อยู่มาปูนนี้ (อายุเกือบห้าสิบ) ไม่เคยทำพาสปอร์ตหายมาก่อนเลย บัตรประชาชนหรือใบขับขี่ก็ไม่เคยหาย
แต่มาเสียท่าที่Dhaka Bangladeshเข้าให้ เสียประวัติจริงๆ
หนอนฯบินไปDhaka วันที่6 มีนาคม มีกำหนดออกบูธวันที่8-10
วันที่11-13จะไปเที่ยวเล่นเมืองชายทะเลค๊อกบาซาร์ และเมืองท่าจิตตะกอง
ก่อนที่จะบินไปอินเดียวันที่14 เข้าทางกัลกาต้า และบินต่อไปไฮเดอราบัดเพื่อออกบูธงานใหญ่ และฮือ นัดใครต่อใครไว้หลายคน
ทุกอย่างพร้อม วีซ่าอินเดีย ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมแบบจองถูกสุด(คืนเงินไม่ได้) รวมทั้งใจที่ลอยละลิ่วไปรอที่ไฮเดอราบัด
แต่
ทุกๆวัน ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
ณ สถานที่จัดงาน ทุกเช้าทางเจ้าของสถานที่จะมีจดหมายมายื่นให้ถึงบูธทุกวัน ว่าโปรดระวังทรัพย์สินของท่าน
จนกระทั่งวันที่10 ช่วงเย็นที่หนอนฯและเพื่อนเริ่มลงมือเก็บบูธ ดึงโปสเตอร์อย่างระมัดระวังเพราะเราจะเอาไปใช้ที่อินเดีย
แค่เผลอหน่อยเดียว หนอนฯพบว่ากระเป๋าสะพายเฉียงที่เผลอปลดวางชั่วครู่ หายวับไป
เรื่องใหญ่เลย เพราะรับฝากพาสปอร์ตของเพื่อนด้วย หายคู่เลย เพราะเราเป็นบัดดี้กัน
หนอนฯเนี่ย เป็นคนที่นิ่งมากเมื่ออยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่โวยวายสักแอะ
ใจก็คิดนะ ว่าขืนโวย ขืนบ่นหงุงหงิงดิ คนอื่นจะเต้นกว่าเราหลายเท่า เพราะว่า ณ ที่แห่งนั้นมีหนอนฯเป็นผู้หญิงคนเดียว เหล่าเพื่อนร่วมงาน คู่ค้าและคนที่แวดล้อม เป็นชายล้วนๆ

อิอิ
คู่ค้าของหนอนฯที่เป็นเจ้านายใหญ่ (ที่สนิทกับหนอนฯมาก ) ลงมาเต้น แล่นลิ่วลงไปขอดูกล้องวงจรปิด ขอคุยกับทางผู้บริหารสถานที่
เด็กๆลูกทีมแกก็หน้าเสียเพราะกลัวจะถูกด่าว่าดูแลหนอนฯซึ่งเป็นแขก(ค่อนข้างสำคัญ)และเป็นที่ปรึกษาได้ไม่ดีจนเกิดเรื่อง
(วัฒนธรรมการทำงานที่บังกลาเทศที่เจอมากับตัวตลอดสี่ปี ส่วนใหญ่ที่เจอพบว่าเป็นระบบเจ้ายศเจ้าอย่าง แม้ไม่มีวรรณะ แต่ว่าแบ่งชนชั้นกันอย่างเห็นได้ชัดในสังคมที่หนอนฯได้สัมผัสด้วยตัวเอง แถมตกงานกันง่ายมากๆ)
หนอนฯต้องออกโรง ตำหนิตัวเองแบบหน้ายิ้มๆ ชิลล์ๆประมาณ เอาน่า ของมันหายไปแล้วนี่
ต้องช่วยกันน้องๆทีมงานที่ยืนเรียงแถวหน้าจ๋อย หน้าคล้ำๆเข้มๆดูเผือดสีกันเป็นแถวให้สบายใจ ด้วยการไล่กลับไปทำงานต่อ โดยเลือกไว้หนึ่งคนที่ภาษาดีมากเพื่ออยู่ด้วยและเตรียมตัวไปสถานีตำรวจ
รวมทั้งขอโทษฝ่ายเจ้าของสถานที่ว่า "ทีมงานคุณทำทุกอย่างดีแล้ว แต่ดิฉันสะเพร่าเองค่ะ"
แม้ว่าไม่เคยทำเอกสารสำคัญหาย แต่หนอนฯก็มีการเตรียมการเผื่อวันสำคัญแบบนี้ (แม้ไม่อยากใช้ก็ตาม)
ตอนนั้นก็ขอใช้ศูนย์บริการธุรกิจที่สถานที่ออกบูธ จัดการสั่งพิมพ์เอกสารสำคัญที่เก็บไว้ในอีเมล์เสมอ รวมถึงหน้าวีซ่าและตราประทับของการเดินทางเข้าบังกลาเทศครั้งนี้ด้วย หลังจากนั้นก็ฝากฝังทางเจ้าของสถานที่ เผื่อเอาไว้ในกรณีขโมยมันจะใจดี โยนเอกสารเราทิ้งส่งๆไว้ให้พนักงานทำความสะอาดเก็บได้ ได้เอกสารที่ต้องการครบ ก็จัดการเดินทางไปสถานีตำรวจพร้อมกับล่ามของเรา
ไปถึงสถานีตำรวจ ที่ออกจะทรุดโทรมอยู่สักหน่อย พวกเราถูกส่งไปหาตำรวจสาวตาสวย
ล่ามเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
คุณตำรวจสาวตาสวยหยิบกระดาษA4ขาวสะอาดมาให้หนึ่งแผ่น แล้วบอกล่าม " เอ้า เขียนลงไป เป็นภาษาอังกฤษ หายสองคนเขียนใบเดียวก็พอ"
เราก็เขียนๆ เสร็จปุ๊ป คุณตำรวจก็ทำสำเนา ประทับตรา ลงวันที่ให้ แล้วบอกให้เอาตัวจริงไปสถานทูตเพื่อขอพาสปอร์ตชั่วคราว
รวมเวลาเบ็ดเสร็จ แป๊ปเดียวเองค่ะ
หนอนฯทึ่งในความรวดเร็ว เรียบง่าย ได้ใจมากเลย จัดแจงควักของที่ระลึกที่มักมีติดเป้มอบให้คุณตำรวจ พร้อมกับขอถ่ายรูปสองแชะ ก่อนจะล่ำลา
หนอนฯพบว่า สถานที่ซอมซ่อทรุดโทรม แบบฟอร์มอะไรไม่ต้องใช้สักอย่าง (คือคงไม่มีให้ใช้) แต่ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคกับนักเดินทางที่เดือดร้อนมาหาเลย
มันเยี่ยมมาก พูดเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หนอนฯมีประสบการณ์ขึ้นโรงพักที่อิสตันบูล ซึ่งก็ประทับใจในความช่วยเหลือเช่นกันค่ะ
https://pantip.com/topic/36282920
ออกจากโรงพักได้ หนอนฯขอให้
1. ทางน้องทีมงานช่วยแจ้งสายการบินที่หนอนฯจะบินไปค้อกบาซาร์และกลับจากจิตตะกอง ขอใช้สำเนาพาสปอร์ตแทนเล่มจริงที่หาย.........OK.
2. แจ้งสถานทูตไทย รายงานเรื่องที่เกิดขึ้น และขอนัดวันไปทำพาสปอร์ตชั่วคราว.........OK
เมื่อบินกลับมาจากจิตตะกอง เราก็รู้ตัวว่าอดไปอินเดียแน่แล้ว เพราะของที่หายไม่ได้คืน ก็ทำใจ เสียเงินไปหลายบาทแต่ไม่เท่าเสียดายเพราะเสียงาน
หนอนฯเล่าให้เพื่อนฟัง ก็โดนบ่นนิดหน่อยว่าทำของหายอีกแล้ว
ไอ้เราก็แย้งว่า " นี่ไม่เคยทำพาสปอร์ตหายเลยนะ"

เพื่อนก็ว่า " ปีที่แล้วก็มือถือหาย ไม่ใช่เครื่องแรกด้วย กี่เครื่องแล้ว"
หนอน : " สามเครื่อง"
เพื่อน : "ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดเก่าๆบ้างไหม"
หนอน : "ก็ได้อยู่นะ"
เพื่อน : "ยังไง"
หนอน : " ก็เรียนรู้ที่จะไม่หายในประเทศเดิมๆไง "
อิอิ ค่ะ หนอนฯทำมือถือหายที่จีน อินโดนีเซีย และตุรกี ไม่ซ้ำที่เลย
หนอนฯไปรายงานตัวที่สถานทูตไทย ณ กรุงธากา ก็ได้รับความช่วยเหลือจัดการทำเล่มชั่วคราวให้อย่างสะดวกง่ายดายค่ะ
สิ่งที่เตรียมไปเพื่อการนี้ ได้แก่ใบแจ้งความ สำเนาพาสปอร์ตที่หาย สำเนาบัตรประชาชน และรูปถ่าย (ปกติหนอนฯมีติดตัวเวลาเดินทางเสมอ และยังมีไฟล์รูปถ่ายเก็บไว้ในอีเมล์ด้วย) สำเนาหน้าวีซ่า ของพวกนี้ถ่ายเอกสารเอาไว้ด้วย เพื่อตรงจุดไหนจนท.ต้องการเราก็ให้ไปได้เลย
ขอขอบพระคุณสถานทูตไทย ณ กรุงธากาไว้ ณที่นี้อีกครั้งหนึ่งค่ะ หนอนฯประทับใจและอบอุ่นใจมากตั้งแต่ตอนที่เดินเข้าไปในสถานทูตครั้งแรกเลยค่ะ
เอกสารที่ได้ หน้าตาเป็นอย่างนี้ค่ะ

วันเวลาที่ได้ในหนังสือเดินทางชั่วคราว ครอบคลุมการเดินทางกลับ มีเอกสารที่ต้องสำแดงแก่ตม.บังกลาเทศขาออกหนึ่งฉบับ
เมื่อกลับมาถึงไทย ตอนไปยื่นคำร้องขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ต้องเอาเล่มชั่วคราวไปยื่นด้วยนะคะ
หากไม่มีไปยื่น ต้องไปแจ้งความก่อนและนำไปแจ้งความไปขอทำพาสปอร์ตเล่มใหม่
ที่เล่ามานี้ ประสงค์เพื่อให้ทุกท่านระมัดระวังและเตรียมความพร้อมเผื่อเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน
นี่ยังดี ที่ของหายในเมืองที่มีสถานทูตไทย ไม่อยากคิดเลยว่าจะยุ่งยากแค่ไหนถ้าไปหายในเมืองหรือประเทศที่ไม่มีสถานทูตของเราตั้งอยู่
ขอให้ทุกท่านเดินทางอย่างสนุกสนานปลอดภัยนะคะ

.....เล่าเรื่องพาสปอร์ตหายในต่างประเทศ.....
แต่มาเสียท่าที่Dhaka Bangladeshเข้าให้ เสียประวัติจริงๆ
หนอนฯบินไปDhaka วันที่6 มีนาคม มีกำหนดออกบูธวันที่8-10
วันที่11-13จะไปเที่ยวเล่นเมืองชายทะเลค๊อกบาซาร์ และเมืองท่าจิตตะกอง
ก่อนที่จะบินไปอินเดียวันที่14 เข้าทางกัลกาต้า และบินต่อไปไฮเดอราบัดเพื่อออกบูธงานใหญ่ และฮือ นัดใครต่อใครไว้หลายคน
ทุกอย่างพร้อม วีซ่าอินเดีย ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมแบบจองถูกสุด(คืนเงินไม่ได้) รวมทั้งใจที่ลอยละลิ่วไปรอที่ไฮเดอราบัด
แต่
ทุกๆวัน ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
ณ สถานที่จัดงาน ทุกเช้าทางเจ้าของสถานที่จะมีจดหมายมายื่นให้ถึงบูธทุกวัน ว่าโปรดระวังทรัพย์สินของท่าน
จนกระทั่งวันที่10 ช่วงเย็นที่หนอนฯและเพื่อนเริ่มลงมือเก็บบูธ ดึงโปสเตอร์อย่างระมัดระวังเพราะเราจะเอาไปใช้ที่อินเดีย
แค่เผลอหน่อยเดียว หนอนฯพบว่ากระเป๋าสะพายเฉียงที่เผลอปลดวางชั่วครู่ หายวับไป
เรื่องใหญ่เลย เพราะรับฝากพาสปอร์ตของเพื่อนด้วย หายคู่เลย เพราะเราเป็นบัดดี้กัน
หนอนฯเนี่ย เป็นคนที่นิ่งมากเมื่ออยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่โวยวายสักแอะ
ใจก็คิดนะ ว่าขืนโวย ขืนบ่นหงุงหงิงดิ คนอื่นจะเต้นกว่าเราหลายเท่า เพราะว่า ณ ที่แห่งนั้นมีหนอนฯเป็นผู้หญิงคนเดียว เหล่าเพื่อนร่วมงาน คู่ค้าและคนที่แวดล้อม เป็นชายล้วนๆ
คู่ค้าของหนอนฯที่เป็นเจ้านายใหญ่ (ที่สนิทกับหนอนฯมาก ) ลงมาเต้น แล่นลิ่วลงไปขอดูกล้องวงจรปิด ขอคุยกับทางผู้บริหารสถานที่
เด็กๆลูกทีมแกก็หน้าเสียเพราะกลัวจะถูกด่าว่าดูแลหนอนฯซึ่งเป็นแขก(ค่อนข้างสำคัญ)และเป็นที่ปรึกษาได้ไม่ดีจนเกิดเรื่อง
(วัฒนธรรมการทำงานที่บังกลาเทศที่เจอมากับตัวตลอดสี่ปี ส่วนใหญ่ที่เจอพบว่าเป็นระบบเจ้ายศเจ้าอย่าง แม้ไม่มีวรรณะ แต่ว่าแบ่งชนชั้นกันอย่างเห็นได้ชัดในสังคมที่หนอนฯได้สัมผัสด้วยตัวเอง แถมตกงานกันง่ายมากๆ)
หนอนฯต้องออกโรง ตำหนิตัวเองแบบหน้ายิ้มๆ ชิลล์ๆประมาณ เอาน่า ของมันหายไปแล้วนี่
ต้องช่วยกันน้องๆทีมงานที่ยืนเรียงแถวหน้าจ๋อย หน้าคล้ำๆเข้มๆดูเผือดสีกันเป็นแถวให้สบายใจ ด้วยการไล่กลับไปทำงานต่อ โดยเลือกไว้หนึ่งคนที่ภาษาดีมากเพื่ออยู่ด้วยและเตรียมตัวไปสถานีตำรวจ
รวมทั้งขอโทษฝ่ายเจ้าของสถานที่ว่า "ทีมงานคุณทำทุกอย่างดีแล้ว แต่ดิฉันสะเพร่าเองค่ะ"
แม้ว่าไม่เคยทำเอกสารสำคัญหาย แต่หนอนฯก็มีการเตรียมการเผื่อวันสำคัญแบบนี้ (แม้ไม่อยากใช้ก็ตาม)
ตอนนั้นก็ขอใช้ศูนย์บริการธุรกิจที่สถานที่ออกบูธ จัดการสั่งพิมพ์เอกสารสำคัญที่เก็บไว้ในอีเมล์เสมอ รวมถึงหน้าวีซ่าและตราประทับของการเดินทางเข้าบังกลาเทศครั้งนี้ด้วย หลังจากนั้นก็ฝากฝังทางเจ้าของสถานที่ เผื่อเอาไว้ในกรณีขโมยมันจะใจดี โยนเอกสารเราทิ้งส่งๆไว้ให้พนักงานทำความสะอาดเก็บได้ ได้เอกสารที่ต้องการครบ ก็จัดการเดินทางไปสถานีตำรวจพร้อมกับล่ามของเรา
ไปถึงสถานีตำรวจ ที่ออกจะทรุดโทรมอยู่สักหน่อย พวกเราถูกส่งไปหาตำรวจสาวตาสวย
ล่ามเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
คุณตำรวจสาวตาสวยหยิบกระดาษA4ขาวสะอาดมาให้หนึ่งแผ่น แล้วบอกล่าม " เอ้า เขียนลงไป เป็นภาษาอังกฤษ หายสองคนเขียนใบเดียวก็พอ"
เราก็เขียนๆ เสร็จปุ๊ป คุณตำรวจก็ทำสำเนา ประทับตรา ลงวันที่ให้ แล้วบอกให้เอาตัวจริงไปสถานทูตเพื่อขอพาสปอร์ตชั่วคราว
รวมเวลาเบ็ดเสร็จ แป๊ปเดียวเองค่ะ
หนอนฯทึ่งในความรวดเร็ว เรียบง่าย ได้ใจมากเลย จัดแจงควักของที่ระลึกที่มักมีติดเป้มอบให้คุณตำรวจ พร้อมกับขอถ่ายรูปสองแชะ ก่อนจะล่ำลา
หนอนฯพบว่า สถานที่ซอมซ่อทรุดโทรม แบบฟอร์มอะไรไม่ต้องใช้สักอย่าง (คือคงไม่มีให้ใช้) แต่ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคกับนักเดินทางที่เดือดร้อนมาหาเลย
มันเยี่ยมมาก พูดเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ออกจากโรงพักได้ หนอนฯขอให้
1. ทางน้องทีมงานช่วยแจ้งสายการบินที่หนอนฯจะบินไปค้อกบาซาร์และกลับจากจิตตะกอง ขอใช้สำเนาพาสปอร์ตแทนเล่มจริงที่หาย.........OK.
2. แจ้งสถานทูตไทย รายงานเรื่องที่เกิดขึ้น และขอนัดวันไปทำพาสปอร์ตชั่วคราว.........OK
เมื่อบินกลับมาจากจิตตะกอง เราก็รู้ตัวว่าอดไปอินเดียแน่แล้ว เพราะของที่หายไม่ได้คืน ก็ทำใจ เสียเงินไปหลายบาทแต่ไม่เท่าเสียดายเพราะเสียงาน
หนอนฯเล่าให้เพื่อนฟัง ก็โดนบ่นนิดหน่อยว่าทำของหายอีกแล้ว
ไอ้เราก็แย้งว่า " นี่ไม่เคยทำพาสปอร์ตหายเลยนะ"
เพื่อนก็ว่า " ปีที่แล้วก็มือถือหาย ไม่ใช่เครื่องแรกด้วย กี่เครื่องแล้ว"
หนอน : " สามเครื่อง"
เพื่อน : "ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดเก่าๆบ้างไหม"
หนอน : "ก็ได้อยู่นะ"
เพื่อน : "ยังไง"
หนอน : " ก็เรียนรู้ที่จะไม่หายในประเทศเดิมๆไง "
อิอิ ค่ะ หนอนฯทำมือถือหายที่จีน อินโดนีเซีย และตุรกี ไม่ซ้ำที่เลย
หนอนฯไปรายงานตัวที่สถานทูตไทย ณ กรุงธากา ก็ได้รับความช่วยเหลือจัดการทำเล่มชั่วคราวให้อย่างสะดวกง่ายดายค่ะ
สิ่งที่เตรียมไปเพื่อการนี้ ได้แก่ใบแจ้งความ สำเนาพาสปอร์ตที่หาย สำเนาบัตรประชาชน และรูปถ่าย (ปกติหนอนฯมีติดตัวเวลาเดินทางเสมอ และยังมีไฟล์รูปถ่ายเก็บไว้ในอีเมล์ด้วย) สำเนาหน้าวีซ่า ของพวกนี้ถ่ายเอกสารเอาไว้ด้วย เพื่อตรงจุดไหนจนท.ต้องการเราก็ให้ไปได้เลย
ขอขอบพระคุณสถานทูตไทย ณ กรุงธากาไว้ ณที่นี้อีกครั้งหนึ่งค่ะ หนอนฯประทับใจและอบอุ่นใจมากตั้งแต่ตอนที่เดินเข้าไปในสถานทูตครั้งแรกเลยค่ะ
เอกสารที่ได้ หน้าตาเป็นอย่างนี้ค่ะ
เมื่อกลับมาถึงไทย ตอนไปยื่นคำร้องขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ต้องเอาเล่มชั่วคราวไปยื่นด้วยนะคะ
หากไม่มีไปยื่น ต้องไปแจ้งความก่อนและนำไปแจ้งความไปขอทำพาสปอร์ตเล่มใหม่
ที่เล่ามานี้ ประสงค์เพื่อให้ทุกท่านระมัดระวังและเตรียมความพร้อมเผื่อเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน
นี่ยังดี ที่ของหายในเมืองที่มีสถานทูตไทย ไม่อยากคิดเลยว่าจะยุ่งยากแค่ไหนถ้าไปหายในเมืองหรือประเทศที่ไม่มีสถานทูตของเราตั้งอยู่
ขอให้ทุกท่านเดินทางอย่างสนุกสนานปลอดภัยนะคะ