หลักง่ายๆของการซื้อมาขายไป...
การทำธุรกิจที่ง่ายที่สุด รวดเร็วที่สุด คือ การซื้อมาแล้วขายออกไป ซึ่งในปัจจุบัน ไม่ต้องซื้อเก็บไว้ แต่ถ้าหากขายได้แล้วค่อยซื้อเพื่อเอาไปส่งก็มี หรือยิ่งกว่านั้น ตอนซื้อได้เครดิตนาน แต่ตอนขายเก็บเงินสด ทั้งหมดเหล่านี้ เรียกว่า ซื้อมาขายไป ทั้งนั้น
หัวใจของซื้อมาขายไปมี 3 ขั้นตอนคือ
1. รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร?
2. จัดหาสิ่งที่ต้องการมานำเสนอขายให้กับกลุ่มเป้าหมาย
3. ส่งมอบสินค้า และ รับเงิน
แต่หลักการที่จะทำธุรกิจคือ
"
ซื้อของราคาถูก ขายราคาแพง"
ยิ่งซื้อได้ราคาถูกเท่าไหร่ ก็จะกำไรมากขึ้นเท่านั้น
การเลือกสินค้าที่ดูมีราคาแพง หรือ เป็นความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้สินค้าสามารถมีมูลค่ามากกว่า ราคาซื้อมา ราคาขายจึงสูงตาม
ยกตัวอย่าง ที่เห็นง่ายๆ มีการขายกาแฟ 3 in 1 ต้นทุนซองละ 3-5 บาท แต่ขายแก้วละ 10 บาท แค่เสีย เครื่องต้มน้ำร้อน แก้วใส่กาแฟ และน้ำ
ในการทำธุรกิจจริง จะดูถึงความต้องการ และใช้กลยุทธ์ มาดำเนินการ เช่น ขายสินค้า 20 บาท เพราะความต้องการสินค้าราคาถูก ทำให้ไปตามโรงงานเหมาเอาของ ที่โรงงานโล๊ะล้างสตีอก มาขาย ซึ่งต้นทุนต่อชิ้น จะมีตั้งแต่ 2-15 บาท มาขายเหมารวมราคา 20 บาท เป็นต้น
หรือบางครั้ง แค่สินค้าดูดี อย่างเช่น สร้อยเงิน จี้เพชรเลี้ยง ทับทิม พลอย ฯลฯ ดูมีมูลค่า ราคาน่าจะแพง แต่กลับสามารถซื้อได้ถูกมาก เวลาขายก็จะเพิ่มราคาจนมันมีมูลค่าจริงๆ
บางคนสั่งผลิตสินค้าเช่นเครื่องสำอางค์ มาขายส่งให้ ผู้ขายในอินเทอร์เน็ต ก่อนขายให้ผู้บริโภคอีกที เพราะการสั่งผลิตต้องซื้อในปริมาณมากๆ ราคาถึงจะถูกลง คนอยากจะขายไม่มีทุนในการสั่งผลิตเลยต้องรับจากคนกลางอีกทีหนึ่ง...
ประเด็นคือ หาสินค้าได้จากที่ไหน โรงงาน ผู้นำเข้า หรือ จะหาเองจากอินเทอร์เน็ต...
ทั้งนี้จะมีบางคน เห็นสินค้าใน อินเทอร์เน็ตราคาถูกมาก ก็นำมาขายในราคาแพง โดยยังไม่ได้ซื้อสินค้ามา แต่เมื่อมีผู้ซื้อ ค่อยสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต แล้วขายให้กับผู้ซื้ออีกที...
ทั้งหมดแล้ว เป็นการ ซื้อขาย ตามความพึงพอใจของผู้ซื้อ ณ เวลานั้น ถ้ามองว่า ผู้ซื้อจะรู้สึกอย่างไร ถ้ารู้ว่าต้นทุนสินค้ามีมูลค่าที่ถูกมากแล้วมาขายแพง ก็ย่อมรู้สึกไม่พอใจ และนั่นเป็นสิ่งที่ ผู้ประกอบการต้องเผชิญจริงๆทุกราย เพราะ จะให้ทุกคนพอใจในทุกเรื่องเป็นไม่มี ดังนั้น การซื้อสินค้ามาขายก็ควรซื้อสินค้าในแหล่งที่ กลุ่มเป้าหมาย ไม่สามารถหาซื้อได้มาขาย ไม่เช่นนั้น โอกาสการขายก็จะลดลง ภาพลักษณ์ขององค์กรก็จะแย่ตามไปด้วย...
(เขียนเล่นๆไว้นานแล้ว...)
หลักง่ายๆของการซื้อมาขายไป...
การทำธุรกิจที่ง่ายที่สุด รวดเร็วที่สุด คือ การซื้อมาแล้วขายออกไป ซึ่งในปัจจุบัน ไม่ต้องซื้อเก็บไว้ แต่ถ้าหากขายได้แล้วค่อยซื้อเพื่อเอาไปส่งก็มี หรือยิ่งกว่านั้น ตอนซื้อได้เครดิตนาน แต่ตอนขายเก็บเงินสด ทั้งหมดเหล่านี้ เรียกว่า ซื้อมาขายไป ทั้งนั้น
หัวใจของซื้อมาขายไปมี 3 ขั้นตอนคือ
1. รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร?
2. จัดหาสิ่งที่ต้องการมานำเสนอขายให้กับกลุ่มเป้าหมาย
3. ส่งมอบสินค้า และ รับเงิน
แต่หลักการที่จะทำธุรกิจคือ
"ซื้อของราคาถูก ขายราคาแพง"
ยิ่งซื้อได้ราคาถูกเท่าไหร่ ก็จะกำไรมากขึ้นเท่านั้น
การเลือกสินค้าที่ดูมีราคาแพง หรือ เป็นความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้สินค้าสามารถมีมูลค่ามากกว่า ราคาซื้อมา ราคาขายจึงสูงตาม
ยกตัวอย่าง ที่เห็นง่ายๆ มีการขายกาแฟ 3 in 1 ต้นทุนซองละ 3-5 บาท แต่ขายแก้วละ 10 บาท แค่เสีย เครื่องต้มน้ำร้อน แก้วใส่กาแฟ และน้ำ
ในการทำธุรกิจจริง จะดูถึงความต้องการ และใช้กลยุทธ์ มาดำเนินการ เช่น ขายสินค้า 20 บาท เพราะความต้องการสินค้าราคาถูก ทำให้ไปตามโรงงานเหมาเอาของ ที่โรงงานโล๊ะล้างสตีอก มาขาย ซึ่งต้นทุนต่อชิ้น จะมีตั้งแต่ 2-15 บาท มาขายเหมารวมราคา 20 บาท เป็นต้น
หรือบางครั้ง แค่สินค้าดูดี อย่างเช่น สร้อยเงิน จี้เพชรเลี้ยง ทับทิม พลอย ฯลฯ ดูมีมูลค่า ราคาน่าจะแพง แต่กลับสามารถซื้อได้ถูกมาก เวลาขายก็จะเพิ่มราคาจนมันมีมูลค่าจริงๆ
บางคนสั่งผลิตสินค้าเช่นเครื่องสำอางค์ มาขายส่งให้ ผู้ขายในอินเทอร์เน็ต ก่อนขายให้ผู้บริโภคอีกที เพราะการสั่งผลิตต้องซื้อในปริมาณมากๆ ราคาถึงจะถูกลง คนอยากจะขายไม่มีทุนในการสั่งผลิตเลยต้องรับจากคนกลางอีกทีหนึ่ง...
ประเด็นคือ หาสินค้าได้จากที่ไหน โรงงาน ผู้นำเข้า หรือ จะหาเองจากอินเทอร์เน็ต...
ทั้งนี้จะมีบางคน เห็นสินค้าใน อินเทอร์เน็ตราคาถูกมาก ก็นำมาขายในราคาแพง โดยยังไม่ได้ซื้อสินค้ามา แต่เมื่อมีผู้ซื้อ ค่อยสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต แล้วขายให้กับผู้ซื้ออีกที...
ทั้งหมดแล้ว เป็นการ ซื้อขาย ตามความพึงพอใจของผู้ซื้อ ณ เวลานั้น ถ้ามองว่า ผู้ซื้อจะรู้สึกอย่างไร ถ้ารู้ว่าต้นทุนสินค้ามีมูลค่าที่ถูกมากแล้วมาขายแพง ก็ย่อมรู้สึกไม่พอใจ และนั่นเป็นสิ่งที่ ผู้ประกอบการต้องเผชิญจริงๆทุกราย เพราะ จะให้ทุกคนพอใจในทุกเรื่องเป็นไม่มี ดังนั้น การซื้อสินค้ามาขายก็ควรซื้อสินค้าในแหล่งที่ กลุ่มเป้าหมาย ไม่สามารถหาซื้อได้มาขาย ไม่เช่นนั้น โอกาสการขายก็จะลดลง ภาพลักษณ์ขององค์กรก็จะแย่ตามไปด้วย...
(เขียนเล่นๆไว้นานแล้ว...)