#วันดีฟรีเดย์ @กาญจนบุรี
สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ นี่เป็นกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวครั้งแรก ถ้าผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะคะ ^ ^
จุดเริ่มต้นของทริปนี้ คืออยากมีเวลาพักผ่อนที่ผ่อนคลาย ไม่ใช่วันหยุดที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอน
จึงเริ่มคุยกับแฟนว่า "ไปกาญจน์กันเถอะ"
และบอกแฟนว่าทริปนี้เอาชิลๆนะ ของบแค่ 2,000 พอ (เดี๋ยวมาดูกันนะจ๊ะ ว่าทำได้มั้ย)
เราไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวหรือวางแผนมาก วางแผนลวกๆไว้ก่อนเดินทาง แค่ 2 วัน และนี่คือแผนที่วางไว้ จะเห็นว่า ไม่จบ !!!
เดี๋ยวรอชมกันนะคะ ว่าจะได้อย่างที่วางไว้รึป่าว 555
Day 1 : 27-04-18 ออกจากบ้าน 20.45 น. เดินทางจากพระราม 3 ไปทางเส้นราชพฤกษ์ และเข้าเส้นตัดใหม่พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4
วันนี้โชคดีมากค่ะ ฝนตก อากาศเย็นสบาย กองทัพต้องเดินด้วยท้องเลยแวะร้านอาหารทานมื้อดึกซะเลย
มื้อนี้แวะทานที่ร้าน เก่งเล้งแซ่บ (น่าจะชื่อนี้นะคะ) ตอนดูเมนูเห็นราคาต้มเล้ง 100 บาท ก็แอบตกใจนะคะว่าแพงไปป่ะเนี่ย
แต่พอเขามาเสิร์ฟตกใจยิ่งกว่า คือถ้วยใหญ่มากค่ะ และก็อร่อยมากๆๆๆ ด้วย คิดดูสิ อากาศเย็นๆ ซดต้มเล้งไป มันแจ่มจริงๆค่ะ
ส่วนหมูสะเต๊ะ ก็รสชาติใช้ได้ แต่อาหารตามสั่งไม่ถูกปากเราเลยค่ะ รสชาติไม่ค่อยเข้มข้น มื้อนี้อาหารรวมเครื่องดื่ม 294 บาท
แหม ! เปิดทริปก็จัดซะเยอะเลย

หลังจากอิ่มท้องแล้ว ก็ออกเดินทางต่อค่ะ
22.15 น.ขับรถเดินทางต่อ ลืมบอกไปค่ะ ทริปนี้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มาสด้า 2 และ Google Map
แวะเติมน้ำมันและซื้อน้ำขนม+ของใช้ส่วนตัวที่ปั๊มแถวนครปฐม
ถนนโล่งมาก ขับสบาย ฝนตกปรอยๆ มาเรื่อยจนถึงกาญจนบุรี
ตั้งเป้าหมาย "ต้นจามจุรียักษ์" กะจะไปหาที่นอนแถวนั้น ไปโดยไม่ได้วางแผน ไม่หา ไม่จองใดๆ
ประมาณเที่ยงคืนไปถึงตรงแถวนั้น โอ๊ยยย !! มันน่ากลัวมากค่ะ
มันมืด มันไม่มีไฟ มันไม่มีรถสวน มันไม่มีคน คือหลอนมากๆๆๆ
ขับเลียบมาริมน้ำ คิดในใจคงไม่มีที่พักแน่ๆ (แอบคิดว่ามันเป็นที่เที่ยว น่าจะมีที่พัก)
ขับงงๆ มองหาที่พัก ไปเจอ 7-11 ให้แฟนลงไปถาม น้องๆก็แนะนำมา
แต่พอเราขับไปถึง เขาปิดประตู โทร.หาก็ไม่รับสาย เขาคงนอนกันหมดแล้ว 555
เลยเปิด google ลองหาพวกโรงแรม ม่านรูด จนไปเจอ โรงแรมชิคอิน Chic Inn Thamuang แถวท่าม่วง
โทร.ไปก่อน คนรับก็คงนอนแล้วเสียงงัวเงีย แต่ก็บอกเราว่ามีห้องว่าง ให้ขับไปได้
ไปถึงประมาณเที่ยงคืนครึ่งเลยค่ะ น้องเขานอนอยู่จริงๆ 5555

ห้องพักสไตล์ใหม่ค่ะ ห้องใหญ่โตมาก เหมือนคอนโดเลย มีทั้งเตียงใหญ่และเตียงเสริม
ความสะอาดใช้ได้ ความปลอดภัยนี่โอเคเลย ห้องน้ำก็สะอาดดีค่ะ
ก่อนจะมานี่แวะดู 2-3 ที่ แต่ราคา 750-850 ออกแนวม่านรูดด้วย
แต่ที่นี่ 600 บาทค่ะ ห้องยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย คุ้มค่าแก่การซุกหัวนอน
ไม่มีอาหารเช้าไม่เป็นไรค่ะ เพราะเรามานอนแปบเดียวก็จะออกเดินทางต่อ (เสียดายมากอยากนอนต่อ เตียงนุ่มดี)
ด้านล่างจะมีร้านอาหารด้วยนะคะ แต่เราออกมาตอน 08.35 น. ร้านยังไม่เปิดค่ะ
และด้านหน้าก็จะมีสวนเล็กๆ น่ารักดี มีที่จอดรถสะดวกดีด้วย
ถ่ายรูปเล่นแปบนึงก็ออกเดินทางต่อ
จบ DAY 1
**สาเหตุที่เดินทางกลางคืน เพราะชอบขับรถกลางคืน รถไม่ติด ไม่ร้อน และคิดว่าน่าจะมีเวลาตอนเช้าให้เที่ยวได้อีกค่ะ**
Day 2 : 28-04-18 ออกเดินทางจากโรงแรมตอน 08.35 น. กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เลยตั้งเป้าไปร้านอาหารชิลๆ
"รักษ์คันนา" วันนี้อากาศดีมากๆ ครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ฝนไม่ตก ไปถึงร้านประมาณ 9 โมง คนเริ่มเยอะแล้ว แต่ยังพอหาที่นั่งห้อยขาได้
ที่นี่สะอาด ดูสบายตา มีที่จอดรถเยอะด้วยค่ะ
อาหารเช้าวันนี้คือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำใส ชามละ 45 บาท สั่งไปนานแล้วแต่คิวเยอะ
อาหารยังไม่มา จึงเดินไปเซลฟี่กับท้องนา เดินกลับมาอีกที น้องบอกเรียกพี่นานแล้วแต่ไม่มา เลยให้คนอื่นไปแล้วค่ะ 555
ก็รอเค้าทำให้ใหม่ อร่อยมาก รสชาติได้ที่ เราไม่ปรุงเลยค่ะ อยากเบิ้ลก็กลัวรอนาน จึงจัดขนมใส่ไส้ 3 อัน 20 และโค้กสักขวด
มันฟินจริงๆนะคะ อากาศดีๆ อาหารดีๆ คนข้างๆดีๆ อิอิ
ต้องยอมรับว่าที่นี่ดีจริงๆ นั่งคุยกับแฟนว่าไม่อยากลุกเลย แต่เรามีเป้าหมายอื่นอีก ก็เลยต้องยอมลุก
ก่อนออกจากร้านก็ถ่ายรูปบรรยากาศมา แล้วก็พบว่า "ลืมชาร์จแบตกล้อง"
ทริปนี้ส่วนมากจึงได้ภาพจากโทรศัพท์มือถือ เสียดายมากเลยค่ะ เลยไม่ค่อยมีภาพมุมกว้างเท่าไหร่
ภาพสุดท้าย สูดกลิ่นท้องนาให้เต็มปอด และบอกกับตัวเองว่า
"รักรักษ์คันนา ไว้มาใหม่น๊าา"
10.20 น. เดินทางต่อไปที่ต้นจามจุรียักษ์ ฝนตกปรอยๆค่ะ คนก็ค่อนข้างเยอะ
เหมือนมีทัวร์อะไรสักอย่างมาลง และกล้องก็แบตหมด จึงได้ภาพที่นี่น้อยมาก
11.00 น.ก็บ๊ายบายต้นจามจุรี เป้าหมายต่อไปคือตลาดเรดซิตี้ !!!!
แวะมาซื้อล็อตเตอรี่ เผื่อรางวัลที่ 1 อยู่แถวนี้อีก
ได้ 325 มา 5 ใบ ดั๊นนนนน ออก 225 ชวด 2 หมื่นเลยค่ะ 555
เป้าหมายต่อไปคือสะพานข้ามแม่น้ำแคว ขับรถไปถึงใต้สะพานแล้ว
ปรากฎว่าฝนตกหนักมากๆๆๆ จึงไม่ได้ลงจากรถค่ะ
เก็บไว้ทริปหน้าค่อยมาแวะได้ เวลาก็ล่วงเลยมาจนบ่ายแล้ว จึงตัดสินใจลุยยาวไป สังขละบุรี จ้า
ถนนดีมากค่ะ ฝนตกปรอยๆ อากาศดี ถนนโล่ง เหมือนเส้นทางนี้มีแค่เรา 2 คน 555
เส้นทางนี้จะเห็นภูเขาและไอน้ำตลอด เหมือนมีทะเลหมอกอยู่ใกล้ๆ แต่ไปไม่ถึง อิอิ
เสียดายที่เราขับรถตลอด เลยไม่ได้ถ่ายรูป บอกให้แฟนถ่ายก็ได้มาเท่าที่เห็นนี่แหละค่ะ
ขับรถไป ฟังเพลงไป คุยเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงสังขละบุรี
16.20 น. นี่คือภาพแรกที่ลงจากรถ
ครึ้มฟ้าครึ้มฝนมาก อากาศดี แต่ไม่มีนักท่องเที่ยว
มีพี่สาวคนมอญวิ่งมาปะแป้งให้ ถามข้อมูลจากพี่สาวจึงรู้ว่าเรามาจอดรถที่ฝั่งมอญ
มีพี่ชายคนมอญมาแนะนำนั่งเรือทัวร์ 3 วัด 500 บาท
แต่เราไม่ได้ไปค่ะ กลัวน้ำ กลัวฝน
จึงจอดรถไว้แล้วเดินเล่นบนสะพานมอญ
พบพี่สาว 2 คนนี้เดินเทินของไว้บนศีรษะ ภาพนี้ประทับอยู่ในใจเลย
เดินเล่นเก็บภาพเก็บความทรงจำอีกนิดหน่อย
มีน้องๆน่าเอ็นดู แนะนำสถานที่ ปะแป้งทานาคา พอเรายกโทรศัพท์ ก็เต๊ะท่ากันเชียว
เย็นนี้คนน้อยมาก เห็นสะพานแล้วอยากนั่งถ่ายรูป
แต่พอมองดีๆ จะรู้ว่าในร่องสะพานนั้นมันมี ... หมา
เห็นแล้วก็แอบสงสัยนะ ทำไมมันเยอะขนาดนี้ฟระ ! ทั้งๆที่ไม่เห็นหมาสักตัวเลยนะ
.
เวลาผ่านไปไว 5 โมงกว่าแล้ว เรายังไม่มีที่พักเลยค่ะ
พี่ๆคนมอญก็แนะนำให้นอนกับโฮมสเตย์
แต่เราอยากได้ห้องน้ำส่วนตัวมากกว่า จึงขับรถมาฝั่งไทย
โทร.สอบถามตามที่พักดังๆ เขาก็บอกว่าเต็มแล้ว เหลือแต่แบบห้องน้ำรวม
เลยขับรถหากันไปเรื่อยๆ จนไปเจอ "ต้นน้ำโฮม" อยู่ใกล้ๆ ตลาดและสะพานไม้ด้วย
ที่พักของเราวันนี้ค่ะ เงียบ เป็นส่วนตัว สะอาด แอร์เย็นฉ่ำมากๆๆๆๆ เราเป็นคนขี้ร้อน ชอบหนาวๆ ยังต้องห่มผ้าค่ะ
ปกติเปิดแอร์เราไม่ห่มผ้า แต่ที่นี่ยอมเลย แต่ไม่โอเคอยู่อย่างนึงคือไฟเขามีดวงเดียวกลางห้อง และไม่ค่อยสว่าง
ก่อนจะนอน เล่นโทรศัพท์ก็เลยปวดตาเอาการ จองที่พักกับป้าแล้วก็จ่ายเงิน 600 บาท ไม่มีอาหารเช้านะคะ
รับน้ำดื่มมา 2 ขวด และกุญแจ จากนั้นเราก็ขับรถมาจอดแถวไปรษณีย์ และเดินหาของกินที่ตลาดค่ะ
แถ่น แทน แท้นนน มาถึงที่จะไม่ลองได้อย่างไร
หมูจุ่มพม่า ไม้ละ 2 บาท เราต่อคิวรอแป๊บนึง ก็ได้กินค่ะ
จัดไป 20 ไม้ 2 คนช่วยกันกิน
อร่อยดีนะคะ น้ำซุปหอมดี น้ำจิ้มก็อร่อย ฝนตกปรอยๆ อากาศดีเลย
แต่เสียดายที่เขามีแต่เครื่องในกับมันหมู ไม่มีเนื้อหมู(ยังไม่เสียบ) เราเลยกินได้แค่ตับค่ะ
น้องคนขายเป็นฝาแฝด หน้าตาน่ารักเชียว สุภาพมากๆด้วยค่ะ
หมูจุ่มไม่พอยาไส้ จึงมาจัดอาหารตามสั่งต่อค่ะ
เดินวนรอบตลาดแล้ว ไม่มีของที่อยากกิน เลยมาจัดตามนี้
ไข่เจียวกุ้งสับ+ต้มยำรวมมิตรน้ำข้น
สำหรับเรารสชาติยังเข้มข้นไม่พอนะคะ ไข่เจียวอมน้ำมันไปนิด
กินไม่หมดค่ะ เสียดายอยู่แต่ฝืนไม่ไหว มื้อนี้หมดไป 250 บาท รวมเครื่องดื่มนะคะ
วันนี้วันเสาร์มีตลาดต้องชม มีการแสดงของแต่ละชนชาติค่ะ
แต่เรามัวแต่กินอยู่ เลยไม่ได้ไปชมน้องๆแสดง
พอทานเสร็จก็แวะซื้อขนมนิดหน่อยค่ะ
พี่สาวขายขนมของฝาก เราซื้อตุ๊บตั๊บกับถั่วตัดพม่า มา 4 ห่อ ราคา ห่อละ 25 บาท
พอดีมีแบงก์พัน พี่สาวไม่มีทอน แต่มีแม่มณีนั่งกวักอยู่ เลยชำระผ่านทางนี้ได้เลย อินเทรนมาก
พอกลับมาถึงที่พัก ก็ลองแกะขนมกินดู
โอ๊ยยยยย !!! อร่อยอ่ะ เพลินมาก
เรารู้สึกเสียดายมากที่ซื้อมา 4 ห่อ อยากกลับไปซื้อเพิ่มฝากญาติๆเพื่อนๆ เพราะมันอร่อยมาก
มานั่งคิดดู 1 ซองใหญ่มี 35 ชิ้น ซองใหญ่ราคา 25 บาท ตกชิ้นละไม่ถึง 1 บาทเลย
ทำไมถูกและดีขนาดนี้ 5555555555
กลับมาถึงกรุงเทพฯ ลองเปิดเน็ตหาซื้อออนไลน์ ขายกันถุงละ 50 เชียวหนา
เพื่อนที่ทำงานก็ชอบกัน หอม อร่อย หวาน มัน ถ้าใครไปอย่าลืมแวะซื้อนะคะ
.
กินเสร็จแล้วก็อาบน้ำนอน นอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม เพราะวาดฝันไว้ว่า
"พรุ่งนี้เช้าต้องเจอหมอกที่สะพานไม้"
Day 3 : 06.00 น. เพิ่งจะตื่นกัน ปั้ดโธ่ว !!! จะเห็นมั้ยล่ะหมอก กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว เก็บของออกจากที่พักก็ 7 โมงแล้ว
ไปถึงสะพาน โอ้โห !!! เต็มเลยค่ะ คนนะคะที่เต็ม ไม่ใช่หมอก 5555
ไม่รู้ว่าคนมาจากที่ไหนกัน เต็มสะพานไปหมด กลัวสะพานหักมาก
เช้านี้เราขับรถมาจอดแถวสวนแมกไม้รีสอร์ท มีพี่สาวชาวมอญชวนให้ใส่บาตร
เราคงตื่นสายไป พระกำลังจะกลับวัดพอดี
ซื้อชุดใส่บาตร 3 ชุด 100 บาท
พอใส่บาตรเสร็จ ก็เดินข้ามสะพานไปฝั่งมอญ ทานโจ้กมอญ ถ้วยละ 30 บาท อร่อยดีค่ะ
วันนี้อากาศไม่ร้อนนะคะ แต่ก็ไม่มีลมพัด มีคนนั่งเรือไปเที่ยวชมวัดเยอะพอควร
มองออกไปสุดลูกหูลูกตา มีหมอก มีไอน้ำ ตัดกับสีเขียวของภูเขา สบายตาที่สุดเลยค่ะ
[CR] รีวิวและบันทึกความทรงจำ กาญจนบุรี-สังขละบุรี #วันดีฟรีเดย์
จุดเริ่มต้นของทริปนี้ คืออยากมีเวลาพักผ่อนที่ผ่อนคลาย ไม่ใช่วันหยุดที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอน
จึงเริ่มคุยกับแฟนว่า "ไปกาญจน์กันเถอะ"
และบอกแฟนว่าทริปนี้เอาชิลๆนะ ของบแค่ 2,000 พอ (เดี๋ยวมาดูกันนะจ๊ะ ว่าทำได้มั้ย)
เราไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวหรือวางแผนมาก วางแผนลวกๆไว้ก่อนเดินทาง แค่ 2 วัน และนี่คือแผนที่วางไว้ จะเห็นว่า ไม่จบ !!!
Day 1 : 27-04-18 ออกจากบ้าน 20.45 น. เดินทางจากพระราม 3 ไปทางเส้นราชพฤกษ์ และเข้าเส้นตัดใหม่พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4
วันนี้โชคดีมากค่ะ ฝนตก อากาศเย็นสบาย กองทัพต้องเดินด้วยท้องเลยแวะร้านอาหารทานมื้อดึกซะเลย
แต่พอเขามาเสิร์ฟตกใจยิ่งกว่า คือถ้วยใหญ่มากค่ะ และก็อร่อยมากๆๆๆ ด้วย คิดดูสิ อากาศเย็นๆ ซดต้มเล้งไป มันแจ่มจริงๆค่ะ
ส่วนหมูสะเต๊ะ ก็รสชาติใช้ได้ แต่อาหารตามสั่งไม่ถูกปากเราเลยค่ะ รสชาติไม่ค่อยเข้มข้น มื้อนี้อาหารรวมเครื่องดื่ม 294 บาท
แหม ! เปิดทริปก็จัดซะเยอะเลย
22.15 น.ขับรถเดินทางต่อ ลืมบอกไปค่ะ ทริปนี้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มาสด้า 2 และ Google Map
แวะเติมน้ำมันและซื้อน้ำขนม+ของใช้ส่วนตัวที่ปั๊มแถวนครปฐม
ถนนโล่งมาก ขับสบาย ฝนตกปรอยๆ มาเรื่อยจนถึงกาญจนบุรี
ตั้งเป้าหมาย "ต้นจามจุรียักษ์" กะจะไปหาที่นอนแถวนั้น ไปโดยไม่ได้วางแผน ไม่หา ไม่จองใดๆ
ประมาณเที่ยงคืนไปถึงตรงแถวนั้น โอ๊ยยย !! มันน่ากลัวมากค่ะ
มันมืด มันไม่มีไฟ มันไม่มีรถสวน มันไม่มีคน คือหลอนมากๆๆๆ
ขับเลียบมาริมน้ำ คิดในใจคงไม่มีที่พักแน่ๆ (แอบคิดว่ามันเป็นที่เที่ยว น่าจะมีที่พัก)
ขับงงๆ มองหาที่พัก ไปเจอ 7-11 ให้แฟนลงไปถาม น้องๆก็แนะนำมา
แต่พอเราขับไปถึง เขาปิดประตู โทร.หาก็ไม่รับสาย เขาคงนอนกันหมดแล้ว 555
เลยเปิด google ลองหาพวกโรงแรม ม่านรูด จนไปเจอ โรงแรมชิคอิน Chic Inn Thamuang แถวท่าม่วง
โทร.ไปก่อน คนรับก็คงนอนแล้วเสียงงัวเงีย แต่ก็บอกเราว่ามีห้องว่าง ให้ขับไปได้
ไปถึงประมาณเที่ยงคืนครึ่งเลยค่ะ น้องเขานอนอยู่จริงๆ 5555
ความสะอาดใช้ได้ ความปลอดภัยนี่โอเคเลย ห้องน้ำก็สะอาดดีค่ะ
ก่อนจะมานี่แวะดู 2-3 ที่ แต่ราคา 750-850 ออกแนวม่านรูดด้วย
แต่ที่นี่ 600 บาทค่ะ ห้องยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย คุ้มค่าแก่การซุกหัวนอน
ไม่มีอาหารเช้าไม่เป็นไรค่ะ เพราะเรามานอนแปบเดียวก็จะออกเดินทางต่อ (เสียดายมากอยากนอนต่อ เตียงนุ่มดี)
และด้านหน้าก็จะมีสวนเล็กๆ น่ารักดี มีที่จอดรถสะดวกดีด้วย
ถ่ายรูปเล่นแปบนึงก็ออกเดินทางต่อ
จบ DAY 1
Day 2 : 28-04-18 ออกเดินทางจากโรงแรมตอน 08.35 น. กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เลยตั้งเป้าไปร้านอาหารชิลๆ
"รักษ์คันนา" วันนี้อากาศดีมากๆ ครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ฝนไม่ตก ไปถึงร้านประมาณ 9 โมง คนเริ่มเยอะแล้ว แต่ยังพอหาที่นั่งห้อยขาได้
ที่นี่สะอาด ดูสบายตา มีที่จอดรถเยอะด้วยค่ะ
อาหารยังไม่มา จึงเดินไปเซลฟี่กับท้องนา เดินกลับมาอีกที น้องบอกเรียกพี่นานแล้วแต่ไม่มา เลยให้คนอื่นไปแล้วค่ะ 555
ก็รอเค้าทำให้ใหม่ อร่อยมาก รสชาติได้ที่ เราไม่ปรุงเลยค่ะ อยากเบิ้ลก็กลัวรอนาน จึงจัดขนมใส่ไส้ 3 อัน 20 และโค้กสักขวด
มันฟินจริงๆนะคะ อากาศดีๆ อาหารดีๆ คนข้างๆดีๆ อิอิ
ก่อนออกจากร้านก็ถ่ายรูปบรรยากาศมา แล้วก็พบว่า "ลืมชาร์จแบตกล้อง"
ทริปนี้ส่วนมากจึงได้ภาพจากโทรศัพท์มือถือ เสียดายมากเลยค่ะ เลยไม่ค่อยมีภาพมุมกว้างเท่าไหร่
"รักรักษ์คันนา ไว้มาใหม่น๊าา"
เหมือนมีทัวร์อะไรสักอย่างมาลง และกล้องก็แบตหมด จึงได้ภาพที่นี่น้อยมาก
11.00 น.ก็บ๊ายบายต้นจามจุรี เป้าหมายต่อไปคือตลาดเรดซิตี้ !!!!
แวะมาซื้อล็อตเตอรี่ เผื่อรางวัลที่ 1 อยู่แถวนี้อีก
ได้ 325 มา 5 ใบ ดั๊นนนนน ออก 225 ชวด 2 หมื่นเลยค่ะ 555
เป้าหมายต่อไปคือสะพานข้ามแม่น้ำแคว ขับรถไปถึงใต้สะพานแล้ว
ปรากฎว่าฝนตกหนักมากๆๆๆ จึงไม่ได้ลงจากรถค่ะ
เก็บไว้ทริปหน้าค่อยมาแวะได้ เวลาก็ล่วงเลยมาจนบ่ายแล้ว จึงตัดสินใจลุยยาวไป สังขละบุรี จ้า
เส้นทางนี้จะเห็นภูเขาและไอน้ำตลอด เหมือนมีทะเลหมอกอยู่ใกล้ๆ แต่ไปไม่ถึง อิอิ
เสียดายที่เราขับรถตลอด เลยไม่ได้ถ่ายรูป บอกให้แฟนถ่ายก็ได้มาเท่าที่เห็นนี่แหละค่ะ
ขับรถไป ฟังเพลงไป คุยเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงสังขละบุรี
ครึ้มฟ้าครึ้มฝนมาก อากาศดี แต่ไม่มีนักท่องเที่ยว
มีพี่สาวคนมอญวิ่งมาปะแป้งให้ ถามข้อมูลจากพี่สาวจึงรู้ว่าเรามาจอดรถที่ฝั่งมอญ
มีพี่ชายคนมอญมาแนะนำนั่งเรือทัวร์ 3 วัด 500 บาท
แต่เราไม่ได้ไปค่ะ กลัวน้ำ กลัวฝน
จึงจอดรถไว้แล้วเดินเล่นบนสะพานมอญ
มีน้องๆน่าเอ็นดู แนะนำสถานที่ ปะแป้งทานาคา พอเรายกโทรศัพท์ ก็เต๊ะท่ากันเชียว
เย็นนี้คนน้อยมาก เห็นสะพานแล้วอยากนั่งถ่ายรูป
แต่พอมองดีๆ จะรู้ว่าในร่องสะพานนั้นมันมี ... หมา
เห็นแล้วก็แอบสงสัยนะ ทำไมมันเยอะขนาดนี้ฟระ ! ทั้งๆที่ไม่เห็นหมาสักตัวเลยนะ
เวลาผ่านไปไว 5 โมงกว่าแล้ว เรายังไม่มีที่พักเลยค่ะ
พี่ๆคนมอญก็แนะนำให้นอนกับโฮมสเตย์
แต่เราอยากได้ห้องน้ำส่วนตัวมากกว่า จึงขับรถมาฝั่งไทย
โทร.สอบถามตามที่พักดังๆ เขาก็บอกว่าเต็มแล้ว เหลือแต่แบบห้องน้ำรวม
เลยขับรถหากันไปเรื่อยๆ จนไปเจอ "ต้นน้ำโฮม" อยู่ใกล้ๆ ตลาดและสะพานไม้ด้วย
ปกติเปิดแอร์เราไม่ห่มผ้า แต่ที่นี่ยอมเลย แต่ไม่โอเคอยู่อย่างนึงคือไฟเขามีดวงเดียวกลางห้อง และไม่ค่อยสว่าง
ก่อนจะนอน เล่นโทรศัพท์ก็เลยปวดตาเอาการ จองที่พักกับป้าแล้วก็จ่ายเงิน 600 บาท ไม่มีอาหารเช้านะคะ
รับน้ำดื่มมา 2 ขวด และกุญแจ จากนั้นเราก็ขับรถมาจอดแถวไปรษณีย์ และเดินหาของกินที่ตลาดค่ะ
หมูจุ่มพม่า ไม้ละ 2 บาท เราต่อคิวรอแป๊บนึง ก็ได้กินค่ะ
จัดไป 20 ไม้ 2 คนช่วยกันกิน
อร่อยดีนะคะ น้ำซุปหอมดี น้ำจิ้มก็อร่อย ฝนตกปรอยๆ อากาศดีเลย
แต่เสียดายที่เขามีแต่เครื่องในกับมันหมู ไม่มีเนื้อหมู(ยังไม่เสียบ) เราเลยกินได้แค่ตับค่ะ
น้องคนขายเป็นฝาแฝด หน้าตาน่ารักเชียว สุภาพมากๆด้วยค่ะ
เดินวนรอบตลาดแล้ว ไม่มีของที่อยากกิน เลยมาจัดตามนี้
ไข่เจียวกุ้งสับ+ต้มยำรวมมิตรน้ำข้น
สำหรับเรารสชาติยังเข้มข้นไม่พอนะคะ ไข่เจียวอมน้ำมันไปนิด
กินไม่หมดค่ะ เสียดายอยู่แต่ฝืนไม่ไหว มื้อนี้หมดไป 250 บาท รวมเครื่องดื่มนะคะ
แต่เรามัวแต่กินอยู่ เลยไม่ได้ไปชมน้องๆแสดง
พอทานเสร็จก็แวะซื้อขนมนิดหน่อยค่ะ
พอดีมีแบงก์พัน พี่สาวไม่มีทอน แต่มีแม่มณีนั่งกวักอยู่ เลยชำระผ่านทางนี้ได้เลย อินเทรนมาก
พอกลับมาถึงที่พัก ก็ลองแกะขนมกินดู
โอ๊ยยยยย !!! อร่อยอ่ะ เพลินมาก
เรารู้สึกเสียดายมากที่ซื้อมา 4 ห่อ อยากกลับไปซื้อเพิ่มฝากญาติๆเพื่อนๆ เพราะมันอร่อยมาก
มานั่งคิดดู 1 ซองใหญ่มี 35 ชิ้น ซองใหญ่ราคา 25 บาท ตกชิ้นละไม่ถึง 1 บาทเลย
ทำไมถูกและดีขนาดนี้ 5555555555
กลับมาถึงกรุงเทพฯ ลองเปิดเน็ตหาซื้อออนไลน์ ขายกันถุงละ 50 เชียวหนา
เพื่อนที่ทำงานก็ชอบกัน หอม อร่อย หวาน มัน ถ้าใครไปอย่าลืมแวะซื้อนะคะ
.
กินเสร็จแล้วก็อาบน้ำนอน นอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม เพราะวาดฝันไว้ว่า
"พรุ่งนี้เช้าต้องเจอหมอกที่สะพานไม้"
Day 3 : 06.00 น. เพิ่งจะตื่นกัน ปั้ดโธ่ว !!! จะเห็นมั้ยล่ะหมอก กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว เก็บของออกจากที่พักก็ 7 โมงแล้ว
ไปถึงสะพาน โอ้โห !!! เต็มเลยค่ะ คนนะคะที่เต็ม ไม่ใช่หมอก 5555
ไม่รู้ว่าคนมาจากที่ไหนกัน เต็มสะพานไปหมด กลัวสะพานหักมาก
เราคงตื่นสายไป พระกำลังจะกลับวัดพอดี
ซื้อชุดใส่บาตร 3 ชุด 100 บาท
พอใส่บาตรเสร็จ ก็เดินข้ามสะพานไปฝั่งมอญ ทานโจ้กมอญ ถ้วยละ 30 บาท อร่อยดีค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น