
สวัสดีครับทุกท่าน
จากสงครามการค้า ดอกเบี้ย ค่าเงิน
และความผันผวนของตลาด
เราจะพบว่า จากต้นปีจนถึงวันนี้
ตลาดหุ้น ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย -7.49%
เมื่อรวมกับปันผล
SET ก็ยัง ติดลบ -4% ถึง -5% อยู่ดี
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ กองทุนตราสารหนี้
ซึ่งก็ติดลบ -1% ถึง -2% เช่นกัน
จากการที่คาดหมายดอกเบี้ย ที่จะค่อยๆเพิ่มขึ้น
ในขณะที่ นักลงทุนที่ถือเงินสด
ในช่วงที่ผ่านมา
ได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ย 1.2 -1.5%

และในช่วงต่อไป จะเข้าสู่
การลดราคาหุ้นของ บริษัทจดทะเบียน ครั้งใหญ่
ภายใต้ชื่อ Super Stock Thailand Grand Sale
เมื่อต่างชาติลดขนาดการลงทุนในประเทศไทยลง
ทั้งหุ้น และ ตราสารหนี้ ถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง
และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ง่ายๆ
ทำไม?
เพราะอัตราดอกเบี้ย ใช้คำนวณมูลค่าหุ้น
มูลค่าหุ้น ใช้กำหนดราคาซื้อ-ขาย
ราคา และ ปริมาณการซื้อ-ขาย
เป็นตัวกำหนดปัจจัย เทคนิค
ตราบใดที่กองทุนต่างชาติ ยังมอง
การเติบโตทางเศรษฐกิจ
ต่ำกว่าการลดลงของมูลค่าหุ้น จากปัจจัยต่างๆ
ตลาดก็จะยังจะลงต่อไป
เราอยู่ในวิกฤตเต็มตัวแล้ว
ตลาดยังคงจะลงต่อไป
โดยแทบไม่สนใจ
ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจเลย
เพราะ ถึงแม้ผลตอบแทนจากการลงทุนจะดูดี
แต่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นมันมากกว่า
มันจึง... ยังไม่คุ้มที่จะลงทุน
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
ถือเงินสด น่าจะดีสุด ในช่วงนี้
ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงซื้อ
เพื่อหวังผลตอบแทนสูงๆ
ในขณะที่ความเสี่ยงยังสูงอยู่
ซื้อบ้าง ถ้าทนถือเงินไม่ไหว
แต่ต้องเลือกซื้อหุ้นที่ กำไรดี PEต่ำ
และ อยู่ในธุรกิจที่มั่นคง
ซึ่งถ้าเลือกยาก ก็ทยอยซื้อกองทุนหุ้น ก็ยังได้
แต่ต้องทยอยซื้อ ไปเรื่อยๆ
เงินหมดคือจบเกมส์นะครับ
เวลาในการขึ้นดอกเบี้ยคือประมาณ 2 ปี จากนี้
ซึ่งแม้จะมีการลงทุน EEC
หนี้เสียลด การลงทุนภาครัฐและเอกชนเพิ่ม
การส่งออกและการท่องเที่ยวดีขึ้น
ก็ต้องติดตามว่า
การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย
จะสามารถดีขึ้นจนเอาชนะ
การขึ้นดอกเบี้ย สงครามการค้า การโยกย้ายเงิน
รอบนี้ได้หรือไม่
แต่ก็นะ

ไม่ซื้อ... ไม่ขาดทุน
สวัสดีครับทุกท่าน......ช่วงนี้.....ถือเงินสด....สบายใจสุดแล้ว
สวัสดีครับทุกท่าน
จากสงครามการค้า ดอกเบี้ย ค่าเงิน
และความผันผวนของตลาด
เราจะพบว่า จากต้นปีจนถึงวันนี้
ตลาดหุ้น ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย -7.49%
เมื่อรวมกับปันผล
SET ก็ยัง ติดลบ -4% ถึง -5% อยู่ดี
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ กองทุนตราสารหนี้
ซึ่งก็ติดลบ -1% ถึง -2% เช่นกัน
จากการที่คาดหมายดอกเบี้ย ที่จะค่อยๆเพิ่มขึ้น
ในขณะที่ นักลงทุนที่ถือเงินสด
ในช่วงที่ผ่านมา
ได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ย 1.2 -1.5%
และในช่วงต่อไป จะเข้าสู่
การลดราคาหุ้นของ บริษัทจดทะเบียน ครั้งใหญ่
ภายใต้ชื่อ Super Stock Thailand Grand Sale
เมื่อต่างชาติลดขนาดการลงทุนในประเทศไทยลง
ทั้งหุ้น และ ตราสารหนี้ ถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง
และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ง่ายๆ
ทำไม?
เพราะอัตราดอกเบี้ย ใช้คำนวณมูลค่าหุ้น
มูลค่าหุ้น ใช้กำหนดราคาซื้อ-ขาย
ราคา และ ปริมาณการซื้อ-ขาย
เป็นตัวกำหนดปัจจัย เทคนิค
ตราบใดที่กองทุนต่างชาติ ยังมอง
การเติบโตทางเศรษฐกิจ
ต่ำกว่าการลดลงของมูลค่าหุ้น จากปัจจัยต่างๆ
ตลาดก็จะยังจะลงต่อไป
เราอยู่ในวิกฤตเต็มตัวแล้ว
ตลาดยังคงจะลงต่อไป
โดยแทบไม่สนใจ
ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจเลย
เพราะ ถึงแม้ผลตอบแทนจากการลงทุนจะดูดี
แต่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นมันมากกว่า
มันจึง... ยังไม่คุ้มที่จะลงทุน
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
ถือเงินสด น่าจะดีสุด ในช่วงนี้
ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงซื้อ
เพื่อหวังผลตอบแทนสูงๆ
ในขณะที่ความเสี่ยงยังสูงอยู่
ซื้อบ้าง ถ้าทนถือเงินไม่ไหว
แต่ต้องเลือกซื้อหุ้นที่ กำไรดี PEต่ำ
และ อยู่ในธุรกิจที่มั่นคง
ซึ่งถ้าเลือกยาก ก็ทยอยซื้อกองทุนหุ้น ก็ยังได้
แต่ต้องทยอยซื้อ ไปเรื่อยๆ
เงินหมดคือจบเกมส์นะครับ
เวลาในการขึ้นดอกเบี้ยคือประมาณ 2 ปี จากนี้
ซึ่งแม้จะมีการลงทุน EEC
หนี้เสียลด การลงทุนภาครัฐและเอกชนเพิ่ม
การส่งออกและการท่องเที่ยวดีขึ้น
ก็ต้องติดตามว่า
การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย
จะสามารถดีขึ้นจนเอาชนะ
การขึ้นดอกเบี้ย สงครามการค้า การโยกย้ายเงิน
รอบนี้ได้หรือไม่
แต่ก็นะ
ไม่ซื้อ... ไม่ขาดทุน