ความเดิมตอนที่แล้ว..
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 https://pantip.com/topic/37292296
ตอนที่ 2 https://pantip.com/topic/37294106
ตอนที่ 3 https://pantip.com/topic/37294393
ตอนที่ 4 https://pantip.com/topic/37294935
ตอนที่ 5 https://pantip.com/topic/37295473
ตอนที่ 6 : Share and Take turns
ครั้งหนึ่ง คุณพานทองเหลืองเคยบอกเราว่า..
การที่คนสองคนได้มาเจอกันแล้วรู้สึกดีต่อกันนั้นเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือ จะรักษาความรู้สึกดีๆนี้ไว้ได้ยังไง
ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน เธอเป็นตัวของตัวเองได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเสแสร้งปิดบัง หรือต้องหวานกับเราทุกวัน คนบางคนอาจจะตั้งแง่ว่า เรื่องนี้ยังพูดตอนนี้ไม่ได้ เรื่องนั้นอย่าแสดงออกไม่ดี แต่กับเรา เธอไม่ต้องพะวงตรงนั้นเลย ทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเราสองคนมันเป็นธรรมชาติมากสำหรับเธอ
ซึ่งบางคู่อาจต้องใช้เวลาสองสามปีในการปรับจูน เพราะเงื่อนไขมากมาย แต่เราไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนั้น
สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ เพราะน้ำใจที่เรามีต่อกัน สำหรับเธอ เธอไม่ได้สนใจว่ามันเร็วเกินไปรึเปล่าที่เราตัดสินใจคบกัน
..มันไม่เกี่ยวกับเวลา
แต่มันคือเรื่องของ share and take turns ที่คนสองคนควรมีให้แก่กัน ..
..........................................
ซึ่งเจ้าวีรกรรมการให้และการคืนกลับของเธอนี่แหล่ะค่ะ ที่ทำให้เรารักเธอหมดหัวใจจนถึงตอนนี้
อ้อ.. เธอไม่ได้ให้เราคนเดียวหรอกนะคะ เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังค่ะว่าเธอให้ใครบ้าง




เรื่องที่ 1 .. คุณเป็น 7 หรือ 13
เธอบอกว่าเธอไม่ค่อยขึ้น taxi เพราะหายาก แต่คืนนึงจำเป็นต้องเรียก taxi มาช่วยขนของ แล้วก็ดันมีคุณลุงหน้าตาเหนื่อยๆคนนึงยอมรับเธอขึ้นรถ เธอดีใจมาก เกิดประทับใจจนต้องบอกคุณลุงคนนั้นว่าจะเพิ่มเงินให้อีก 50 เมื่อถึงบ้าน
พอถึงที่หมาย มิเตอร์ขึ้นมา 87 บาท ลุงคนนั้นบอกว่าคิดเธอแค่ 80 ละกัน เพราะเห็นว่าจะให้เพิ่มอีก 50 บาทอยู่แล้ว เลยลดให้ 7 บาท
เธอเลยให้คุณลุง taxi ไป 150 แทนที่จะเป็น 130 บาท ก็ถือว่าให้เกินจากที่ตกลงกัน 13 บาท!!!!!!!!!
คุณลุงคนนั้นทำความดีอะไร ยังไงเหรอคะ ทำไมต้องให้เพิ่ม???
เธออธิบายว่า ที่ให้ไปไม่ใช่เพราะเธอจะอวดร่ำอวดรวยกับใคร แต่เพราะคุณลุงคนนั้นรู้จักการให้และการคืนกลับแก่เธอ แม้จะเป็นเงินแค่ 7 บาท เธอก็เห็นคุณค่า จึงอยากจะให้คุณลุงคนนั้นกลับไป 13 บาทบ้าง เป็นการตอบแทน!
เธอสอนเราว่า ในสังคม ถ้ารู้จักการให้ ไม่ว่าครั้งนี้คุณจะเป็น 7 บาท หรือครั้งหน้าจะเป็น 13 บาท มันก็มีความหมายทั้งนั้น เพราะมันคือ Share and Take turns ต่อกัน
ถ้าไม่รู้จักให้อะไรใครเลย ก็จะไม่ได้รับอะไรเลยเช่นกัน
เธอทิ้งท้ายไว้ด้วยนะคะ ว่าให้สังเกตุดูในแต่ละวันว่า
ใครเป็น 7 หรือ 13 บ้าง
ใครยอมเป็น 7 ก่อนบ้าง ..ซึ่งก็คงจะมีน้อยเต็มที
.............................................
เรื่องที่ 2 ..งานเลี้ยงปีใหม่
ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ที่ทำงานเธอมีการจับฉลากแจกของขวัญกัน เธอได้เบอร์หนึ่ง จึงมีสิทธิ์เลือกก่อนว่าจะเอาอะไรจากกองของขวัญไป
เธอเลือกเตาไมโครเวฟ ซึ่งน่าจะเป็นรางวัลใหญ่สุด
แต่เป็นการเลือก เพื่อยกให้รปภ. กับแม่บ้านเอาไว้ใช้ในออฟฟิศแทนอันเก่าที่เริ่มพังแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังได้คูปอง Starbucks อีกตั้ง 900 บาท แต่ก็ยกให้เพื่อนไปอีก เพราะตัวเองไม่กินกาแฟ..
อั๊ยยะ !!! ... เป็นเราอาจจะเอาไปขายต่อครึ่งราคาอ่ะค่ะ
(อย่าไปบอกเธอนะคะ คุณป้าขอร้อง แฮ่ๆ)
.......................................
เรื่องที่ 3 ..อย่าลืมทิป
เธอบอกเราเสมอ ว่าอย่าใช้ใครทำงานฟรีๆ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ต้องมีน้ำใจตอบแทนคนอื่นด้วย
ครั้งที่เราสั่งของจากร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งจำนวนมาก เธอก็ย้ำว่าควรให้ทิปคนส่งของด้วย เพราะเค้าไม่ใช่ลูกจ้างประจำ รายได้ไม่มาก ทิปของเรา จะทำให้เค้ามีรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง และมีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป..


..................................
เรื่องที่ 4 ..ขอบคุณผิดคน
เธอเป็นคนรักบ้านมาก และจุดประกายให้เราให้ความสำคัญกับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคในบ้าน หรือการบำรุงซ่อมแซม
เธอสอนให้เราเริ่มศึกษาสารกรองน้ำประเภทต่างๆ เพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดมาเปลี่ยนแทนของเดิม อย่าเอาแต่ใช้เงินจ่ายให้ร้านค้าทำให้โดยที่ไม้รู้อะไรเลย
เราอยู่บ้านหลังปัจจุบันนี้มายี่สิบสองปี.. ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะไปปรับปรุงอะไรได้ เพราะแค่เปลี่ยนหลอดไฟก็ยังกลัวตกบันได ปลั๊กไฟก็เก่า ห้องน้ำ ห้องครัวก็สกปรก..
แต่เธอก็ให้สัญญากับเราว่าเธอจะเป็นอีกแรงที่ช่วยพัฒนาบ้านของเราให้กลับมาน่าอยู่อีกครั้ง..
"อีกสิบปีข้างหน้า ผมจะบอกว่า ต้องขอบคุณหนูมากๆ ที่อดทนรอผม จนผมสามารถทำให้มีภัตตาคารหรูในบ้านได้ ไม่ต้องไปกินข้าวนอกบ้าน ..นอนในห้องหรูๆโดยไม่ต้องไปอยู่โรงแรมห้าดาว ผมมั่นใจว่าผมเปลี่ยนบ้านเก่าๆให้น่าอยู่ได้.."
เธอพูดผิดนะคะ.. เราต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอ
...........................................
เรื่องที่ 5 ..ไม่ขายให้เพื่อนร่วมงาน
เธอเคยคุยกับเราเรื่องอาชีพหลังเกษียณ ถ้าดูจากกระทู้ของเธอ ก็คิดว่าอย่างเธอน่าจะทำขนมขายได้ เราก็เลยขันอาสาเป็นแม่ค้า หอบขนมไปขายที่ทำงานเราให้ เพราะพนักงานที่บริษัทเรามีร่วมเจ็ดร้อยคน คงน่าภูมิใจไม่น้อย ถ้าได้ยืนขายขนมอร่อยๆของเธอ..
แต่เธอนิ่งไป.. ก่อนจะตอบเราเรียบๆว่า..
"ไม่ดีหรอกครับ กับเพื่อนร่วมงาน ถ้าจะทำขนม เราต้องทำไปแบ่งให้เค้ากิน ไม่ใช่ไปเอาเงินเค้า"

(แอบละอายใจ อิอิ)
แหม่.. อดนึกถึงคนแถวบ้านเราคนนึงไม่ได้ค่ะ แม่เราเอาขนุนอร่อยมากกกกไปให้ แต่เค้ากลับเอาไปขายให้คนข้างๆบ้านเราแทน!!..
แถมก่อนหน้านี้ก็ทำแกงฮังเลที่รสชาติแย่มากมายืนร้องขายให้แม่เราถึงหน้าประตูบ้าน ขายแพงกว่าตลาดมาก แต่แม่เราก็ซื้อ เพราะไม่อยากให้เก้อ?!? (แม่นะแม่.... เค้ามีแต่เป็นเพื่อนบ้านกัน ทำกับข้าวอร่อยๆ ก็เอามาแบ่งกันไม่ใช่เหรอ ไหงเอาของกินไม่ลงมายัดเยียดขายกันแบบเน้.. )
ถ้าคนๆนั้นเอานิสัยพ่อพระของคุณพานทองเหลืองไปบ้างสักครึ่งนึงก็คงจะดีไม่น้อย
ปอลิง. อย่าเพิ่งตำหนิว่าเราไม่เห็นใจคนทำมาหากินนะคะ คือ.. คุณเพื่อนบ้านคนนั้นเค้ารวยมากอ่ะค่ะ รวยกว่าเราเยอะ แต่ขี้เหนียว เลยต้องขอเม้าส์สักหน่อย อี่อี่
........................................
เรื่องที่ 6 ..เรื่องเหม็นๆที่แสนประทับใจ
ครั้งหนึ่ง คุณพานทองเหลืองเคยคิดแค่ว่าจะส่งชักโครกที่นั่งสบายมาให้คนสูงอายุที่บ้านเรานั่งเท่านั้น
แต่เธอก็คิดต่อยอดไปอีกว่าชักโครกที่ดี ควรติดตั้งประเก็นกันกลิ่นด้วย เลยไปซื้ออุปกรณ์มาเพิ่ม
แล้วก็ห่วงว่าช่างที่เชียงใหม่จะทำแบบสุกเอาเผากิน เลยจะมาติดตั้งให้เอง
แล้วก็ห่วงว่าควรจะถือโอกาสเปลี่ยนพื้นห้องน้ำ เป็นกระเบื้องกันลื่นไปเลย แต่อยากจะหาซื้อเอง เพราะไม่ไว้ใจให้คนอื่นเลือก
แล้วก็ห่วงอีกว่า ควรวางระบบท่อน้ำทิ้งใหม่ให้ถูก เพราะเดิมทำผิดแบบจนมีกลิ่นเล็ดลอดออกมา
แล้วก็เครื่องดูดอากาศแบบฝังฝ้า Shower Rain ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน ก๊อกน้ำสองระบบ หาอ่างล้างหน้าที่เหมาะสมกับขนาดห้องน้ำมาแทน ฯลฯ (ซึ่งเธอก็มีของอยู่ในมือหลายชิ้นแล้ว)
นี่เลยเป็นที่มาของชักโครก และข้าวของมากมายเต็มบ้านเรา ที่เธออุตส่าห์ลำบากลำบนทยอยขนมาให้ ทั้งๆที่เราสองคนอยู่ห่างกันเกือบพันกิโล!!
.................................................
เธอมักจะถามเราเสมอ ว่าเราประทับใจอะไรในตัวเธอบ้าง แม้จะตอบไปหลายรอบแล้ว แต่เธอก็บอกว่าอยากฟังอีก..
" ก็เพราะลุงเป็นคนที่ชอบ 'ให้' และนึกถึงคนอื่นเสมอนี่แหล่ะค่ะ "
.. นี่คือคำตอบของป้าที่ตอบกี่ทีก็เหมือนเดิมทุกครั้งนะจ๊ะ




To be continued..
## คุณพานทองเหลือง ## ความรักที่สวยงามของฉัน ตอนที่ 6
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 6 : Share and Take turns
ครั้งหนึ่ง คุณพานทองเหลืองเคยบอกเราว่า..
การที่คนสองคนได้มาเจอกันแล้วรู้สึกดีต่อกันนั้นเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือ จะรักษาความรู้สึกดีๆนี้ไว้ได้ยังไง
ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน เธอเป็นตัวของตัวเองได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเสแสร้งปิดบัง หรือต้องหวานกับเราทุกวัน คนบางคนอาจจะตั้งแง่ว่า เรื่องนี้ยังพูดตอนนี้ไม่ได้ เรื่องนั้นอย่าแสดงออกไม่ดี แต่กับเรา เธอไม่ต้องพะวงตรงนั้นเลย ทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเราสองคนมันเป็นธรรมชาติมากสำหรับเธอ
ซึ่งบางคู่อาจต้องใช้เวลาสองสามปีในการปรับจูน เพราะเงื่อนไขมากมาย แต่เราไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนั้น
สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ เพราะน้ำใจที่เรามีต่อกัน สำหรับเธอ เธอไม่ได้สนใจว่ามันเร็วเกินไปรึเปล่าที่เราตัดสินใจคบกัน
..มันไม่เกี่ยวกับเวลา
แต่มันคือเรื่องของ share and take turns ที่คนสองคนควรมีให้แก่กัน ..
..........................................
ซึ่งเจ้าวีรกรรมการให้และการคืนกลับของเธอนี่แหล่ะค่ะ ที่ทำให้เรารักเธอหมดหัวใจจนถึงตอนนี้
อ้อ.. เธอไม่ได้ให้เราคนเดียวหรอกนะคะ เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังค่ะว่าเธอให้ใครบ้าง
เรื่องที่ 1 .. คุณเป็น 7 หรือ 13
เธอบอกว่าเธอไม่ค่อยขึ้น taxi เพราะหายาก แต่คืนนึงจำเป็นต้องเรียก taxi มาช่วยขนของ แล้วก็ดันมีคุณลุงหน้าตาเหนื่อยๆคนนึงยอมรับเธอขึ้นรถ เธอดีใจมาก เกิดประทับใจจนต้องบอกคุณลุงคนนั้นว่าจะเพิ่มเงินให้อีก 50 เมื่อถึงบ้าน
พอถึงที่หมาย มิเตอร์ขึ้นมา 87 บาท ลุงคนนั้นบอกว่าคิดเธอแค่ 80 ละกัน เพราะเห็นว่าจะให้เพิ่มอีก 50 บาทอยู่แล้ว เลยลดให้ 7 บาท
เธอเลยให้คุณลุง taxi ไป 150 แทนที่จะเป็น 130 บาท ก็ถือว่าให้เกินจากที่ตกลงกัน 13 บาท!!!!!!!!!
คุณลุงคนนั้นทำความดีอะไร ยังไงเหรอคะ ทำไมต้องให้เพิ่ม???
เธออธิบายว่า ที่ให้ไปไม่ใช่เพราะเธอจะอวดร่ำอวดรวยกับใคร แต่เพราะคุณลุงคนนั้นรู้จักการให้และการคืนกลับแก่เธอ แม้จะเป็นเงินแค่ 7 บาท เธอก็เห็นคุณค่า จึงอยากจะให้คุณลุงคนนั้นกลับไป 13 บาทบ้าง เป็นการตอบแทน!
เธอสอนเราว่า ในสังคม ถ้ารู้จักการให้ ไม่ว่าครั้งนี้คุณจะเป็น 7 บาท หรือครั้งหน้าจะเป็น 13 บาท มันก็มีความหมายทั้งนั้น เพราะมันคือ Share and Take turns ต่อกัน
ถ้าไม่รู้จักให้อะไรใครเลย ก็จะไม่ได้รับอะไรเลยเช่นกัน
เธอทิ้งท้ายไว้ด้วยนะคะ ว่าให้สังเกตุดูในแต่ละวันว่า
ใครเป็น 7 หรือ 13 บ้าง
ใครยอมเป็น 7 ก่อนบ้าง ..ซึ่งก็คงจะมีน้อยเต็มที
.............................................
เรื่องที่ 2 ..งานเลี้ยงปีใหม่
ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ที่ทำงานเธอมีการจับฉลากแจกของขวัญกัน เธอได้เบอร์หนึ่ง จึงมีสิทธิ์เลือกก่อนว่าจะเอาอะไรจากกองของขวัญไป
เธอเลือกเตาไมโครเวฟ ซึ่งน่าจะเป็นรางวัลใหญ่สุด
แต่เป็นการเลือก เพื่อยกให้รปภ. กับแม่บ้านเอาไว้ใช้ในออฟฟิศแทนอันเก่าที่เริ่มพังแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังได้คูปอง Starbucks อีกตั้ง 900 บาท แต่ก็ยกให้เพื่อนไปอีก เพราะตัวเองไม่กินกาแฟ..
อั๊ยยะ !!! ... เป็นเราอาจจะเอาไปขายต่อครึ่งราคาอ่ะค่ะ
(อย่าไปบอกเธอนะคะ คุณป้าขอร้อง แฮ่ๆ)
.......................................
เรื่องที่ 3 ..อย่าลืมทิป
เธอบอกเราเสมอ ว่าอย่าใช้ใครทำงานฟรีๆ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ต้องมีน้ำใจตอบแทนคนอื่นด้วย
ครั้งที่เราสั่งของจากร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งจำนวนมาก เธอก็ย้ำว่าควรให้ทิปคนส่งของด้วย เพราะเค้าไม่ใช่ลูกจ้างประจำ รายได้ไม่มาก ทิปของเรา จะทำให้เค้ามีรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง และมีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป..
..................................
เรื่องที่ 4 ..ขอบคุณผิดคน
เธอเป็นคนรักบ้านมาก และจุดประกายให้เราให้ความสำคัญกับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคในบ้าน หรือการบำรุงซ่อมแซม
เธอสอนให้เราเริ่มศึกษาสารกรองน้ำประเภทต่างๆ เพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดมาเปลี่ยนแทนของเดิม อย่าเอาแต่ใช้เงินจ่ายให้ร้านค้าทำให้โดยที่ไม้รู้อะไรเลย
เราอยู่บ้านหลังปัจจุบันนี้มายี่สิบสองปี.. ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะไปปรับปรุงอะไรได้ เพราะแค่เปลี่ยนหลอดไฟก็ยังกลัวตกบันได ปลั๊กไฟก็เก่า ห้องน้ำ ห้องครัวก็สกปรก..
แต่เธอก็ให้สัญญากับเราว่าเธอจะเป็นอีกแรงที่ช่วยพัฒนาบ้านของเราให้กลับมาน่าอยู่อีกครั้ง..
"อีกสิบปีข้างหน้า ผมจะบอกว่า ต้องขอบคุณหนูมากๆ ที่อดทนรอผม จนผมสามารถทำให้มีภัตตาคารหรูในบ้านได้ ไม่ต้องไปกินข้าวนอกบ้าน ..นอนในห้องหรูๆโดยไม่ต้องไปอยู่โรงแรมห้าดาว ผมมั่นใจว่าผมเปลี่ยนบ้านเก่าๆให้น่าอยู่ได้.."
เธอพูดผิดนะคะ.. เราต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอ
...........................................
เรื่องที่ 5 ..ไม่ขายให้เพื่อนร่วมงาน
เธอเคยคุยกับเราเรื่องอาชีพหลังเกษียณ ถ้าดูจากกระทู้ของเธอ ก็คิดว่าอย่างเธอน่าจะทำขนมขายได้ เราก็เลยขันอาสาเป็นแม่ค้า หอบขนมไปขายที่ทำงานเราให้ เพราะพนักงานที่บริษัทเรามีร่วมเจ็ดร้อยคน คงน่าภูมิใจไม่น้อย ถ้าได้ยืนขายขนมอร่อยๆของเธอ..
แต่เธอนิ่งไป.. ก่อนจะตอบเราเรียบๆว่า..
"ไม่ดีหรอกครับ กับเพื่อนร่วมงาน ถ้าจะทำขนม เราต้องทำไปแบ่งให้เค้ากิน ไม่ใช่ไปเอาเงินเค้า"
แหม่.. อดนึกถึงคนแถวบ้านเราคนนึงไม่ได้ค่ะ แม่เราเอาขนุนอร่อยมากกกกไปให้ แต่เค้ากลับเอาไปขายให้คนข้างๆบ้านเราแทน!!..
แถมก่อนหน้านี้ก็ทำแกงฮังเลที่รสชาติแย่มากมายืนร้องขายให้แม่เราถึงหน้าประตูบ้าน ขายแพงกว่าตลาดมาก แต่แม่เราก็ซื้อ เพราะไม่อยากให้เก้อ?!? (แม่นะแม่.... เค้ามีแต่เป็นเพื่อนบ้านกัน ทำกับข้าวอร่อยๆ ก็เอามาแบ่งกันไม่ใช่เหรอ ไหงเอาของกินไม่ลงมายัดเยียดขายกันแบบเน้.. )
ถ้าคนๆนั้นเอานิสัยพ่อพระของคุณพานทองเหลืองไปบ้างสักครึ่งนึงก็คงจะดีไม่น้อย
ปอลิง. อย่าเพิ่งตำหนิว่าเราไม่เห็นใจคนทำมาหากินนะคะ คือ.. คุณเพื่อนบ้านคนนั้นเค้ารวยมากอ่ะค่ะ รวยกว่าเราเยอะ แต่ขี้เหนียว เลยต้องขอเม้าส์สักหน่อย อี่อี่
........................................
เรื่องที่ 6 ..เรื่องเหม็นๆที่แสนประทับใจ
ครั้งหนึ่ง คุณพานทองเหลืองเคยคิดแค่ว่าจะส่งชักโครกที่นั่งสบายมาให้คนสูงอายุที่บ้านเรานั่งเท่านั้น
แต่เธอก็คิดต่อยอดไปอีกว่าชักโครกที่ดี ควรติดตั้งประเก็นกันกลิ่นด้วย เลยไปซื้ออุปกรณ์มาเพิ่ม
แล้วก็ห่วงว่าช่างที่เชียงใหม่จะทำแบบสุกเอาเผากิน เลยจะมาติดตั้งให้เอง
แล้วก็ห่วงว่าควรจะถือโอกาสเปลี่ยนพื้นห้องน้ำ เป็นกระเบื้องกันลื่นไปเลย แต่อยากจะหาซื้อเอง เพราะไม่ไว้ใจให้คนอื่นเลือก
แล้วก็ห่วงอีกว่า ควรวางระบบท่อน้ำทิ้งใหม่ให้ถูก เพราะเดิมทำผิดแบบจนมีกลิ่นเล็ดลอดออกมา
แล้วก็เครื่องดูดอากาศแบบฝังฝ้า Shower Rain ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน ก๊อกน้ำสองระบบ หาอ่างล้างหน้าที่เหมาะสมกับขนาดห้องน้ำมาแทน ฯลฯ (ซึ่งเธอก็มีของอยู่ในมือหลายชิ้นแล้ว)
นี่เลยเป็นที่มาของชักโครก และข้าวของมากมายเต็มบ้านเรา ที่เธออุตส่าห์ลำบากลำบนทยอยขนมาให้ ทั้งๆที่เราสองคนอยู่ห่างกันเกือบพันกิโล!!
.................................................
เธอมักจะถามเราเสมอ ว่าเราประทับใจอะไรในตัวเธอบ้าง แม้จะตอบไปหลายรอบแล้ว แต่เธอก็บอกว่าอยากฟังอีก..
" ก็เพราะลุงเป็นคนที่ชอบ 'ให้' และนึกถึงคนอื่นเสมอนี่แหล่ะค่ะ "
.. นี่คือคำตอบของป้าที่ตอบกี่ทีก็เหมือนเดิมทุกครั้งนะจ๊ะ
To be continued..