[CR] ไม่เห็นต้องมีเงินเท่าท้องฟ้าเลย ก็ประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน (ภาคต่อ)


เรามาเม้าต่อกับกระทู้ที่แล้ว
https://pantip.com/topic/37177864

กระทู้ก่อนๆจะเป็นเรื่องหุ่น เรื่องอาหารช้ะ กระทู้นี้อยากเขียนเพราะอยากให้คนอ่านประสบความสำเร็จทุกๆเรื่อง เราไม่มีบลอกภาษาไทย ก็อาศัยเขียนในนี้นานๆทีละกัน

หลังจากตอนนั้น จนถึงตอนนี้ เราก็ได้จ่ายตังค่าบัตรเครดิตไปหมดแล้ว เราก็ยังคงไม่แคร์คำพูดแง่ลบที่คนพูดถึงเนาะ เราตัดสินใจทำอะไรไปแล้ว แล้วเรามั่นใจว่ามันดีกับเราและคนที่เรารัก เราก็แบบไม่สนใจอะไรเลยนะ เราเป็นคนแบบนี้

นี่ก็พึ่งสอบ Personal Trainer Certification เสร็จไป ผลสอบปรากฏว่า เราผ่านนนนนน เย่ คือเราเป็นหนึ่งในสามคนของในชั้นเรียนที่สอบผ่าน บางคนที่แบบเก่งมากๆเลยนะเว่ย ยังไม่ผ่านข้อปฏิบัติ อันนี้เราไม่ได้มาเปรียบเทียบเรากับใครนะ เค้าเก่งจริงๆ แบบจารเรียกไปสาธิตการออกกำลังกายอันนั้นอันนี้ก็ได้คำชม จารถามอะไรก็ตอบถูกหมด แต่เราแค่อยากจะบอกว่า เราบอกตัวเองทุกวันตั้งแต่วันแรกที่ลงทะเบียนเรียนว่า ยากแค่ไหนก็จะสอบให้ผ่าน หนังสือไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ก็จะสอบให้ผ่าน ทั้งห้องมีเราเป็นคนต่างชาติคนเดียว ตอนเราเรียนก็มีเข้าใจบ้างหลุดบ้าง บางทีจารก็แรปนึกออกป้ะ บางทีก็ทำหน้าเอ๋อใส่จารตอนจารยิงคำถาม แต่ก็จดตลอดนะว่าตรงไหนไม่เข้าใจ ตรงไหนต้องอ่านซ้ำ คนที่ตอบได้ก็ตอบไม่หยุดเลย นี่ต้องหยุดอะ หยุดคิดว่านี่เค้าคุยเรื่องไรกัน อัดเสียงไปวันนึง ไม่อัดอีกเลย เพราะอัดไปละฟังไม่รู้เรื่อง เสียงยิ้มแตกกว่าเดิม แต่ก็ยังมั่นใจว่าตัวเองทำได้

ตอนเข้าห้องสอบก็นึกไว้เลย ข้อเขียนมันผ่าน 70% ข้อปฏิบัติมัน 80% ทำข้อเขียนไปก็นั่งคำนวณคะแบบผิด บวกๆดูแล้วก็ยังมั่นใจว่าตัวเองทำได้เกินเกฑ์แน่นอน พอสอบข้อปฏิบัติ นี่ก็ใส่เลย การยืดกล้ามเนื้อมีชื่อว่าไง ยืดอีนี่โดนส่วนไหนบ้าง เราก็ตอบไปเท่าที่เราจำได้

แปะอันนี้ไว้ตั้งกะวันแรกที่ไปเรียนละ

ทีนี้พอผลสอบของทุกคนออกเว่ย ของเราไม่ออก เพื่อนก็ทักมาเห้ยผลเป็นไงบ้าง เราก็แบบเราไม่ได้ว่ะ เราก็เลยถามนางว่าผลนางเป็นไง นางก็บอกนางผ่านข้อเขียน แต่ไม่ผ่านข้อปฏิบัติ เราก็แบบ เป็นไปไม่ได้อะ นางเก่งมาก ออกไปพูดหน้าห้องทีไร เพื่อนกับจารชมตลอด เราก็เลยถามนางว่านางทำไรผิด นางก็บอกนางไม่รู้เหมือนกัน นางก็คิดไม่ออก ละนางก็บอกว่ามีแค่สองคนในชั้นที่ผ่าน คือคนนึงทำงานในโรงพยาบาลเป็นนักกายภาพบำบัด อีกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ แล้วคนอื่นคือผ่านอย่างเดียวบ้าง ไม่ผ่านสองอย่างบ้าง เราก็กระวนกระวายอะ แต่ก็ต้องรอให้ถึงวันจันทร์ถึงจะโทรไปถามได้ พอโทรทวง นางก็ให้มา พอได้ผลสอบ กรี๊ดลั่นบ้านเลย 5555 มันเป็นความรู้สึกว่าเราเชื่อ เราตั้งใจ แล้วเราก็ทำได้ เราก็เลยอยากมาบอกว่า คนบางคนที่เค้ามีชีวิตต่างกับเราอะ มันต่างกันแค่ที่ความคิดเท่านั้นนะ สิ่งที่สำคัญคือเราไม่ต้องไปคิดว่าคนอื่นคิดยังไงกับเค้า รึคนอื่นคิดยังไงกับเรา เราแค่ต้องมีคำที่บอกกับตัวเองตลอดว่าเราคิดกับตัวเองยังไง เรามั่นใจแค่ไหนก็ชีวิตข้างหน้าของเราที่เรากำลังสร้างอยู่ตอนนี้


มาถึงเรื่องหุ่นกันมั่ง

เมื่อก่อนเราก็ว่าหุ่นเราโอเคนะ แต่พอความฝันมันเริ่มไกล เริ่มเอ้ะ หุ่นเรานี่อะไรเนี่ย แล้วก็คิด ถ้าขึ้นเวที จะเอาอะไรไปสู้เค้า ถ้าไม่มีกล้ามเนื้อที่มันโด่ๆ

เราก็เทรนมาห้าเดือน จากแบบนี้


น้ำหนักประมาณ 56 นะ
แล้วก็แขนเท่านี้


พอเทรนไปเรื่อยๆ กินไก่ไปเรื่อยๆ


จนมาถึงช่วงล่าสุด


เราไม่ได้กินไรหรูหรา กินแต่ไก่ ต้องเก็บตังไว้ใช้เวลาจำเป็นกับเก็บไว้เป็นทุนในอนาคต ก็เลยปั่นจักรยานไป วันละ 80 นาทีไปกลับ ตอนเทรนตอนแรกก็เทรนที่ Planet Fitness  เพราะมันแค่ $10 แต่มันไม่มี Free weights หลังๆมาต้องเข้มข้นขึ้นละ ก็เลยต้องย้ายไปอีกยิม
แล้วประเด็นนี่คือ ยิมที่ใกล้ๆบ้านก็มีตัวเลือกเดียวก็คือ Fitness Connection แต่ค่าสมัครมันเสีย $109 สำหรับ $10 ต่อเดือน แต่ถ้า $22 ต่อเดือนมันเสียค่าสมัคร $59 คือมองไปทางไหนก็แพงไปหมด จะจ่ายแค่สิบดอลก็ต้องจ่ายไปก่อนร้อยกว่าดอลเพื่อให้ได้จ่ายสิบดอลต่อเดือน ตอนไปวันแรก ก็มีสตาฟคนนึงเมลมาบอกว่า ตอนนี้สำหรับยี่สิบสองดอลไม่ต้องจ่ายค่าสมัครแล้วนะ แต่นึกออกป้ะก็ยังแพงอยู่ดี คือขี้งก ต่อไปต่อมา ไม่ไปยิ้มเลย แต่ในใจก็คิดตลอดนะ มันต้องมีซักช่วงสิที่มันลดโปรโมชั่นลง ภาวนามาตลอดสี่เดือน จนกระทั่งอาทิตย์ที่ผ่านมา นางมีโปรโมชั่นใหญ่เด้งขึ้นมาในเมล $10 for $10 down ก็คือจ่ายแค่สิบดอลสำหรับค่าสมัคร ผมนี่รีบกดสมัครเลยครับ

อันนี้แค่อยากจะบอกว่า เวลาแกตั้งใจทำอะไรซักอย่างนึง แกอยากได้อะไรซักอย่างนึง ถ้าแกไม่ได้มันวันนั้น แล้วแกไม่ยอมแพ้ แล้วแกก็ยังคงเชื่อต่อไป ยังไงแกก็จะได้มันมา ใช้อันนี้กับทุกเรื่องในชีวิต แล้วแกก็จะได้ทุกอย่างที่แกอยากได้ หลับตาละมองให้เห็นภาพนั้น ภาพที่แกอยากได้ให้ชัด ถ้าวันนี้ยังลางๆ พน.เอาใหม่ พน.ยังลางๆ วันต่อไปเอาใหม่ มันต้องมีวันนึงที่ภาพในหัวมันชัด ละพอมันชัด ความจริงที่อยากได้ไม่หนีเราไปไหนหรอก

ในส่วนของเรื่องนี้ก็อยากบอกว่า ในหัวเรามีแต่ภาพตอนเรามีหุ่นแบบไหนตลอดเลยนะ เส้นๆตรงไหนที่อยากให้มันชัด เหมือนมีเวทมนตร์เลยอะ เราอดทน ปั่นจักรยานไป เคี้ยวไก่ไป เต้นบนลู่วิ่ง แล้วเราไม่สนใจด้วยนะ ก็แบบฟีลมันมา แล้วคือยิมยิ้มเป็นของเรานึกออกป้ะ เราจ่ายตังไปละ จะมาเขินๆ ไม่ใช่เราอะ นึกไว้ตลอดว่าต้องลีนกว่านี้ ก็ทำทุกอย่างเพื่อให้มันลีน เต้นตลอด ฟังเพลงแหกปากร้องเพลง ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองโฟกัสในสิ่งที่อยากได้
อย่างตอนนี้มีเพลงนึง โหยโคตรโดนอะ แบบกระแทกเลย
https://www.youtube.com/watch?v=HgknAaKNaMM
แล้วอย่างตอนนั้น ตอนสอบ IELTS ช่วงอ่านสอบสี่เดือนก็ฟังเพลงนี้ ฟังแบบฟังเพลงเดียวเลยอะ ไม่ฟังเพลงอื่นเลยอะ
https://www.youtube.com/watch?v=wXhMqDotfLk

คือเราเป็นมนุษย์ที่แบบต้องไปให้สุดอะ เดินให้ไกลที่สุดเท่าที่เราเดินได้ ถ้ายังมีทางให้เดินต่อ ก็เดินมันอยู่งั้นอะ แล้วก็มั่นใจด้วยว่ายังไงเราก็ต้องมีทางเดินต่อไปเรื่อยๆ

ตอนแรกก็อยากไปเรียนต่อที่อังกฤษ อะก็สอบได้ แต่ไม่มีตังไป อยากมาต่างประเทศ อะก็หาทางอื่นมา รู้ว่าตัวเองมีความฝันว่าจะเป็นเทรนเนอร์ อะก็สมัครสอบ รู้ว่าข้อสอบมันยาก ก็อ่านไปดิ ท่องไปดิกล้ามเนื้ออะ รู้ว่าเพื่อนเก่ง เราก็ไม่สนใจนะ ตอนเราทำความฝัน นั่นความฝันเราหนิ ไม่เห็นต้องแข่งกับเพื่อนเลย ความฝันเราทำเพื่อใคร เราทำเพื่อคนที่บ้านช้ะ เหนื่อยก็กลายเป็นไม่เหนื่อย เก็บตามทางทีละก้าว วันนึงเราก็เดินไปถึงเองแหละ เมื่อก่อนเคยเชื่อนะ ว่าเรามีน้อยกว่าเค้า เราก็ต้องพยายามมากกว่า เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อละ ต่อให้มีแค่ไหน หรือต่อให้มีมากกว่านี้ก็จะไม่หยุดพยายาม

อยากบอกกับทุกคนว่า ถ้ากังวลว่าตัวเองจะสอบไม่ผ่าน จะเข้ามหาลัยไม่ได้ จะหุ่นดีไม่ได้ จะสวยขึ้นไม่ได้ ชีวิตก็จะอยู่ในจุดที่ตัวเองอยู่ไปตลอด
ทำไมเราถึงไม่เปลี่ยนมาคิดว่า ข้อสอบตอนป.สี่ก็ผ่านมาละ เราก็ฉลาดนี่หว่า ป.หกก็ผ่านมาละ นี่ไม่ฉลาดทำไม่ได้นะเนี่ย ก็ทำให้ดีที่สุดอะ เราจำคำที่ป๊าบอกไว้ตลอด ถ้าเวลานั้นคิดบวกไม่ได้ ก็ให้คิดว่าจะทำให้ดีที่สุด อย่างน้อยก็ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ป้ะ

ถ้านึกถึงหุ่น อยากให้มองถึงระยะยาวว่า เราไม่ได้ลดไขมันเพื่อให้มีคนมาชอบ เราดูแลตัวเองเพราะว่าเรารักตัวเอง เราอยากไปทะเลละอยากเดินละมีแต่คนมอง เราอยากไปดิ้นๆในคอนเสิร์ตพี่ตูนแบบไม่หอบ เราอยากแก่แบบไม่ต้องใช้ไม้เท้า แบบนี้ดูมีเหตุผลขึ้นกว่าเยอะเลย

ไม่ว่าจะเฟลกี่อย่าง ก็อยากให้คิดไว้ตลอดว่าภูเขาก้อนนี้ยิ้มสูง แต่ถ้าอยากไปปักธง ก็ต้องทนข้อเท้าพลิกบ้าง หมดแรงบ้าง แต่ถ้าไม่หยุด ธงที่ถืออยู่ในมือก็จะไปอยู่บนภูเขาก้อนนั้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง

เราชอบเขียน เราเลยมีบลอกของตัวเอง
https://alittlemoth.wordpress.com/

แล้วเราก็จะเขียนอะไรที่สอนตัวเองไว้ในไอจีตลอด
https://www.instagram.com/kodchamoth/

เราก็ยังกินไก่ ยังมี #foodbymoth ตลอด ใครอยากไปดูก็ไปดูได้นะ

ถ้าใครอยากถามเรื่องหุ่น เรื่องกับข้าว กินอะไรยังไงก็ถามได้นะ ตอนแรกมีเพจ แต่เขียนอะไรเป็นทางการไม่ค่อยเก่ง ชอบพูดภาษานักเลงมากกว่า แหะๆ

แล้วก็คำพูดคำจาในไอจีก็จะเป็นแบบนี้ จะสอนตัวเองตลอด เวลาเหนื่อยก็จะมาดูว่าเรามาไกลแค่ไหนแล้วนะ

อยากให้ทุกคนทำให้ได้อะ ทำอะไรก็ได้อะ ยังไงทุกคนก็ทำได้ ตังไม่มีอ่อ หาวิธีอื่นเอา ถ้ามันไม่มี ก็หาวิธีหาตัง เห็นมะ แค่นี้เอง คือมันไม่ยากหรอกเว่ย ไม่สู้มากกว่า โถ่ว (โทดที ฟิวมันมา) 555

ละถ้าใครสงสัยเรื่องหลับตานึกภาพนะ ทักมา จิไปสอน
https://www.instagram.com/kodchamoth/

จุ้บๆ
ชื่อสินค้า:   มีอยู่อย่างเดียวที่ทำให้ความฝันแกสำเร็จ : )
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่