หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
สังขละบุรี [ ค รั้ ง นี้ ไม่ มี รี วิ ว ]
กระทู้สนทนา
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวภูเขา
ภาพถ่ายทิวทัศน์
สังขละบุรี
Cr.
https://www.facebook.com/littleviewbynoohin
ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สงบๆ ท่ามกลางสายหมอก ธรรมชาติเขียวชะอุ่ม อากาศสดชื่น คงต้องนึกถึงที่นี่เลย "สังขละบุรี"
ที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินทางไปชาทแบตเตอร์รี่ได้อย่างเต็มที่ ได้ใช้ชีวิตให้ช้าลง และได้เห็นวิถีชีวิตหลากหลายเชื้อชาติ เพราะที่นั่นมีทั้งชาวมอญ กระเหรี่ยง ไทย ลาว พม่า และที่สำคัญมีแม่น้ำสามสายที่ไหลมารวมจุดเดียวกัน คือ แม่น้ำรันตี แม่น้ำบิดลี่ แม่น้ำซองกาเลีย ก่อนจะไหลรวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย
อย่างที่บอกไว้ว่า ครั้งนี้ไม่รีวิว เพราะเราอยากแชร์เรื่องราว และภาพถ่ายมุมเล็กๆ ของเรา ให้ท่านผู้ชมดูภาพชุดนี้แล้ว
อยากเก็บกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวกันเลย
เพราะธรรมชาติที่นั่นเขาสวยจริงๆ แถมผู้คนก็อัธยาศัยดีด้วย
ทริปนี้เราไปกับน้องสาว 3 วัน 2 คืน ขับรถไปกันเอง ข้างทางที่ไหนสวย ก็แวะถ่ายรูปสิคะ รออะไร ฮ่าๆๆ และช่วงที่ไปฝนตกเกือบทุกวันทั้งวัน
เอาล่ะ ไหนๆ กระทู้นี้ไม่มีรีวิว ขอเพิ่มเติมแลนด์มาร์คที่ไปถ่ายรูปและกัน เผื่อมีใครอยากไปเก็บภาพมุมเดียวกัน
ขอบอกว่าภาพเยอะนิสนุง....รอช้าอยู่ใย ไปชมภาพกันเลย
Day 1
เริ่มต้นจากแวะที่แรก
: สะพานข้ามแม่น้ำแคว และทางรถไฟสายมรณะ กาญจนบุรี
การเดินทาง
: จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายปิ่นเกล้า - นครชัยศรี ( ทางหลวงหมายเลข 338 ) มุ่งหน้าสู่นครปฐม จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี ผ่านแยกนครชัยศรี ขับตรงไป โดยจะผ่านสะพานไปบ้านแพ้ว ผ่านสะพานไปตัวเมืองนครปฐม ผ่านแยกไปจังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้นจะพบสะพานไปจังหวัดกาญจนบุรี
หลังจากแวะถ่ายรูปที่สะพานแม่น้ำแควแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่เป้าหมายหลักของเรา นั่นก็คือ....
สถานที่ 2
:
สังขละบุรี
การเดินทาง
: จาก อ.เมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่ง เสี้ยนให้ขับไปทาง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งจะผ่านทั้งไทรโยคน้อยและไทรโยคใหญ่ ( หลักกิโลเมตรที่ 125 ทางหลวง หมายเลข 323 ) พบสามแยก ให้ เลี้ยวขวามือไป สังขละบุรี ผ่านเขื่อนเขาแหลม เมื่อไปถึงแยก ด่านเจดีย์สามองค์ ขับตรงไป ประมาณ 7 กม. จะพบ อ.สังขละบุรี
มุมนี้ถ่ายที่ สามประสบรีสอร์ท
ทริปนี้เราพักที่สามประสบรีสอร์ท
เพราะว่าใกล้สะพานไม้ มีถนนกับบันไดสามารถเดินลงไปถ่ายรูปที่สะพานไม้ได้เลย หลังจากที่เก็บของเสร็จ ก็เดินลงมาหาของกินที่ท่าเรือด้านล่าง มีร้านอาหารตามสั่ง ชา กาแฟเย็น ระหว่างที่กินข้าว โต๊ะข้างๆ เขาหาคนหารค่าเรือไปนั่งชมวิว คนละ 200 บาท ไม่รอช้า เราตอบตกลงทันที ดีกว่าเหมาคนเดียวทั้งลำ ฮ่าๆๆ รอช้าอยู่ใย...ไปชมบรรยากาศกันเลย
บรรยากาศระหว่างนั่งเรือชมวิวริมแม่น้ำสามประสบ
คนขับเรือบอกว่า ตรงนี้เคยเป็นวัดมาก่อน มั้ง..เราก็จำไม่ได้
ระหว่างทางก็จะมีเรือสันจรไปมา ที่นี่ใช้เรือในการเดินทาง เพราะยังมีชาวบ้านอาศัยแพรอยู่ และบางทีก็ออกไปหาปลา
บรรยากาศรอบวัด
มุ่งหน้าไปวัดสมเด็จ(เก่า) ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดจมน้ำ เป็นอุโบสถของวัดสมเด็จเก่า ที่ถูกทิ้งร้างเมื่อตอนย้ายเมืองสังขละบุรี
บรรยากาศรอบๆ ระหว่างทางเดินจากวัดสมเด็จมาขึ้นเรือ ต้นหญ้าอ่อนสีเขียวสวยมาก
วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดจมน้ำ แต่ช่วงที่ไปวัดยังไม่จมน้ำ เพราะเป็นต้นฤดูฝน ชาวบ้านบอกว่าช่วงนี้ฝนน้อย ถ้าไปช่วงเดือน ก.ย - ต.ค น้ำจะเริ่มสูงขึ้น
ชาวต่างชาติ ก็ให้ความสนใจในการกราบไหว้ศักการะ
บรรยากาศรอบๆ วัด
Day 2
:
ใส่บาตรพระตอนเช้า
วันนั้นฝนตกพระมาน้อย ปกติพระจะมาถึงจุดใส่บาตรใกล้สะพานมอญ ประมาณ 6.30น.
อาหารใส่บาตรมีขายที่หน้าสะพานมอญทั้งสองฝั่งนิยมใส่บาตรพร้อมกับดอกพุทธ (เชื่อว่าหลวงพ่ออุตตมะชอบเป็นพิเศษ)
เสน่ห์อีกอย่างของสะพานไม้ที่นี่ คือจะมีเด็กๆ ชาวมอญ แต่งกายสวยงามน่ารัก มาเดินขายดอกไม้ใส่บาตรยามเช้าและเป็นไกท์ เล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของสะพานไม้แห่งนี้ [จ่ายค่าไกท์น้อยด้วยนะ ^^]
เอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากการแต่งกาย ที่เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเป็นชาวมอญ ก็คือ การวางของไว้บนศีรษะ แล้วเดินอย่างสตรอง ด้วยความชำนาญ
บรรยากาศยามเช้า ฝนตกปรอยๆ นิดหน่อย
ภาพนี้เดินๆ ถ่ายอยู่ด่านล่างสะพาน เหลือบไปเห็นควันโขมง อ้าว!!..เรือไหม้ ชาวบ้านช่วยกันดับใหญ่เลย
ภาพขาวดำกับช่วงฝนพรำ ก็ให้อารมณ์ไปอีกแบบ
หลบฝนไปจนช่วงเย็นเลยค่ะ ออกมาถ่ายอีกที 4 โมงเย็น มุมนี้ถ่ายจากสะพานซองกาเลีย
Day 3 : ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
[เสียค่าบัตรเข้า 60 บาท]
ขากลับเราได้แวะถ่ายรูปที่ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ที่นี่สามารถมานอนพักกางเต้นได้
ระหว่างทางที่ไปฝนก็ตกปรอยๆ ตลอด พอถึงที่อุทยานเท่านั้นแล่ะ แดดเปรี้ยง ฟ้าใสสีครามสวยมาก รอช้าอยู่ใย วิ่งไปกดชัดเตอร์รัวๆ ก่อนที่แดดจะหายไป...และก็เป็นไปตามคาด พอถ่ายรูปเสร็จ ฝนเทกระหน่ำเลยค่ะท่านผู้ชม วิ่งขึ้นรถแทบไม่ทัน
ก้อนเมฆ สวยมาก เหมือนภาพวาดเลยค่ะคุณผู้ชม >o<
ใครที่กำลังมองหาที่พักผ่อน ใช้ชีวิตสโลไลฟ์ สัมผัสธรรมชาติสวยงาม สังขละบุรี คืออีกหนึ่งสถานที่ ที่ควรบุ๊คมาร์คเลย
Cr.
https://www.facebook.com/littleviewbynoohin
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ไปกันค่ะ...สังขละบุรี สายหมอกเบา ๆ ไม่พลาดกับสะพานมอญ (:
ไปกันค่ะ... เที่ยวสังขละบุรี แบบ 2 ล้อ (ขี่ไม่เป็น) ก็นั่งซ้อนท้ายไปค่ะ เริ่มต้น กทม. ปลายทาง >>>> สะพานมอญ ค่ะ ระยะทางประมาณ ไป 400 กม. กลับ อีก 400 กม. ถ้าเป็นสายลุยด้วย 2 ล้
PaiGunKa
นั่งรถไฟจากสถานีหัวลำโพงไปสถานี ไทรโยกน้อย แต่ขากลับ ไม่กลับกะรถไฟได้มั้ยคะ จะนั่งรถต่อไปสะพานมอญค่ะ แบบone day trip ค่ะ
ขอถามหน่อยได้มั้ยคะ หนูจะนั่งรถไฟจากสถานีหัวลำโพงไป สถานี น้ำตกไทรโยกน้อย แบบ one day trip 120 พัดลม แต่ขากลับไม่กลับกับรถไฟ แล้วต่อรถจากน้ำตกไทรโยกน้อยไป สะพานมอญ แล้วนอนค้าง1คืน ของวันที่16 แล้วเช้า
สมาชิกหมายเลข 8945218
'สังขละบุรี' วิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวสังขละบุรี
SANGKHLABURI 14 Oct 2017 ก่อนอื่น ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า รีวิว ไม่ได้ละเอียดยิบย่อยมากนัก เราขอรีวิวชีวิตเรียบง่ายของชาวสังขละบุรีสั้นๆแล้วกันนะคะ สำหรับพวกเราอะไรก็เกิดขึ้นได้ 1วันในสังขละบุรี ม
สมาชิกหมายเลข 3104157
ในวันฝนพรำ ที่...สังขละบุรี
ในวันฝนพรำ ที่..... สังขละบุรี #สังขละบุรี ในหน้าฝน ใครจะรู้ ว่าน่าเที่ยวชะมัด! รอบนี้รอบที่ 2 ละ ถึงแม้ว่าฝน จะทำให้เรารู้สึกเหงา ๆ ก็ไม่เท่ากับความสุขที่เราได้รับ (แต่ถ้าได้คนมาเดินข้างๆก็คงจะดี)
WheretheJourney
สังขละบุรีทริปง่ายๆสบายกระเป๋า
ทริปนครปฐม-สังขละบุรี ทริปง่ายๆสบายกระเป๋า ทริปนี้ไปเที่ยวสังขละโดยไปรถตู้-กลับรถตู้ค่ะ เราไปกับแก๊งค์เรา4คน ไปขึ้นรถตู้ที่อ้อมน้อย(สามพราน นครปฐม) ไปลงที่ บขส.กาญฯ แล้วต่อรถตู้ขึ้นไปลงที่สังขละอีกต่
สมาชิกหมายเลข 3788711
เที่ยวสังขละบุรี แบบบ้านๆ
Review ครั้งแรก อาจขาดตกบกพร้องไปบ้างนะคะ ทริปนี้ มีเวลาตัดสินใจกับแฟนแค่ 1 อาทิตย์ เราจะไปไหนกันดีนะ...จบลงที่สังขละบุรี กาญจนบุรี เราเริ่มออกเดินทางจากสมุทรปราการ วันที่ 19-11-59 เวลา 02.45 น. เพื่
ซ่อนเปรี้ยว
เที่ยวกาญจนบุรี ถ่ายรูปสวยกับต้นจามจุรียักษ์
ต้นจามจุรียักษ์ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณ บ้านเขาตก หมู่บ้านกสิกรรม ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นับว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาชมความยิ่งใหญ่อลังการของต้นจามจุรี
ลิขิตฟ้าหรือจะสู้สามตัวตรง
ส า ม วั น ส อ ง คื น ที่ สั ง ข ล ะ บุ รี ดินแดนอาถรรพ์ - ไปแล้วต้องไปอีก
สังขละบุรี... ที่แห่งนี้มีอาถรรพ์ เพื่อนบอกว่าไปทำอะไรตั้ง 2 คืน สังขละบุรีไม่เห็นมีอะไรเลยยย ก็ไม่รู้สิ ใจมันรักนี่นา เลยเป็นที่มาของ สามวันสองคืนที่สังขละบุรี ขอถ่ายทอดความประทับใจ ผ่านภาพถ่ายแล
ลูกสาวแม่ค้ากรุงเก่า
SANGKHLABURI สังขละบุรี : Road Trip #ขับรถเที่ยว กาญจน์ เถอะ
ช่วงนี้ห่างหายจากการออกทริปเที่ยวต่างจังหวัดไปนาน เพราะ COVID-19และเพราะว่าดูรายการโตแล้ว...เที่ยวสังขละ เป็นเหตุพอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น บวกกับมีเวลาว่าง 2 วัน
Butic
@@ ดื่มด่ำวิวสะพานมอญ ที่....สามประสบ รีสอร์ท สังขละบุรี @@
😊สวัสดีครับ...มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มาครับโดยทริปนี้ ผมพักที่ สามประสบ รีสอร์ท ก่อนไปก็เสิร์ชหาที่พัก หาดูรีวิวที่พัก แต่ก็ไม่ค่อยมีใครมารีวิวไว้เลยครับมีแต่รีวิวการท่องเที่
เซเว่นหน้าหอใน
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวภูเขา
ภาพถ่ายทิวทัศน์
สังขละบุรี
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
สังขละบุรี [ ค รั้ ง นี้ ไม่ มี รี วิ ว ]
ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สงบๆ ท่ามกลางสายหมอก ธรรมชาติเขียวชะอุ่ม อากาศสดชื่น คงต้องนึกถึงที่นี่เลย "สังขละบุรี"
ที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินทางไปชาทแบตเตอร์รี่ได้อย่างเต็มที่ ได้ใช้ชีวิตให้ช้าลง และได้เห็นวิถีชีวิตหลากหลายเชื้อชาติ เพราะที่นั่นมีทั้งชาวมอญ กระเหรี่ยง ไทย ลาว พม่า และที่สำคัญมีแม่น้ำสามสายที่ไหลมารวมจุดเดียวกัน คือ แม่น้ำรันตี แม่น้ำบิดลี่ แม่น้ำซองกาเลีย ก่อนจะไหลรวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย
อย่างที่บอกไว้ว่า ครั้งนี้ไม่รีวิว เพราะเราอยากแชร์เรื่องราว และภาพถ่ายมุมเล็กๆ ของเรา ให้ท่านผู้ชมดูภาพชุดนี้แล้ว อยากเก็บกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวกันเลย เพราะธรรมชาติที่นั่นเขาสวยจริงๆ แถมผู้คนก็อัธยาศัยดีด้วย
ทริปนี้เราไปกับน้องสาว 3 วัน 2 คืน ขับรถไปกันเอง ข้างทางที่ไหนสวย ก็แวะถ่ายรูปสิคะ รออะไร ฮ่าๆๆ และช่วงที่ไปฝนตกเกือบทุกวันทั้งวัน
เอาล่ะ ไหนๆ กระทู้นี้ไม่มีรีวิว ขอเพิ่มเติมแลนด์มาร์คที่ไปถ่ายรูปและกัน เผื่อมีใครอยากไปเก็บภาพมุมเดียวกัน
ขอบอกว่าภาพเยอะนิสนุง....รอช้าอยู่ใย ไปชมภาพกันเลย
Day 1
เริ่มต้นจากแวะที่แรก : สะพานข้ามแม่น้ำแคว และทางรถไฟสายมรณะ กาญจนบุรี
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายปิ่นเกล้า - นครชัยศรี ( ทางหลวงหมายเลข 338 ) มุ่งหน้าสู่นครปฐม จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี ผ่านแยกนครชัยศรี ขับตรงไป โดยจะผ่านสะพานไปบ้านแพ้ว ผ่านสะพานไปตัวเมืองนครปฐม ผ่านแยกไปจังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้นจะพบสะพานไปจังหวัดกาญจนบุรี
หลังจากแวะถ่ายรูปที่สะพานแม่น้ำแควแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่เป้าหมายหลักของเรา นั่นก็คือ....
สถานที่ 2 : สังขละบุรี
การเดินทาง : จาก อ.เมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่ง เสี้ยนให้ขับไปทาง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งจะผ่านทั้งไทรโยคน้อยและไทรโยคใหญ่ ( หลักกิโลเมตรที่ 125 ทางหลวง หมายเลข 323 ) พบสามแยก ให้ เลี้ยวขวามือไป สังขละบุรี ผ่านเขื่อนเขาแหลม เมื่อไปถึงแยก ด่านเจดีย์สามองค์ ขับตรงไป ประมาณ 7 กม. จะพบ อ.สังขละบุรี
ทริปนี้เราพักที่สามประสบรีสอร์ท เพราะว่าใกล้สะพานไม้ มีถนนกับบันไดสามารถเดินลงไปถ่ายรูปที่สะพานไม้ได้เลย หลังจากที่เก็บของเสร็จ ก็เดินลงมาหาของกินที่ท่าเรือด้านล่าง มีร้านอาหารตามสั่ง ชา กาแฟเย็น ระหว่างที่กินข้าว โต๊ะข้างๆ เขาหาคนหารค่าเรือไปนั่งชมวิว คนละ 200 บาท ไม่รอช้า เราตอบตกลงทันที ดีกว่าเหมาคนเดียวทั้งลำ ฮ่าๆๆ รอช้าอยู่ใย...ไปชมบรรยากาศกันเลย
บรรยากาศระหว่างนั่งเรือชมวิวริมแม่น้ำสามประสบ
คนขับเรือบอกว่า ตรงนี้เคยเป็นวัดมาก่อน มั้ง..เราก็จำไม่ได้
ระหว่างทางก็จะมีเรือสันจรไปมา ที่นี่ใช้เรือในการเดินทาง เพราะยังมีชาวบ้านอาศัยแพรอยู่ และบางทีก็ออกไปหาปลา
มุ่งหน้าไปวัดสมเด็จ(เก่า) ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดจมน้ำ เป็นอุโบสถของวัดสมเด็จเก่า ที่ถูกทิ้งร้างเมื่อตอนย้ายเมืองสังขละบุรี
บรรยากาศรอบๆ ระหว่างทางเดินจากวัดสมเด็จมาขึ้นเรือ ต้นหญ้าอ่อนสีเขียวสวยมาก
วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดจมน้ำ แต่ช่วงที่ไปวัดยังไม่จมน้ำ เพราะเป็นต้นฤดูฝน ชาวบ้านบอกว่าช่วงนี้ฝนน้อย ถ้าไปช่วงเดือน ก.ย - ต.ค น้ำจะเริ่มสูงขึ้น
ชาวต่างชาติ ก็ให้ความสนใจในการกราบไหว้ศักการะ
บรรยากาศรอบๆ วัด
Day 2 : ใส่บาตรพระตอนเช้า วันนั้นฝนตกพระมาน้อย ปกติพระจะมาถึงจุดใส่บาตรใกล้สะพานมอญ ประมาณ 6.30น.
อาหารใส่บาตรมีขายที่หน้าสะพานมอญทั้งสองฝั่งนิยมใส่บาตรพร้อมกับดอกพุทธ (เชื่อว่าหลวงพ่ออุตตมะชอบเป็นพิเศษ)
เสน่ห์อีกอย่างของสะพานไม้ที่นี่ คือจะมีเด็กๆ ชาวมอญ แต่งกายสวยงามน่ารัก มาเดินขายดอกไม้ใส่บาตรยามเช้าและเป็นไกท์ เล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของสะพานไม้แห่งนี้ [จ่ายค่าไกท์น้อยด้วยนะ ^^]
เอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากการแต่งกาย ที่เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเป็นชาวมอญ ก็คือ การวางของไว้บนศีรษะ แล้วเดินอย่างสตรอง ด้วยความชำนาญ
บรรยากาศยามเช้า ฝนตกปรอยๆ นิดหน่อย
ภาพนี้เดินๆ ถ่ายอยู่ด่านล่างสะพาน เหลือบไปเห็นควันโขมง อ้าว!!..เรือไหม้ ชาวบ้านช่วยกันดับใหญ่เลย
ภาพขาวดำกับช่วงฝนพรำ ก็ให้อารมณ์ไปอีกแบบ
หลบฝนไปจนช่วงเย็นเลยค่ะ ออกมาถ่ายอีกที 4 โมงเย็น มุมนี้ถ่ายจากสะพานซองกาเลีย
Day 3 : ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม [เสียค่าบัตรเข้า 60 บาท]
ขากลับเราได้แวะถ่ายรูปที่ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ที่นี่สามารถมานอนพักกางเต้นได้
ระหว่างทางที่ไปฝนก็ตกปรอยๆ ตลอด พอถึงที่อุทยานเท่านั้นแล่ะ แดดเปรี้ยง ฟ้าใสสีครามสวยมาก รอช้าอยู่ใย วิ่งไปกดชัดเตอร์รัวๆ ก่อนที่แดดจะหายไป...และก็เป็นไปตามคาด พอถ่ายรูปเสร็จ ฝนเทกระหน่ำเลยค่ะท่านผู้ชม วิ่งขึ้นรถแทบไม่ทัน
ก้อนเมฆ สวยมาก เหมือนภาพวาดเลยค่ะคุณผู้ชม >o<
ใครที่กำลังมองหาที่พักผ่อน ใช้ชีวิตสโลไลฟ์ สัมผัสธรรมชาติสวยงาม สังขละบุรี คืออีกหนึ่งสถานที่ ที่ควรบุ๊คมาร์คเลย
Cr. https://www.facebook.com/littleviewbynoohin