หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] ทริปนี้มีเรื่องเล่า #ตอนที่ 8 >3 วัน 2 คืน พาคุณแม่ขี่รถตะลอนเที่ยวเชียงใหม่
กระทู้รีวิว
เที่ยวเชียงใหม่
ท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยว
ภาคเหนือ
ทริปนี้มีเรื่องเล่า #ตอนที่ 8 >3 วัน 2 คืน พาคุณแม่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ตะลอนเที่ยวเชียงใหม่
>> ผมเล่าเรื่องเกี่ยวกับทริปปีนเขามาหลายเรื่องแล้ว เปลี่ยนมาเที่ยวแบบทริปปกติกันนะครับ ไม่รู้ปกติจริงไหม
>> ทริปนี้เกิดขึ้นจากคุณแม่ของผมบอกกับผมว่า "แม่อยากนั่งรถไฟเที่ยว" จนบอกกับผมว่าอยากกลับบ้านด้วยวิธีการนั่งรถไฟจากกรุงเทพไปโคราชดู ซึ่งผมก็จะปล่อยให้คุณแม่นั่งรถไฟกลับไปคนเดียวแบบนั้นไม่ได้เหรอ นั้นแบบนี้นะแม่ เดี๋ยวผมพานั่งรถไฟไปเที่ยวดีกว่า
>> พอพูดถึงการนั่งรถไฟเที่ยวเส้นทางไกลๆ วิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ หลายๆ คนคงนึกถึงเส้นทางเดียวกันเป็นแน่เลย ต้องรถไฟสายเหนือแน่นอน ไหนๆ จะนั่งรถไฟไปทางเหนือแล้ว ก็ไปเที่ยวต่อเลยแล้วกันนะคุณแม่ สถานที่ที่ผมนึกออกก็คือ จังหวัดเชียงใหม่ เพราะบรรยากาศดีมาก และหน้าฝนเชียงใหม่สวยมากด้วย เดี๋ยวจะพาคุณแม่ไปดูนาขั้นบันไดกัน มาด้วยรถไฟขนาดนี้เอาให้สุดสัมผัสธรรมชาติให้สุดเลยแล้วกันนะคุณแม่ นั่งรถมอเตอร์ไซค์เที่ยวไหวไหม เมื่อคุณแม่บอกว่าไหวทริปครั้งนี้ก็เริ่มต้นทันที
>> ผมจึงจัดการจองตัวรถไฟทันที โดยเลือกรถไฟขบวนที่ 13 ที่ออกจากสถานีกลางกรุงอภิวัฒน์ รอบ 20.05 น. ไปเชียงใหม่ตอน 08.40 น. และเลือกรถไฟพัดลมชั้น 2 ที่จะมีที่นั่งคล้ายๆ กับรถทัวร์แต่เป็นตู้พัดลม ด้วยเพราะคุณแม่ผมเข้าชอบให้มีหน้าต่างเปิดชมวิวนอกรถไฟได้ด้วย
>> ผมจัดการเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากร้านเช่ารถ Bikky Chiangmai ซึ่งเป็นร้านที่ผมใช้บริการประจำเวลาไปเที่ยวเชียงใหม่ เพราะไม่ต้องมัดจำ ไม่ต้องทำสัญญา ไม่ต้องใช้หลักฐานเช่ารถวุ่นวาย การรับรถก็สะดวกสบาย เพราะร้านจะนำมาส่งให้เลย โดยถ้ารับรถที่สถานีขนส่งอาเขตซึ่งร้านจะอยู่ใกล้ที่นั่น ร้านก็จะนำรถไปฝากไว้ที่ร้านรับฝากรถหน้าสถานีเลย แล้วให้เราไปติดต่อรับรถที่ร้านรับฝากได้เลยโดยที่ร้านจะส่งรูปรถที่เช่าให้เราก่อนหน้า 1 วัน เพื่อนำไปแสดงรับรถ หลังจากรับกุญแจรับรถแล้วเราก็โอนเงินให้ทางร้านเท่ากับวันที่เช่าก็สามารถขี่รถออกมาได้เลย ตอนคืนก็นำมาคืนที่เดิมฝากกุญแจไว้ที่ร้านรับฝากรถ ถ่ายรูปแจ้งว่าเรานำรถมาคืนแล้วเป็นอันเสร็จ แต่จะต้องเสียค่ารับฝากรถเองนะ ซึ่งก็แค่ 20 บาท/วัน หรือจะรับรถที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ก็ได้ แต่จะมีค่าส่งรถเพิ่มอีก 50 บาท ร้านก็จะนำไปฝากที่ร้านรับฝากรถทำเหมือนกับการรับรถที่สถานีขนส่งอาเขตเลย ซึ่งผมก็ใช้วิธีการรับรถที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ แต่ส่งคืนที่สถานีอาเขต เพราะขากลับจะนั่งรถทัวร์กลับ
>> ติดต่อเช่ารถร้าน Bikky Chiangmai ได้ทาง Line ID: @bikkychiangmai โทร. 080-1220985
>> แต่นี่ก็ยังไม่สุดนะคุณแม่ นอนเต็นท์เลยไหมครับ คุณแม่ผมก็บอกว่า ได้ๆ และทริป นั่งรถไฟ ขี่รถเที่ยว ค่ำนอนเต็นท์ก็เกิดขึ้น ไม่รู้จะพาคุณแม่ไปเที่ยว หรือไปทรมานกันนะ แต่เมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็พร้อมลุยกันแล้ว
>> เมื่อเดือนตุลาคมมาถึง ผมก็พร้อมพาคุณแม่วัย 65 ออกเดินทาง เราเดินทางไปขึ้นรถไฟที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ คุณแม่ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะได้ทำตามความฝัน ขอผมนั่งริมหน้าต่างเพราะอยากชมวิวชัดๆ แต่วิวกลางคืนก็ไม่มีอะไรให้ดูหรอก นี่ก็ถือว่าเป็นการนั่งรถไฟพัดลม ชั้น 2 ครั้งแรกของผมเหมือนกัน ต้องบอกเลยว่าถึงแม้ที่นั่งจะรูปแบบเหมือนรถทัวร์ แต่ก็ไม่สบายเหมือนรถทัวร์หรอก ทั้งอากาศร้อนเล็กน้อยจากตู้พัดลม ไฟที่เปิดตลอดคืน เสียงที่ดังสนั่นซอย กลิ่นเหล็กจนหน้าเหนียวหัวเหนียว แมลงที่บินจับตลอดคืน นอนก็ไม่หลับสนิทหรอก เป็นประสบการณ์ที่ต้องจดจำจริงๆ
>> มาฟ้าสว่างก็ประมาณช่วงลำปาง ซึ่งก็สมใจคุณแม่เขาเลย เดี๋ยวนั่ง เดี่ยวยืนชมวิวริมหน้าต่างรถไฟตลอดทางเลย ซึ่งตอนเช้าก็รรยากาศดีมากๆ อากาเย็นสดชื่น ผืนป่ามีแต่ความเขียวขจี บนเขาก็มีหมอกลอย
>> ประมาณ 9 โมงกว่าๆ ผมกับคุณแม่ก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ หลังจากเข้าห้องน้ำภายในสถานีเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปหน้าสถานี และเดินไปรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ร้านรับฝากรถที่ริมถนนด้านหน้าสถานี โดยรถมอเตอร์ไซค์ที่ผมเลือกเช่าคือ wave125i เพราะคิดว่าคงจะดีที่สุดในการขับขึ้นลงเขามากกว่ารถเกียร์ออโต้ที่ผมมักเช่าประจำ แต่รถก็ดูเป็นปีเก่าๆ ที่สภาพรถไม่ได้ดี ไม่ได้แย่ แต่ปัญหาอย๋างแรกที่พบคือ เบรคเท้าใช้ไม่ได้ ใช้ได้แค่เบรคมือ และเป็นเบรคมือด้านหน้าอย่างเดียวด้วย ซึ่งสัมภาระที่เราต้องขนมาด้วย ทั้งเต็นท์ อุปกรณ์เครื่องนอน อุปกรณ์ประกอบอาหาร อุปกรณ์กล้อง และเสื้อผ้า ก็เล่นเอาเต็มรถมอเตอร์ไซค์ไปเลย จนต้องเอากระเป๋ามัดติดตะกร้าหน้ารถเลย
>> หลังจากจัดของขึ้นรถเสร็จ จุดแรกที่ผมจะพาคุณแม่ไปเที่ยวคือ "วัดผาลาด" ซึ่งต้องขับรถขึ้นเขาไปทางดอยสุเทพ-ดอยปุย และเมื่อขึ้นเขาปัญหาอย่างที่ 2 ที่พบคือ รถเร่งขึ้นเขาแทบไม่ขึ้นขนาดใช้เกียร์ 1 ยังเสียงเครื่องดังมากถึงจะบิดจนสุดคันเร่งก็ยังไปได้อย่างช้าๆ แบบอ่อนแรงมาก แต่ผมก็พาคุณแม่ขึ้นมาถึงจนได้
>> วัดผาลาด หรือสกิทาคามี เป็นวัดสวยงาม และเก่าแก่ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขา ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้ากือนา เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสี่ยงทายหาสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ภายในวัดมาความร่มลื่นเขียวขจี อากาศเย็น อยู่ภายในร่มเงาไม้
>> ซึ่งจากวัดสามารถมองเห็นวิวของตัวเมืองเชียงใหม่ได้ด้วย
>> บรรยากาศภายในวัดช่างเขียวขจี สดชื่น เย็นสบาย ร่มลื่นมากจริงๆ และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวเยอะเลย
>> จุดนี้สวยมองเห็นวิวเมืองเชียงใหม่ได้ด้วย ซึ่งจะมีลำธารไหลมาจากน้ำตกลงไปสู่เบื้องล่าง
>> สถานที่ถัดมาที่ผมพาคุณแม่มาแวะก็คือ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งผมไม่ได้จะพาคุณแม่มาไหว้พระหรอกนะ แต่มาแวะหาซื้อของกินให้คุณแม่ เพราะเรายังไม่ได้กินข้าวเช้ากันเลย นอกจากกาแฟ และขนมรองท้อง ซึ่งได้ไส้กรอก หมูปิ้งไปกินกับข้าวเหนียวที่เราห่อมาด้วย ก่อนจะเดินทางไปต่อ
>> สถานที่ถัดมาที่ผมพาคุณแม่มาแวะเที่ยวคือ หมู่บ้านม้งดอยปุย แต่ก็จะมาถึงก็ทุลักทุเลพอสมควร เพราะเจอฝนตกลงมาก่อนถึงหมู่บ้านประมาณสัก 5 กิโลได้ ร่วมกับก่อนถึงหมู่บ้านเป็นช่วงลงเขาทำให้ผมขี่รถแบบต้องระวังอย่างมาก ทั้งถนนที่เสี่ยงจะลื่น และรถที่เบรคได้แค่เบรคมือล้อหน้า แต่พอมาถึงหมู่บ้านม้งฝนก็ตกลงมาอย่างหนักจนผมกับคุณแม่ต้องพากันขนกระเป๋าข้าวของจากรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปในร้านค้าที่อยู่ตรงลานจอดรถเพื่อหลบฝน และได้โอกาสกินข้าวไปด้วยเลย
>> สรุปแล้วฝนก็ตกอยู่นาน เราก็มีเวลาจำกัด ก็เลยไม่ได้ไปเที่ยวจุดไหนของหมู่บ้านเลย นอกจากป้ายหน้าหมู่บ้าน เหมือนแค่ขี่รถมานั่งกินข้าวแล้วก็ต้องไปจริงๆ
>> อันที่จริงผมตั้งใจว่าจะใช้เส้นทางผ่าน ขุนช่างเคี่ยน ข้ามเขาไปลงอีกฝั่ง เพราะสถานที่ถัดไปที่ผมจะพาคุณแม่ไปเที่ยวก็คือ ห้วยตึงเฒ่า แต่ด้วยเส้นทางนั้นจะมีช่วงที่เป็นทางดิน ทางชันลงเขา และแคบผมเลยจำเป็นต้องยกเลิกแผน เพราะฝนตกแบบนี้เส้นทางจะยิ่งลื่น และอันตรายมากๆ ผมเลยจำเป็นต้องลงจากดอยสุเทพด้วยเส้นทางเดียวกันกับที่ขึ้นมาถึงแม้จะเสียเวลาไปบ้าง แต่ก็ไม่เสี่ยงอันตราย ผมคนเดียวก็อีกเรื่อง แต่มีคุณแม่ด้วยจึงไม่กล้าที่จะไป
** ภาพช่วงแรกๆ มีน้อยหน่อยนะครับ เพราะเจอแต่ผม เลยไม่ค่อยได้ถ่ายภาพ
ชื่อสินค้า:
รีวิวเที่ยวเชียงใหม่
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เชียงใหม่ 4 วัน 3 คืนกับครอบครัว เล็กๆ ง่ายๆ แต่อบอุ่นหัวใจเกินคาด
ชีวิตวัยทำงาน...เหนื่อยไม่หยอกเลยครับ ผมเลยตั้งใจจัดทริปชาร์จแบตให้กับครอบครัว ทริปนี้เราเลือก เชียงใหม่ เมืองที่เคยมาแล้ว...แต่ก็อยากกลับมาอีกครั้งทุกที พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลยครับ วันที่ 30 พ.ค. -
สมาชิกหมายเลข 8758706
รบกวนเช็คทริป วันแรกที่ไปถึงเชียงใหม่
เนื่องจากไม่อยากตื่นเช้าไปขึ้นเครื่อง จึงเปลี่ยนใจว่าจะจองรถไฟนอนไปถึงเชียงใหม่ ประมาณ 8.15 จึงตั้งใจว่าจะเช่ามอเตอร์ไซค์ เที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ก่อนค่ะ เริ่มจาก เช่ามอเตอร์ไซค์ ที่สถานีรถไฟ (มีให
canaga
เช่าสองล้อท่องเชียงใหม่ สนุกเที่ยวง่าย 5 เส้นทาง วัดวาป่าเขาธรรมชาติครบรส
ให้บรรดานักเดินทางเลือกจังหวัดน่าเที่ยวสักสี่ห้าอันดับ รับรองว่าทุกลิสต์ต้องมีเชียงใหม่รวมอยู่ เพราะของเขาดีจริงมีทุกสิ่งให้เลือกสรร ยอดดอยเสียวสูง ธรรมชาติเขียวขจี ศิลปวัฒนธรรม แง่งามศาสนา เรียกว่าเป
นายสองสามก้าว
CHECK IN "CHIANG MAI" เอาที่เราสบายใจก็แล้วกัน
(ตะลอนรอบเมืองเชียงใหม่) (ดอยอ่างขาง)(ดอยหลวงเชียงดาว) ฝากกระทู้ CHECK IN ''KANCHANABURI''ด้วยครับ สะพายเป้เที่ยวกาญจนบุรี4อำเภอ http://pantip.com/topic/33969384 กระทู้ CHECK IN "SURATTHANI&qu
สมาชิกหมายเลข 2523771
รถไฟ ภาคเหนือ
จากเชียงใหม่ไปดอยขุนตาลเที่ยวเช้าสุดกี่โมง ขากลับช้าสุดกีโมง จากสถานีรถไฟดอยขุนตาลมีมอเตอร์ไซค์ให้เช่าขี่รอบห้างฉัตรไหมคะ อยากขี่รถเล่นด้วยค่ะ #มอเตอไซค์ #รถเช่า #เที่ยว
สมาชิกหมายเลข 7754489
7 วันในเชียงใหม่ – ประสบการณ์การท่องเที่ยวและสถานที่ห้ามพลาด
เนื้อหา: สวัสดีครับทุกคน 🙏 เพิ่งมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่เป็นเวลา 7 วัน เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยว 📍 วันที่ 1 เดินเล่นรอบเมืองเก่า แวะวัดพระส
สมาชิกหมายเลข 8531301
วันว่างๆที่แม่วางกับเธอ
ในวันสงกรานต์แน่นอนว่า1ในสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยมที่สุดก็คงหนีไม่พ้นล่องแพที่แม่วางบรรยากาสที่คู่รักไม่ควรพลาดวันที่อากาศร้อนๆยังไงก็ต้องมีที่ที่เหมาะสำหรับการล่องแพเพื่อผ่อนคลายความร้อน อาหารของทา
สมาชิกหมายเลข 8856478
หนีความวุ่นวายมาเที่ยวเชียงใหม่กัน
1.ดอยสุเทพ-ปุย อยู่ไกล้ตัวเมืองมากทางขึ้นง่ายเที่ยวช่วงหน้าหนาวหน้าฝนกำลังดี วิวสวยๆหมอกเยอะมากเต็มทางเต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติสายรักธรรมชาติไม่ควรพลาดจริง!!!!! 2.อ่างเเก้ว มช ลงจากดอยปุยมาต่อก
สมาชิกหมายเลข 8859387
My Story #Episode 10.1 >ลงภาคใต้ครั้งแรก "หมู่บ้านคีรีวง" "ขนอม-สิชล" "น้ำตกพรหมโลก" นครศรีธรรมราช
"อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้" "หมู่บ้านคีรีวง" "ถนนขนอม-สิชล" "น้ำตกพรหมโลก" นครศรีธรรมราช >> ความเดิมตอนที่แล้ว .... ลุยเดี่ยวพิชิตยอดเขาเหมน
หยุดแล้วเที่ยวได้
จังหวัดศรีสะเกษมีร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์มั๊ยครับ
ที่จังหวัดศรีสะเกษมีร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟบ้างมั๊ยครับ ผมต้องการจะวางแผนมาเที่ยวที่จังหวัดนี้ครับ
สมาชิกหมายเลข 9016063
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวเชียงใหม่
ท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยว
ภาคเหนือ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] ทริปนี้มีเรื่องเล่า #ตอนที่ 8 >3 วัน 2 คืน พาคุณแม่ขี่รถตะลอนเที่ยวเชียงใหม่
>> ผมเล่าเรื่องเกี่ยวกับทริปปีนเขามาหลายเรื่องแล้ว เปลี่ยนมาเที่ยวแบบทริปปกติกันนะครับ ไม่รู้ปกติจริงไหม
>> ทริปนี้เกิดขึ้นจากคุณแม่ของผมบอกกับผมว่า "แม่อยากนั่งรถไฟเที่ยว" จนบอกกับผมว่าอยากกลับบ้านด้วยวิธีการนั่งรถไฟจากกรุงเทพไปโคราชดู ซึ่งผมก็จะปล่อยให้คุณแม่นั่งรถไฟกลับไปคนเดียวแบบนั้นไม่ได้เหรอ นั้นแบบนี้นะแม่ เดี๋ยวผมพานั่งรถไฟไปเที่ยวดีกว่า
>> พอพูดถึงการนั่งรถไฟเที่ยวเส้นทางไกลๆ วิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ หลายๆ คนคงนึกถึงเส้นทางเดียวกันเป็นแน่เลย ต้องรถไฟสายเหนือแน่นอน ไหนๆ จะนั่งรถไฟไปทางเหนือแล้ว ก็ไปเที่ยวต่อเลยแล้วกันนะคุณแม่ สถานที่ที่ผมนึกออกก็คือ จังหวัดเชียงใหม่ เพราะบรรยากาศดีมาก และหน้าฝนเชียงใหม่สวยมากด้วย เดี๋ยวจะพาคุณแม่ไปดูนาขั้นบันไดกัน มาด้วยรถไฟขนาดนี้เอาให้สุดสัมผัสธรรมชาติให้สุดเลยแล้วกันนะคุณแม่ นั่งรถมอเตอร์ไซค์เที่ยวไหวไหม เมื่อคุณแม่บอกว่าไหวทริปครั้งนี้ก็เริ่มต้นทันที
>> ผมจึงจัดการจองตัวรถไฟทันที โดยเลือกรถไฟขบวนที่ 13 ที่ออกจากสถานีกลางกรุงอภิวัฒน์ รอบ 20.05 น. ไปเชียงใหม่ตอน 08.40 น. และเลือกรถไฟพัดลมชั้น 2 ที่จะมีที่นั่งคล้ายๆ กับรถทัวร์แต่เป็นตู้พัดลม ด้วยเพราะคุณแม่ผมเข้าชอบให้มีหน้าต่างเปิดชมวิวนอกรถไฟได้ด้วย
>> ผมจัดการเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากร้านเช่ารถ Bikky Chiangmai ซึ่งเป็นร้านที่ผมใช้บริการประจำเวลาไปเที่ยวเชียงใหม่ เพราะไม่ต้องมัดจำ ไม่ต้องทำสัญญา ไม่ต้องใช้หลักฐานเช่ารถวุ่นวาย การรับรถก็สะดวกสบาย เพราะร้านจะนำมาส่งให้เลย โดยถ้ารับรถที่สถานีขนส่งอาเขตซึ่งร้านจะอยู่ใกล้ที่นั่น ร้านก็จะนำรถไปฝากไว้ที่ร้านรับฝากรถหน้าสถานีเลย แล้วให้เราไปติดต่อรับรถที่ร้านรับฝากได้เลยโดยที่ร้านจะส่งรูปรถที่เช่าให้เราก่อนหน้า 1 วัน เพื่อนำไปแสดงรับรถ หลังจากรับกุญแจรับรถแล้วเราก็โอนเงินให้ทางร้านเท่ากับวันที่เช่าก็สามารถขี่รถออกมาได้เลย ตอนคืนก็นำมาคืนที่เดิมฝากกุญแจไว้ที่ร้านรับฝากรถ ถ่ายรูปแจ้งว่าเรานำรถมาคืนแล้วเป็นอันเสร็จ แต่จะต้องเสียค่ารับฝากรถเองนะ ซึ่งก็แค่ 20 บาท/วัน หรือจะรับรถที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ก็ได้ แต่จะมีค่าส่งรถเพิ่มอีก 50 บาท ร้านก็จะนำไปฝากที่ร้านรับฝากรถทำเหมือนกับการรับรถที่สถานีขนส่งอาเขตเลย ซึ่งผมก็ใช้วิธีการรับรถที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ แต่ส่งคืนที่สถานีอาเขต เพราะขากลับจะนั่งรถทัวร์กลับ
>> ติดต่อเช่ารถร้าน Bikky Chiangmai ได้ทาง Line ID: @bikkychiangmai โทร. 080-1220985
>> แต่นี่ก็ยังไม่สุดนะคุณแม่ นอนเต็นท์เลยไหมครับ คุณแม่ผมก็บอกว่า ได้ๆ และทริป นั่งรถไฟ ขี่รถเที่ยว ค่ำนอนเต็นท์ก็เกิดขึ้น ไม่รู้จะพาคุณแม่ไปเที่ยว หรือไปทรมานกันนะ แต่เมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็พร้อมลุยกันแล้ว
>> เมื่อเดือนตุลาคมมาถึง ผมก็พร้อมพาคุณแม่วัย 65 ออกเดินทาง เราเดินทางไปขึ้นรถไฟที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ คุณแม่ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะได้ทำตามความฝัน ขอผมนั่งริมหน้าต่างเพราะอยากชมวิวชัดๆ แต่วิวกลางคืนก็ไม่มีอะไรให้ดูหรอก นี่ก็ถือว่าเป็นการนั่งรถไฟพัดลม ชั้น 2 ครั้งแรกของผมเหมือนกัน ต้องบอกเลยว่าถึงแม้ที่นั่งจะรูปแบบเหมือนรถทัวร์ แต่ก็ไม่สบายเหมือนรถทัวร์หรอก ทั้งอากาศร้อนเล็กน้อยจากตู้พัดลม ไฟที่เปิดตลอดคืน เสียงที่ดังสนั่นซอย กลิ่นเหล็กจนหน้าเหนียวหัวเหนียว แมลงที่บินจับตลอดคืน นอนก็ไม่หลับสนิทหรอก เป็นประสบการณ์ที่ต้องจดจำจริงๆ
>> มาฟ้าสว่างก็ประมาณช่วงลำปาง ซึ่งก็สมใจคุณแม่เขาเลย เดี๋ยวนั่ง เดี่ยวยืนชมวิวริมหน้าต่างรถไฟตลอดทางเลย ซึ่งตอนเช้าก็รรยากาศดีมากๆ อากาเย็นสดชื่น ผืนป่ามีแต่ความเขียวขจี บนเขาก็มีหมอกลอย
>> ประมาณ 9 โมงกว่าๆ ผมกับคุณแม่ก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ หลังจากเข้าห้องน้ำภายในสถานีเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปหน้าสถานี และเดินไปรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ร้านรับฝากรถที่ริมถนนด้านหน้าสถานี โดยรถมอเตอร์ไซค์ที่ผมเลือกเช่าคือ wave125i เพราะคิดว่าคงจะดีที่สุดในการขับขึ้นลงเขามากกว่ารถเกียร์ออโต้ที่ผมมักเช่าประจำ แต่รถก็ดูเป็นปีเก่าๆ ที่สภาพรถไม่ได้ดี ไม่ได้แย่ แต่ปัญหาอย๋างแรกที่พบคือ เบรคเท้าใช้ไม่ได้ ใช้ได้แค่เบรคมือ และเป็นเบรคมือด้านหน้าอย่างเดียวด้วย ซึ่งสัมภาระที่เราต้องขนมาด้วย ทั้งเต็นท์ อุปกรณ์เครื่องนอน อุปกรณ์ประกอบอาหาร อุปกรณ์กล้อง และเสื้อผ้า ก็เล่นเอาเต็มรถมอเตอร์ไซค์ไปเลย จนต้องเอากระเป๋ามัดติดตะกร้าหน้ารถเลย
>> หลังจากจัดของขึ้นรถเสร็จ จุดแรกที่ผมจะพาคุณแม่ไปเที่ยวคือ "วัดผาลาด" ซึ่งต้องขับรถขึ้นเขาไปทางดอยสุเทพ-ดอยปุย และเมื่อขึ้นเขาปัญหาอย่างที่ 2 ที่พบคือ รถเร่งขึ้นเขาแทบไม่ขึ้นขนาดใช้เกียร์ 1 ยังเสียงเครื่องดังมากถึงจะบิดจนสุดคันเร่งก็ยังไปได้อย่างช้าๆ แบบอ่อนแรงมาก แต่ผมก็พาคุณแม่ขึ้นมาถึงจนได้
>> วัดผาลาด หรือสกิทาคามี เป็นวัดสวยงาม และเก่าแก่ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขา ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้ากือนา เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสี่ยงทายหาสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ภายในวัดมาความร่มลื่นเขียวขจี อากาศเย็น อยู่ภายในร่มเงาไม้
>> ซึ่งจากวัดสามารถมองเห็นวิวของตัวเมืองเชียงใหม่ได้ด้วย
>> บรรยากาศภายในวัดช่างเขียวขจี สดชื่น เย็นสบาย ร่มลื่นมากจริงๆ และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวเยอะเลย
>> จุดนี้สวยมองเห็นวิวเมืองเชียงใหม่ได้ด้วย ซึ่งจะมีลำธารไหลมาจากน้ำตกลงไปสู่เบื้องล่าง
>> สถานที่ถัดมาที่ผมพาคุณแม่มาแวะก็คือ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งผมไม่ได้จะพาคุณแม่มาไหว้พระหรอกนะ แต่มาแวะหาซื้อของกินให้คุณแม่ เพราะเรายังไม่ได้กินข้าวเช้ากันเลย นอกจากกาแฟ และขนมรองท้อง ซึ่งได้ไส้กรอก หมูปิ้งไปกินกับข้าวเหนียวที่เราห่อมาด้วย ก่อนจะเดินทางไปต่อ
>> สถานที่ถัดมาที่ผมพาคุณแม่มาแวะเที่ยวคือ หมู่บ้านม้งดอยปุย แต่ก็จะมาถึงก็ทุลักทุเลพอสมควร เพราะเจอฝนตกลงมาก่อนถึงหมู่บ้านประมาณสัก 5 กิโลได้ ร่วมกับก่อนถึงหมู่บ้านเป็นช่วงลงเขาทำให้ผมขี่รถแบบต้องระวังอย่างมาก ทั้งถนนที่เสี่ยงจะลื่น และรถที่เบรคได้แค่เบรคมือล้อหน้า แต่พอมาถึงหมู่บ้านม้งฝนก็ตกลงมาอย่างหนักจนผมกับคุณแม่ต้องพากันขนกระเป๋าข้าวของจากรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปในร้านค้าที่อยู่ตรงลานจอดรถเพื่อหลบฝน และได้โอกาสกินข้าวไปด้วยเลย
>> สรุปแล้วฝนก็ตกอยู่นาน เราก็มีเวลาจำกัด ก็เลยไม่ได้ไปเที่ยวจุดไหนของหมู่บ้านเลย นอกจากป้ายหน้าหมู่บ้าน เหมือนแค่ขี่รถมานั่งกินข้าวแล้วก็ต้องไปจริงๆ
>> อันที่จริงผมตั้งใจว่าจะใช้เส้นทางผ่าน ขุนช่างเคี่ยน ข้ามเขาไปลงอีกฝั่ง เพราะสถานที่ถัดไปที่ผมจะพาคุณแม่ไปเที่ยวก็คือ ห้วยตึงเฒ่า แต่ด้วยเส้นทางนั้นจะมีช่วงที่เป็นทางดิน ทางชันลงเขา และแคบผมเลยจำเป็นต้องยกเลิกแผน เพราะฝนตกแบบนี้เส้นทางจะยิ่งลื่น และอันตรายมากๆ ผมเลยจำเป็นต้องลงจากดอยสุเทพด้วยเส้นทางเดียวกันกับที่ขึ้นมาถึงแม้จะเสียเวลาไปบ้าง แต่ก็ไม่เสี่ยงอันตราย ผมคนเดียวก็อีกเรื่อง แต่มีคุณแม่ด้วยจึงไม่กล้าที่จะไป
** ภาพช่วงแรกๆ มีน้อยหน่อยนะครับ เพราะเจอแต่ผม เลยไม่ค่อยได้ถ่ายภาพ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้