ภาพยนตร์ญี่ปุ่น เรื่องนี้ชื่อว่าอะไรคะ. นานมาก. นักแสดงคงเสียชีวิตไปซะแล้ว.
เคยดูที่ตึกสมาคมไทยญี่ปุ่น ตรงแถวอโศก สิบกว่าปีมาแล้ว.
ร้องไห้เลย. คุณตานักแสดงรูปร่างคล้ายกับพ่อเรามากๆ.
ตอนนี้พ่อเราเสียไปแล้ว. อยากดูมากๆ.
ตอนดูจบ. จะออกจากห้อง เห็นคุณลุงคนนึง วัยใกล้เคียงกับนักแสดงหลัก. เดินเช็ดน้ำตาออกมาด้วย.
เรื่องเล่าประมาณว่า
ครอบครัวที่มีพ่อเคยทำงานทุกอย่าง มีพ่อแม่ลูก
เมื่อลูกชายมีครอบครัว ก็เอาบ้านใหญ่เป็นบ้านของตัวเอง (เพราะพ่อเคยเข้ามาในครัว ทำอะไรสักอย่าง แล้วลูกโกรธพ่อมากๆ)
ไม่นึกว่าหนังมันจะเศร้าขนาดนี้
ลูกชายสร้างบ้านอีกหลังนึงเล็กๆ (สวยน่าอยู่) พ่อก็เห่อ ภูมิใจที่ลูกชายตั้งใจมอบให้ตัวเอง.
พ่อก็ตกแต่งห้องเป็นอย่างดี ยิ้มไปทำไป.
พ่อพัก เดินเข้าไปในบ้าน ปรากฎว่าบ้านล็อค แกตกใจมาก (ฉากนี้เล่นยาวนาน) ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร (ตอนไม่คิดอะไรนิแหละ สะเทือนใจครั้งที่ 1)
เหมือนเราดู Reality อยู่จริงๆ นักแสดงเก่งมาก
หาทางเปิด (เหมือนประตูคงจะแน่นเกินไป ไม่คิดว่าลูกล็อคตัวเอง) เดินวนไปวนมา หาทางเข้า ทางอื่น แต่หน้าต่าง ประตูล็อคหมดทุกบาน
สะเทือนใจ ตรงที่คุณตาทุบประตู ร้องไห้ เสียใจ เข้าบ้าน (ครัว) ไม่ได้
นอนทอดอาลัย อยู่ในบ้านใหม่ ที่เพิ่งเช็ดถู
ฉากนี้ ทำให้เหมือนว่า บ้านใหม่ เหมือนคอกสุนัข คุณตาเหมือนสัตว์ที่ถูกทิ้งลืมไว้
เราเห็นคนดู (ลุงที่เดินเช็ดน้ำตาออกมา) ร้องไห้สะอึกสะอื้น
เราจำได้วันที่พ่อ บอกกับบรรดา น้องชาย (อา) ว่า จะรื้อบ้านเหรอ อยากให้เก็บครัวไว้
เราร้องไห้ออกมาเหมือนกัน
ชีวิตเราต้องการอะไรกันแน่
เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เราอยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่าง อยากจะกินอะไรก็กินได้ จนเป็นเบาหวาน อยากไปเที่ยวไหนก็ได้ตามสะดวก
แต่.. เขาคนนั้นไม่ได้อยู่เคียงข้างเราแล้ว ในอีกทุกประสบการณ์ต่อไป ชีวิตที่เหลือจะมีความหมายอะไร
หนังญี่ปุ่นยุค 70 ลูกชายมีครอบครัว สร้างกระท่อมให้อยู่ข้างๆบ้านใหญ่ ล็อคไว้ไม่ให้เข้าตอนกลางวัน เพราะเคยทำของตกแตก
เคยดูที่ตึกสมาคมไทยญี่ปุ่น ตรงแถวอโศก สิบกว่าปีมาแล้ว.
ร้องไห้เลย. คุณตานักแสดงรูปร่างคล้ายกับพ่อเรามากๆ.
ตอนนี้พ่อเราเสียไปแล้ว. อยากดูมากๆ.
ตอนดูจบ. จะออกจากห้อง เห็นคุณลุงคนนึง วัยใกล้เคียงกับนักแสดงหลัก. เดินเช็ดน้ำตาออกมาด้วย.
เรื่องเล่าประมาณว่า
ครอบครัวที่มีพ่อเคยทำงานทุกอย่าง มีพ่อแม่ลูก
เมื่อลูกชายมีครอบครัว ก็เอาบ้านใหญ่เป็นบ้านของตัวเอง (เพราะพ่อเคยเข้ามาในครัว ทำอะไรสักอย่าง แล้วลูกโกรธพ่อมากๆ)
ไม่นึกว่าหนังมันจะเศร้าขนาดนี้
ลูกชายสร้างบ้านอีกหลังนึงเล็กๆ (สวยน่าอยู่) พ่อก็เห่อ ภูมิใจที่ลูกชายตั้งใจมอบให้ตัวเอง.
พ่อก็ตกแต่งห้องเป็นอย่างดี ยิ้มไปทำไป.
พ่อพัก เดินเข้าไปในบ้าน ปรากฎว่าบ้านล็อค แกตกใจมาก (ฉากนี้เล่นยาวนาน) ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร (ตอนไม่คิดอะไรนิแหละ สะเทือนใจครั้งที่ 1)
เหมือนเราดู Reality อยู่จริงๆ นักแสดงเก่งมาก
หาทางเปิด (เหมือนประตูคงจะแน่นเกินไป ไม่คิดว่าลูกล็อคตัวเอง) เดินวนไปวนมา หาทางเข้า ทางอื่น แต่หน้าต่าง ประตูล็อคหมดทุกบาน
สะเทือนใจ ตรงที่คุณตาทุบประตู ร้องไห้ เสียใจ เข้าบ้าน (ครัว) ไม่ได้
นอนทอดอาลัย อยู่ในบ้านใหม่ ที่เพิ่งเช็ดถู
ฉากนี้ ทำให้เหมือนว่า บ้านใหม่ เหมือนคอกสุนัข คุณตาเหมือนสัตว์ที่ถูกทิ้งลืมไว้
เราเห็นคนดู (ลุงที่เดินเช็ดน้ำตาออกมา) ร้องไห้สะอึกสะอื้น
เราจำได้วันที่พ่อ บอกกับบรรดา น้องชาย (อา) ว่า จะรื้อบ้านเหรอ อยากให้เก็บครัวไว้
เราร้องไห้ออกมาเหมือนกัน
ชีวิตเราต้องการอะไรกันแน่
เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เราอยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่าง อยากจะกินอะไรก็กินได้ จนเป็นเบาหวาน อยากไปเที่ยวไหนก็ได้ตามสะดวก
แต่.. เขาคนนั้นไม่ได้อยู่เคียงข้างเราแล้ว ในอีกทุกประสบการณ์ต่อไป ชีวิตที่เหลือจะมีความหมายอะไร