มาถึงถุงมือเรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายแล้วครับ...
เป็นเรื่องเกี่ยวกับทั้งเพื่อน ทั้งความรัก...เอ๊ะ แล้วมันยังไง จขถม. ถึงตั้งชื่อว่า "เพื่อ(น)รัก"
ระหว่างเพื่อน กับ คนที่รัก ใครสำคัญมากกว่า ???
ต้องลองอ่านดูครับผม อ่านจบแล้วก็มอบเกรด แล้วเมียงๆมองๆจ้องหาตัวคนเขียนดูเน้อ...


ปากกาลูกลื่นขยับเขียนห้วงของความรู้สึกบันทึกไว้ในสมุดประจำวันเหมือนอย่างเคย ก่อนปิดมันพร้อมถอนหายใจ หกปีแล้วสินะ...
ฉันวางปากกาแล้วลุกขึ้นส่องกระจกภาพสะท้อนให้เห็นหญิงสาวใบหน้าเก๋ทันสมัย ผมสีดำยาวสลวยประบ่า ชุดแซคลูกไม้สีชมพูที่ใส่วันนี้ช่วยขับผิวขาวให้กระจ่างตาขึ้นกว่าเดิม
ฉันยิ้มให้กับตัวเองในกระจก หยิบเอาหวีขึ้นมาแปรงผมเบาๆ ในขณะที่เขาก้าวเข้ามาทางด้านหลังสวมกอดด้วยแขนอุ่นก่อนหอมแก้ม "มอร์นิ่งจ้ะฮันนี่ ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจัง...แล้วดูสิแต่งตัวเสียสวย จะออกไปข้างนอกเหรอ" เสียงทุ้มๆเจือรักและห่วงใยดังมาจากปากของเขา...คนสำคัญ
ร่างบางของฉันถูกกระชับกอดแน่นขึ้น แล้วเริ่มซุกซนเอาจมูกไล้ตามลำคอเรื่อยต่ำมาจนถึงเนินอก ฉันแกล้งเบี่ยงตัวออกหัวเราะแล้วบอกว่า "เดี๋ยวจะเตรียมอาหารเช้าให้นะคะ อาจกลับช้า"
มิได้รอคำตอบ ฉันก้าวลงบันได เดินเข้าห้องครัว เปิดตู้เย็นอย่างคุ้นเคยหยิบเอาลาซานญ่าอุ่นในไมโครเวฟ เมื่อพร้อมแล้วก็เตรียมโบลองเนสซอสกับเบซาเมลซอสสูตรพิเศษเพิ่มอีกในจานเติมความเข้มข้น นี่แหละสูตรลับมัดใจ ตั้งแต่ลองลิ้มชิมรสลาซานญ่าฝีมือฉันสูตรนี้เขาก็ไม่เคยแตะต้องลาซานญ่าแปลกรสแปลกกลิ่นจากที่อื่นอีกเลย อ้อ...ลืมไป ฉันหยิบขวดแก้วเล็กๆออกมาพินิจดู ก่อนหยดลงบนอาหาร....ส่วนผสมสำคัญอีกอย่างที่ไม่สามารถขาดได้ ซึ่งก็หยิบมันมาใช้เป็นบางครั้งเท่านันแหละ เวลาที่อยากมั่นใจเมื่อต้องการทำอะไรสักอย่างที่สำคัญ
หกปีก่อนเขาขับรถพาพี่สาวของฉันไปเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอตายคารถ...เมื่อมาถึงโรงพยาบาลทุกอย่างก็สายเกินไป ดีนะที่ฉันมีเพื่อนเป็นพยาบาลเวรไอซียูวันนั้นพอดี ฉันประเมินว่าเขาคงฟูมฟายเสียอกเสียใจแทบไม่เป็นผู้เป็นคนถ้ารู้ว่าเจนจิราตัวจริงจากโลกไปอย่างไม่มีวันกลับ ความฉลาดทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้โอกาสงามๆอย่างนี้หลุดลอยไป ฉันเตรียมขยับฐานะจาก “เพื่อนรัก”เป็นมากกว่านั้น..สิ่งที่รอคอยมานาน
ความหลังทำให้ต้องกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอด้วยความลำบาก ฉันรู้ ดีสุดเขาก็ให้ได้เพียงแค่นี้ เขาไม่เคยรับรู้ความในใจของฉันเลย ต้องขอบคุณวิทยาการทางการแพทย์ และไหวพริบซึ่งทำให้ฉันเปลี่ยนตัวกับพี่สาวทันท่วงทีก่อนเขาจะทันสังเกตพร้อมด้วยสินบนพอสมควรให้เพื่อนพยาบาลในห้องไอซียู ต่อด้วยทำเรื่องลาออกจากบริษัทแล้วก็ส่งอีเมลล์บอกลาเพียงสั้นๆว่า "จะไปทำงานเมืองนอก" มันก็อาจจะดูมีพิรุธเล็กน้อย
แต่ไม่เป็นไร เจ้าขวดเล็กๆที่อยู่ในกระเป๋าของฉันช่วยให้ทุกอย่างง่ายดายขึ้น...น้ำมันพราย
ผิดไหมนะการทำแบบนี้ บางครั้งความละอายใจและศีลธรรมก็ขยันป้อนคำถามประท้วงทำเอาฉันขนลุก แต่ความรักซึ่งมีให้เขาหมดหัวใจบวกกับความเห็นแก่ตัวอีกนิดหน่อยคอยกระซิบและถือหางบอกว่า "ฉันทำดีที่สุดแล้ว"
ลมแรงพัดลู่ซู่ซ่าจนใบมะม่วงสะบัดปลิวไหว จนต้องรีบตะครุบกระโปรงตัวสวยไม่ให้เปิดหวอ แม้จะเฉาะแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้ ลึกๆฉันก็เสียใจ แต่การได้ขยับฐานะจากเพื่อนรักมาเป็นภรรยาช่วยข่มให้ฉันไม่คิดมาก บ้านอื่นๆก็คงไม่ต่างกัน เพื่อนฉันหลายคนไม่ได้มีอะไรกับผัวตั้งแต่จดทะเบียนเพราะก่อนหน้านี้ทำไปเยอะแล้ว....เฮ้อ คิดไปก็เสียดาย ทำไมนะคนที่เขารักถึงไม่เป็นฉัน
สายลมหน้าร้อนพัดวูบตลบแรงตีผมจนกระเซิง
ดีนะ..ที่ยังไม่ได้ออกจากบ้าน
ฉันหยิบเอายางรัดผมรวบผมทั้งหมดไปด้านหลังกันไม่ให้ลมมาทำผมยุ่งก่อนออกไปทำธุระสำคัญ วันนี้ครบรอบทำบัตรประชาชนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พิเศษ คงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อจาก "นาย" เป็น "นางสาว"แทนแล้วล่ะ พร้อมขอทำเรื่องขอเปลี่ยนชื่อจาก “เจจินตรัย” เป็น “เจนจินทรา” ฉันเบื่อบัตรประชาชนในคราบคนอื่นเต็มที นับจากวันนี้ไปฉันก็จะมีหลักฐานยืนยันตัวตนความเป็นผู้หญิงของแท้ หลังจากต้องแอบใช้บัตรประชาชนของพี่สาวมาตลอด มันไม่โอเค.... ฉันไม่อยากอยู่ใต้เงาของใครอีกแล้วแหละ กลับมาค่อยทำเป็นบอกสามีว่าขอเปลี่ยนชื่อในหลักฐานทุกอย่างเพราะชื่อเก่ารวมเลขแล้วไม่เป็นมงคล ตกดวงกาลกิณีชะตาขาด
อืม ก็สมเหตุสมผลนะ..และไม่ใช่เรื่องยากอะไรนี่...หกปีแล้วนะที่เราอยู่ด้วยกัน เอ...หรือบางที..อาจจะถึงเวลาที่ฉันควรสารภาพความจริงทุกอย่างแล้ว ?
.................................................................
มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะความใกล้ชิด ความน่ารัก ความใส่ใจในทุกรายละเอียดการกระทำของเธอ มันแปรเปลี่ยนจนผมเปลี่ยนไป
ผู้หญิงที่ผมรักคือ
เจนจิรา เธอเป็นรักแรกและรักเดียวของผม ผมยังจำกลิ่นคล้ายแป้งเด็กอ่อนที่โชยมายามลมพัดต้องตัวเธอได้เสมอ แม้เจนจะจากไปนานแล้ว...อย่างไม่มีวันหวนกลับ
ผมแบมือตัวเอง พร้อมคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ถูกแล้วใช่ไหมการทำแบบนี้ ยังจำอุบัติเหตุคืนนรกวันนั้นได้ดี สองมือคู่นี้แหละที่ก่อฆาตกรรมอำพรางอย่างแนบเนียน
เมื่อเรื่องราวแต่หนหลังทะลักล้นเข้ามาท่วมใจอีกครั้ง มันก็อดทำให้ผมมีสายตาแข็งกร้าวไม่ได้ อารมณ์เดือดพุ่งปะทุเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นจนต้องกำหมัดแน่น
ผมกับเจนจิราคบกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน เธอเป็นคนสวยและมีเสน่ห์ ยิ่งเวลาผ่านไปผมยิ่งแน่ใจว่าความรู้สึกต่อเธอนั้นคือ “รัก” แต่ในวันนั้น...เมื่อผมตัดสินใจพาเธอเพื่อไปวัดตัวชุดเจ้าสาวกลับวิปริตกลายเป็นวันแห่งโศกนาฏกรรมแทนเพราะในระหว่างขับรถ เธอตัดสินใจสารภาพความจริงว่าแต่งงานกับผมไม่ได้ เจนมีใจให้หนุ่มรุ่นน้องที่เข้ามาทำงานใหม่ได้ไม่ถึงครึ่งปี เรื่องมันคงไม่จบลงเลวร้ายแบบนั้นหรอก ถ้าผมไม่ฉุนขาดจนกระชากกระเป๋าเธอมาเช็คข้อความในมือถือ พลันต้องตะลึงเมื่อพบข้อความบ่งบอกว่าเธอกันมันนอนด้วยกันแล้ว!!! ทั้งๆที่ผมให้เกียรติไม่เคยได้แตะต้องเธอมากไปกว่าการกอด จับมือ หอมแก้มถึงแม้เวลาอยู่กับไอ้เจตอนเมาและเหงาผมจะทำมากกว่านั้นก็ตาม
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ผมมองจานลาซานญ่าในมือก่อนหลังจากกินไปได้สองคำก่อนตัดสินใจเทพรวดทิ้งลงในถุงพลาสติก...ไว้ค่อยมาจัดการทีหลัง ผมเดินขึ้นไปชั้นสอง หยิบโทรศัพท์ เปิดผ้าม่านมองดู “เธอของผม” อีกครั้ง
ผมมั่นใจว่าเจนจิราตายแล้ว ตายเพราะการบีบคอของผมก่อนก่อเหตุทำทีเหมือนเป็นว่าขับรถชนเสาไฟฟ้า ยอมรับว่าอ่อนหัดไปหน่อย หลังเจนเข้าห้องไอซียูผมต้องตะลึงเมื่อพบว่า เจนจิรายังมีชีวิตอยู่แต่ตอนนี้ยังสลบไม่ฟื้นโดยมีแค่แผลถลอก พร้อมรอยฟกช้ำเล็กน้อย ผมฆ่าเธอเองกับมือ แล้วเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร หรือที่เค้าว่ากันว่าการฟื้นคืนชีพได้เป็นเรื่องจริง ไม่หรอกน่า....ในใจผมร้อนรน แต่ก็ต้องพยายามเก็บอาการเอาไว้ ผมผลักประตูห้องพักพิเศษหลังหมอย้ายเธอมาจากไอซียูเข้าไปเพื่อดูให้เห็นกับตาว่าไอ้เรื่องบ้าๆนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง
แว่บแรกที่เห็น....ผมก็รู้ทันทีว่าคนบนเตียงคือไอ้เจ “เพื่อนรัก” ซึ่งเป็นน้องชายฝาแฝดของเจนจิรา มันแอบรักผมมานาน และพยายามอย่างหนักเพื่อให้ผมตอบรับโจทย์หัวใจของมัน ถ้าเล่นๆย่อมได้ แต่จะให้จริงจังผมไม่เอาด้วยหรอก ไม่รักก็คือไม่รัก
ต่อให้มีผู้หญิงแท้ๆหน้าเหมือนเจนจิรา แบบคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกสิบคน ผมก็จำได้เสมอว่าคนไหนคือตัวจริง
ภายใต้ท่านอนเอียงตะแคงหันหลังให้ผมในชุดโรงพยาบาลสีเขียวหลังจากย้ายจากไอซียูไปพักห้องพิเศษ ผมยาวสีดำเห็นรอยต่อผมรางๆถูกรวบอย่างไม่ใส่ใจเผยให้เห็นแผลเป็นเล็กๆที่หลังหูด้านซ้ายที่มันไม่เคยรู้ตัวเลยว่ามี ผมเรียนกับไอ้เจมาตั้งแต่ประถม กินข้าวด้วยกัน เตะบอล ตกปลา และทำอะไรอีกหลายๆอย่างจนแม้แต่หลับตาผมก็เห็นภาพทุกอณูของมันอย่างชัดเจน ถึงจะผ่านการศัลยกรรมแนบเนียนจนดูเหมือนเจนจิรามาก แต่ด้วยความใกล้ชิดและสนิทกับทั้งเจนจิราและไอ้เจ สัญชาตญาณในตัวแยกออกโดยอัตโนมัติว่าใครคือใคร...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันทำแบบนี้ทำไม...
เพื่อนรัก ทำเพื่อรัก
นับตั้งแต่นั้นมา ผมก็เล่นละครไปพร้อมกับมัน บ้าถึงขนาดพาไปจดทะเบียนแล้วเห็นจะจะว่ามันเซ็นชื่อปลอมเป็นเจน แต่ช่างมันเถอะ ผมก็ไม่รู้ว่านอกจากเกมส์สลับร่างสร้างรักแล้ว มันจะพิเรนทร์ทำคุณไสยใส่ผมหรือเปล่า คุณอาจหาว่าผมประสาท
แต่ถ้าคุณรู้ว่าก่อนย้ายมากรุงเทพฯ พ่อแม่ทางเหนือของมันสืบเชื้อสายมาจากกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมืองเชี่ยวชาญในเรื่องการทำน้ำมันพรายเป็นพิเศษ คุณก็ต้องระแวงเหมือนผม
อันที่จริง น้ำมันพรายแค่โดนดีดใส่ตัวก็หลงรักไม่ลืมหูลืมตาแล้ว นับประสาอะไรกับการแอบผสมในอาหารให้ผมกิน ไอ้เจมันไม่รู้หรอกว่านับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมา ผมไม่เคยแตะต้องอาหารฝีมือมันเลยหากเจ้าหนูของผมมารายงานว่ามีอะไรผิดปกติ ถ้าไม่ถ่วงเวลาทำทีว่าโทรศัพท์หรือเข้าห้องน้ำ ผมก็มักหลอกล่อ ออดอ้อนให้มันห่างจากตัวผมชั่วขณะ ไปรินน้ำส้มจากตู้เย็นให้บ้าง หรือบางครั้งก็แกล้งโทรศัพท์เข้ามือถือนอกห้องอาหารอีกเครื่องแล้วให้เดินออกไปรับ
...ชั่วขณะหนึ่งซึ่งนานพอจะทำให้ผมทำลายอาหารผสมน้ำมันพรายของมันทิ้ง และผมก็ทำได้ดีเสียด้วยสิ หึ หึ หึ
ถ้าไม่เพราะคาถาที่ได้มาเพื่อป้องกันการทำคุณไสยทุกชนิด
พร้อมกุมารทองน้อยคอยเป็นพรายกระซิบ หลังจากผมใช้ให้ไปติดสอยห้อยตามคนอยากจะมาเป็นภรรยาในคราบร่างศัลยกรรมเป็นเจนจิราว่าทำอะไรผิดปกติหรือเปล่า ผมคงเสร็จมันไปนานแล้วล่ะ...เอ ซึ่งจะว่ากันไป ในร่างผู้ชายไอ้เจกับผมก็เสร็จพร้อมๆกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
เจจินตรัยหลงรักผมหัวปักหัวปำจนลืมความจริงข้อหนึ่ง...
รากเหง้าปู่ของผมและมัน เชี่ยวชาญศาสตร์เวทมนตร์ไสยดำไม่น้อยไปกว่าครอบครัวของมันเลย อันที่จริงผมก็พยายามปิดมันด้วยแหละ เรื่องอะไรจะต้องให้คนอื่นรู้ในสิ่งไม่ควรรู้
หกปีที่ผมทนยอมเล่นละครเออออไปด้วย ถ้าไม่เพราะที่ดินมรดกของครอบครัวไอ้เจกับครอบครัวผม ถ้าหากรวมกันในอนาคตจะกลายเป็นที่ดินผืนใหญ่ราคาเหยียบหลายสิบล้านท่ามกลางขุนเขาและแมกไม้ ผมคงถีบมันออกไปจากชีวิตนานแล้วล่ะ หรือไม่ก็ให้มันเป็นเจเพื่อนรักคงอยู่ในสถานะของเล่นต่อไป
ลมพัดแรงจนกิ่งมะม่วงโยกไหวเอน โปรยปรายละอองเกสรดอกพร่างพรูใส่ร่างใครคนนั้นในชุดลูกไม้สีชมพูที่กำลังจะเดินไปเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเมื่อมองจากห้องนอนชั้นสอง ผมก็ไม่รู้ว่ามันผ่าหรือยัง ตั้งแต่แต่งงานกันมาก็ไม่เคยยุ่งกับมันเลย..แม้อดีตจะเคยกิน แต่บอกตรงๆ ตอนนี้ทำใจที่จะมีอะไรกับไอ้เจในหน้าเจนจิราไม่ได้ มันพลอยทำให้นึกถึงเรื่องในคืนวันเกิดอุบัติเหตุทุกที ไปหาเศษหาเลยนอกบ้านให้ความรู้สึกดีกว่าเยอะ
ผมตัดสินใจกดมือถือหาเจ เอ๊ย เจน พร้อมพยายามบังคับเสียงให้หล่อ ทุ้มนุ่ม เป็นธรรมชาติแบบที่เคยทำเสมอมาแล้วบอกว่า “..รอผมแป๊บนึง เดี๋ยวผมไปส่งดีกว่า”
ถ้าไม่เพราะเมื่อคืนพ่อผมโทรศัพท์มาบอกว่าบ้านนั้นตกลงขายที่ดินติดกันกับบ้านผมให้ชาวญี่ปุ่นเพิ่งแต่งงานกับผู้หญิงละแวกนั้นเพื่อมาซื้อที่ไปเตรียมทำรีสอร์ทเพราะพ่อเจนติดการพนันเป็นหนี้หลายล้าน เลยต้องรีบขาย เงินนะหรือ....ถูกเจ้าหนี้รุมสูบไปหมดแทบไม่เหลือ….
แล้วผมจะเก็บมันไว้ทำซากอะไรเล่าครับ...คุณว่าไหม...
(ต่ออีกนิดเดียวครับ)
🌸💖🌸THE WEEKLY GLOVES ไตรมาสสุดท้าย วีคที่ 32 เรื่องสั้น#70 "เพื่อ(น)รัก" โดย ถุงมือ "ลูกไม้สีชมพู"🌸💖🌸
มาถึงถุงมือเรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายแล้วครับ...
เป็นเรื่องเกี่ยวกับทั้งเพื่อน ทั้งความรัก...เอ๊ะ แล้วมันยังไง จขถม. ถึงตั้งชื่อว่า "เพื่อ(น)รัก"
ระหว่างเพื่อน กับ คนที่รัก ใครสำคัญมากกว่า ???
ต้องลองอ่านดูครับผม อ่านจบแล้วก็มอบเกรด แล้วเมียงๆมองๆจ้องหาตัวคนเขียนดูเน้อ...
ปากกาลูกลื่นขยับเขียนห้วงของความรู้สึกบันทึกไว้ในสมุดประจำวันเหมือนอย่างเคย ก่อนปิดมันพร้อมถอนหายใจ หกปีแล้วสินะ...
ฉันวางปากกาแล้วลุกขึ้นส่องกระจกภาพสะท้อนให้เห็นหญิงสาวใบหน้าเก๋ทันสมัย ผมสีดำยาวสลวยประบ่า ชุดแซคลูกไม้สีชมพูที่ใส่วันนี้ช่วยขับผิวขาวให้กระจ่างตาขึ้นกว่าเดิม
ฉันยิ้มให้กับตัวเองในกระจก หยิบเอาหวีขึ้นมาแปรงผมเบาๆ ในขณะที่เขาก้าวเข้ามาทางด้านหลังสวมกอดด้วยแขนอุ่นก่อนหอมแก้ม "มอร์นิ่งจ้ะฮันนี่ ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจัง...แล้วดูสิแต่งตัวเสียสวย จะออกไปข้างนอกเหรอ" เสียงทุ้มๆเจือรักและห่วงใยดังมาจากปากของเขา...คนสำคัญ
ร่างบางของฉันถูกกระชับกอดแน่นขึ้น แล้วเริ่มซุกซนเอาจมูกไล้ตามลำคอเรื่อยต่ำมาจนถึงเนินอก ฉันแกล้งเบี่ยงตัวออกหัวเราะแล้วบอกว่า "เดี๋ยวจะเตรียมอาหารเช้าให้นะคะ อาจกลับช้า"
มิได้รอคำตอบ ฉันก้าวลงบันได เดินเข้าห้องครัว เปิดตู้เย็นอย่างคุ้นเคยหยิบเอาลาซานญ่าอุ่นในไมโครเวฟ เมื่อพร้อมแล้วก็เตรียมโบลองเนสซอสกับเบซาเมลซอสสูตรพิเศษเพิ่มอีกในจานเติมความเข้มข้น นี่แหละสูตรลับมัดใจ ตั้งแต่ลองลิ้มชิมรสลาซานญ่าฝีมือฉันสูตรนี้เขาก็ไม่เคยแตะต้องลาซานญ่าแปลกรสแปลกกลิ่นจากที่อื่นอีกเลย อ้อ...ลืมไป ฉันหยิบขวดแก้วเล็กๆออกมาพินิจดู ก่อนหยดลงบนอาหาร....ส่วนผสมสำคัญอีกอย่างที่ไม่สามารถขาดได้ ซึ่งก็หยิบมันมาใช้เป็นบางครั้งเท่านันแหละ เวลาที่อยากมั่นใจเมื่อต้องการทำอะไรสักอย่างที่สำคัญ
หกปีก่อนเขาขับรถพาพี่สาวของฉันไปเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอตายคารถ...เมื่อมาถึงโรงพยาบาลทุกอย่างก็สายเกินไป ดีนะที่ฉันมีเพื่อนเป็นพยาบาลเวรไอซียูวันนั้นพอดี ฉันประเมินว่าเขาคงฟูมฟายเสียอกเสียใจแทบไม่เป็นผู้เป็นคนถ้ารู้ว่าเจนจิราตัวจริงจากโลกไปอย่างไม่มีวันกลับ ความฉลาดทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้โอกาสงามๆอย่างนี้หลุดลอยไป ฉันเตรียมขยับฐานะจาก “เพื่อนรัก”เป็นมากกว่านั้น..สิ่งที่รอคอยมานาน
ความหลังทำให้ต้องกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอด้วยความลำบาก ฉันรู้ ดีสุดเขาก็ให้ได้เพียงแค่นี้ เขาไม่เคยรับรู้ความในใจของฉันเลย ต้องขอบคุณวิทยาการทางการแพทย์ และไหวพริบซึ่งทำให้ฉันเปลี่ยนตัวกับพี่สาวทันท่วงทีก่อนเขาจะทันสังเกตพร้อมด้วยสินบนพอสมควรให้เพื่อนพยาบาลในห้องไอซียู ต่อด้วยทำเรื่องลาออกจากบริษัทแล้วก็ส่งอีเมลล์บอกลาเพียงสั้นๆว่า "จะไปทำงานเมืองนอก" มันก็อาจจะดูมีพิรุธเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไร เจ้าขวดเล็กๆที่อยู่ในกระเป๋าของฉันช่วยให้ทุกอย่างง่ายดายขึ้น...น้ำมันพราย
ผิดไหมนะการทำแบบนี้ บางครั้งความละอายใจและศีลธรรมก็ขยันป้อนคำถามประท้วงทำเอาฉันขนลุก แต่ความรักซึ่งมีให้เขาหมดหัวใจบวกกับความเห็นแก่ตัวอีกนิดหน่อยคอยกระซิบและถือหางบอกว่า "ฉันทำดีที่สุดแล้ว"
ลมแรงพัดลู่ซู่ซ่าจนใบมะม่วงสะบัดปลิวไหว จนต้องรีบตะครุบกระโปรงตัวสวยไม่ให้เปิดหวอ แม้จะเฉาะแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้ ลึกๆฉันก็เสียใจ แต่การได้ขยับฐานะจากเพื่อนรักมาเป็นภรรยาช่วยข่มให้ฉันไม่คิดมาก บ้านอื่นๆก็คงไม่ต่างกัน เพื่อนฉันหลายคนไม่ได้มีอะไรกับผัวตั้งแต่จดทะเบียนเพราะก่อนหน้านี้ทำไปเยอะแล้ว....เฮ้อ คิดไปก็เสียดาย ทำไมนะคนที่เขารักถึงไม่เป็นฉัน
สายลมหน้าร้อนพัดวูบตลบแรงตีผมจนกระเซิง ดีนะ..ที่ยังไม่ได้ออกจากบ้าน
ฉันหยิบเอายางรัดผมรวบผมทั้งหมดไปด้านหลังกันไม่ให้ลมมาทำผมยุ่งก่อนออกไปทำธุระสำคัญ วันนี้ครบรอบทำบัตรประชาชนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พิเศษ คงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อจาก "นาย" เป็น "นางสาว"แทนแล้วล่ะ พร้อมขอทำเรื่องขอเปลี่ยนชื่อจาก “เจจินตรัย” เป็น “เจนจินทรา” ฉันเบื่อบัตรประชาชนในคราบคนอื่นเต็มที นับจากวันนี้ไปฉันก็จะมีหลักฐานยืนยันตัวตนความเป็นผู้หญิงของแท้ หลังจากต้องแอบใช้บัตรประชาชนของพี่สาวมาตลอด มันไม่โอเค.... ฉันไม่อยากอยู่ใต้เงาของใครอีกแล้วแหละ กลับมาค่อยทำเป็นบอกสามีว่าขอเปลี่ยนชื่อในหลักฐานทุกอย่างเพราะชื่อเก่ารวมเลขแล้วไม่เป็นมงคล ตกดวงกาลกิณีชะตาขาด อืม ก็สมเหตุสมผลนะ..และไม่ใช่เรื่องยากอะไรนี่...หกปีแล้วนะที่เราอยู่ด้วยกัน เอ...หรือบางที..อาจจะถึงเวลาที่ฉันควรสารภาพความจริงทุกอย่างแล้ว ?
มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะความใกล้ชิด ความน่ารัก ความใส่ใจในทุกรายละเอียดการกระทำของเธอ มันแปรเปลี่ยนจนผมเปลี่ยนไป
ผู้หญิงที่ผมรักคือ เจนจิรา เธอเป็นรักแรกและรักเดียวของผม ผมยังจำกลิ่นคล้ายแป้งเด็กอ่อนที่โชยมายามลมพัดต้องตัวเธอได้เสมอ แม้เจนจะจากไปนานแล้ว...อย่างไม่มีวันหวนกลับ
ผมแบมือตัวเอง พร้อมคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ถูกแล้วใช่ไหมการทำแบบนี้ ยังจำอุบัติเหตุคืนนรกวันนั้นได้ดี สองมือคู่นี้แหละที่ก่อฆาตกรรมอำพรางอย่างแนบเนียน
เมื่อเรื่องราวแต่หนหลังทะลักล้นเข้ามาท่วมใจอีกครั้ง มันก็อดทำให้ผมมีสายตาแข็งกร้าวไม่ได้ อารมณ์เดือดพุ่งปะทุเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นจนต้องกำหมัดแน่น
ผมกับเจนจิราคบกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน เธอเป็นคนสวยและมีเสน่ห์ ยิ่งเวลาผ่านไปผมยิ่งแน่ใจว่าความรู้สึกต่อเธอนั้นคือ “รัก” แต่ในวันนั้น...เมื่อผมตัดสินใจพาเธอเพื่อไปวัดตัวชุดเจ้าสาวกลับวิปริตกลายเป็นวันแห่งโศกนาฏกรรมแทนเพราะในระหว่างขับรถ เธอตัดสินใจสารภาพความจริงว่าแต่งงานกับผมไม่ได้ เจนมีใจให้หนุ่มรุ่นน้องที่เข้ามาทำงานใหม่ได้ไม่ถึงครึ่งปี เรื่องมันคงไม่จบลงเลวร้ายแบบนั้นหรอก ถ้าผมไม่ฉุนขาดจนกระชากกระเป๋าเธอมาเช็คข้อความในมือถือ พลันต้องตะลึงเมื่อพบข้อความบ่งบอกว่าเธอกันมันนอนด้วยกันแล้ว!!! ทั้งๆที่ผมให้เกียรติไม่เคยได้แตะต้องเธอมากไปกว่าการกอด จับมือ หอมแก้มถึงแม้เวลาอยู่กับไอ้เจตอนเมาและเหงาผมจะทำมากกว่านั้นก็ตาม
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ผมมองจานลาซานญ่าในมือก่อนหลังจากกินไปได้สองคำก่อนตัดสินใจเทพรวดทิ้งลงในถุงพลาสติก...ไว้ค่อยมาจัดการทีหลัง ผมเดินขึ้นไปชั้นสอง หยิบโทรศัพท์ เปิดผ้าม่านมองดู “เธอของผม” อีกครั้ง
ผมมั่นใจว่าเจนจิราตายแล้ว ตายเพราะการบีบคอของผมก่อนก่อเหตุทำทีเหมือนเป็นว่าขับรถชนเสาไฟฟ้า ยอมรับว่าอ่อนหัดไปหน่อย หลังเจนเข้าห้องไอซียูผมต้องตะลึงเมื่อพบว่า เจนจิรายังมีชีวิตอยู่แต่ตอนนี้ยังสลบไม่ฟื้นโดยมีแค่แผลถลอก พร้อมรอยฟกช้ำเล็กน้อย ผมฆ่าเธอเองกับมือ แล้วเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร หรือที่เค้าว่ากันว่าการฟื้นคืนชีพได้เป็นเรื่องจริง ไม่หรอกน่า....ในใจผมร้อนรน แต่ก็ต้องพยายามเก็บอาการเอาไว้ ผมผลักประตูห้องพักพิเศษหลังหมอย้ายเธอมาจากไอซียูเข้าไปเพื่อดูให้เห็นกับตาว่าไอ้เรื่องบ้าๆนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง
แว่บแรกที่เห็น....ผมก็รู้ทันทีว่าคนบนเตียงคือไอ้เจ “เพื่อนรัก” ซึ่งเป็นน้องชายฝาแฝดของเจนจิรา มันแอบรักผมมานาน และพยายามอย่างหนักเพื่อให้ผมตอบรับโจทย์หัวใจของมัน ถ้าเล่นๆย่อมได้ แต่จะให้จริงจังผมไม่เอาด้วยหรอก ไม่รักก็คือไม่รัก ต่อให้มีผู้หญิงแท้ๆหน้าเหมือนเจนจิรา แบบคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกสิบคน ผมก็จำได้เสมอว่าคนไหนคือตัวจริง
ภายใต้ท่านอนเอียงตะแคงหันหลังให้ผมในชุดโรงพยาบาลสีเขียวหลังจากย้ายจากไอซียูไปพักห้องพิเศษ ผมยาวสีดำเห็นรอยต่อผมรางๆถูกรวบอย่างไม่ใส่ใจเผยให้เห็นแผลเป็นเล็กๆที่หลังหูด้านซ้ายที่มันไม่เคยรู้ตัวเลยว่ามี ผมเรียนกับไอ้เจมาตั้งแต่ประถม กินข้าวด้วยกัน เตะบอล ตกปลา และทำอะไรอีกหลายๆอย่างจนแม้แต่หลับตาผมก็เห็นภาพทุกอณูของมันอย่างชัดเจน ถึงจะผ่านการศัลยกรรมแนบเนียนจนดูเหมือนเจนจิรามาก แต่ด้วยความใกล้ชิดและสนิทกับทั้งเจนจิราและไอ้เจ สัญชาตญาณในตัวแยกออกโดยอัตโนมัติว่าใครคือใคร...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันทำแบบนี้ทำไม...
เพื่อนรัก ทำเพื่อรัก
นับตั้งแต่นั้นมา ผมก็เล่นละครไปพร้อมกับมัน บ้าถึงขนาดพาไปจดทะเบียนแล้วเห็นจะจะว่ามันเซ็นชื่อปลอมเป็นเจน แต่ช่างมันเถอะ ผมก็ไม่รู้ว่านอกจากเกมส์สลับร่างสร้างรักแล้ว มันจะพิเรนทร์ทำคุณไสยใส่ผมหรือเปล่า คุณอาจหาว่าผมประสาท แต่ถ้าคุณรู้ว่าก่อนย้ายมากรุงเทพฯ พ่อแม่ทางเหนือของมันสืบเชื้อสายมาจากกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมืองเชี่ยวชาญในเรื่องการทำน้ำมันพรายเป็นพิเศษ คุณก็ต้องระแวงเหมือนผม
อันที่จริง น้ำมันพรายแค่โดนดีดใส่ตัวก็หลงรักไม่ลืมหูลืมตาแล้ว นับประสาอะไรกับการแอบผสมในอาหารให้ผมกิน ไอ้เจมันไม่รู้หรอกว่านับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมา ผมไม่เคยแตะต้องอาหารฝีมือมันเลยหากเจ้าหนูของผมมารายงานว่ามีอะไรผิดปกติ ถ้าไม่ถ่วงเวลาทำทีว่าโทรศัพท์หรือเข้าห้องน้ำ ผมก็มักหลอกล่อ ออดอ้อนให้มันห่างจากตัวผมชั่วขณะ ไปรินน้ำส้มจากตู้เย็นให้บ้าง หรือบางครั้งก็แกล้งโทรศัพท์เข้ามือถือนอกห้องอาหารอีกเครื่องแล้วให้เดินออกไปรับ ...ชั่วขณะหนึ่งซึ่งนานพอจะทำให้ผมทำลายอาหารผสมน้ำมันพรายของมันทิ้ง และผมก็ทำได้ดีเสียด้วยสิ หึ หึ หึ
ถ้าไม่เพราะคาถาที่ได้มาเพื่อป้องกันการทำคุณไสยทุกชนิด พร้อมกุมารทองน้อยคอยเป็นพรายกระซิบ หลังจากผมใช้ให้ไปติดสอยห้อยตามคนอยากจะมาเป็นภรรยาในคราบร่างศัลยกรรมเป็นเจนจิราว่าทำอะไรผิดปกติหรือเปล่า ผมคงเสร็จมันไปนานแล้วล่ะ...เอ ซึ่งจะว่ากันไป ในร่างผู้ชายไอ้เจกับผมก็เสร็จพร้อมๆกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
เจจินตรัยหลงรักผมหัวปักหัวปำจนลืมความจริงข้อหนึ่ง...รากเหง้าปู่ของผมและมัน เชี่ยวชาญศาสตร์เวทมนตร์ไสยดำไม่น้อยไปกว่าครอบครัวของมันเลย อันที่จริงผมก็พยายามปิดมันด้วยแหละ เรื่องอะไรจะต้องให้คนอื่นรู้ในสิ่งไม่ควรรู้
หกปีที่ผมทนยอมเล่นละครเออออไปด้วย ถ้าไม่เพราะที่ดินมรดกของครอบครัวไอ้เจกับครอบครัวผม ถ้าหากรวมกันในอนาคตจะกลายเป็นที่ดินผืนใหญ่ราคาเหยียบหลายสิบล้านท่ามกลางขุนเขาและแมกไม้ ผมคงถีบมันออกไปจากชีวิตนานแล้วล่ะ หรือไม่ก็ให้มันเป็นเจเพื่อนรักคงอยู่ในสถานะของเล่นต่อไป
ลมพัดแรงจนกิ่งมะม่วงโยกไหวเอน โปรยปรายละอองเกสรดอกพร่างพรูใส่ร่างใครคนนั้นในชุดลูกไม้สีชมพูที่กำลังจะเดินไปเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเมื่อมองจากห้องนอนชั้นสอง ผมก็ไม่รู้ว่ามันผ่าหรือยัง ตั้งแต่แต่งงานกันมาก็ไม่เคยยุ่งกับมันเลย..แม้อดีตจะเคยกิน แต่บอกตรงๆ ตอนนี้ทำใจที่จะมีอะไรกับไอ้เจในหน้าเจนจิราไม่ได้ มันพลอยทำให้นึกถึงเรื่องในคืนวันเกิดอุบัติเหตุทุกที ไปหาเศษหาเลยนอกบ้านให้ความรู้สึกดีกว่าเยอะ
ผมตัดสินใจกดมือถือหาเจ เอ๊ย เจน พร้อมพยายามบังคับเสียงให้หล่อ ทุ้มนุ่ม เป็นธรรมชาติแบบที่เคยทำเสมอมาแล้วบอกว่า “..รอผมแป๊บนึง เดี๋ยวผมไปส่งดีกว่า”
ถ้าไม่เพราะเมื่อคืนพ่อผมโทรศัพท์มาบอกว่าบ้านนั้นตกลงขายที่ดินติดกันกับบ้านผมให้ชาวญี่ปุ่นเพิ่งแต่งงานกับผู้หญิงละแวกนั้นเพื่อมาซื้อที่ไปเตรียมทำรีสอร์ทเพราะพ่อเจนติดการพนันเป็นหนี้หลายล้าน เลยต้องรีบขาย เงินนะหรือ....ถูกเจ้าหนี้รุมสูบไปหมดแทบไม่เหลือ….
แล้วผมจะเก็บมันไว้ทำซากอะไรเล่าครับ...คุณว่าไหม...
(ต่ออีกนิดเดียวครับ)