"กรี๊ดดด........"
สองมือสองเท้าของหญิงสาวพยายามดิ้นรนไขว่คว้าหาที่ยึดเหนี่ยวไปรอบตัวอย่างสะเปะสะปะและอย่างสิ้นหวัง ความกลัวตายจู่โจมครอบงำจิตใจจนถึงขีดสุด ในขณะที่ร่างกายดิ่งวูบลงสู่เบื้องล่างอันมืดดำ และหูได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ชนิดหนึ่งดังก้องเขย่าขวัญเธอกระเจิง
แล้วฉับพลันทันใดนั้น เธอก็สะดุ้งตื่นและทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งบนเตียง เหงื่อแตกเป็นเม็ดๆพราวไปทั่วใบหน้า หอบหายใจ
"ฝันไปหรือเนี่ย...ทำไมมันเหมือนจริงเหลือเกิน" เธอนึกในใจ
ยินเสียงตัวเองถอนใจยาวอย่างโล่งอก ท่ามกลางแสงสลัว ๆ ในห้องนั้น
หญิงสาวตัดสินใจลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าอาภรณ์บางชิ้น....
แต่แล้ว เธอก็ฉุกคิด
"นี่มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วนี่นา...."
เธอตัดสินใจ และมุ่งมั่น ....
มันจะต้องไม่จบลงเหมือนอย่างในฝันร้ายที่ผ่านมา...
เธอจึงหันกลับไปหาเสื้อผ้าทั้งหมดที่เหลือซึ่งกองอยู่บนพื้นข้างเตียงด้านขวา ก้มลงหยิบมาสวมใส่ แล้วค่อยๆ ก้าวเท้าเดินไปที่ประตู เธออุทานออกมาคำหนึ่งเมื่อปลายนิ้วเท้าไปชนเข้ากับของแข็งบางอย่างบนพื้นห้อง คงเป็นหินอะไรสักอย่างที่นำมาตั้งประดับ เธอขยับฝ่าเท้าอย่างระมัดระวังกว่าเดิม เดินไปจนถึงบานประตูสีขาว....
นั่นไง....เหมือนในความฝันอีกแล้ว....
รู้สึกใจเต้นระทึก และสติสัมปชัญญะตื่นตัวเต็มที่ เธอบอกกับตัวเอง จะมีความผิดพลาดใดๆอีกไม่ได้เป็นอันขาด...
เธอค่อย ๆ หมุนลูกบิดที่ประตู ดึงบานประตูออกอย่างช้า ๆ
แสงไฟสีขาวนวลจากด้านนอกสาดเข้ามา เหมือนในความฝันอันน่าพรั่นพรึงนั้นอีกครั้ง เธอหันขวับกลับไปมองสิ่งที่ปลายนิ้วเท้าของตัวเองชนเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
มันดูไม่ชัดเจนในสภาวะแสงสลัวข้างใน เท่าที่มองเห็น ก็เหมือนอย่างในความฝันอีกนั่นแหละ ก้อนหินยาว ๆ สีเข้ม ไม่ใหญ่มากนัก วางขนานกับพื้น มันดูเหมือนมีรอยแกะสลักด้วย แต่มองไม่ออกว่าแกะสลักเป็นรูปอะไร...
หญิงสาวเม้มปากขบคิดไม่กี่วินาที แล้วก้าวเข้าไปหามันใกล้ ๆ เพ่งสายตา ก้มลงดู
อ้อ....นี่สินะ....สัตว์ร้ายใต้หลุมลึกมืดดำ ซึ่งเธอเกือบจะได้เป็นอาหารอันโอชะของมันแล้วถ้าไม่โชคดีตื่นขึ้นมาเสียก่อน
หญิงสาวผละจากจระเข้หินแกะสลักตัวนั้น เดินออกจากประตู เดินไปตามทางเดินของห้องโถงซึ่งมีเปลือกหอยชิ้นเล็ก ๆ ร้อยต่อ ๆ กันทำเป็นม่านยาวเกือบถึงพื้นหลายสิบเส้น เปลือกหอยเหล่านั้นสะท้อนแสงจากโคมไฟระยิบระยับ พอเธอแหวกมันออก มันก็กระทบกันเสียงดังแปลก ๆ
เหมือนในฝันอีกแล้ว....เธอนึกด้วยใจเต้นระทึกมากยิ่งขึ้น
เธอมองไปที่ราวระเบียง ซึ่งเป็นที่ยืนชมวิวข้างล่าง มองต่อไป เห็นผืนน้ำนิ่งในสระปูนทรงกลมกว้างพอ ๆ กับลานบ้าน
นั่นไง....เขายืนอยู่ตรงนั้น...
เธอสูดลมหายใจลึก เตรียมตัวเผชิญกับเหตุการณ์ต่อไปข้างหน้า
ชายคนนั้นหันมามองเธอ ดูท่าทางเขาแปลกใจเล็กน้อย
เธอเดินเข้าไปหาเขา และเขาอ้าแขนรอรับเธอ ซึ่งเธอก็ยอมเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแต่โดยดี สวมกอดเขาไว้ด้วย
เพียงแต่ ความรู้สึกในครั้งนี้ มิใช่ความหลงใหลด้วยเสน่หาซึ่งออกมาจากหัวใจเหมือนในฝันไม่....
“นอนไม่หลับ...หรือกลัวผมหนี” เสียงเขาสัพยอก
เธอรู้สึกเสมือนหนึ่งกำลังแสดงหนังหริอละคร ตามบทซึ่งได้มาจากความฝัน
“แอบออกมาทำอะไรคนเดียวคะ ?”
เธอตั้งคำถามกับเขาโดยไม่ตอบสิ่งที่เขาถาม โดยยังคงซบอกเขาอยู่อย่างนั้น
เขาหัวเราะในลำคอ....ด้วยน้ำเสียงที่เธอเคยรู้สึกมาก่อนแล้วในความฝันว่าว่ามันฟังดูทะแm่ง ๆ ไม่น่าฟังสักเท่าไร แต่ขณะนี้เธอเข้าใจแล้วว่ามันเป็นเพราะเหตุใด....
“ใจคุณเต้นแรงจัง” เธอยังคงพูดด้วยเสียงอู้อี้อยู่กับหน้าอกเขา
“เพราะได้กอดคุณน่ะสิ” เขากระซิบตอบ และสัมผัสความนุ่มเนียนของผิวกายเธอบ้าง ใช่...ไปตามบทต่อไปเรื่อยๆ....
แล้วหญิงสาวก็เอ่ยถึงสระน้ำข้างล่างนั้น “สระสวยนะคะ”
“ชอบใช่มั้ย ?” เขาลูบไล้ผมยาวสลวยของเธอ และสอดมือเข้าไปถูไถลำคอของเธอ ก่อนพูดต่อ “อยากอยู่กับผมที่นี่มั้ย ?”
เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา และตอบทันที ซึ่งแตกต่างจากในความฝันที่เธอได้แต่หลับตาและโอบกอดเขาไว้แน่นโดยไม่ตอบ
“ค่ะ” แล้วจุมพิตปลายคางของเขาเพื่อเอาใจ
เขายิ้ม แล้วพาเธอออกเดิน ผ่านราวระเบียงไปช้า ๆ
เขาเอ่ยถาม ในขณะที่กำลังพาเธอเดินไปหน้าผนังประตูไม้บานใหญ่เหมือนประตูเรือนโบราณนั้น....ซึ่งถูกใส่สลักไว้อย่างแน่นหนา
"ไม่สงสัยหรือ ว่าผมกำลังพาคุณไปไหน ?"
เธอตอบเขา ขณะที่มือซ้ายล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ตโดยที่เขาไม่เห็น เพราะกำลังหันหน้าเข้าหาประตูและเอื้อมมือออกไป ค่อย ๆ ถอดสลักออก และพิงมันไว้ที่ผนัง
"คุณพาฉันไปไหน ฉันก็จะไปค่ะ"
"ว่าง่ายดี !"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป และหันกลับมาทำท่าจะรัดร่างของเธอเอาไว้โดยจะมายืนซ้อนเข้าข้างหลังเธอ แต่แล้ว
"แปร๊บบบบ......."
"โอ๊ะ....."
ร่างของเขาผงะ เมื่อโดนหญิงสาวกลับหลังหันอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ และจี้เข้าที่เอวด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า !
เธอตามเข้าไปจี้เขาซ้ำ กดเน้นๆที่หน้าอกข้างซ้าย
ใช่....ที่ซึ่งหัวใจอำมหิตของเขาตั้งอยู่
"แปร๊บบบบบบบบบบ........."
ร่างของเขาชักกระตุกด้วยพลังกระแสไฟฟ้าแรงสูงถึงหลักหมื่นโวลต์จากเครื่องช็อตแบบพกพา มองเห็นแสงของกระแสไฟฟ้าแปลบปลาบวิ่งจากขั้วทั้งสองด้านเชื่อมต่อกันราวกับว่าเธอถือสายฟ้าไว้กับมือ
ไอ้คนโรคจิต ล้มสลบไปกองกับพื้น
หญิงสาวรีบใช้กำลังเท่าที่มีอยู่ ถีบ ดันร่างของมันเข้าไปใกล้ๆโพรงมืดสลัวขนาดใหญ่ซึ่งมองเห็นอยู่ตรงหน้าหลังจากที่ไอ้ผู้ชายโรคจิตมันถอดสลักออกและเปิดบานประตูอ้าไว้รอนั้น จนถึงปากโพรง
แล้วเธอก็ได้ยินเสียงคำรามดังขึ้นมาจากเบื้องล่างโพรงดำมืดนั้น
"ฮึ่มมมมมมม......"
เธอรวบรวมกำลังครั้งสุดท้าย กระโดดถีบไอ้คนโรคจิตด้วยสองขา ส่งร่างของมันตกลงไปในโพรงมรณะนั้น ก่อนจะยืนหอบหายใจอยู่เหนือโพรงนั้น แล้วร้องตะโกนอย่างสะใจ
"แDกพ่อเมิงซะเถอะโว้ยย !"
แล้วรีบดึงบานประตูปิด ใส่สลักลงอย่างแน่นหนาเหมือนเดิม แล้วเดินจากไป....ท่ามกลางความมืดสลัวแห่งราตรีสีเขียวตะไคร่
ขณะที่กำลังเดินจากไปนั้น เธอยังได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากก้นหลุมลึกอีกหลายครั้ง
"อ๊ากกกกก........อ๊ากกกก......อ๊ากกกกกกกกกก..............."
ขอขอบคุณ คุณเล็ก ladylongleg ผู้แต่งภาค 1 ครับ
💦🌊💦 THE WEEKLY GLOVES ถุงมือนอกรอบ กรรมการเล่นเอง! เรื่องสั้น#28 "ราตรีสีเขียวตะไคร่ ภาค 2" 💦🌊💦
https://pantip.com/topic/37440975
"กรี๊ดดด........"
สองมือสองเท้าของหญิงสาวพยายามดิ้นรนไขว่คว้าหาที่ยึดเหนี่ยวไปรอบตัวอย่างสะเปะสะปะและอย่างสิ้นหวัง ความกลัวตายจู่โจมครอบงำจิตใจจนถึงขีดสุด ในขณะที่ร่างกายดิ่งวูบลงสู่เบื้องล่างอันมืดดำ และหูได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ชนิดหนึ่งดังก้องเขย่าขวัญเธอกระเจิง
แล้วฉับพลันทันใดนั้น เธอก็สะดุ้งตื่นและทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งบนเตียง เหงื่อแตกเป็นเม็ดๆพราวไปทั่วใบหน้า หอบหายใจ
"ฝันไปหรือเนี่ย...ทำไมมันเหมือนจริงเหลือเกิน" เธอนึกในใจ
ยินเสียงตัวเองถอนใจยาวอย่างโล่งอก ท่ามกลางแสงสลัว ๆ ในห้องนั้น
หญิงสาวตัดสินใจลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าอาภรณ์บางชิ้น....
แต่แล้ว เธอก็ฉุกคิด
"นี่มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วนี่นา...."
เธอตัดสินใจ และมุ่งมั่น ....มันจะต้องไม่จบลงเหมือนอย่างในฝันร้ายที่ผ่านมา...
เธอจึงหันกลับไปหาเสื้อผ้าทั้งหมดที่เหลือซึ่งกองอยู่บนพื้นข้างเตียงด้านขวา ก้มลงหยิบมาสวมใส่ แล้วค่อยๆ ก้าวเท้าเดินไปที่ประตู เธออุทานออกมาคำหนึ่งเมื่อปลายนิ้วเท้าไปชนเข้ากับของแข็งบางอย่างบนพื้นห้อง คงเป็นหินอะไรสักอย่างที่นำมาตั้งประดับ เธอขยับฝ่าเท้าอย่างระมัดระวังกว่าเดิม เดินไปจนถึงบานประตูสีขาว....
นั่นไง....เหมือนในความฝันอีกแล้ว....
รู้สึกใจเต้นระทึก และสติสัมปชัญญะตื่นตัวเต็มที่ เธอบอกกับตัวเอง จะมีความผิดพลาดใดๆอีกไม่ได้เป็นอันขาด...
เธอค่อย ๆ หมุนลูกบิดที่ประตู ดึงบานประตูออกอย่างช้า ๆ
แสงไฟสีขาวนวลจากด้านนอกสาดเข้ามา เหมือนในความฝันอันน่าพรั่นพรึงนั้นอีกครั้ง เธอหันขวับกลับไปมองสิ่งที่ปลายนิ้วเท้าของตัวเองชนเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
มันดูไม่ชัดเจนในสภาวะแสงสลัวข้างใน เท่าที่มองเห็น ก็เหมือนอย่างในความฝันอีกนั่นแหละ ก้อนหินยาว ๆ สีเข้ม ไม่ใหญ่มากนัก วางขนานกับพื้น มันดูเหมือนมีรอยแกะสลักด้วย แต่มองไม่ออกว่าแกะสลักเป็นรูปอะไร...
หญิงสาวเม้มปากขบคิดไม่กี่วินาที แล้วก้าวเข้าไปหามันใกล้ ๆ เพ่งสายตา ก้มลงดู
อ้อ....นี่สินะ....สัตว์ร้ายใต้หลุมลึกมืดดำ ซึ่งเธอเกือบจะได้เป็นอาหารอันโอชะของมันแล้วถ้าไม่โชคดีตื่นขึ้นมาเสียก่อน
หญิงสาวผละจากจระเข้หินแกะสลักตัวนั้น เดินออกจากประตู เดินไปตามทางเดินของห้องโถงซึ่งมีเปลือกหอยชิ้นเล็ก ๆ ร้อยต่อ ๆ กันทำเป็นม่านยาวเกือบถึงพื้นหลายสิบเส้น เปลือกหอยเหล่านั้นสะท้อนแสงจากโคมไฟระยิบระยับ พอเธอแหวกมันออก มันก็กระทบกันเสียงดังแปลก ๆ
เหมือนในฝันอีกแล้ว....เธอนึกด้วยใจเต้นระทึกมากยิ่งขึ้น
เธอมองไปที่ราวระเบียง ซึ่งเป็นที่ยืนชมวิวข้างล่าง มองต่อไป เห็นผืนน้ำนิ่งในสระปูนทรงกลมกว้างพอ ๆ กับลานบ้าน
นั่นไง....เขายืนอยู่ตรงนั้น...
เธอสูดลมหายใจลึก เตรียมตัวเผชิญกับเหตุการณ์ต่อไปข้างหน้า
ชายคนนั้นหันมามองเธอ ดูท่าทางเขาแปลกใจเล็กน้อย
เธอเดินเข้าไปหาเขา และเขาอ้าแขนรอรับเธอ ซึ่งเธอก็ยอมเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแต่โดยดี สวมกอดเขาไว้ด้วย
เพียงแต่ ความรู้สึกในครั้งนี้ มิใช่ความหลงใหลด้วยเสน่หาซึ่งออกมาจากหัวใจเหมือนในฝันไม่....
“นอนไม่หลับ...หรือกลัวผมหนี” เสียงเขาสัพยอก
เธอรู้สึกเสมือนหนึ่งกำลังแสดงหนังหริอละคร ตามบทซึ่งได้มาจากความฝัน
“แอบออกมาทำอะไรคนเดียวคะ ?”
เธอตั้งคำถามกับเขาโดยไม่ตอบสิ่งที่เขาถาม โดยยังคงซบอกเขาอยู่อย่างนั้น
เขาหัวเราะในลำคอ....ด้วยน้ำเสียงที่เธอเคยรู้สึกมาก่อนแล้วในความฝันว่าว่ามันฟังดูทะแm่ง ๆ ไม่น่าฟังสักเท่าไร แต่ขณะนี้เธอเข้าใจแล้วว่ามันเป็นเพราะเหตุใด....
“ใจคุณเต้นแรงจัง” เธอยังคงพูดด้วยเสียงอู้อี้อยู่กับหน้าอกเขา
“เพราะได้กอดคุณน่ะสิ” เขากระซิบตอบ และสัมผัสความนุ่มเนียนของผิวกายเธอบ้าง ใช่...ไปตามบทต่อไปเรื่อยๆ....
แล้วหญิงสาวก็เอ่ยถึงสระน้ำข้างล่างนั้น “สระสวยนะคะ”
“ชอบใช่มั้ย ?” เขาลูบไล้ผมยาวสลวยของเธอ และสอดมือเข้าไปถูไถลำคอของเธอ ก่อนพูดต่อ “อยากอยู่กับผมที่นี่มั้ย ?”
เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา และตอบทันที ซึ่งแตกต่างจากในความฝันที่เธอได้แต่หลับตาและโอบกอดเขาไว้แน่นโดยไม่ตอบ
“ค่ะ” แล้วจุมพิตปลายคางของเขาเพื่อเอาใจ
เขายิ้ม แล้วพาเธอออกเดิน ผ่านราวระเบียงไปช้า ๆ
เขาเอ่ยถาม ในขณะที่กำลังพาเธอเดินไปหน้าผนังประตูไม้บานใหญ่เหมือนประตูเรือนโบราณนั้น....ซึ่งถูกใส่สลักไว้อย่างแน่นหนา
"ไม่สงสัยหรือ ว่าผมกำลังพาคุณไปไหน ?"
เธอตอบเขา ขณะที่มือซ้ายล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ตโดยที่เขาไม่เห็น เพราะกำลังหันหน้าเข้าหาประตูและเอื้อมมือออกไป ค่อย ๆ ถอดสลักออก และพิงมันไว้ที่ผนัง
"คุณพาฉันไปไหน ฉันก็จะไปค่ะ"
"ว่าง่ายดี !"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป และหันกลับมาทำท่าจะรัดร่างของเธอเอาไว้โดยจะมายืนซ้อนเข้าข้างหลังเธอ แต่แล้ว
"แปร๊บบบบ......."
"โอ๊ะ....."
ร่างของเขาผงะ เมื่อโดนหญิงสาวกลับหลังหันอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ และจี้เข้าที่เอวด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า !
เธอตามเข้าไปจี้เขาซ้ำ กดเน้นๆที่หน้าอกข้างซ้าย ใช่....ที่ซึ่งหัวใจอำมหิตของเขาตั้งอยู่
"แปร๊บบบบบบบบบบ........."
ร่างของเขาชักกระตุกด้วยพลังกระแสไฟฟ้าแรงสูงถึงหลักหมื่นโวลต์จากเครื่องช็อตแบบพกพา มองเห็นแสงของกระแสไฟฟ้าแปลบปลาบวิ่งจากขั้วทั้งสองด้านเชื่อมต่อกันราวกับว่าเธอถือสายฟ้าไว้กับมือ
ไอ้คนโรคจิต ล้มสลบไปกองกับพื้น
หญิงสาวรีบใช้กำลังเท่าที่มีอยู่ ถีบ ดันร่างของมันเข้าไปใกล้ๆโพรงมืดสลัวขนาดใหญ่ซึ่งมองเห็นอยู่ตรงหน้าหลังจากที่ไอ้ผู้ชายโรคจิตมันถอดสลักออกและเปิดบานประตูอ้าไว้รอนั้น จนถึงปากโพรง
แล้วเธอก็ได้ยินเสียงคำรามดังขึ้นมาจากเบื้องล่างโพรงดำมืดนั้น
"ฮึ่มมมมมมม......"
เธอรวบรวมกำลังครั้งสุดท้าย กระโดดถีบไอ้คนโรคจิตด้วยสองขา ส่งร่างของมันตกลงไปในโพรงมรณะนั้น ก่อนจะยืนหอบหายใจอยู่เหนือโพรงนั้น แล้วร้องตะโกนอย่างสะใจ
"แDกพ่อเมิงซะเถอะโว้ยย !"
แล้วรีบดึงบานประตูปิด ใส่สลักลงอย่างแน่นหนาเหมือนเดิม แล้วเดินจากไป....ท่ามกลางความมืดสลัวแห่งราตรีสีเขียวตะไคร่
ขณะที่กำลังเดินจากไปนั้น เธอยังได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากก้นหลุมลึกอีกหลายครั้ง
"อ๊ากกกกก........อ๊ากกกก......อ๊ากกกกกกกกกก..............."
ขอขอบคุณ คุณเล็ก ladylongleg ผู้แต่งภาค 1 ครับ