ลำบากใจกับพี่สาวมากค่ะ คือส่วนดี แกก็มีอยู่นะคะ เช่น ให้คำปรึกษาเรื่องต่างๆ แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่โอเคค่ะ
คือว่าชอบเอาไปไหนแล้วมาเรียกเก็บเงินทีหลัง เมื่อก่อนบอกว่าจะให้เราไปขายของที่ร้าน จะรับผิดชอบค่าที่อยู่
ทั้งที่เรามีที่อยู่แล้ว สรุปพอไปจริง ไม่ว่าจะกินอะไร ซื้ออะไรในร้าน แกจะจดบัญชีไว้แล้วไปเก็บเงินที่แม่และแม่ก็เป็นคนให้ค่าอยู่ค่ากินอีก
รวมทั้งค่าที่พักด้วย กลายเป็นว่าเอาเราไปทำงานให้และต้องออกทุกอย่างเอง เราเลยกลับมาอยู่บ้านตามเดิม
ล่าสุดชวนไปเที่ยว อยู่ๆมาชวนแล้วไม่แจงค่าใช้จ่าย ไปๆ มาๆ ไปเรียกเก็บที่แม่เกือบหมื่น
แม่ก็มาบอกเรา ถามว่าเราอยากไปไหม พี่บอกคุยรายละเอียดกับเราเรียบร้อยแล้ว
เราก็งงเพราะเขาเพิ่งบอกเองว่าจะไปเที่ยว พี่ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย เราเพิ่งซื้อรถเอง ภาระเยอะด้วย
เป็นปัญหาหลายครั้งจนหลังๆ มาเราไม่ค่อยเชื่อแกแล้วอ่ะค่ะ อย่างเวลาเอาไปไหน ชอบเก็บรายการไว้แล้วไปเรียกเก็บที่แม่
เราเลยบอกพี่สาวว่ายกเลิกได้มั้ย เรามีธุระไม่ได้ไป ก็มาพูดอีกว่าตั๋วคืนไม่ได้ ถ้าไม่ไปก็คือเสียเงินฟรี
แต่เราไม่อยากไป เพราะพ่อแม่ไม่สบายใจ อีกอย่างแกพยายามหาชาวต่างชาติมาให้คุย ไม่ใช่คนรู้จักด้วย เหมือนเขามาหาคู่ชั่วคราว
จากเพื่อนของแฟนแกที่ทำทัวร์ เวลาเราคุยกับใครก็ชอบยุ่ง ทั้งที่พ่อแม่เราไม่ได้ยุ่งอะไรเลย
ประเด็นคือพี่สาวอยากให้เรามีแฟนเป็นชาวต่างชาติ แกจะพูดตลอดว่าไม่เอาคนไทย แต่บอกตรงๆเรากลัวชาวต่างชาติมากกว่า
ตัวแกจะค่อนข้างชอบเที่ยว เมื่อก่อนไป ตปท มา กลับมาป่วย ตอนป่วยทุกคนห่วงมากแต่แกไปคุยกับเพื่อนซะเป็นส่วนใหญ่
ขนาดเราไลน์ไปยังเปิดอ่านทิ้งไว้ ไม่เคยตอบเป็นปีๆ ตอนนั้นกู้เงินนอกระบบจนพ่อต้องไปเคลียร์ให้ถึงจะหลุดมาได้ ชีวิตขาลง ก็ได้พ่อกับแม่ช่วย
แต่แกจะฝังใจกับเรื่องที่ยายเลี้ยงมา ซึ่งเราว่าไม่ถูกนะคะ เพราะว่าพี่ชายกับเราก็ผ่านมือยายมาทั้งนั้น
เมื่อก่อนพ่อแม่ต้องไปทำงาน ตจว หาเงินส่งมา ใจจริงอยากให้แกเลิกคิดเรื่องนี้ เพราะว่าพ่อแม่ยังไงเราก็โกรธไม่ได้ค่ะ
แล้วแกแต่งงานตั้งแต่อายุสิบแปด เลยไม่ได้อยู่กับครอบครัวเข้าใจว่าแกห่างกับครอบครัวเลยคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก
แต่มีหลายครั้งที่พี่สาวออกความคิดให้เราทำโน่นนี่นั่นแล้วทิ้งเราไว้กลางทาง เคยทิ้งคอร์สเรียนภาษาให้พ่อแม่จ่าย
ทั้งที่บอกว่าจะรับผิดชอบให้เองและเป็นคนออกความคิดให้เราไปเรียน ตอนนั้นเรายังเด็ก ไม่มีเงินเลย
บางทีใช้เราเป็นข้ออ้างไปเที่ยวบ้าง เก็บเงินบ้าง มีช่วงหนึ่งให้เราไปเฝ้าร้านส่วนตัวเองไปเที่ยว จนเราไม่ไปเลยค่ะ
เพราะไม่งั้นแกจะไปเที่ยวเรื่อยๆไม่อยู่ร้าน ตอนนี้เราเลยเลือกเงียบ เพราะถ้าไปต้องมีรายการมาเก็บเงินที่แม่อีก
ลำบากใจกับพี่สาวมากค่ะ
คือว่าชอบเอาไปไหนแล้วมาเรียกเก็บเงินทีหลัง เมื่อก่อนบอกว่าจะให้เราไปขายของที่ร้าน จะรับผิดชอบค่าที่อยู่
ทั้งที่เรามีที่อยู่แล้ว สรุปพอไปจริง ไม่ว่าจะกินอะไร ซื้ออะไรในร้าน แกจะจดบัญชีไว้แล้วไปเก็บเงินที่แม่และแม่ก็เป็นคนให้ค่าอยู่ค่ากินอีก
รวมทั้งค่าที่พักด้วย กลายเป็นว่าเอาเราไปทำงานให้และต้องออกทุกอย่างเอง เราเลยกลับมาอยู่บ้านตามเดิม
ล่าสุดชวนไปเที่ยว อยู่ๆมาชวนแล้วไม่แจงค่าใช้จ่าย ไปๆ มาๆ ไปเรียกเก็บที่แม่เกือบหมื่น
แม่ก็มาบอกเรา ถามว่าเราอยากไปไหม พี่บอกคุยรายละเอียดกับเราเรียบร้อยแล้ว
เราก็งงเพราะเขาเพิ่งบอกเองว่าจะไปเที่ยว พี่ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย เราเพิ่งซื้อรถเอง ภาระเยอะด้วย
เป็นปัญหาหลายครั้งจนหลังๆ มาเราไม่ค่อยเชื่อแกแล้วอ่ะค่ะ อย่างเวลาเอาไปไหน ชอบเก็บรายการไว้แล้วไปเรียกเก็บที่แม่
เราเลยบอกพี่สาวว่ายกเลิกได้มั้ย เรามีธุระไม่ได้ไป ก็มาพูดอีกว่าตั๋วคืนไม่ได้ ถ้าไม่ไปก็คือเสียเงินฟรี
แต่เราไม่อยากไป เพราะพ่อแม่ไม่สบายใจ อีกอย่างแกพยายามหาชาวต่างชาติมาให้คุย ไม่ใช่คนรู้จักด้วย เหมือนเขามาหาคู่ชั่วคราว
จากเพื่อนของแฟนแกที่ทำทัวร์ เวลาเราคุยกับใครก็ชอบยุ่ง ทั้งที่พ่อแม่เราไม่ได้ยุ่งอะไรเลย
ประเด็นคือพี่สาวอยากให้เรามีแฟนเป็นชาวต่างชาติ แกจะพูดตลอดว่าไม่เอาคนไทย แต่บอกตรงๆเรากลัวชาวต่างชาติมากกว่า
ตัวแกจะค่อนข้างชอบเที่ยว เมื่อก่อนไป ตปท มา กลับมาป่วย ตอนป่วยทุกคนห่วงมากแต่แกไปคุยกับเพื่อนซะเป็นส่วนใหญ่
ขนาดเราไลน์ไปยังเปิดอ่านทิ้งไว้ ไม่เคยตอบเป็นปีๆ ตอนนั้นกู้เงินนอกระบบจนพ่อต้องไปเคลียร์ให้ถึงจะหลุดมาได้ ชีวิตขาลง ก็ได้พ่อกับแม่ช่วย
แต่แกจะฝังใจกับเรื่องที่ยายเลี้ยงมา ซึ่งเราว่าไม่ถูกนะคะ เพราะว่าพี่ชายกับเราก็ผ่านมือยายมาทั้งนั้น
เมื่อก่อนพ่อแม่ต้องไปทำงาน ตจว หาเงินส่งมา ใจจริงอยากให้แกเลิกคิดเรื่องนี้ เพราะว่าพ่อแม่ยังไงเราก็โกรธไม่ได้ค่ะ
แล้วแกแต่งงานตั้งแต่อายุสิบแปด เลยไม่ได้อยู่กับครอบครัวเข้าใจว่าแกห่างกับครอบครัวเลยคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก
แต่มีหลายครั้งที่พี่สาวออกความคิดให้เราทำโน่นนี่นั่นแล้วทิ้งเราไว้กลางทาง เคยทิ้งคอร์สเรียนภาษาให้พ่อแม่จ่าย
ทั้งที่บอกว่าจะรับผิดชอบให้เองและเป็นคนออกความคิดให้เราไปเรียน ตอนนั้นเรายังเด็ก ไม่มีเงินเลย
บางทีใช้เราเป็นข้ออ้างไปเที่ยวบ้าง เก็บเงินบ้าง มีช่วงหนึ่งให้เราไปเฝ้าร้านส่วนตัวเองไปเที่ยว จนเราไม่ไปเลยค่ะ
เพราะไม่งั้นแกจะไปเที่ยวเรื่อยๆไม่อยู่ร้าน ตอนนี้เราเลยเลือกเงียบ เพราะถ้าไปต้องมีรายการมาเก็บเงินที่แม่อีก