เราสังเกตุจากปู่ย่าตายายของเราและของแฟน ตอนนี้พวกท่านอายุ 83-96 โดยที่ไม่มีโรคภัย เดินเหินได้ปกติ ทำไมพวกท่านถึงอายุยืนได้ขนาดนั้น ทั้งที่ไม่เคยเข้าฟิตเนส ไม่มีนักโภชนาการอาหารมาบอกว่าต้องทานอะไรในแต่ละวัน แต่ทำไมถึงอายุไขยืนยาวขนาดนี้
จากเด็กจนโต ทุกๆปิดเทอมเราและน้องจะโดนส่งตัวไปบ้านปู่ย่าบ้าง บ้านตายายบ้าง เทอมเล็กก็อยู่ไม่กี่สัปดาห์ แต่เทอมใหญ่ก็อยู่เป็นเดือน สิ่งที่โดนเลี้ยงคือ 20:30 - 21:00 น. คือเวลานอน ถ้าสี่ทุมคือดึกมากแล้ว ถ้ายังไม่นอนจะโดนดุ ตอนเช้าตื่น 05:30 - 06:00 น. ใส่บาตรหน้าบ้าน และให้อาบน้ำทันที
อาบเสร็จคือมื้อเช้าเลย บอกก่อนว่าคนสมัยก่อนทานทุกอย่างจริงๆ มันหมูทอด เมนูไข่ต้ม ตุ๋น เจียว ดาว หมูยอ น่องไก่ทอด น้ำเต้าหู้ตลาดเช้า ระหว่างเที่ยง ถ้าอยุ่บ้านย่าจะอยุ่ในตลาดในเมือง สิ่งที่ทำคือปัดกวาดเช็ดถูบ้าน ซักผ้าตากผ้า จัดบ้าน เดินเล่นในตลาดคุยกับเพื่อนบ้าน กินกาแฟกินชากินโอเลี้ยง แต่ถ้าบ้านยายอยู่ต่างอำเภอก็จะเข้าสวนรดน้ำต้นไม้ เก็บผักผลไม้มาทาน ทำงานบ้าน งานจะหนักกว่าบ้านย่า แต่เด็กๆคือเรื่องสนุก เที่ยงตรงคือทานข้าว แกงถุง ขนมหวาน เบเกอร์รี่ น้ำหวาน น้ำอัดลม จัดหนักๆ ตอนเที่ยงจะมีรถมาขายของเยอะ รถไอติม รถเตี๋ยวไก่ รถซาลาเปาหนมจีบ รถจนมหวาน รถน้ำแข็งใส ช่วงบ่ายก็พักผ่อนนอนดูโทรทัศน์ รีแล็กซ์ ตกเย็นกวาดหน้าบ้านหลังบ้าน และไปเดินตลาดซื้อของมาชุดใหญ่ มื้อเย็นคือมื้อที่มีอาหารทุกอย่างที่ต้องการ อยากกินอะไรชี้นิ้วสั่งเลย เลือกคนละอย่างสองอย่าง มื้อเย็นคือ 18:00 น. หลังจากนั้นดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ อาบน้ำ เข้านอน
เราสังเกตุว่าการได้พักผ่อนเป็นเวลา และเพียงพอ ทานอาหารตรงเวลาครบทุกมื้อ ขยับตัวมีกิจกรรมทำทุกวัน ร่างกายก็แข็งแรงแล้ว คุณตาเราดื่มน้ำอัดลมบ่อยๆ ชอบกินของหวาน จนตอนนี้อายุ 87 พาไปตรวจสุขภาพประจำปีค่าน้ำตาลในเลือดก็ปกติ ส่วนคุณปู่ดื่มเหล้าดูดบุหรี่จนอายุ 92 แต่ยังแข็งแรง หรือตระกูลเราถึกกว่าคนอื่น ฮ่าๆๆ
แต่คนสมัยนี้นะอายุแค่ 40-60 ปี เริ่มมีความดัน เบาหวาน เครียด มะเร็ง ปวดนั่นปวดนี่ หลงๆลืมๆ สังเกตุจากคนยุคใหม่ๆนอนดึกมาก ตื่นเช้ามาก มื้อเช้าไม่ทานอะไรเลยนอกจากกาแฟ มีเรื่องต้องคิดเยอะ บางวันนั่งติดเก้าอี้ทำงานเป็นชั่วโมงโดยไม่ขยับตัว มันเป็นเพราะสภาพแวดล้อมและหน้าที่การงานด้วยมั้ง เราเริ่มเห็นพ่อแม่ของเพื่อนๆเริ่มทยอยเสียชีวิตกันเยอะมากทั้งที่ผมยังไม่ทันหงอกเลย ลูกยังไม่แต่งงานมีหลานกันเลย
อีกอย่างเราเห็นคนไปเสียเงินเข้าฟิตเนส เลือกอาหารการกิน ไม่กินแบบนั้นไม่กินแบบนี้ เอาจริงๆแค่เลิกงานไปเดินรอบสวนสาธารณะ1รอบก็ยังดี ปั่นจักรยานรอบหมู่บ้าน เดินลู่วิ่งในฟิตเนสคอนโด เดินแค่สั้นๆ1-2กิโลก็ถือว่าดีแล้วนะ ซิทอัพที่บ้านวันละสิบครั้ง ส่วนอาหารการกินเราว่าทานไปเถอะค่ะ ทุกอย่างมีประโยชน์และโทษ ขอแค่ทานครบทุกมื้อครบ5หมู่ ดื่มน้ำวันละเยอะๆ
อันนี้ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เราคิดมันถูกนะคะ แค่สังเกตุคนรอบตัว คนอายุเยอะๆและยังแข็งแรงเราสังเกตุว่าแค่ทานอาหารและนอนเป็นเวลา ออกกำลังกาย มีแค่นี้เองจริงๆ แล้วพวกคุณล่ะ ลองสังเกตุตัวเองและคนรอบตัวดูบ้างหรือยังว่าการนอนดึกตื่นเช้า ไม่ทานมื้อเช้า ไม่ออกกำลังกาย คนรอบตัวเราเป็นยังไงกันบ้าง
ทำยังไงให้อายุยืนยาว?
จากเด็กจนโต ทุกๆปิดเทอมเราและน้องจะโดนส่งตัวไปบ้านปู่ย่าบ้าง บ้านตายายบ้าง เทอมเล็กก็อยู่ไม่กี่สัปดาห์ แต่เทอมใหญ่ก็อยู่เป็นเดือน สิ่งที่โดนเลี้ยงคือ 20:30 - 21:00 น. คือเวลานอน ถ้าสี่ทุมคือดึกมากแล้ว ถ้ายังไม่นอนจะโดนดุ ตอนเช้าตื่น 05:30 - 06:00 น. ใส่บาตรหน้าบ้าน และให้อาบน้ำทันที
อาบเสร็จคือมื้อเช้าเลย บอกก่อนว่าคนสมัยก่อนทานทุกอย่างจริงๆ มันหมูทอด เมนูไข่ต้ม ตุ๋น เจียว ดาว หมูยอ น่องไก่ทอด น้ำเต้าหู้ตลาดเช้า ระหว่างเที่ยง ถ้าอยุ่บ้านย่าจะอยุ่ในตลาดในเมือง สิ่งที่ทำคือปัดกวาดเช็ดถูบ้าน ซักผ้าตากผ้า จัดบ้าน เดินเล่นในตลาดคุยกับเพื่อนบ้าน กินกาแฟกินชากินโอเลี้ยง แต่ถ้าบ้านยายอยู่ต่างอำเภอก็จะเข้าสวนรดน้ำต้นไม้ เก็บผักผลไม้มาทาน ทำงานบ้าน งานจะหนักกว่าบ้านย่า แต่เด็กๆคือเรื่องสนุก เที่ยงตรงคือทานข้าว แกงถุง ขนมหวาน เบเกอร์รี่ น้ำหวาน น้ำอัดลม จัดหนักๆ ตอนเที่ยงจะมีรถมาขายของเยอะ รถไอติม รถเตี๋ยวไก่ รถซาลาเปาหนมจีบ รถจนมหวาน รถน้ำแข็งใส ช่วงบ่ายก็พักผ่อนนอนดูโทรทัศน์ รีแล็กซ์ ตกเย็นกวาดหน้าบ้านหลังบ้าน และไปเดินตลาดซื้อของมาชุดใหญ่ มื้อเย็นคือมื้อที่มีอาหารทุกอย่างที่ต้องการ อยากกินอะไรชี้นิ้วสั่งเลย เลือกคนละอย่างสองอย่าง มื้อเย็นคือ 18:00 น. หลังจากนั้นดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ อาบน้ำ เข้านอน
เราสังเกตุว่าการได้พักผ่อนเป็นเวลา และเพียงพอ ทานอาหารตรงเวลาครบทุกมื้อ ขยับตัวมีกิจกรรมทำทุกวัน ร่างกายก็แข็งแรงแล้ว คุณตาเราดื่มน้ำอัดลมบ่อยๆ ชอบกินของหวาน จนตอนนี้อายุ 87 พาไปตรวจสุขภาพประจำปีค่าน้ำตาลในเลือดก็ปกติ ส่วนคุณปู่ดื่มเหล้าดูดบุหรี่จนอายุ 92 แต่ยังแข็งแรง หรือตระกูลเราถึกกว่าคนอื่น ฮ่าๆๆ
แต่คนสมัยนี้นะอายุแค่ 40-60 ปี เริ่มมีความดัน เบาหวาน เครียด มะเร็ง ปวดนั่นปวดนี่ หลงๆลืมๆ สังเกตุจากคนยุคใหม่ๆนอนดึกมาก ตื่นเช้ามาก มื้อเช้าไม่ทานอะไรเลยนอกจากกาแฟ มีเรื่องต้องคิดเยอะ บางวันนั่งติดเก้าอี้ทำงานเป็นชั่วโมงโดยไม่ขยับตัว มันเป็นเพราะสภาพแวดล้อมและหน้าที่การงานด้วยมั้ง เราเริ่มเห็นพ่อแม่ของเพื่อนๆเริ่มทยอยเสียชีวิตกันเยอะมากทั้งที่ผมยังไม่ทันหงอกเลย ลูกยังไม่แต่งงานมีหลานกันเลย
อีกอย่างเราเห็นคนไปเสียเงินเข้าฟิตเนส เลือกอาหารการกิน ไม่กินแบบนั้นไม่กินแบบนี้ เอาจริงๆแค่เลิกงานไปเดินรอบสวนสาธารณะ1รอบก็ยังดี ปั่นจักรยานรอบหมู่บ้าน เดินลู่วิ่งในฟิตเนสคอนโด เดินแค่สั้นๆ1-2กิโลก็ถือว่าดีแล้วนะ ซิทอัพที่บ้านวันละสิบครั้ง ส่วนอาหารการกินเราว่าทานไปเถอะค่ะ ทุกอย่างมีประโยชน์และโทษ ขอแค่ทานครบทุกมื้อครบ5หมู่ ดื่มน้ำวันละเยอะๆ
อันนี้ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เราคิดมันถูกนะคะ แค่สังเกตุคนรอบตัว คนอายุเยอะๆและยังแข็งแรงเราสังเกตุว่าแค่ทานอาหารและนอนเป็นเวลา ออกกำลังกาย มีแค่นี้เองจริงๆ แล้วพวกคุณล่ะ ลองสังเกตุตัวเองและคนรอบตัวดูบ้างหรือยังว่าการนอนดึกตื่นเช้า ไม่ทานมื้อเช้า ไม่ออกกำลังกาย คนรอบตัวเราเป็นยังไงกันบ้าง