กีตาร์ล่าวิญญาณ ตอนที่ 13




ตอนเดิม



ตอนที่ 13

นิคหายปวดแขนแล้ว
แต่สิ่งที่หายตามไปด้วยก็คือเสียงร้องเพลงอันไพเราะจับหัวใจคนฟังของเขา ที่มันเคยก้องกังวานดุจเสียงระฆังเงิน สะกดคนฟังให้เคลิบเคลิ้มนิ่งฟังดังต้องมนตร์สะกด แต่บัดนี้มันกลับแหบแห้งสั่นเครือ ไม่มีพลังดึงดูดใจเหมือนเคย รวมทั้งฝีมือการเล่นกีตาร์ซึ่งดรอปลงมาก แม้จะใช้กีตาร์ราคาแพงของฟรังโก้มาเล่นก็ตาม มันไม่ได้ช่วยให้เพลงเอกที่นิคบรรจงแต่งขึ้นไพเราะเพราะพริ้งเหมือนอย่างเคย ลีลาการเล่นกีตาร์ของนิค จู่ ๆ ก็ขาดความแพรวพราวลื่นไหล ฟังดูเป็นการเล่นกีตาร์ธรรมดา ไม่น่าทึ่งว้าวอย่างเคยเป็น

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ทำให้นักดนตรีหนุ่มละมือจากกีตาร์ราคาแพงของฟรังโก้มานั่งพัก เขามีอาการเศร้าซึมลงไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อพยายามเล่นและร้องเพลงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ผลลัพธ์ก็เป็นเหมือนเก่า คือขาดความไพเราะอันควรจะเป็น และเพลงที่เคยแสนวิเศษก็กลายเป็นเพลงธรรมดาไปอย่างน่าเจ็บใจ โดยเฉพาะกำลังจะผ่านไปอีกหนึ่งวันแล้ว พร้อมกับความกระวนกระวายใจของนิค ที่แสดงออกทั้งสีหน้าและแววตา สร้างความเครียด ความไม่สบายใจให้กับเอมี่มากด้วยเช่นเดียวกัน หลายครั้งที่เขาชำเลืองมองไปทางเจ้ากีตาร์ในถุงใส่กีตาร์ ที่วางสงบนิ่งอยู่มุมห้อง แต่ก็ถูกเอมี่ปรามไว้

“อย่าเล่นมัน นิค ฉันว่าเอามันไปทิ้งหรือทำลายมันทิ้งดีไหม อาถรรพ์ของกีตาร์สีแดงอาจแผ่ออกมาควบคุมเธออยู่นะนิค ทำให้เธอ...เอ้อ เพลงเธอมันดูไม่เหมือนที่เธอเคยเล่น”

“ไม่!” นิคหันขวับมาปฏิเสธทันที “อย่านะเอมี่ อย่าแม้แต่จะคิดทำลายมัน ทิ้งมันไปก็ไม่ได้”

“ทำไมล่ะนิค มันเป็นกีตาร์ของพวกวูดู ตาแก่คนนั้นเป็นพวกพ่อมด ถ้าเราทำลายกีตาร์ทิ้ง เธออาจกลับมาร้องเพลงได้เป็นปกติ” เธอไม่วายปรารภ

“ก็เพราะมันเป็นกีตาร์พ่อมดนั่นแหละ เรายิ่งไม่ควรไปแตะต้องมัน ตาแก่นั่นบอกว่าอย่าทอดทิ้งมัน ถ้าเราทำลายมัน อาถรรพ์ของมันอาจส่งผลอะไรต่อเราอีก”

เขาแย้งเสียงขรึม คำแย้งของเขาทำให้เอมี่ต้องอึ้งไป จนปัญญาจะจัดการกับปัญหาให้เป็นผลดีอย่างที่สุดต่อนิค ได้แต่คิดว่าแล้วแต่โชคชะตาพาไปก็แล้วกัน เพราะเธอเล็งเห็นแล้วว่านิคไม่น่าจะผ่านการออดิชั่นในวันมะรืนนี้ไปได้ แต่ทันทีนั้นเธอก็นึกถึงคน ๆ หนึ่งขึ้นมา

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่