กีตาร์ล่าวิญญาณ ตอนที่ 10 (ต่อ) ตอนที่ 11







ตอนเดิม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




"กลับไปคิดมาดีแล้วสินะ" 

น้ำเสียงเย็นชาพอกันกับหน้าตาเฉยเมยของร่างซูบผอม เอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นหญิงสาวก้าวเข้ามาในร้าน ชายชรานั่งรออยู่แล้วราวกับรู้ว่ายังไงเธอก็ต้องกลับมา

"ฉันต้องการความช่วยเหลือ" 

เธอบอกเสียงเบา ก้าวเข้ามานั่งตรงข้ามกับเจ้าของร้าน ดวงตาหม่นหมองมองไปที่ใบหน้าเหี่ยวย่นอย่างยอมจำนน รู้สึกคล้ายใบหน้าของแกดูเลือนรางชอบกล อาจเพราะอาการประสาทเสียอย่างหนัก จากเรื่องร้าย ๆ ที่ประเดประดังกันเข้ามาภายในวันเดียว จนทำให้สมองของตัวเองมีปัญหา มันอาจส่งผลมากระทบถึงสายตาด้วยก็ได้ หญิงสาวยกมือขึ้นขยี้ตา แต่ภาพตรงหน้าก็ยังพร่าเลือน ไม่ชัดเจนอยู่ดี

"ไม่อยากจะซ้ำเติมหรอกนะ ฉันเคยเตือนแล้วว่าอย่าทอดทิ้งมัน...กีตาร์ตัวนั้น แต่พวกเธอกลับไม่ใส่ใจ เอามันไปเก็บไว้เฉยๆ ไม่สนใจคำเตือนของฉัน ผลลัพธ์มันถึงออกมาแบบนี้ ของฟรีไม่มีในโลก จะต้องมีบางอย่างแลกกันเอามา ก็สมควรแล้วที่จะโดนมันโกรธ" ชายชราพูดเสียงต่ำในลำคอ ดวงตาฝังในกระบอกลึกฉายแววคล้ายสมเพช...เหมือนเยาะหยันสมน้ำหน้าอยู่ในที

พูดบ้าๆ อีกแล้ว...เอมี่นึกไม่ชอบใจ ร่ำๆ จะลุกเดินกลับหนีออกไปเสียจากร้าน ถ้าไม่ได้ยินสิ่งที่แกทักขึ้น

"ไม่กลัวเขาพลาดการเป็นนักร้องของบริษัทเพลงเหรอ...เขาแต่งเพลงนั้นไม่ได้แล้วนี่ ถ้าเพลงยังแต่งไม่จบ โปรดิวเซอร์ไม่รับเขาเข้าสังกัดแน่ เธออยากช่วยเขาไหมล่ะ" เอมี่หยุดชะงัก ชายชราโบกหลังมือ เมื่อเห็นเธอขยับปากจะถาม 

"ไม่ต้องถามว่าฉันรู้ได้ยังไง เอาเป็นว่ารู้ก็แล้วกัน ฉันเองก็มีพรสวรรค์บางอย่าง ที่มันทำให้เกมสนุกสนานยิ่งขึ้น"

"คุณพูดถึงเกม...นี่คุณกำลังเล่นเกมกับพวกเราอยู่เหรอ คุณหลอกให้กีตาร์ตัวนั้นกับนิคงั้นสิ" 

"เหลวไหล ฉันไม่ได้หลอกพวกเธอ แฟนเธออยากได้กีตาร์ตัวนั้น ฉันถึงได้ยกให้ บอกสิ่งที่ต้องระวังให้แล้วด้วย แต่พวกเธอไม่ทำตามเอง จะมาโทษฉันไม่ได้ ถูกแล้วมันเป็นเกม...เกมชีวิตแม่หนูน้อย เธอเหมาะสมที่จะเล่นเกมของฉัน แฟนเธอก็ด้วย ฉันชอบพวกเธอมาก อยากรู้ว่าเธอจะแก้อาถรรพ์กีตาร์ตัวนั้นได้ยังไง เธอเป็นคนมีความพยายาม ฉันชอบเธอตรงนี้ แฟนเธอก็มีความทะเยอทะยานดี ไม่ต้องห่วง ฉันมีตัวช่วยให้เธอ..." 

ชายชราหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งมาวางบนโต๊ะ...เอมี่ชะโงกหน้ามามอง มันคือสัญญาซื้อขายพรสวรรค์ระหว่างเธอกับชายแก่ ที่แกเคยเอาให้เธอดูก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถูกเธอปฏิเสธ เพราะอยากรอให้ฟรังโก้มาช่วยตัดสินใจก่อน...แต่ทว่าตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว

"มาพูดเรื่องแฟนเธอดีกว่า เธอรักเขามากล่ะสิ" 

ถามอะไรโง่ๆ...เอมี่ชำเลืองมองหน้าคนถามอย่างอารมณ์ไม่สู้ดี แต่เพราะอยากช่วยนิค เลยข่มความไม่พอใจไว้ข้างใน พยักหน้ารับโดยดี

"อย่างที่บอก...พ่อหนุ่มนั่นแต่งเพลงต่อไม่ได้ เป็นเพราะพรสวรรค์ทางด้านประพันธ์เพลงของเขาหายไปกะทันหัน จากอาถรรพ์ของกีตาร์ และนี่คือสิ่งที่จะช่วยเขาได้" 

ชายชรายื่นกระดาษให้ เอมี่นิ่วหน้า ลังเลคิด แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าคร่ำเคร่งบูดบึ้ง พร้อมท่าทางร้ายกาจ กับคำด่าหยาบคายของนิค ในที่สุดจึงตัดสินใจรับกระดาษมา

"ทำไมไม่บอกว่ากีตาร์ตัวนี้มันเป็นของพวกลัทธิวูดู คุณเองก็เป็นพวกนั้นสินะ มันสนุกนักหรือไงที่ได้ใช้เวทย์มนต์แกล้งคน"

"บอกแล้วว่ามันเป็นเกม" ชายชราพูดหน้าตายเช่นเดิม ไม่มีวี่แววความเมตตาปรานีอยู่ในแววตากระด้างลึกล้ำคู่นั้นเลย เอมี่ขนลุกเกรียวขึ้นอีก นี่เธอจะต้องมาเผชิญกับเวทย์มนต์อาถรรพ์ของพวกพ่อมดหมอผีเข้าจริง ๆ หรือนี่...ตำรวจจะช่วยเธอได้ไหมนะ 

และราวกับรู้ถึงความในใจของเธอ ชายชราหัวเราะในลำคอเบา ๆ

"พวกเจ้าหน้าที่งี่เง่าพวกนั้นช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก พวกเขาถนัดจับคนเข้าคุก แต่ไม่ช่วยให้นิคกลับมาเขียนเพลงได้เหมือนเก่า และหากเธอปล่อยแฟนเธอไว้แบบนั้น ไม่รีบช่วยเขา ต่อไปนิคจะร้องเพลงไม่ได้อีกเลย"

เอมี่ถึงกับมือสั่น วางกระดาษลงบนโต๊ะ

"หมายความว่า ฉันต้องยอมยกพรสวรรค์ของตัวเองให้คุณ แล้วนิคก็จะกลับมาแต่งเพลงได้เหมือนเดิมอย่างนั้นเหรอ"

"ใช่"

"นี่มันเรื่องบ้าชัด ๆ ฉันจะเชื่อเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้ได้ยังไง"

"เธอเคยเห็นอิทธิฤทธิ์ของกีตาร์ตัวนั้นแล้วนี่ มันช่วยทำให้นิคเล่นดนตรีดีขึ้นมากในพริบตาไม่ใช่เหรอ หรือเธอดูไม่ออก แล้วสำหรับสัญญาฉบับนี้ ถ้าอยากรู้ว่าจริงหรือไม่ ก็ทำไมไม่ลองดูล่ะ แค่เซ็นชื่อแกร๊กเดียว แล้วเธอก็กลับไปดูผลของมันบนห้องพวกเธอตอนนี้ได้เลย"

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่