไม่อยากทำงานให้เจ้านี้จัง ตอนรับงานชั้นก็ส่งงานให้แก แกกลับไม่รับ”

“ก็ตอนนั้นน้ำมีตั้ง 5 โปรเจ็คในมือแล้วนี่คะ ไม่เกี่ยวกับอยากหรือไม่อยากสักหน่อย” หน้าตาที่ขึงขัง ทำให้ก้องคลายความสงสัย

“เอาล่ะๆ ถ้าเหตุผลแค่นั้น ก็รีบเตรียมตัวไปเลย อย่ามัวโอ้เอ้ เดี๋ยวมันจะไม่ทันเวลา ชั้นว่าแกรีบไปเช็คพรีเซ้นต์ของยอดมันเดี๋ยวนี้เลย เอาไอ้สาไปด้วย เผื่อต้องแก้แบบหน้างาน แล้วก็ใช้รถตู้บริษัท จะได้มีเวลาเตรียมตัว” ก้องจัดแจงเสร็จสรรพ ยื่นเอกสารพร้อมทรัมไดรส์นำเสนองานให้น้ำ

น้ำถอนหายใจ บ่นอุบกับตัวเองแบบเซ็งๆ “เผด็จการ...”  

ก้องหันขวับไปมองลูกน้องตาเขียว ทันเห็นเพียงประตูสวิงที่ปิดงับตามหลังน้ำเท่านั้น  

หญิงสาวออกมาเตรียมเอกสารพลางครุ่นคิด เจเอสทีกรุ๊ป…สุดท้ายก็หนีไม่พ้น
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาพบคุณปฐพีค่ะ...นัดไว้จากบริษัท สบายสไตล์ฯค่ะ” สาวิตตรีแจ้งความจำนงกับประชาสัมพันธ์ ในขณะที่น้ำยังสาละวนกับการเพ่งพิจารณาดูแบบทั้งหมด จริงๆแล้วยอดชายเตรียมไว้เป็นอย่างดี ทุกจุดมีการโน้ตบันทึกไว้เป็นหัวข้อ

ยังกะรู้ว่าตัวเองจะไม่ได้มาเองงั้นแหล่ะ–  หล่อนนึกค่อนขอดในใจ เท่าที่น้ำรู้ โครงการนี้ ทางบริษัทน่าจะมีโอกาสชนะเกินครึ่ง ติดเพียงเรื่องราคาที่อาจจะโดนต่อรองเยอะหน่อย…

หญิงสาวดูนาฬิกาข้อมือ อีกสิบห้านาที “สา พี่ไปห้องน้ำ เดี๋ยวมานะ”

ในขณะที่หญิงสาวเลี้ยวตรงเข้าประตูห้องน้ำ เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มร่างสูงสองคน เดินเลี้ยวหัวมุมมาเช่นกัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“คุณปัฐ วันนี้อย่าพึ่งสรุปอะไรตอนประชุม หลังจากซัพพลายเออร์พรีเซ้นต์เสร็จ เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดเรื่องราคาแล้วเปรียบเทียบกับเจ้าที่มาพรีเซ้นต์เมื่อเช้าอีกที ถ้าโอเคแล้วเราค่อยทำหนังสือคอนเฟิร์มงาน โอเคมั้ยครับ” เสียงเคร่งขรึมเป็นการเป็นงาน น้ำเสียงแสดงชัดถึงตำแหน่งงานที่สูงกว่า

“ดีครับผมเห็นด้วย ผมดูราคาแล้ว คิดว่าน่าจะต่อรองบางจุด…คุณนัทจะไปที่ห้องประชุมเลยมั้ยครับ รู้สึกพวกเค้าจะมากันแล้ว เดี๋ยวผมไปรับเอง” ปฐพีแจ้งแก่เจ้านายหนุ่ม

“ไม่เป็นไร ไปพร้อมกันนั่นแหล่ะ เราต้องผ่านล็อบบี้อยู่แล้วนี่” ธนากร หรือนัทพูด โดยสายตายังไล่มองเอกสารอย่างในมือ

“คุณขวัญ…เห็นคุณบอกว่า คนจากสบายสไตล์มาแล้วไม่ใช่เหรอ” ปฐพีมองไปรอบๆ ที่ยืนอยู่มีเพียงสาวน้อยร่างเล็กท่าทางห้าวๆ เพียงคนเดียวเท่านั้น ไร้เงายอดชายซึ่งเป็นคนที่เขาติดต่อมาโดยตลอด

ขวัญตาประชาสัมพันธ์ลุกขึ้นยืน ผายมือไปที่สาวิตตรี “เอ้อ…คุณสาวิตตรีนี่แหล่ะค่ะ มากันสองท่านน่ะค่ะ”

สาวิตตรียกมือไหว้ทั้งสองคนทันที “สวัสดีค่ะ ดิฉันมาจาก บริษัท สบายสไตล์ ค่ะ พอดีวันนี้คุณยอดชายไม่สามารถมาเองได้ ดังนั้นสถาปนิกอีกท่านจะเป็นผู้นำเสนอค่ะ”

ปฐพีหน้าแแดงกล่ำ ชายหนุ่มพยายามกดน้ำเสียงไม่ให้แสดงความโกรธออกมามากนัก

“หมายความว่าไง คุณยอดชายมาไม่ได้ แต่คุณไม่แจ้งเราก่อน คุณยอดชายเป็นคนมาดีลงานตั้งแต่ต้น พอถึงวันที่ต้องสรุปงานทั้งหมด เค้ากลับมาไม่ได้ แล้วคุณส่งใครมาแทนโดยไม่แจ้งงั้นเหรอ” เขารู้สึกเสียหน้าต่อเจ้านายมาก

สาวิตตรีหน้าเสีย หญิงสาวระล่ำระลักบอก “จริงๆคุณชลธีก็เป็นสถาปนิกหนึ่งในทีมโปรเจ็คนี้ค่ะ ตอนนี้เธอไปเข้าห้องน้ำ ดิฉันจะรีบโทรตามเลยนะคะ”

สาวิตตรีกดมือถืออย่างร้อนรน หญิงสาวพึมพำ “พี่น้ำ รับโทรศัพท์เซ่”

นัทกำลังยืนฟังบทสนทนาด้วยความสนใจ เขาไม่เคยพบทีมงานในโปรเจ็คนี้มาก่อน ดังนั้นจึงปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเล่นไปตามบทบาท แต่ชื่อ ชลธีและน้ำ สะกิดใจชายหนุ่มมาก

“คุณชลธีที่คุณพูดถึง…นามสกุลอะไรนะครับ” ชายหนุ่มถามสาวิตตรีด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นนิดๆ

เด็กสาวเงยหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่ม ชะงักเล็กน้อย –ผู้ชายอะไร หน้าตาดีโคตรๆ

“คุณชลธี กิ่งกำจรค่ะ” ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่า ทำไมชายหนุ่ม (ซึ่งหล่อนพอจะเดาได้ว่า เป็นทีมผู้บริหารแน่ๆ มาดมันให้) ต้องถามนามสกุลน้ำ แต่ทีท่าของเขาไม่ได้ประสงค์ร้าย หน้าตาเคร่งขรึมเมื่อสักครู่ ออกแนวตื่นเต้นนิดๆ ด้วยซ้ำ

“คุณว่า เธอไปห้องน้ำหรือครับ” นัทชี้ไปทางห้องน้ำ สาวิตตรีพยักหน้างงๆ ยังไม่ทันเอ่ยปากตอบ ชายหนุ่มยิ้มแล้วสาวเท้าไปทิศทางนั้นทันที

“อ๋า…ค่ะ” ทั้งสาวิตตรีและปฐพีมองหน้ากัน งงเป็นไก่ตาแตก

ปฐพีได้สติก่อน ชายหนุ่มรีบตามเจ้านายไปทันที ผู้ชายคนนั้นถึงฆาตแน่ เจ้านายเขาบทจะดีก็ดีมาก บทจะร้ายก็เลือดเย็นสุดๆ…แต่แทบจะเบรคเอี๊ยด เมื่อ เจ้านายหนุ่มหันหน้ากลับมากระทันหัน

“คุณไม่ต้องตามมาหรอก ผมมีธุระคุยกับเธอนิดหน่อย”

“เธอ….เธอหรือครับ” –อ้าว ไม่ใช่ผู้ชายเหรอเนี่ย แล้วคุณนัทรู้ได้ไงฟะ-
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

น้ำสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก

-การพรีเซ้นต์งานที่เราไม่แม่นเท่าไหร่นี่มัน…โง่สุดๆเลยแฮะ แถมยังเป็นวันสรุปเสียด้วย พี่ยอดชั้นอยากจะฆ่านายจริงจริ๊ง-  

ตอนกำลังจะพ้นประตูห้องน้ำ หญิงสาวเบรคเอี๊ยด แล้วรีบเดินกลับเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน หล่อนตาไม่ฝาด ถึงแม้จะเห็นแค่เสี้ยวหน้าแว๊บเดียว แต่นั่นคือนัทแน่ๆ  หญิงสาวสบตาตัวเองในกระจก หน้าหล่อนแดงก่ำ เหรอหราดูไม่จืด  

ใจเย็น เดี๋ยวเค้าก็เดินผ่านไป–  น้ำใช้กำปั้นเขกหัวตัวเองเบาๆ  –สติๆ ว่าแล้ว เหตุที่ตาขวาขยิบ-

แม้หลายครั้งที่หล่อนไปติดต่องานกับบริษัทในเครือเจเอสที และหวังลึกๆเสมอว่า อาจมีโอกาสบังเอิญได้เจอ แต่เมื่อมันผ่านพ้นไป หญิงสาวกลับโล่งใจที่ไม่เคยเจอนัทเลย –อย่าให้มันเป็นครั้งนี้เลยนะ

หล่อนรอจนเสียงข้างนอกเงียบ หญิงสาวดูนาฬิกาอีก แค่ห้านาที หล่อนเดินกลับไปกลับมาตรงประตู2-3 รอบ แต่…หล่อนคงรอไม่ได้แล้ว หญิงสาวสูดลมหายใจพลางก้าวเดินอย่างมาดมั่น

“เฮ้ย….!” เขายืนอยู่ตรงนั้นหน้าทางเข้าห้องน้ำพอดิบพอดี

ชายหนุ่มหันมายิ้มให้หญิงสาวอย่างดีใจ รอยยิ้มของเขายังเหมือนธนากรเมื่อเก้าปีที่แล้ว….
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  นิยายออนไลน์ แต่งนิยาย นวนิยายรัก
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่