กีต้าร์ล่าวิญญาณ ตอนที่ 8

ตอนที่ผ่านมา
https://pantip.com/topic/37439083
https://pantip.com/topic/37439146
https://pantip.com/topic/37445741
https://pantip.com/topic/37458331
https://pantip.com/topic/37477513
https://pantip.com/topic/37501007
https://pantip.com/topic/37605790
https://pantip.com/topic/37664213




กีต้าร์ล่าวิญญาณ



หลังเลิกคลาสประวัติศาสตร์ศิลป์ เอมี่ก็หอบหนังสือออกจากห้องเรียนทันที ระหว่างสาวเท้ามาตามทางเดินในมหาวิทยาลัย เธอรีบกดโทรศัพท์หาแฟนหนุ่ม เพราะรู้สึกแปลกใจที่นิคซึ่งดรอปเรียนอยู่โทร.หา ในขณะที่ก็รู้ดีว่าเธอยังไม่เลิกคลาส เธอเปิดระบบสั่นไว้แต่ไม่อาจรับสายได้ ดูเหมือนเขามีธุระด่วนมาก ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องฝากข้อความไว้ทางไลน์หรือช่องทางอื่น เล่าสิ่งที่อยากบอกให้รู้แล้วจะรอให้เธอตอบกลับ

“มีอะไรที่รัก ขอโทษ เมื่อกี้ฉันติดเรียนอยู่” ขอโทษเขาแล้วถามอย่างรู้สึกผิดเมื่ออีกฝ่ายรับสาย

“ไม่เป็นไร ฉันรู้...ที่โทรหาเพราะวันนี้มันเกิดเรื่องแปลกๆ ขึ้นกับฉันน่ะเอมี่”

“เรื่องแปลกงั้นเหรอ เรื่องอะไรล่ะ เธอโอเคหรือเปล่านิค” น้ำเสียงอ่อนล้าที่ตอบกลับมายิ่งทำให้เอมี่ประหลาดใจมากขึ้น รู้สึกใจคอไม่ดีกลัวว่าคนรักอาจเกิดป่วยกะทันหัน เพราะเห็นช่วงนี้เขาคร่ำเคร่งอยู่กับการแต่งเพลงจนแทบลืมกินลืมนอน รีบถามต่ออย่างห่วงใย

“ให้ตายเถอะ! วันนี้ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสมองฉันกันแน่ ฉันเพิ่งเกลาเพลงเสร็จอีกเพลง แล้วกำลังจะเริ่มแต่งเพลงใหม่...แต่ว่า มันเกิดเฮงซวยอะไรบางอย่าง จู่ๆ ฉันก็รู้สึกมึนงงสับสน ไม่รู้สิ...มันเหมือนกับเรานั่งอยู่ดีๆ แล้วแกนโลกเกิดพลิกไปมา ในหัวฉันมันโคลงเคลงอยู่สักพัก ก่อนจะหมุนติ้ว เป็นอยู่หลายนาทีกว่าจะหาย มันทำให้ฉันรู้สึกแย่มาก คิดเนื้อเพลงไม่ออกอีกเลยจนต้องหยุดพัก ฉันกลัวก็เลยโทร.หาเธอ” เขาครวญแล้วเล่ามาตามสายด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแย่จริงๆ

“โธ่ สมองเธอคงล้าขนาดหนักน่ะ ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้ดีขึ้นแล้วใช่ไหม พักเสียบ้างเถอะ ฉันว่าเธอหักโหมมากไปนะ”

เอมี่รู้สึกได้ถึงความเครียดในน้ำสียงเขา นิคคงเครียดจัดจนเริ่มเบลอนั่นเอง เขาตั้งใจเกินร้อยสำหรับโอกาสที่กำลังลอยมาหา ทุ่มเทให้กับการแต่งเพลงอย่างหนักแทบไม่ยอมพัก ยอมแม้กระทั่งดรอปเรียนไว้ก่อนเพื่อสานฝันให้สำเร็จ หญิงสาวพยายามปลอบปลายสายให้คลายกังวล

“อืม...ดีขึ้นแล้วล่ะ ใช่ ฉันก็ว่าจะพัก มันเครียดจริงอย่างเธอว่า ตอนนี้ฉันกำลังนอนเป็นผักอยู่ เธอรีบกลับมานะ ฉันอยากให้เธอมาอยู่ใกล้ๆ” น้ำเสียงนิคเริ่มดีขึ้น เขายอมรับว่าตัวเองต้องพักแล้วพูดอ้อน เอมี่แทบจะเห็นดวงตาหวานเชื่อมคู่นั้นมองมาอย่างละห้อย เธอยิ้มขำ

“ฉันเพิ่งเลิกคลาสเดี๋ยวนี้เอง กำลังจะออกมาขึ้นรถกลับ เอางี้ไหม เดี๋ยวพอฉันไปถึง เราออกไปเล่นเพลงที่สองของเธอในพาร์กกันเลย เสร็จแล้วไปหาอะไรดื่มที่ไชน่าทาวน์”

หญิงสาวก้มมองนาฬิกาข้อมือ บ่ายมากแล้ว ถ้าไปเล่นกีต้าร์ในสวนสักชั่วโมงก็คงพอดีกับมื้อเย็น หมู่นี้เธอกับนิคพอมีรายได้จากร้องเพลงเปิดหมวกอยู่บ้าง นิคคร่ำเคร่งอยู่กับการแต่งเพลงเพราะอยากให้ได้ถึงสิบเพลงภายในอาทิตย์นี้ ส่วนเธอก็เรียนหนักมาหลายวันติด จึงคิดว่าเธอกับเขาควรผ่อนคลายกันบ้าง

“อยากไปกินเป็ดย่างแกล้มเบียร์ล่ะสิ ดีเหมือนกัน ฉันก็กำลังอยากหาอะไรดื่ม จะชวนเมลกับฟรั้งไปด้วยไหม”

“ไม่ดีกว่า พวกเขาคงกำลังยุ่ง ฉันเจอเมลเมื่อเช้า เห็นบอกว่ากำลังจะพาฟรั้งบินไปพบครอบครัวเมลที่บราซิล สองคนนั่นคงแต่งกันเร็วๆ นี้ ท่าทางคงไม่รอให้เมลเรียนจบก่อนแน่ ส่วนปาร์ตี้ฉลองสละโสดของเมล ฉันว่าอีกสักสองสามวันค่อยชวนพวกเจนนี่ไปคิดคอนเซ็ปกัน วันนี้เราไปตามลำพังกันก่อน เราจะอยู่ไม่ดึกนัก เพราะพรุ่งนี้ฉันยังมีเรียนเช้าอีก”

“เอางั้นเหรอ ตามใจเธอ อืม...ฟรั้งกับเมลจะแต่งกันเร็วมากนะ ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะไปปาร์ตี้ของเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวดี”

“ไปของเมลสิ เราสองคนเป็นเพื่อนเมลก่อนฟรั้งนี่”

“ฉันกลัวว่าสาวๆ จะสนุกไม่เต็มที่น่ะสิ ไม่อยากเป็นเดือนในหมู่ดาวหรอก”

“ขำตาย ปาร์ตี้เจ้าสาวอย่างมากก็มีแค่เจ็ด เมลสนิทกับไม่กี่คน มีฉันกับเธอ เจนนี่ ลิซ่า แครอลแล้วก็โดโรธี...แค่นี้ก่อนนะนิค รถมาแล้วล่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันต่อ”

หญิงสาวจบการสนทนาลงเมื่อเห็นรถคันที่ต้องการแล่นมาถึงพอดี จากหน้ามหาวิทยาลัยใช้เวลาไม่เกินสิบห้านาทีเธอก็จะถึงที่พัก ซึ่งเป็นข้อดีที่สุดของการย้ายเข้ามาอยู่กับนิค


วันนี้ที่ลานกิจกรรมในสวนสาธารณะ เอมี่เห็นคนยังมามุงฟังนิคร้องเพลงเยอะเหมือนเดิม บางคนที่มีอายุหน่อยถึงกับเอาเก้าอี้มานั่งฟัง พอนักร้องหนุ่มร้องจบเพลง ผู้คนก็ปรบมือกันเกรียวกราว บางคนส่งเสียงฮือฮาอย่างชอบใจ

หญิงสาวยืนอมยิ้มมองดูภาพตรงหน้าด้วยความชื่นอกชื่นใจ สังเกตเห็นว่า แฟนเพลงของนิคส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและมีหลากหลายวัย เป็นเพราะทุกเพลงที่เขาร้องเพราะพริ้งรื่นหู อีกทั้งยังมีความหมายลึกซึ้งกินใจ ฟังแล้วมีความสุข เสียงร้องหวานนุ่มของนักร้องเสียงดี เมื่อคลอเข้ากับเสียงใสกังวานของเครื่องดนตรีชิ้นเยี่ยม บทเพลงจึงไพเราะจับใจ

หลังนิคร้องเพลงสุดท้ายจบลง มีสาวๆ หลายคนเข้ามาขอลายเซ็นกับเขา นิคเซ็นให้พวกหล่อนอย่างเต็มอกเต็มใจ ท่าทางมีความสุขเสียจนเอมี่ลอบมองค้อน แต่นิคเหลือบมาเห็นเข้าพอดี เขายิ้มขำ ขยิบตาล้อเลียนคนรัก เลยถูกเธอกำมือชกต้นแขนเขาเบาๆ

“ชอบใจล่ะสิ พ่อนักดนตรีเนื้อหอม”

“แฟนคลับฉันทั้งนั้น เธอจำแม่สาวผมบลอนด์สวมแว่นคนนั้นได้ไหม หล่อนมายืนฟังฉันทุกวันเลยนะ คุณยายอ้วนตุ๊ต๊ะนั่นอีกคน”

“ไม่แปลกหรอก เธอร้องเพลงเพราะนี่ ยิ่งร้องกับกีต้าร์ของฟรั้งยิ่งเพราะเข้าไปใหญ่ เธอเข้ากันกับกีต้าร์ตัวนี้มากกว่าตัวสีแดงนั่นเสียอีก”

“แน่นอนล่ะ กีต้าร์ตัวนี้มันของดีมียี่ห้อนี่นา รู้มั้ย ถ้าจะซื้อมัน เราต้องใช้เงินจนหมดตัวเชียวล่ะ นึกไม่ถึงว่าจะได้มันมาฟรีๆ ต้องขอบคุณฟรั้งกับเมลที่ให้มันมา อีกหน่อยค่อยหาโอกาสตอบแทนพวกเขากัน” นิคพูดอย่างสำนึกบุญคุณเพื่อนรักทั้งสอง พลางยิ้มพราย ปลื้มใจในโชคดีของตัวเอง

“เธอได้กีต้าร์ฟรีถึงสองตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน ช่างประจวบเหมาะดีจัง”

เอมี่ฟังเขาพูดแล้วอดรำพึงออกมาไม่ได้ ใจหวนนึกไปถึงเจ้ากีต้าร์ไร้ยี่ห้อสีแดงตัวนั้น มันถูกทำขึ้นมาด้วยฝีมือของใครกัน วันนั้นชายชราเจ้าของร้านก็ไม่ได้บอกรายละเอียดเอาไว้ ส่วนนิคกับเธอก็มัวแต่ดีใจเสียจนลืมถาม

“คงเพราะสวรรค์ทรงโปรด...มันเป็นช่วงเวลาที่พระเจ้าอำนวยพรให้เราน่ะ ฉันชอบมันทั้งสองตัวเลยนะเอมี่ แต่ฉันจะใช้ตัวนี้เล่น ส่วนเจ้าตัวสีแดงเก็บเอาไว้ก่อน เวลาอยากพักตัวนี้ค่อยเอามันออกมาเล่น...โอ เย็นมากแล้ว ฉันว่าเราไปกันเถอะ”

นิคบอก เขามองเวลาแล้วชวนเธอให้กลับ ทั้งสองลงมือช่วยกันเก็บอุปกรณ์หากินลงกระเป๋า พอเสร็จเรียบร้อยเอมี่ก็คล้องแขนเข้ากับแขนคนรัก แล้วพากันเดินออกมาจากในสวน

“เธอร้องเพลงเพราะมากขึ้นทุกวันรู้ไหม เข้าถึงอารมณ์เพลงสุดๆ ไปเลยล่ะ”

ขณะเดินควงคู่กันมาเธอก็ฉอเลาะ พลางเขย่งตัวขึ้นจุมพิตไรเคราเขียวๆ ใต้คางเขา แขนแข็งแรงจึงตวัดตัวเธอเข้ามากอด เขาหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่ก่อนปล่อยตัวให้เป็นอิสระ เอมี่หัวเราะคิก เอนศีรษะพิงไหล่คนรัก

“ใครจะเข้าใจเพลงรักดีเท่ากับคนที่กำลังมีความรัก ฉันไม่ได้ร้องเพลงอย่างเดียวหรอก แต่ฉันระบายความรักที่มันอัดอกให้คนอื่นสัมผัสมันด้วยต่างหาก”

เขาตอบเสียงซึ้ง มองแฟนสาวตาเชื่อม เอมี่หยิกพุงเขาเล่น รู้สึกมีความสุขมากมายกับคำพูดและท่าทีของเขาต่อเธอ

หากพระเจ้าทรงกำลังอำนวยพรให้เขากับเธอจริง เธอก็อยากจะขอพรจากพระองค์อีกสักข้อ อยากขอว่าให้เขารักเธอแบบนี้ตลอดไป อย่าให้เขาเปลี่ยนไปเลย...แวบหนึ่งเธออดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้

“ปากหวานจังนะ ระวังอย่าไปหวานกับใครแบบนี้อีกล่ะ ฉันหวง”

แซวเขากลับ จะว่าไปแล้วเธอก็ชักหวงเขาขึ้นมานิดหน่อยจริงๆ นั่นแหละ ทั้งที่เคยทำใจเอาไว้แล้วว่า ถ้าหากวันใดนิคเกิดโด่งดังเป็นที่รู้จักขึ้นมา ก็ย่อมเป็นธรรมดาของคนดังที่จะมีแฟนคลับคอยติดตามล้อมหน้าล้อมหลังตลอด จนไม่มีเวลาให้กับคนรัก หรือไม่มีแม้แต่เวลาเป็นของตัวเอง แฟนคลับเหล่านั้นอยากสัมผัสใกล้ชิดกับศิลปินในดวงใจนั่นเอง และจะมีมากยิ่งขึ้นเมื่อนิคได้ออกอัลบั้มเพลง ซึ่งก็คงไม่นานนี้แล้ว เมื่อถึงเวลานั้นเธอควรจะต้องอดทน และผันตัวเองไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เขาอย่างมืออาชีพ

ชายหนุ่มไม่ตอบโต้คนรัก ทำเพียงหัวเราะ หึ หึ ในลำคอ เอมี่ค้อนขวับ เขาเลยยีผมหยิกฟูของเธอเล่นอย่างมันเขี้ยว สองหนุ่มสาวหัวเราะร่า ขณะก้าวเดินเรียบเรื่อยไปตามทางเท้าที่มุ่งสู่ห้องเช่า เพื่อเอาของไปเก็บก่อนออกไปทานมื้อเย็นตามที่ตั้งใจ


(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่