🌸💖🌸THE WEEKLY GLOVES ไตรมาสสุดท้าย วีคที่ 32 เรื่องสั้น#70 "เพื่อ(น)รัก" โดย ถุงมือ "ลูกไม้สีชมพู"🌸💖🌸

กระทู้คำถาม


มาถึงถุงมือเรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายแล้วครับ...

เป็นเรื่องเกี่ยวกับทั้งเพื่อน ทั้งความรัก...เอ๊ะ แล้วมันยังไง จขถม. ถึงตั้งชื่อว่า "เพื่อ(น)รัก"

ระหว่างเพื่อน กับ คนที่รัก ใครสำคัญมากกว่า ???

ต้องลองอ่านดูครับผม อ่านจบแล้วก็มอบเกรด แล้วเมียงๆมองๆจ้องหาตัวคนเขียนดูเน้อ... อมยิ้ม04หัวใจดอกไม้






    ปากกาลูกลื่นขยับเขียนห้วงของความรู้สึกบันทึกไว้ในสมุดประจำวันเหมือนอย่างเคย  ก่อนปิดมันพร้อมถอนหายใจ หกปีแล้วสินะ...  

     ฉันวางปากกาแล้วลุกขึ้นส่องกระจกภาพสะท้อนให้เห็นหญิงสาวใบหน้าเก๋ทันสมัย ผมสีดำยาวสลวยประบ่า ชุดแซคลูกไม้สีชมพูที่ใส่วันนี้ช่วยขับผิวขาวให้กระจ่างตาขึ้นกว่าเดิม  

    ฉันยิ้มให้กับตัวเองในกระจก  หยิบเอาหวีขึ้นมาแปรงผมเบาๆ  ในขณะที่เขาก้าวเข้ามาทางด้านหลังสวมกอดด้วยแขนอุ่นก่อนหอมแก้ม  "มอร์นิ่งจ้ะฮันนี่ ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจัง...แล้วดูสิแต่งตัวเสียสวย จะออกไปข้างนอกเหรอ"   เสียงทุ้มๆเจือรักและห่วงใยดังมาจากปากของเขา...คนสำคัญ
  
     ร่างบางของฉันถูกกระชับกอดแน่นขึ้น แล้วเริ่มซุกซนเอาจมูกไล้ตามลำคอเรื่อยต่ำมาจนถึงเนินอก ฉันแกล้งเบี่ยงตัวออกหัวเราะแล้วบอกว่า "เดี๋ยวจะเตรียมอาหารเช้าให้นะคะ  อาจกลับช้า"
  
    มิได้รอคำตอบ  ฉันก้าวลงบันได  เดินเข้าห้องครัว  เปิดตู้เย็นอย่างคุ้นเคยหยิบเอาลาซานญ่าอุ่นในไมโครเวฟ  เมื่อพร้อมแล้วก็เตรียมโบลองเนสซอสกับเบซาเมลซอสสูตรพิเศษเพิ่มอีกในจานเติมความเข้มข้น นี่แหละสูตรลับมัดใจ ตั้งแต่ลองลิ้มชิมรสลาซานญ่าฝีมือฉันสูตรนี้เขาก็ไม่เคยแตะต้องลาซานญ่าแปลกรสแปลกกลิ่นจากที่อื่นอีกเลย   อ้อ...ลืมไป  ฉันหยิบขวดแก้วเล็กๆออกมาพินิจดู ก่อนหยดลงบนอาหาร....ส่วนผสมสำคัญอีกอย่างที่ไม่สามารถขาดได้  ซึ่งก็หยิบมันมาใช้เป็นบางครั้งเท่านันแหละ  เวลาที่อยากมั่นใจเมื่อต้องการทำอะไรสักอย่างที่สำคัญ

     หกปีก่อนเขาขับรถพาพี่สาวของฉันไปเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์  เธอตายคารถ...เมื่อมาถึงโรงพยาบาลทุกอย่างก็สายเกินไป  ดีนะที่ฉันมีเพื่อนเป็นพยาบาลเวรไอซียูวันนั้นพอดี   ฉันประเมินว่าเขาคงฟูมฟายเสียอกเสียใจแทบไม่เป็นผู้เป็นคนถ้ารู้ว่าเจนจิราตัวจริงจากโลกไปอย่างไม่มีวันกลับ  ความฉลาดทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้โอกาสงามๆอย่างนี้หลุดลอยไป  ฉันเตรียมขยับฐานะจาก “เพื่อนรัก”เป็นมากกว่านั้น..สิ่งที่รอคอยมานาน

     ความหลังทำให้ต้องกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอด้วยความลำบาก  ฉันรู้  ดีสุดเขาก็ให้ได้เพียงแค่นี้  เขาไม่เคยรับรู้ความในใจของฉันเลย  ต้องขอบคุณวิทยาการทางการแพทย์ และไหวพริบซึ่งทำให้ฉันเปลี่ยนตัวกับพี่สาวทันท่วงทีก่อนเขาจะทันสังเกตพร้อมด้วยสินบนพอสมควรให้เพื่อนพยาบาลในห้องไอซียู  ต่อด้วยทำเรื่องลาออกจากบริษัทแล้วก็ส่งอีเมลล์บอกลาเพียงสั้นๆว่า "จะไปทำงานเมืองนอก"   มันก็อาจจะดูมีพิรุธเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไร เจ้าขวดเล็กๆที่อยู่ในกระเป๋าของฉันช่วยให้ทุกอย่างง่ายดายขึ้น...น้ำมันพราย
    
      ผิดไหมนะการทำแบบนี้ บางครั้งความละอายใจและศีลธรรมก็ขยันป้อนคำถามประท้วงทำเอาฉันขนลุก  แต่ความรักซึ่งมีให้เขาหมดหัวใจบวกกับความเห็นแก่ตัวอีกนิดหน่อยคอยกระซิบและถือหางบอกว่า  "ฉันทำดีที่สุดแล้ว"
    
      ลมแรงพัดลู่ซู่ซ่าจนใบมะม่วงสะบัดปลิวไหว  จนต้องรีบตะครุบกระโปรงตัวสวยไม่ให้เปิดหวอ แม้จะเฉาะแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้  ลึกๆฉันก็เสียใจ  แต่การได้ขยับฐานะจากเพื่อนรักมาเป็นภรรยาช่วยข่มให้ฉันไม่คิดมาก  บ้านอื่นๆก็คงไม่ต่างกัน  เพื่อนฉันหลายคนไม่ได้มีอะไรกับผัวตั้งแต่จดทะเบียนเพราะก่อนหน้านี้ทำไปเยอะแล้ว....เฮ้อ  คิดไปก็เสียดาย ทำไมนะคนที่เขารักถึงไม่เป็นฉัน    

     สายลมหน้าร้อนพัดวูบตลบแรงตีผมจนกระเซิง ดีนะ..ที่ยังไม่ได้ออกจากบ้าน  

     ฉันหยิบเอายางรัดผมรวบผมทั้งหมดไปด้านหลังกันไม่ให้ลมมาทำผมยุ่งก่อนออกไปทำธุระสำคัญ  วันนี้ครบรอบทำบัตรประชาชนอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้พิเศษ คงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อจาก "นาย" เป็น "นางสาว"แทนแล้วล่ะ  พร้อมขอทำเรื่องขอเปลี่ยนชื่อจาก “เจจินตรัย” เป็น “เจนจินทรา”   ฉันเบื่อบัตรประชาชนในคราบคนอื่นเต็มที  นับจากวันนี้ไปฉันก็จะมีหลักฐานยืนยันตัวตนความเป็นผู้หญิงของแท้  หลังจากต้องแอบใช้บัตรประชาชนของพี่สาวมาตลอด  มันไม่โอเค.... ฉันไม่อยากอยู่ใต้เงาของใครอีกแล้วแหละ    กลับมาค่อยทำเป็นบอกสามีว่าขอเปลี่ยนชื่อในหลักฐานทุกอย่างเพราะชื่อเก่ารวมเลขแล้วไม่เป็นมงคล  ตกดวงกาลกิณีชะตาขาด อืม  ก็สมเหตุสมผลนะ..และไม่ใช่เรื่องยากอะไรนี่...หกปีแล้วนะที่เราอยู่ด้วยกัน เอ...หรือบางที..อาจจะถึงเวลาที่ฉันควรสารภาพความจริงทุกอย่างแล้ว ?
.................................................................



         มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่  ผมก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะความใกล้ชิด  ความน่ารัก  ความใส่ใจในทุกรายละเอียดการกระทำของเธอ   มันแปรเปลี่ยนจนผมเปลี่ยนไป

          ผู้หญิงที่ผมรักคือ เจนจิรา  เธอเป็นรักแรกและรักเดียวของผม  ผมยังจำกลิ่นคล้ายแป้งเด็กอ่อนที่โชยมายามลมพัดต้องตัวเธอได้เสมอ  แม้เจนจะจากไปนานแล้ว...อย่างไม่มีวันหวนกลับ

         ผมแบมือตัวเอง  พร้อมคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ   ถูกแล้วใช่ไหมการทำแบบนี้   ยังจำอุบัติเหตุคืนนรกวันนั้นได้ดี  สองมือคู่นี้แหละที่ก่อฆาตกรรมอำพรางอย่างแนบเนียน

        เมื่อเรื่องราวแต่หนหลังทะลักล้นเข้ามาท่วมใจอีกครั้ง มันก็อดทำให้ผมมีสายตาแข็งกร้าวไม่ได้ อารมณ์เดือดพุ่งปะทุเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นจนต้องกำหมัดแน่น
      
         ผมกับเจนจิราคบกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน  เธอเป็นคนสวยและมีเสน่ห์  ยิ่งเวลาผ่านไปผมยิ่งแน่ใจว่าความรู้สึกต่อเธอนั้นคือ “รัก”   แต่ในวันนั้น...เมื่อผมตัดสินใจพาเธอเพื่อไปวัดตัวชุดเจ้าสาวกลับวิปริตกลายเป็นวันแห่งโศกนาฏกรรมแทนเพราะในระหว่างขับรถ  เธอตัดสินใจสารภาพความจริงว่าแต่งงานกับผมไม่ได้ เจนมีใจให้หนุ่มรุ่นน้องที่เข้ามาทำงานใหม่ได้ไม่ถึงครึ่งปี  เรื่องมันคงไม่จบลงเลวร้ายแบบนั้นหรอก ถ้าผมไม่ฉุนขาดจนกระชากกระเป๋าเธอมาเช็คข้อความในมือถือ  พลันต้องตะลึงเมื่อพบข้อความบ่งบอกว่าเธอกันมันนอนด้วยกันแล้ว!!!  ทั้งๆที่ผมให้เกียรติไม่เคยได้แตะต้องเธอมากไปกว่าการกอด จับมือ หอมแก้มถึงแม้เวลาอยู่กับไอ้เจตอนเมาและเหงาผมจะทำมากกว่านั้นก็ตาม

       ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น  ผมมองจานลาซานญ่าในมือก่อนหลังจากกินไปได้สองคำก่อนตัดสินใจเทพรวดทิ้งลงในถุงพลาสติก...ไว้ค่อยมาจัดการทีหลัง  ผมเดินขึ้นไปชั้นสอง หยิบโทรศัพท์  เปิดผ้าม่านมองดู  “เธอของผม” อีกครั้ง

       ผมมั่นใจว่าเจนจิราตายแล้ว  ตายเพราะการบีบคอของผมก่อนก่อเหตุทำทีเหมือนเป็นว่าขับรถชนเสาไฟฟ้า ยอมรับว่าอ่อนหัดไปหน่อย หลังเจนเข้าห้องไอซียูผมต้องตะลึงเมื่อพบว่า  เจนจิรายังมีชีวิตอยู่แต่ตอนนี้ยังสลบไม่ฟื้นโดยมีแค่แผลถลอก พร้อมรอยฟกช้ำเล็กน้อย ผมฆ่าเธอเองกับมือ แล้วเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร  หรือที่เค้าว่ากันว่าการฟื้นคืนชีพได้เป็นเรื่องจริง ไม่หรอกน่า....ในใจผมร้อนรน  แต่ก็ต้องพยายามเก็บอาการเอาไว้ ผมผลักประตูห้องพักพิเศษหลังหมอย้ายเธอมาจากไอซียูเข้าไปเพื่อดูให้เห็นกับตาว่าไอ้เรื่องบ้าๆนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง

      แว่บแรกที่เห็น....ผมก็รู้ทันทีว่าคนบนเตียงคือไอ้เจ “เพื่อนรัก” ซึ่งเป็นน้องชายฝาแฝดของเจนจิรา มันแอบรักผมมานาน  และพยายามอย่างหนักเพื่อให้ผมตอบรับโจทย์หัวใจของมัน  ถ้าเล่นๆย่อมได้  แต่จะให้จริงจังผมไม่เอาด้วยหรอก  ไม่รักก็คือไม่รัก    ต่อให้มีผู้หญิงแท้ๆหน้าเหมือนเจนจิรา แบบคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกสิบคน  ผมก็จำได้เสมอว่าคนไหนคือตัวจริง

    ภายใต้ท่านอนเอียงตะแคงหันหลังให้ผมในชุดโรงพยาบาลสีเขียวหลังจากย้ายจากไอซียูไปพักห้องพิเศษ  ผมยาวสีดำเห็นรอยต่อผมรางๆถูกรวบอย่างไม่ใส่ใจเผยให้เห็นแผลเป็นเล็กๆที่หลังหูด้านซ้ายที่มันไม่เคยรู้ตัวเลยว่ามี  ผมเรียนกับไอ้เจมาตั้งแต่ประถม กินข้าวด้วยกัน เตะบอล  ตกปลา และทำอะไรอีกหลายๆอย่างจนแม้แต่หลับตาผมก็เห็นภาพทุกอณูของมันอย่างชัดเจน  ถึงจะผ่านการศัลยกรรมแนบเนียนจนดูเหมือนเจนจิรามาก  แต่ด้วยความใกล้ชิดและสนิทกับทั้งเจนจิราและไอ้เจ  สัญชาตญาณในตัวแยกออกโดยอัตโนมัติว่าใครคือใคร...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันทำแบบนี้ทำไม...
    
    เพื่อนรัก  ทำเพื่อรัก
    
       นับตั้งแต่นั้นมา  ผมก็เล่นละครไปพร้อมกับมัน   บ้าถึงขนาดพาไปจดทะเบียนแล้วเห็นจะจะว่ามันเซ็นชื่อปลอมเป็นเจน  แต่ช่างมันเถอะ   ผมก็ไม่รู้ว่านอกจากเกมส์สลับร่างสร้างรักแล้ว  มันจะพิเรนทร์ทำคุณไสยใส่ผมหรือเปล่า  คุณอาจหาว่าผมประสาท  แต่ถ้าคุณรู้ว่าก่อนย้ายมากรุงเทพฯ  พ่อแม่ทางเหนือของมันสืบเชื้อสายมาจากกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมืองเชี่ยวชาญในเรื่องการทำน้ำมันพรายเป็นพิเศษ คุณก็ต้องระแวงเหมือนผม

      อันที่จริง น้ำมันพรายแค่โดนดีดใส่ตัวก็หลงรักไม่ลืมหูลืมตาแล้ว  นับประสาอะไรกับการแอบผสมในอาหารให้ผมกิน  ไอ้เจมันไม่รู้หรอกว่านับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมา  ผมไม่เคยแตะต้องอาหารฝีมือมันเลยหากเจ้าหนูของผมมารายงานว่ามีอะไรผิดปกติ   ถ้าไม่ถ่วงเวลาทำทีว่าโทรศัพท์หรือเข้าห้องน้ำ   ผมก็มักหลอกล่อ  ออดอ้อนให้มันห่างจากตัวผมชั่วขณะ ไปรินน้ำส้มจากตู้เย็นให้บ้าง หรือบางครั้งก็แกล้งโทรศัพท์เข้ามือถือนอกห้องอาหารอีกเครื่องแล้วให้เดินออกไปรับ   ...ชั่วขณะหนึ่งซึ่งนานพอจะทำให้ผมทำลายอาหารผสมน้ำมันพรายของมันทิ้ง  และผมก็ทำได้ดีเสียด้วยสิ  หึ หึ หึ
    
    ถ้าไม่เพราะคาถาที่ได้มาเพื่อป้องกันการทำคุณไสยทุกชนิด  พร้อมกุมารทองน้อยคอยเป็นพรายกระซิบ  หลังจากผมใช้ให้ไปติดสอยห้อยตามคนอยากจะมาเป็นภรรยาในคราบร่างศัลยกรรมเป็นเจนจิราว่าทำอะไรผิดปกติหรือเปล่า  ผมคงเสร็จมันไปนานแล้วล่ะ...เอ  ซึ่งจะว่ากันไป ในร่างผู้ชายไอ้เจกับผมก็เสร็จพร้อมๆกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว

    เจจินตรัยหลงรักผมหัวปักหัวปำจนลืมความจริงข้อหนึ่ง...รากเหง้าปู่ของผมและมัน เชี่ยวชาญศาสตร์เวทมนตร์ไสยดำไม่น้อยไปกว่าครอบครัวของมันเลย   อันที่จริงผมก็พยายามปิดมันด้วยแหละ เรื่องอะไรจะต้องให้คนอื่นรู้ในสิ่งไม่ควรรู้
  
    หกปีที่ผมทนยอมเล่นละครเออออไปด้วย  ถ้าไม่เพราะที่ดินมรดกของครอบครัวไอ้เจกับครอบครัวผม  ถ้าหากรวมกันในอนาคตจะกลายเป็นที่ดินผืนใหญ่ราคาเหยียบหลายสิบล้านท่ามกลางขุนเขาและแมกไม้  ผมคงถีบมันออกไปจากชีวิตนานแล้วล่ะ   หรือไม่ก็ให้มันเป็นเจเพื่อนรักคงอยู่ในสถานะของเล่นต่อไป
    ลมพัดแรงจนกิ่งมะม่วงโยกไหวเอน โปรยปรายละอองเกสรดอกพร่างพรูใส่ร่างใครคนนั้นในชุดลูกไม้สีชมพูที่กำลังจะเดินไปเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเมื่อมองจากห้องนอนชั้นสอง  ผมก็ไม่รู้ว่ามันผ่าหรือยัง  ตั้งแต่แต่งงานกันมาก็ไม่เคยยุ่งกับมันเลย..แม้อดีตจะเคยกิน  แต่บอกตรงๆ ตอนนี้ทำใจที่จะมีอะไรกับไอ้เจในหน้าเจนจิราไม่ได้ มันพลอยทำให้นึกถึงเรื่องในคืนวันเกิดอุบัติเหตุทุกที  ไปหาเศษหาเลยนอกบ้านให้ความรู้สึกดีกว่าเยอะ

    ผมตัดสินใจกดมือถือหาเจ เอ๊ย เจน  พร้อมพยายามบังคับเสียงให้หล่อ ทุ้มนุ่ม  เป็นธรรมชาติแบบที่เคยทำเสมอมาแล้วบอกว่า “..รอผมแป๊บนึง  เดี๋ยวผมไปส่งดีกว่า”

    ถ้าไม่เพราะเมื่อคืนพ่อผมโทรศัพท์มาบอกว่าบ้านนั้นตกลงขายที่ดินติดกันกับบ้านผมให้ชาวญี่ปุ่นเพิ่งแต่งงานกับผู้หญิงละแวกนั้นเพื่อมาซื้อที่ไปเตรียมทำรีสอร์ทเพราะพ่อเจนติดการพนันเป็นหนี้หลายล้าน เลยต้องรีบขาย เงินนะหรือ....ถูกเจ้าหนี้รุมสูบไปหมดแทบไม่เหลือ….

แล้วผมจะเก็บมันไว้ทำซากอะไรเล่าครับ...คุณว่าไหม...

(ต่ออีกนิดเดียวครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่