[CR] รีวิว สองสาวแว้นมอไค์ เชียงใหม่-ดอยอินฯ-เชียงดาว 4วัน3คืน



สวัสดีค่ะ
เรากับเพื่อนสองคนเพิ่งไปเชียงใหม่มาเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ดีๆ(และแย่ๆ)กับเพื่อนๆพี่ป้าน้าอาชาวพันทิปกันค่ะ

กระทู้รีวิวกระทู้แรกนะคะ
พิมพ์ถูกพิมพ์ผิดบ้างก็ขออภัยด้วยค่ะ
รายละเอียดค่าใช้จ่ายจะสรุปไว้ตอนท้ายนะคะ
แต่บอกไว้ก่อนว่าทริปนี้ไม่เกิน 4300 ;)

เริ่มจากตรงไหนดีถึงจะไม่เยิ่นเย้อจนเกินงาม 😂

เอาตรงนี้ละกัน



DAY 1 -12 Dec 17
เนื่องด้วยทำงานกะดึก เลิกงานมาก็ต้องงีบสักหน่อย เดี๋ยวเป็นลมล้มพับ เราจึงเลือกเที่ยวบินทุ่มยี่สิบห้า เราบินกับสายการบินเวียตเจ็ทค่ะ เปลี่ยนเกท1ครั้ง และดีเลย์อีกชั่วโมง เกือบเช็คอินเข้าที่พักไม่ทันซะแล้ววว-_-;

ถึงประมานสามทุ่มครึ่ง เรานั่งรถแดงออกจากสนามบิน ให้ไปส่งที่ประตูเชียงใหม่ เราพักแถวๆวัวลายค่ะ ค่ารถ 35บาท

เราพักที่The Local Hostel ค่ะ 350/คืน หารกับเพื่อนก็คนละ 175บาท

เช็คอินเข้าที่พัก เรียบร้อยก็ออกไปหาของกินที่ตลาดโต้รุ่ง ซึ่งของกินเยอะ และถูกมากกกก
ใครชอบกินผัดไทอย่าพลาดนะคะ 😘
กินอิ่มพุงกางก็กลับไปนอน แต่กว่าจะนอนหลับก็ปาไปตีหนึ่งกว่าๆเห็นจะได้ เพราะคู่รักเกาหลีห้องข้างๆคุยกัน(?)เสียงดังมากกก


DAY2 Inthanon National Park

ทาร์เกทของวันนี้คือ ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ขึ้นดอยอิน ไปเก็บของเข้าเต้นที่อุทยาน แล้วไปเดินกิ่วและค่อยๆแว๊นไปเรื่อย

เช้าแล้วตื่นๆๆ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี 3ครึ่ง
อาบน้ำอาบท่า แต่งหน้าแต่งตัว เสร็จตี4นิดๆ
เดินออกมาขึ้นรถเมล์ที่ประตูเชียงใหม่ รถมาเกือบๆตีห้า คาดว่าจะเป็นรอบแรกรึป่าว นั่งรถไปเรื่อยๆ ยิ่งออกมาไกลจากเมืองมากเท่าไหร่ ความเย็นก็ค่อยๆมาละ ดีใจจจจ


(เมื่อวานที่มาถึง คำถามแรกก็คือ...
ความหนาวเย็นอยู่แห่งหนใด? คืออาศร้อนมาก
ทั้งๆกลางเดือนธันวาแล้วนะเธอออ
เสื้อผ้าที่เอามาคือ ขายาวแขนยาว ปกติเป็นคนชอบใส่สั้น แต่ด้วยความกลัวว่าจะหนาวก็เลย...นะ..)


นั่งรถประมานชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงจอมทองค่ะ
จริงๆคือยังไม่ถึงที่ๆควรจะลงหรอก แต่เป๋ารถเมล์บอกว่า อะไรสักอย่าง เป็นภาษาเหนือซึ่งเราก็ไม่เข้าใจ *¥$??~จอมทอง @&฿?((ดอยอินทนนท์* แล้วก็บอกให้เราลง เรากับเพื่อนก็ลงแบบ งงๆ  ไหนอ่ะร้านเช่ามอไซต์ ไหนวัด ไหน..ที่นี่ที่ไหน???


ยืนงงพักนึง ก็พากันเปิดกูเกิ้ลแมพดู โอ้โหววว
ต้องเดินตั้ง 20กว่านาที -_-; ตรงนั้นมันถนนใหญ่รถก็วิ่งกันเร็วมาก เลยตัดสินใจเดินตาม Mapไปเรื่อยๆ เผื่อรถประจำทางจะผ่านมาบ้าง เดินๆไปไม่ถึง 5นาที ก็มารถกระบะปาดจอดอยู่ข้างหน้า พี่เขาถามว่าจะไปไหนกัน เราบอกเดินไปวัดพระธาตุศรีจอมทอง เขาเลยชวนขึ้นรถ จะไปส่ง เราก็กล้าๆกลัวๆ เพราะเราผู้หญิงทั้งสอง แต่สุดท้ายหนูก็ขึ้นรถไปกับเขาค่ะ 😂

คุยกันไปก็ได้ความว่าพี่เขาเป็นรถเหมา ขึ้นดอยอินทนนท์ แต่เราบอกว่าเราจะเช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปกันเอง พี่ก็เล่าถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับ นทท. ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยอินทนนท์ให้ฟัง และความยากลำบากของทางขึ้นลง บลาๆๆ ทำเอาเราใจไม่ดีขึ้นมาเลย แงๆ แต่เราก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะไปกันเองอยู่ดี เลยปฏิเสธการเหมารถขึ้น
แต่พี่เขาก็ใจดีขับรถเข้ามาส่งที่หน้าวัดเลย ไม่คิดเงิน

สิ่งที่ห้ามพลาดนอกจากการไหว้พระขอพรที่วัดพระธาตุศรีจอมทองคือ เช้าๆที่หน้าวัดจะมีตลาดชาวบ้านมาขายของ หลักๆก็ของกินแหละ
มันจะมีร้านตับหมูย่าง มันอร่อยมากก
มัน10บาทเองแก 10บาท ไม้ละ10บาทททท
ไม้ใหญ่เว่ออ ซื้อ4ไม้แบ่งกับเพื่อนคนละสองคือยังกินไม่หมด รู้สึกจะหากินไม่ได้ในบางกอก งื้ออออ อยากกลับไปกิน
ใครไม่ชอบตับหมูข้ามพาร์ทนี้ไปเสีย 😂555



อิ่มแล้วเราจึงเดินเข้าวัดไหว้พระขอพร รอให้ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์เปิดตอน 8 โมง
ได้รถก็แอบหวั่นๆ เพราะคุณขาาาา ที่จอมทองสิบล้อเยอะมาก!!!!!! ที่สำคัญคือพี่เขาขับกันยังกะอยู่ในสนามแข่งวิบาก ถนนก็เล็ก แต่คุณพี่สิบล้อวิ่งผ่านที วิกผมหลุดได้เลยค่ะ จงระวังไว้
ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์แบบขาสั่นๆ จับมอไซค์ครั้งล่าสุดคือปีเกือบสองปีที่แล้ว ที่เกาะล้าน กลัววว

พี่เจ้าของร้านเห็นหน้าซีดๆของเราจึงเขียนแผนที่ทางลัดให้ ลัดเลาะไปทางด้านหลังไม่ต้องไปผจญกับดงสิบล้อบนเส้นหลัก... รอดตายแล้วเรา


===แว๊นไปกับเรา เข้าข้างทางไปเรื่อย===
ขับตามทางลัดในแผนที่ไปไม่นานก็เข้าทางหลักแล้ว อากาศดีมากๆค่ะ ใบหน้าของฉันสาดกระทบด้วยแสงแดดอุ่นๆในยามเช้า เพื่อนของฉันก็ยิ้มให้กับหมู่เเมกไม้และสายลมที่พัดผ่าน...
(เริ่มไร้สา.. 😂)
รถไม่ค่อยเยอะ ถนนโล่งงง ขับกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ แดดก็แรงพอตัว แต่พอเริ่มขึ้นเขาไปแล้วก็ไม่รู้สึกร้อนเพราะมีลมและต้นไม้สองข้างทาง


ตอนแรกกะจะตรงดิ่งขึ้นไปบนดอยเลย แต่พอเจอป้ายทางเข้าน้ำตกแม่กลางเลยดี๊ด๊า เลยชวนกันแวะถ่ายรูปสักสองสามรูป ถึงน้ำตกก็9โมงกว่าๆ
ถ่ายรูปเสร็จดูนาฬิกาอีกทีก็ 10โมงจะ11โมงแล้ว แฮร่ๆ แผนที่วางไว้ท่าจะต้องเปลี่ยนละ วันนี้เลยยกเลิกการเดินกิ่วแม่ปาน



ออกจากน้ำตกก็ขับขึ้นเขา มุ่งหน้าไปยังที่ทำการอุทยาน ระหว่างทางก็มีรถขึ้นๆลงๆตลอด ก็มีเพื่อนแว๊นมอไซค์แซงเราไปเป็นระยะๆ ที่เห็นก็มีฝรั่งบ้าง เราขับช้าๆ เพราะมีช่วงที่ทางชันบ้าง โค้งบ้าง ตอนเข้าโค้งมีสิบล้อแซงมานี่ก็ตกใจ เกือบเข้าข้างทางละ ก็ดึงสติกันหน่อย เพราะเรานี่ชอบเม่อ พอคิดนู่นนี่ไปเรื่อย ก็จะเข้าป่าไปตลอด เพื่อนต้องคอยสะกิด เอาจริงๆป่ะ ขับไม่ค่อยจะแข็งหรอก ใบขับขี่ก็ไม่มี เป็นปีก็แทบจะไม่ได้แตะมอเตอร์ไซค์เลย นอกจากซ้อนท้ายพี่วิน 5555

อีกโค้งเดียวก็จะถึงที่ทำการอุทยานแล้ว (โค้งก่อนจะถึงทางเลี้ยวเข้าไปลานกางเต้น) แต่แหกโค้งไป ตกใจเลยกำเบรคหน้ายาวๆ แล้วมันก็สไลด์แล้ว ... โครมมม
มันเกิดขึ้นไวมาก รู้ตัวอีกทีเราก็นอนแอ้งแม้ง นอนคว่ำหน้า มอไซค์ทับขาขวา นอนท่าซุปเปอร์แมนเลยอ่ะ (คงนึกภาพไม่ออกกัน มันฮาจนเพื่อนยืนขำ-*-)
ตอนนั้นคือคางครูดไปกับถนน ไถลไปจนหัวโขลกกับหลักกิโลเมตรที่ล้มอยู่ แต่โชคดีมากที่สายรัดคางและหมวกกันน็อคช่วยให้หน้าไม่เป็นแผล เราใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบค่ะ (เรียกถูกไหม)
ตอนนั้นรู้สึกชาไปทั้งตัว (ตรงนั้น จำชื่อสถานที่ไม่ได้ มันคือเส้นทางศึกษาธรรมชาติอะไรสักอย่าง
ทางเข้าเล็กๆ ที่มีพื้นที่จอดรถเล็กๆเช่นกัน)


มีพี่ไกด์กับ นทท ชาวต่างชาติอยู่ตรงนั้นพอดี พี่เขาวิ่งเข้ามา บอกให้เรานอนนิ่งๆ
นิ่งๆ ไม่ต้องขยับ
เราก็นิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
แล้วเขาก็พากันจับเราพลิกตัว เช็คแขนขา ว่ามีอะไรหักไหม จนแน่ใจว่าเราไม่เป็นอะไรมาก
เราโอเค เราโอเคมาก แค่เข่า ศอก แล้วก็ฝ่ามือถลอก โชคดีมากกกกกก ที่ใส่ถุงมือ ถ้าไม่ใส่คือหนังจะเปิดเลยค่ะ นี่ขนาดใส่ยังถลอก แขนขาก็เหมือนกัน นึกภาพไม่ออกเลยถ้าไม่มีอะไรนอกจากผิวหนังอันบอบบางที่ต้องครูดไปกับถนนอันขรุขระ หินเล็กๆเยอะมาก

พอสติสตางค์กลับมาเราก็เพิ่งเห็นว่าเพื่อนนั้นไม่ได้เจ็บเลยแม้แต่รอยขนแมว -_-*
แถมยืนหัวเราะท่าลงอันสง่างามของเราอีก
เพื่อนโดดหนีทันค่ะ เพื่อนโดดหนีทัน
โอเคเพื่อน แรงส่งของเอ็งเกือบทำให้ข้าได้ไปเยือนบ้านเก่า



สภาพรถก็... กระบังหน้าเป็นรอยขูดยาวและบิ่น กระจกซ้ายหัก(พี่คนขับรถตู้ที่มากับ นนท เค้าช่วยซ่อมให้ ขอบคุณมากนะคะ) แตกด้วย ค่อนข้างเยิน..

พอตั้งสติออกจากตรงนั้นได้ก็แวะไปทำแผลที่อนามัย เขาก็ให้ยาแก้ปวดมากิน เสร็จแล้วไปติดต่อขอรับเต้นท์และเครื่องนอนที่ ที่ทำการอุทยาน พี่ๆเจ้าหน้าที่ใจดี ขับรถเอาของไปส่งที่ลานกางเต้นท์ให้ (ขอบคุณอีกครั้งค่ะ T_T)

กางเต้นท์เก็บสัมภาระเสร็จ เรากับเพื่อนก็เริ่มทะเลาะกัน แล้วก็ไม่คุยกัน วันนั้นทั้งวันคือนอนจนเย็น หันหลังชนกัน ไม่พูดไม่จา แพลนที่วางไว้ก็ล่มไปโดนปริยา
เข่านี่บวมมาก เริ่มเขียวและปวด ตื่นมาตอนเย็นก็ออกไปซื้อข้าวที่ร้านตามสั่ง มากินแล้วก็นอน
อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าจะนอนหลับกันหรอก
เพราะที่กางเต้นท์มันเต็มไปด้วยความวุ่นวาย คือคนเยอะมาก ที่จะกางเต้นท์ก็แทบไม่มี  สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่า ทุกๆปีช่วงปลายพฤศจิกา-ธันวา นักศึกษาจากมหาลัยบูรพาเขาจะมาเข้าค่ายกัน ประมานสี่ห้าวันค่ะ จะหนวกหูหน่อย เพราะน้องๆเขาทำกิจกรรมกันทั้งวัน ตกดึกมาก็มีทั้งเสียงกลองเสียงร้องเพลง เขาเฮฮากัน เราก็นอนอย่างทรมานไป)



ปล. อยากเตือนเพื่อนๆให้มีความระมัดระวังในการขับขี่กันให้มากๆค่ะ ถ้าขับไม่ค่อยเป็น(เหมือนเรา) และไม่ชินทาง ไม่ควรเช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยวค่ะ ไม่แนะนำ... จริงๆ นั่งสองแถวเถอะค่ะ รถเหลืองรถแดง ปลอดภัยกว่า
แต่ถ้าขาแว๊นอยู่แล้ว เราว่าเช่ามอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์เที่ยวเองจะสนุกมากๆค่ะ อากาศดี ขับชิลๆ อยากแวะที่ไหนก็ได้ สะดวกกว่าด้วย

เดี๋ยวมาต่อนะคะ....
ชื่อสินค้า:   ~
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่