หนึ่งในเหตุผลหลักที่คนไทยไปเที่ยว ฮ่องกง
“กิน กิน แล้วก็ กิน”
นี่คือคำตอบในใจของใครหลายๆ คน
นอกจากจะไปเที่ยว เดินเล่น ไหว้พระ เข้าสวนสนุกแล้ว การชิมอาหารก็ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
ฮ่องกงได้ชื่อว่าเป็นเมืองอาหารโลก โดยเฉพาะอาหารจีนกวางตุ้งนั้น เด็ดสุดๆ เรียกได้ว่ามีร้านดังระดับตำนานให้เลือกสรรกันเป็นร้อยๆ
ไม่ว่าจะ #ติ่มซำ #บะหมี่เกี๊ยว หรือจะ #ห่านย่าง #หมูแดง #โจ๊ก #เต้าหู้ ก็ไม่ควรพลาด เมนูเทพๆ แบบนี้ต้องฮ่องกงโอนลี่
ไปตามรอยลายแทงร้านอร่อยๆ กว่า 10 ร้านที่กระจายอยู่ตามย่านต่างๆ ในฮ่องกงกันเถอะ!
เริ่มกันที่ 5 ร้าน ฝั่งเกาะฮ่องกง
1. Kau Kee Restaurant (ย่าน Sheung Wan) บะหมี่เนื้อ
“เก๋าเก่” คือ ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังของฮ่องกง เป็นร้านเก่าแก่ในย่านเซิงหว่านที่เปิดมานานเกือบร้อยปี
การันตีความอร่อยด้วยคิวหน้าร้านที่ยาวเหยียดตลอดเวลา เป็นอีกหนึ่งร้านที่ถูกแนะนำโดยมิชลินติดต่อกันหลายปี
เมนูขึ้นชื่อ คือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย (Beef brisket in broth) ที่มีเส้นให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ เส้นบะหมี่ เส้นหมี่ เส้นใหญ่ และเส้นอีหมี่
ด้วยเส้นที่มีความนุ่มลิ้นประกอบกับเนื้อเปื่อยที่อยู่ในน้ำซุปใสหอมหวาน
จึงทำให้ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งฮ่องกงมานานหลายสิบปี
ราคา: ชามละ $48
เวลาเปิด-ปิด: 12:30 – 22:30 (ปิดวันอาทิตย์)
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Sheung Wan ทางออก A2
2. Yat Lok Roast Goose (ย่าน Central) ห่านย่าง
“ยัดหลก” เป็นเพียงร้านห้องแถวธรรมดาที่อยู่ในย่านเซ็นทรัล แต่ทว่าแล้ว
ความโด่งดังของร้านนี้ไม่ธรรมดาทีเดียว เนื่องจากเป็นร้านห่านย่างที่ได้ดาวมิชลินมาประดับบารมีเมื่อปี 2015
ด้วยทำเลของร้านที่อยู่ใจกลางเมือง กับเมนูบะหมี่ห่านย่าง
หรือจะเป็นข้าวหน้าห่านย่าง (Goose drumstick with rice) ที่เสิร์ฟน่องห่านหนังกรอบ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ โปะบนข้าวสวยร้อนๆ หอมกรุ่น
ทำเอาใครหลายๆ คนถึงกับติดอกติดใจ กลายเป็นหนึ่งในร้านห่านย่างที่ดังที่สุดในฮ่องกง
ราคา: จานละ $50
เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 21:00
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Central ทางออก D2
3. Joy Hing Roasted Meat (ย่าน Wan Chai) ข้าวหมูแดง
ผลงานติดลิสต์มิชลินมา 6 ปีซ้อน เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า “จอยเฮ้ง” คือหนึ่งในจ้าวยุทธจักรแห่งแดนฮ่องกง
ร้านหมูแดงแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านหว่านไจ๋ เป็นคูหาขนาดเล็กๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอร่อยไม่รู้ลืม
กับเมนูข้าวหมูแดงที่ใช้เนื้อหมูส่วนที่ดีที่สุด ติดมันนิดๆ ย่างจนหอมเกรียม เอาใจลูกค้าด้วยขวดน้ำราดหมูแดงที่วางไว้ให้ทุกโต๊ะ
ค่อยๆ กินไปพร้อมๆ กับข้าวสวยที่อยู่ในจาน อร่อยจนต้องยกนิ้ว
เป็นอีกหนึ่งเมนูคลาสสิคฮ่องกงในราคาที่แสนจะถูก แต่คุณภาพของร้านนี้นั้นระดับภัตตาคารเรียกพี่เลยทีเดียว
ราคา: จานละ $27
เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 22:00 (ปิดวันอาทิตย์)
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Wan Chai ทางออก A2
4. Ho Hung Kee (ย่าน Causeway Bay) บะหมี่เกี๊ยว
ท่ามกลางร้านบะหมี่เกี๊ยวกว่าหลายร้อยร้านในฮ่องกง “ห่อห่งเก” ถือเป็นหนึ่งในร้านที่ประสบความสำเร็จมามากทีเดียว
จากอดีตเพิงขายบะหมี่เกี๊ยวเล็กๆ ผ่านประสบการณ์โชกโชนมากว่า 75 ปี
กลายมาเป็นร้านขึ้นห้างระดับมิชลินในย่านคอสเวย์เบย์ หนึ่งในย่านที่แพงที่สุดของเกาะฮ่องกง
ปัจจุบันมีอาหารให้ได้เลือกชิมกันหลากหลายเมนู แต่ขอแนะนำ เมนูบะหมี่เกี๊ยวในตำนาน
รับรองว่าเด็ดเฉียบขาดไม่แพ้กับร้านอื่นๆ อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังมีเมนูโจ๊กและผัดซีอิ๊วที่ได้รับการยอมรับจากชาวฮ่องกงว่าอร่อยสุดๆ เช่นเดียวกัน
ราคา: ชามละ $39
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 24:00
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Causeway Bay ทางออก F2
5. Tim Ho Wan (ย่าน North Point) ติ่มซำ
“ทิ้มโหหว่าน” คือเจ้าของสถิติติ่มซำมิชลินที่มีราคาถูกที่สุดในโลก
เป็นร้านติ่มซำฮ่องกงที่คนไทยรู้จักกันดี เนื่องจากมีหลายสาขาไปทั่วเอเชียรวมถึงประเทศไทยของเราด้วย
สำหรับสุดยอดเมนูที่นี่นั้นคงหนีไม่พ้น 4 จตุรเทพ
ที่ประกอบไปด้วยพระเอกอย่าง ซาลาเปาอบไส้หมูแดง ตามมาด้วยพระรองอย่างก๋วยเตี๋ยวหลอด
แล้วตบด้วยของหวานอย่างขนมผักกาด และเค้กไข่นุ่มๆ นอกจากนี้ในร้านยังมีเมนูติ่มซำอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
สำหรับใครที่ไปกินที่ฮ่องกงอาจจะต้องเผื่อเวลาไปจองคิวกันสักหน่อย เพราะติ่มซำร้านนี้มีลูกค้าเต็มตลอดเวลา
ราคา: ซาลาเปาอบไส้หมูแดง ชุดละ $20
เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 21:30
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน North Point ทางออก A1
ต่อด้วยอีก 5 ร้าน ฝั่งเกาลูน
6. Mammy Pancake (ย่าน Tsim Sha Tsui) วาฟเฟิลไข่
วาฟเฟิลไข่สไตล์ฮ่องกงที่ทั้งอร่อยและฮิตติดลมบนจนมีสาขาไปทั่วในระยะเวลาไม่กี่ปี สาขาที่หาง่ายสุดคือสาขาจิมซาจุ่ยแห่งนี้
วาฟเฟิลของร้าน “แมมมี่แพนเค้ก” นั้นเรียกได้ว่ามีไส้แปลกๆ ใหม่ๆ ให้ได้ลิ้มลองความอร่อยกันอยู่เรื่อยๆ
ส่วนใครที่อยากลองรสชาติแบบดั้งเดิมไร้ไส้ก็ยังมีให้เลือกแน่นอน
ด้วยความอร่อยที่ทำสดๆ ชิ้นต่อชิ้น กรอบนอกแน่นใน แถมใส่ไส้จนเยอะทะลัก
จึงไม่แปลกเลยว่าทำไมวาฟเฟิลร้านนี้ถึงได้ขายดิบขายดี กลายเป็นอีกร้านดังที่ถูกแนะนำโดยมิชลิน
ราคา: ชิ้นละ $16
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 23:00
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Tsim Sha Tsui ทางออก D2
7. Kai Kai Dessert (ย่าน Jordan) บัวลอยน้ำขิง
“ก๊ายก๊าย” เป็นร้านขนมหวานเก่าแก่ของย่านจอร์แดนที่เปิดมานานเกือบ 50 ปี
ขนมของร้านนี้เป็นแนวต้มน้ำตาล มีทั้งแบบถ้วยร้อนและถ้วยเย็น
โดยเฉพาะเมนูขึ้นชื่ออย่างบัวลอยน้ำขิงนั้น นักชิมฮ่องกงต่างยกย่องให้เป็นเบอร์หนึ่งเป็นเสียงเดียวกัน
น้ำขิงร้อนๆ ที่ถูกเคี่ยวมาจนมีรสหวานกำลังดี มีกลิ่นขิงฟุ้งนิดๆ ประกอบกับบัวลอยไส้งาดำที่ทั้งนุ่มละมุนลิ้นแถมยังมีประโยชน์
ให้มาในถ้วยเกือบ 10 ลูก เรียกได้ว่ากินกันจนฟินกันไปเลย
ราคา: ถ้วยละ $19
เวลาเปิด-ปิด: 12:00 – 03:30
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Jordan ทางออก A
8. Four Seasons Claypot Rice (ย่าน Yau Ma Tei) ข้าวอบหม้อดิน
ข้าวอบหม้อดินคือสุดยอดเมนูดังแห่งย่านเหย่าหม่าเต๋
ในตอนกลางคืนที่นี่จะคึกคักเป็นพิเศษ คราคร่ำไปด้วยชาวฮ่องกงที่มาเสาะแสวงหาร้านข้าวอบหม้อดินอุ่นๆ
นั่งทานฟินๆ ในบรรยากาศหนาวๆ
ร้าน “เซไกว” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในร้านข้าวอบหม้อดินที่ดังที่สุดแห่งฝั่งเกาลูน
สำหรับใครที่ไปตระเวณเที่ยวแล้วกลับมาดึกๆ มาทานข้าวอบหม้อดินหน้าต่างๆ ทั้งหมู ไก่ เนื้อ ไข่ กุนเชียง เลือกได้ตามใจชอบ
ลองดูสักครั้ง แล้วจะไม่แปลกใจว่าทำไมร้านนี้ถึงได้มีคิวยาวเฟื้อยถูกอกถูกใจคนฮ่องกงกันนักหนา
ราคา: ถ้วยละ $56
เวลาเปิด-ปิด: 16:30 – 00:30
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Yau Ma Tei ทางออก C
9. Sea View Congee (ย่าน Mong Kok) โจ๊ก
ได้ชื่อว่าเป็นร้านโจ๊กเลื่องชื่อแห่งย่านมงก๊ก ที่คนไทยนิยมแวะเวียนไปบ่อยจนมีเมนูภาษาไทยกันเลยทีเดียว
ในบรรดาเมนูโจ๊กทั้งหลาย โจ๊กที่ขึ้นชื่อที่สุดของร้านเห็นทีจะเป็นโจ๊กหมูสับเนื้อเนียนนุ่ม
เม็ดข้าวที่ถูกต้มจนเหลวเป็นน้ำ เมื่อทานคู่กับก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้ปาท่องโก๋แล้วถือว่าลงตัวสุดๆ
มาถึงฮ่องกงทั้งทีแล้ว ลองแวะไปชิมโจ๊กฮ่องกงต้นตำรับ ทำเลดี ราคาไม่แพง ที่ร้าน “ซีวิวคอนจี”
แล้วจะพบกับความอิ่มอร่อยที่มาพร้อมกับประทับใจ กลับเมืองไทยก็ยังคิดถึงอย่างแน่นอน
ราคา: ชามละ $29
เวลาเปิด-ปิด: ตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Mong Kok ทางออก D2
10. Kung Wo Dou Bun Chong (ย่าน Sham Shui Po) เต้าหู้
“ก๊งหว่อ” เป็นร้านขายเต้าหู้ครบวงจร ตั้งอยู่ในย่านซัมชุยโป เปิดขายมานานกว่าร้อยปี มีขายทั้งเต้าหู้สดและเต้าหูทอดพร้อมกิน
ได้ชื่อว่าเป็นตำนานร้านเต้าหู้เบอร์หนึ่งของฮ่องกง ที่นี่มีลูกค้ามาต่อคิวหน้าร้านยาวเหยียดทุกวัน
สำหรับสุดยอดเมนูที่เด็ดที่สุด ต้องยกให้ เต้าฮวยสไตล์ฮ่องกง (Tofu pudding)
เต้าฮวยสีขาวที่มาเต็มถ้วย โรยน้ำตาลทรายแดงสีส้ม หวานเนียนละมุนละไม จนเป็นที่ถูกใจมิชลิน
นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูเต้าหู้ทอดและน้ำเต้าหู้ที่โด่งดังไม่แพ้กัน
ราคา: ถ้วยละ $10
เวลาเปิด-ปิด: 07:00 – 21:00
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Sham Shui Po ทางออก B2
เป็นยังไงกันบ้างกับ 10 ร้านในวันนี้
หวังว่าคงจะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย
แล้วติดตามกันใหม่กับลิสต์ดีๆ แบบนี้ในครั้งต่อๆไป
[CR] 10 สุดยอดร้านอร่อยใน 10 ย่านดังของฮ่องกง
“กิน กิน แล้วก็ กิน”
นี่คือคำตอบในใจของใครหลายๆ คน
ฮ่องกงได้ชื่อว่าเป็นเมืองอาหารโลก โดยเฉพาะอาหารจีนกวางตุ้งนั้น เด็ดสุดๆ เรียกได้ว่ามีร้านดังระดับตำนานให้เลือกสรรกันเป็นร้อยๆ
ไม่ว่าจะ #ติ่มซำ #บะหมี่เกี๊ยว หรือจะ #ห่านย่าง #หมูแดง #โจ๊ก #เต้าหู้ ก็ไม่ควรพลาด เมนูเทพๆ แบบนี้ต้องฮ่องกงโอนลี่
การันตีความอร่อยด้วยคิวหน้าร้านที่ยาวเหยียดตลอดเวลา เป็นอีกหนึ่งร้านที่ถูกแนะนำโดยมิชลินติดต่อกันหลายปี
เมนูขึ้นชื่อ คือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย (Beef brisket in broth) ที่มีเส้นให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ เส้นบะหมี่ เส้นหมี่ เส้นใหญ่ และเส้นอีหมี่
ด้วยเส้นที่มีความนุ่มลิ้นประกอบกับเนื้อเปื่อยที่อยู่ในน้ำซุปใสหอมหวาน
จึงทำให้ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งฮ่องกงมานานหลายสิบปี
เวลาเปิด-ปิด: 12:30 – 22:30 (ปิดวันอาทิตย์)
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Sheung Wan ทางออก A2
ความโด่งดังของร้านนี้ไม่ธรรมดาทีเดียว เนื่องจากเป็นร้านห่านย่างที่ได้ดาวมิชลินมาประดับบารมีเมื่อปี 2015
ด้วยทำเลของร้านที่อยู่ใจกลางเมือง กับเมนูบะหมี่ห่านย่าง
หรือจะเป็นข้าวหน้าห่านย่าง (Goose drumstick with rice) ที่เสิร์ฟน่องห่านหนังกรอบ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ โปะบนข้าวสวยร้อนๆ หอมกรุ่น
ทำเอาใครหลายๆ คนถึงกับติดอกติดใจ กลายเป็นหนึ่งในร้านห่านย่างที่ดังที่สุดในฮ่องกง
เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 21:00
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Central ทางออก D2
ร้านหมูแดงแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านหว่านไจ๋ เป็นคูหาขนาดเล็กๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอร่อยไม่รู้ลืม
กับเมนูข้าวหมูแดงที่ใช้เนื้อหมูส่วนที่ดีที่สุด ติดมันนิดๆ ย่างจนหอมเกรียม เอาใจลูกค้าด้วยขวดน้ำราดหมูแดงที่วางไว้ให้ทุกโต๊ะ
ค่อยๆ กินไปพร้อมๆ กับข้าวสวยที่อยู่ในจาน อร่อยจนต้องยกนิ้ว
เป็นอีกหนึ่งเมนูคลาสสิคฮ่องกงในราคาที่แสนจะถูก แต่คุณภาพของร้านนี้นั้นระดับภัตตาคารเรียกพี่เลยทีเดียว
เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 22:00 (ปิดวันอาทิตย์)
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Wan Chai ทางออก A2
จากอดีตเพิงขายบะหมี่เกี๊ยวเล็กๆ ผ่านประสบการณ์โชกโชนมากว่า 75 ปี
กลายมาเป็นร้านขึ้นห้างระดับมิชลินในย่านคอสเวย์เบย์ หนึ่งในย่านที่แพงที่สุดของเกาะฮ่องกง
ปัจจุบันมีอาหารให้ได้เลือกชิมกันหลากหลายเมนู แต่ขอแนะนำ เมนูบะหมี่เกี๊ยวในตำนาน
รับรองว่าเด็ดเฉียบขาดไม่แพ้กับร้านอื่นๆ อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังมีเมนูโจ๊กและผัดซีอิ๊วที่ได้รับการยอมรับจากชาวฮ่องกงว่าอร่อยสุดๆ เช่นเดียวกัน
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 24:00
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Causeway Bay ทางออก F2
เป็นร้านติ่มซำฮ่องกงที่คนไทยรู้จักกันดี เนื่องจากมีหลายสาขาไปทั่วเอเชียรวมถึงประเทศไทยของเราด้วย
สำหรับสุดยอดเมนูที่นี่นั้นคงหนีไม่พ้น 4 จตุรเทพ
ที่ประกอบไปด้วยพระเอกอย่าง ซาลาเปาอบไส้หมูแดง ตามมาด้วยพระรองอย่างก๋วยเตี๋ยวหลอด
แล้วตบด้วยของหวานอย่างขนมผักกาด และเค้กไข่นุ่มๆ นอกจากนี้ในร้านยังมีเมนูติ่มซำอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
สำหรับใครที่ไปกินที่ฮ่องกงอาจจะต้องเผื่อเวลาไปจองคิวกันสักหน่อย เพราะติ่มซำร้านนี้มีลูกค้าเต็มตลอดเวลา
เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 21:30
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน North Point ทางออก A1
วาฟเฟิลของร้าน “แมมมี่แพนเค้ก” นั้นเรียกได้ว่ามีไส้แปลกๆ ใหม่ๆ ให้ได้ลิ้มลองความอร่อยกันอยู่เรื่อยๆ
ส่วนใครที่อยากลองรสชาติแบบดั้งเดิมไร้ไส้ก็ยังมีให้เลือกแน่นอน
ด้วยความอร่อยที่ทำสดๆ ชิ้นต่อชิ้น กรอบนอกแน่นใน แถมใส่ไส้จนเยอะทะลัก
จึงไม่แปลกเลยว่าทำไมวาฟเฟิลร้านนี้ถึงได้ขายดิบขายดี กลายเป็นอีกร้านดังที่ถูกแนะนำโดยมิชลิน
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 23:00
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Tsim Sha Tsui ทางออก D2
ขนมของร้านนี้เป็นแนวต้มน้ำตาล มีทั้งแบบถ้วยร้อนและถ้วยเย็น
โดยเฉพาะเมนูขึ้นชื่ออย่างบัวลอยน้ำขิงนั้น นักชิมฮ่องกงต่างยกย่องให้เป็นเบอร์หนึ่งเป็นเสียงเดียวกัน
น้ำขิงร้อนๆ ที่ถูกเคี่ยวมาจนมีรสหวานกำลังดี มีกลิ่นขิงฟุ้งนิดๆ ประกอบกับบัวลอยไส้งาดำที่ทั้งนุ่มละมุนลิ้นแถมยังมีประโยชน์
ให้มาในถ้วยเกือบ 10 ลูก เรียกได้ว่ากินกันจนฟินกันไปเลย
เวลาเปิด-ปิด: 12:00 – 03:30
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Jordan ทางออก A
ในตอนกลางคืนที่นี่จะคึกคักเป็นพิเศษ คราคร่ำไปด้วยชาวฮ่องกงที่มาเสาะแสวงหาร้านข้าวอบหม้อดินอุ่นๆ
นั่งทานฟินๆ ในบรรยากาศหนาวๆ
ร้าน “เซไกว” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในร้านข้าวอบหม้อดินที่ดังที่สุดแห่งฝั่งเกาลูน
สำหรับใครที่ไปตระเวณเที่ยวแล้วกลับมาดึกๆ มาทานข้าวอบหม้อดินหน้าต่างๆ ทั้งหมู ไก่ เนื้อ ไข่ กุนเชียง เลือกได้ตามใจชอบ
ลองดูสักครั้ง แล้วจะไม่แปลกใจว่าทำไมร้านนี้ถึงได้มีคิวยาวเฟื้อยถูกอกถูกใจคนฮ่องกงกันนักหนา
เวลาเปิด-ปิด: 16:30 – 00:30
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Yau Ma Tei ทางออก C
ในบรรดาเมนูโจ๊กทั้งหลาย โจ๊กที่ขึ้นชื่อที่สุดของร้านเห็นทีจะเป็นโจ๊กหมูสับเนื้อเนียนนุ่ม
เม็ดข้าวที่ถูกต้มจนเหลวเป็นน้ำ เมื่อทานคู่กับก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้ปาท่องโก๋แล้วถือว่าลงตัวสุดๆ
มาถึงฮ่องกงทั้งทีแล้ว ลองแวะไปชิมโจ๊กฮ่องกงต้นตำรับ ทำเลดี ราคาไม่แพง ที่ร้าน “ซีวิวคอนจี”
แล้วจะพบกับความอิ่มอร่อยที่มาพร้อมกับประทับใจ กลับเมืองไทยก็ยังคิดถึงอย่างแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด: ตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Mong Kok ทางออก D2
ได้ชื่อว่าเป็นตำนานร้านเต้าหู้เบอร์หนึ่งของฮ่องกง ที่นี่มีลูกค้ามาต่อคิวหน้าร้านยาวเหยียดทุกวัน
สำหรับสุดยอดเมนูที่เด็ดที่สุด ต้องยกให้ เต้าฮวยสไตล์ฮ่องกง (Tofu pudding)
เต้าฮวยสีขาวที่มาเต็มถ้วย โรยน้ำตาลทรายแดงสีส้ม หวานเนียนละมุนละไม จนเป็นที่ถูกใจมิชลิน
นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูเต้าหู้ทอดและน้ำเต้าหู้ที่โด่งดังไม่แพ้กัน
เวลาเปิด-ปิด: 07:00 – 21:00
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Sham Shui Po ทางออก B2
หวังว่าคงจะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย
แล้วติดตามกันใหม่กับลิสต์ดีๆ แบบนี้ในครั้งต่อๆไป
อ่านเพิ่มเติมกันได้ที่เพจ https://www.facebook.com/JohnJadd/
ขอบคุณทุกๆ การติดตาม ^^
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้