ได้ไปเที่ยวอเมริกามาตามกระทู้ข้างบน  ช่วงก่อนกลับไทยอยู่ที่ San Francisco ดันไม่ระวังเอง โดนทุบรถและกระเป๋าเป้โดนขโมยไป 1 ใบ ของมีค่าไม่มีอะไรหายมากมาย โจรมันเทคืนไว้กะเอาแต่กระเป๋า แต่ด้วยความซวยขั้นสุด พาสปอร์ตดันอยู่อีกช่อง เลยเกิดปัญหากลับบ้านไม่ได้ ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี ...

จึงเกิดกระทู้นี้แยกออกมาจากกระทู้รีวิวที่เที่ยว มาเล่าสู่กันฟังกับเพื่อนๆพันทิป ...

เริ่มแรก สำรวจก่อนเลยว่าอะไรหายไปบ้าง ดีที่ของมีค่ายังไม่หายมากมาย มีแต่ของสำคัญคือพาสปอร์ต 555  (ปกติไปเที่ยวจะพกติดตัวตลอด แต่บังเอิญรอบนี้ไปมีสองเล่ม เล่มนึงเป็นเล่มปัจจุบัน อีกเล่มนึงเป็นเล่มเก่าที่มีวีซ่าอเมริกาอยู่ เลยขี้เกียจพก) เอาแล้วไง ...

สิ่งแรกที่อยากแนะนำคือ ให้ตั้งสติก่อน  ส่วนตัวนี่สติกระเจิงมาก ไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี 555


พอมีสติระดับนึงอันดับแรกที่ต้องทำคือ แจ้งความ ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ หรือโทร 911 ได้ เค้าจะถามว่าจะมาสถานีตำรวจหรือให้เค้าไปหา  รถพอขับได้ เลยไปสถานีตำรวจเลย พอไปถึงตำรวจจะให้กรอกเอกสาร ข้อมูลต่างๆเช่น ชื่อ ที่อยู่ เลขพาสปอร์ต เบอร์โทรศัพท์ รวมทั้งสถานที่เกิดเหตุ เวลา และลิสต์ของที่ถูกขโมยไปพร้อมราคาโดยประมาณ
พอกรอกเสร็จเค้าก็จะถามเราว่าต้องการให้เก็บลายนิ้วมือมั้ย แต่จะยุ่งยากหน่อยนะ หรืออีกทางคือ คุณเอาใบแจ้งความแล้วออกไปได้เลย พอได้ใบแจ้งความก็สามารถใช้ใบนี้เป็นหลักฐานได้ ให้เก็บไว้ดีๆ

หน้าตาใบแจ้งความก็จะประมาณนี้


การทำใบ CI (Certificate of Identity) เพื่อใช้ชั่วคราวกลับไทย ต้องใช้เวลาประมาณ1-2 วันทำการ ถ้าคิดว่ากลับไม่ทันแน่ๆ ให้เลื่อนไฟล์ตเลย จะโทรเลื่อน หรือจะไปเลื่อนที่เค้าเตอร์สายการบินก็ได้ ส่วนจะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมมั้ย อันนี้ขึ้นกับสายการบิน และคลาสตั๋วที่จองนะ แต่ถ้าคิดว่ากลับทันตามกำหนดเดิม ก็ไม่ต้องเลื่อนก็ได้ แค่เสียเวลาวันเที่ยวหน่อย
ส่วน จขกท เลื่อนเปลี่ยนไฟล์ต และเปลี่ยนสนามบิน เป็นออกจาก LA แทนด้วย ขี้เกียจนั่งรถกลับมา Sanfran อีก

การเตรียมเอกสาร

เข้าเว็บสถานกงสุลไทย จะมีรายละเอียดเอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อไปทำบัตร CI โดยเอกสารที่ต้องเตรียม ก็จะมีพวก คำร้องขอทำหนังสือประจำตัว สำเนาบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้าน สำเนาหน้าพาสปอร์ต สำเนาตั๋วเครื่องบินกลับไทย สำเนาใบแจ้งความจากตำรวจ ทุกอย่างถ่ายเอกสารจำนวน 3 ชุด และรูปถ่าย 2 นิ้ว 4 ใบ
แนะนำว่าให้คุยกับทางโรงแรมว่ามีปัญหาอะไร ให้เค้าช่วยปริ้นต์ให้ ช่วยถ่ายเอกสารให้  อย่างที่ไปทางโรงแรมที่ซานฟรานช่วยจัดการให้ดีมากๆ ปริ้นท์เอกสารเป็นสิบๆแผ่น ไม่คิดเงินเลย ถ้าไปทำที่ร้านตรงข้ามสถานกงสุล ขูดรีดสุดๆ ถ่ายรูปแพง
มากๆ ถ่ายเอกสารแผ่นละ 1 USD แทบจะร้องไห้ (จขกท ถ่ายเพิ่มแค่ 2 แผ่น โดนไป 2 USD)

เบอร์โทรศัพท์ / Hotline สถานกงสุลไทยที่ LA


คืนรถเช่า ด้วยความที่ซื้อประกันทุกอย่างไว้อยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาอะไร ไปคืนที่ Alamo ตอนคืนเค้าบอกว่าเจอบ่อยมาก ตอนเช้าวันนี้เห็นโดนไป 3 คันละ นี่แค่บริษัทเดียวนะ บริษัทอื่นก็คงมีเยอะเช่นกัน

สถานกงสุลไทย ณ นครลอสแองเจลลิส

การทำใบ CI ที่ซานฟรานไม่มีสถานกงสุล ต้องกลับไปที่ LA จขกท เลยต้องจองรถไป LA อีกที โดยจองเป็นรถทัวร์ Greyhound นอนไปตอนกลางคืน ถึง LA เช้า ราคาก็เอาเรื่องอยู่ พันสาม พันสี่ เอาจริงๆ รถนครชัยแอร์บ้านเราดีกว่าและถูกกว่าเยอะ 555

ไปยื่นเอกสารที่สถานกงสุลตอนเช้า (ถ้าจำไม่ผิดเปิด 9 โมง) ถามเจ้าหน้าที่ว่าจะได้วันเดียวกันเลยมั้ย เจ้าหน้าที่ไม่รับปากแต่ให้มานั่งรออีกทีตอนบ่ายสาม เลยมีเวลาไปเดินเล่นหาอะไรกิน Farmer Market อีกรอบ ไม่ไกลมาก นั่งรถเมล์ไป กลับมาอีกทีตอนบ่ายสาม ได้เอกสารเรียบร้อย พร้อมกลับบ้าน  เย้ !!
พอมาถึงที่ไทย ไม่ต้องเข้าช่องปกติ หรือช่องอัตโนมัตินะ จะต้องเข้าช่องตรวจคนเข้าเมืองพิเศษ ถามเจ้าหน้าที่แถวนั้นได้ บัตร CI นี้จะใช้ได้กลับไทยได้ครั้งเดียวเท่านั้น และสามารถนำสำเนาใบนี้ ไปทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ได้เลย สรุปคือถึงไทยโดยสวัสดิภาพ แต่ช้าไปประมาณ 2 วัน 555

ทางเข้าสถานกงสุลไทย (ที่อยู่หาจาก Google map เอา)

แลกบัตรขึ้นไปชั้น 2 จะมีที่ให้กรอกเอกสาร แต่เรากรอกมาครบหมดแล้ว ไปยื่นได้เลย

ใบ CI (Certificate of Identity)

คำแนะนำเพิ่มเติม

เวลาไปเที่ยวควรมีเอกสารสำคัญติดมือถือไว้ เช่น รูปถ่ายสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาพาสปอร์ต สำเนาตั๋วเครื่องบิน หรือเอกสารประกันการเดินทาง เป็นต้น ถ้าจะดีก็เตรียมรูปถ่าย 2 นิ้ว 4 รูปใส่กระเป๋าตังไว้เลย ถ่ายรูปที่โน่นค่อนข้างแพงมาก (ร้านตรงสถานกงสุลนะ) 555 ไม่งั้นแนะนำหาร้านสะดวกซื้อที่มีที่ถ่ายรูป ถ่ายไปก่อนเลย

ไปสถานกงสุล เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย จะได้เร็วๆ ไม่ต้องวิ่งไปมาเพื่อถ่ายเอกสาร หรือกรอกเอกสารเพิ่มเติม

ควรมีเบอร์ติดต่อสถานทูต สถานกงสุล ประเทศที่จะไป และมือถือที่มีเนต และโทรออกได้

สุดท้ายที่อยากแนะนำคือ ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆจัดการทีละอย่าง

ถือว่าไปเที่ยวรอบนี้เป็นประสบการณ์ที่ดี ต่อไปคงจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เวลาไปเที่ยวจะระวังตัวให้มากขึ้น และมีสติเยอะๆ เจอกันใหม่แน่นอน San Francisco … จะกลับไปแก้ตัว 555